ThaiFranchiseCenter Webboard

บ้านและออฟฟิส | Home & Office => สวนและการจัดสวน | Garden => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ มีนาคม 03, 2022, 06:52:11 AM

หัวข้อ: data analyticss
เริ่มหัวข้อโดย: อัญณา ที่ มีนาคม 03, 2022, 06:52:11 AM
data analytics (https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/business-maker/data-analytics-key-business.html)s
อาจจะกล่าวได้ว่าการช็อปปิ้ง ถือเป็นสิ่งที่จะช่วยให้หลายๆ คนนั้น มีความสุขเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยบางคนก็ถึงขั้นเสพติดเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ดี การเสพติดการช็อปปิ้ง เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมมากเท่าใดนัก เพราะว่าเป็นโรคทางจิตอีกอย่างหนึ่งนั่นเอง เราเรียกกันว่าShopaholic
อะไรคือ Shopaholic
สำหรับโรคนี้เราจะเอาไว้เรียกคนที่ชอบซื้อของโดยไม่คำนึงว่าตนเองรวยหรือว่าจน และที่สำคัญก็คืออยากจะไปซื้อของตลอดเวลา ดูของแล้วรู้สึกดี มีเงินเอาไว้ใช้สอย แต่เมื่อใช้ไปแล้วก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป เพราะว่าอาจจะซื้อมากเกินไป และซื้อซ้ำกับที่เรานั้นมีอยู่แล้ว ทำให้เกิดปัญหาจำนวนมากตามมา เช่นมีหนี้สิน หรือบางคนก็ทะเลาะกับคนในบ้าน มีพฤติกรรมที่หลบซ่อนเกี่ยวกับการซื้อของ หรือหลอกว่ามีคนให้มา เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ผู้หญิงมักจะเป็นบ่อยกว่าผู้ชาย อย่างไรก็ดี การชอปปิ้งจนเป็นโรคนี้มาจากตัวบุคคล บางทีก็มาจากโรคซึมเศร้า บางทีก็ดรควิตกกังล เป็นโรคสมาธิสั้น รู้สึกว่าตนเองไม่มีความภาคภูมิใจอะไร และยังคุมตนเองไม่ได้ อาจจะเป็นผลมาจากปัจจัยอื่นๆ ด้วยก็ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นสื่อโฆษณา ที่เราเห็นสินค้าบ่อยๆ และเราก็รู้สึกดีที่ได้เห็นความสะดวกสบายในการชอปปิ้งออนไลน์อีกด้วย ทำให้เกิดการเสพติดการซื้อได้นั่นเอง
วิธีสังเกตพฤติกรรมของเหล่า Shopaholic
หากว่าเราสังเกตพฤติกรรมของตนเองเราก็จะพบว่าคนที่เสพติดการซื้อ จะเป็นคนที่มีกำลังซื้อมาก และอยากจะให้ตนเองมีคนชื่นชมมากที่สุด เพราะว่าอยากจะฐานะดีและประสบความสำเร็จ แท้ที่จริงแล้วชีวิตก็มีหนี้สินจำนวนมรกอีกด้วย หากว่าไม่ใช่คนที่ใกล้ชิดจริงๆ ก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาเหล่านี้อยู่ เพราะว่าจะปิดพฤติกรรมและปัญหาในการใช้จ่ายเอาไว้นั่นเอง
การชอปปิ้งเพื่อคลายเครียดหรือซื้อของประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์  หรือบางทีก็มีบัตรเครดิตหลายใบ ไม่ได้ใช้หนี้ บางคนมักจะตื่นเต้นหรือเคลิบเคลิ้มเวลาได้ชอปปิ้ง หรือบางคนก็โกหกเพื่อให้ได้ไปชอปปิ้งต่อก็มีเช่นกัน ในขณะที่อีกหลายๆ คนเสียใจหลังจากชอปปิ้ง แต่ก็จะทำต่อไป ที่สำคัญก็คือไม่สามารถจัดการเงินของเราเอง จากการชำระหนี้สินได้อีกด้วย เรียกได้ว่าไม่สามารถหยุดพฤติกรรมอยากซื้อของตนเองได้นั่นเอง
การรักษา
สำหรับการรักษาของโรคแตกต่างกัน โดยบางคนอาจจะต้องกำจัดวงเงินใช้เงิน หรือบางคนก็ไปพบจิตแพทย์เพื่อจะบำบัดความคิดและพฤติกรรมนั่นเอง อาจจะมีโรคส่วนตัวเช่นซึมเศร้า หรือโรคไม่มั่นใจในตัวเอง บางรายก็มีปัญหาทางจิตอื่นๆ อีกด้วย
การรักษาจะเปลี่ยนไปตามความต้องการของแต่ละคน โดยคนที่ป่วยเองก็ต้องควบคุมอารมณ์ตนเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และต้องกล้าเจอกับปัญหา เปลี่ยนแนวคิดและพฤติกรรมของตนเอง และหยุดการซื้อของออนไลน์ โดยคนใกล้ชิดก็จะต้องเปลี่ยนด้วยจะดีกว่า เพื่อให้การเข้าใจจากคนใกล้ชิดเอาชนะและใช้ชีวิตแบบปกติได้