ThaiFranchiseCenter Webboard
บ้านและออฟฟิส | Home & Office => อสังหาริมทรัพย์ | Property => บ้านเดี่ยว/บ้านเดี่ยวมือสอง | House / House for sale => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ ธันวาคม 01, 2021, 03:16:50 AM
-
การลงทุนสำหรับการซื้อคอนโดมีหลายรูปแบบ
การจะมีบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเองสักหลังนั้น ต้องแลกมาด้วยการซื้อด้วยเงิน บางคนอาจสะดวกโดยการชำระด้วยเงินสดทั้งหมด เพื่อต้องชำระค่าดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารหรือสถานบันการเงินนั้น แต่บางคนอาจจำเป็นต้องซื้อโดยการกู้ยืม ซึ่งการกู้ซื้อบ้านนั้นก็มักจะมีดอกเบี้ยที่เรียกว่าประเภท MRR เป็นดอกเบี้ยที่มักพบได้บ่อยจากการกู้ซื้อบ้านและคอนโดฯ ซึ่งดอกเบี้ย MRR คือ (https://www.bkkcitismart.com/บทความ/การเงินและกฎหมาย/ทำความเข้าใจดอกเบี้ย-mlr-mor-mrr-คืออะไร)ดอกเบี้ยที่ทางธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี รวมถึง สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัยอีกด้วย ดังนั้นการกู้ซื้ออะไรก็ตามนั้นก็มักมีดอกเบี้ยด้วยนั่นเอง
คอนโดมิเนียมถือเป็นที่พักอาศัยที่ได้รับความนิยมจากคนในทุกเพศทุกวัย เพราะถือเป็นที่พักอาศัยที่มีความเป็นส่วนตัว ปลอดภัย และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งในตัวโครงการไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส สระว่ายน้ำ รวมถึงสิ่งแวดล้อมภายนอก สิ่งอำนวยความสะดวกๆต่างร้านค้าร้านอาหาร สถานศึกษา เป็นต้น ทำให้คอนโดมิเนียมนั้นเป็นสถานที่พักอาศัยที่หลายคนในความสนใจทั้งซื้อเพื่อไว้สำหรับพักอาศัยเอง และการซื้อเพื่อปล่อยเช่า ที่นักลงทุนหลายท่านเลือกซื้อคอนโดไว้สำหรับปล่อยเช่าโดยเฉพาะจำนวนมาก โดยมีเครื่องมือคำนวณการปล่อยเช่าที่เรียกว่า Yield ที่ถือเป็นขวัญใจของนักลงทุนขณะนี้อีกด้วย
Yield คือ (https://www.bkkcitismart.com/บทความ/การซื้อ-และลงทุนอสังหาริมทรัพย์/yield-คืออะไร-ทำไมนักลงทุนปล่อยเช่าต้องรู้) ผลตอบแทน ซึ่งสำหรับผลตอบแทนสำหรับการลงทุนคอนโดนั้น จึงหมายผลตอบแทนจากการลงทุนปล่อยเช่า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะปล่อยเช่าแล้วได้รับผลตอบแทนที่ดีนัก ดังนั้นนักลงทุนทั้งหลายจึงต้องมีตัวช่วยสำหรับการคำนวณเพื่อให้การลงทุนปล่อยเช่านั้นได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด โดยจะคำนวณจากรายได้ค่าเช่า มีวิธีการคำนวณ Yield แบ่งออกเป็น 3 วิธีคือ Gross Rental Yield คืออัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าเบื้องต้น วิธีนี้จะคำนวณโดยไม่รวมต้นทุน คิดจากเพียงค่าเช่าที่จะได้รับตลอดทั้งปีเท่านั้น Net Renral Yield คืออัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าสุทธิ โดยวิธีนี้จะคิดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายด้วย เช่นค่าส่วนกลาง เป็นต้น และ วิธี Cash on Rental Yield คือ อัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าจากเงินสดในรอบปี ซึ่ง 3 วิธีนี้จะมีสูตรที่แตกต่างออกไป โดยนักลงทุนสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกอย่างนั้นทุกคนมักคาดหวังในผลตอบแทนหรือกำไร แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องเลือกลงทุนในสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง หรือหากไม่ถนัดและเป็นมือใหม่ ก็ควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนเลือกลงทุน เพราะทุการลงทุนมักมีความเสี่ยง แต่หากเราได้มีการศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดีแล้ว จะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดีด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งการลงทุนในการปล่อยเช่าคอนโดนั้น ถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างมากจากนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เพราะเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่เห็นได้ชัด และยิ่งมี Yield เป็นเครื่องมือในการช่วยคำนวณค่าเช่าด้วยแล้วนั้น ก็จะสามารถคำนวณผลตอบแทนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนไม่ต้องแบกรับภาระที่หนักเกินไปในอนาคตอีกด้วย เพราะสามารถนำผลตอบแทนที่ได้มาผ่อนจ่ายการกู้ซื้อคอนโดได้ นอกจากนี้แล้วนักลงทุนหลายท่านยังเลือกการซื้อคอนโดมาสำหรับขายต่อได้อีกด้วย