ในการขอสินเชื่อบ้านจากสถาบันการเงินนอกจากวงเงินกู้บ้านแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ลูกหนี้ส่วนใหญ่นั้นจะต้องให้ความสำคัญกันเป็นอันดับต่อมา ก็คือ เรื่องของอัตราดอกเบี้ยเงินตามที่สถาบันการเงินกำหนด เป็นส่วนที่ผู้กู้นั้นจะต้องรับผิดชอบเพิ่มจากยอดเงินกู้ที่ได้รับ สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ยจากสินเชื่อบ้านจะมีการคิด 2 แบบ ได้แก่ การคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fixed Rate) ที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ชัดเจน โดยการคิดอัตราประเภทนี้มักจะอยู่ในช่วงปีที่ 1 - 3 และการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating Rate) ที่จะคิดอัตราดอกเบี้ยขึ้นลงตามที่สถาบันการเงินกำหนด สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวนั้นจะมีด้วยกันทั้งสิ้น 3 ประเภท ได้แก่ Minimum Retail Rate (mrr) Minimum Loan Rate (mlr) และ Minimum Overdraft Rate (mor) ซึ่งทั้ง 3 แบบนี้จะเป็นอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่เรียกเก็บจากลูกค้าสินเชื่อของสถาบันการเงิน แต่ก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องไหนบ้างนั้นเรามีคำตอบมาฝาก
(https://rtmplatformssr.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/sansiri-investor-content-3คำศัพท์ดอกเบี้ยบ้าน-hero-banner-6082995bd4d1b.jpg)
• การคิดอัตราดอกเบี้ย
โดยปกติแล้วสถาบันการเงินจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยประเภท mrr คือ (https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-3-คำศัพท์ดอกเบี้ยบ้าน/th) ดอกเบี้ยที่มีอัตราสูงที่สุด ตามด้วยอัตราดอกเบี้ยประเภท mor และ mlr ซึ่งเหตุผลที่อัตราดอกเบี้ยประเภท mrr มีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงนั้นก็เป็นเพราะลูกค้ารายย่อยมีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มลูกค้าประเภทอื่น ๆ โดยระยะห่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย mrr กับอัตราดอกเบี้ย mlr คือ (https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-3-คำศัพท์ดอกเบี้ยบ้าน/th) สิ่งที่สะท้อนความเสี่ยงระหว่างลูกค้ารายย่อยและรายใหญ่
• ประเภทของสินเชื่อ
หากพิจารณาจากประเภทของสินเชื่อจะเห็นได้ว่าสินเชื่อที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยประเภท mrr และ mlr คือ สินเชื่อที่มีการกำหนดระยะเวลาการชำระคืนที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อรถยนต์ ส่วนการคิดอัตราดอกเบี้ยประเภท mor คือ (https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-3-คำศัพท์ดอกเบี้ยบ้าน/th) สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน อย่างบัญชีประเภทเบิกเกินบัญชีหรือการเบิกเงินเกิน OD
• ประเภทของลูกค้า
ข้อแตกต่างแรกระหว่าง mrr mlr และ mor คือ ประเภทของลูกค้า สำหรับกลุ่มลูกค้าที่สถาบันการเงินจะใช้วิธีคิดอัตราดอกเบี้ยประเภท mrr คือ กลุ่มลูกค้ารายย่อยหรือลูกค้าทั่วไปของสถาบันการเงินที่มีประวัติการเงินดี แต่หากเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบ mlr และ mor คือ กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่มีประวัติการเงินดี อย่างไรก็ตามในบ้างกรณีสถาบันการเงินอาจเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยประเภท mlr กับลูกค้ารายย่อยได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการคิดอัตราดอกเบี้ยทั้ง 3 แบบ ซึ่งในการซื้อบ้าน mrr และ mlr คือประเภทของอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือ ว่าคอนโดพร้อมอยู่ ถ้าหากเป็นลูกค้ารายย่อยก็จะมีการคิดแบบ mrr ส่วนลูกค้ารายใหญ่ก็จะคิดแบบ mlr แต่อย่างไรก็ตามการคาดเดาอัตราดอกเบี้ยทั้งประเภท mlr และ mrr คือ สิ่งที่คาดเดาได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากดอกเบี้ย mrr มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอยู่ตลอดเวลาตามภาวะเศรษฐกิจและต้นทุนของสถาบันการเงินในขณะนั้นด้วย