ThaiFranchiseCenter Webboard
สุขภาพ ความสวยความงาม | Health & Beauty => แม่และเด็ก | Child => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ กันยายน 28, 2021, 03:28:01 PM
-
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่านแล้ว แน่นอนว่าการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีคือเรื่องสำคัญที่สุด เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์แข็งแรง แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีเรื่องกังวลเกี่ยวกับความเชื่อไม่ถูกต้องที่อาจได้ยินต่อๆกันมา อาจส่งผลต่อการดูแลตัวเองของคุณแม่ ซึ่งทำให้กระทบต่อสุขภาพของลูกในครรภ์ และเพื่อความเข้าใจถูกต้อง แอพ alive หรือ แอพสําหรับคนท้อง (https://www.iphonemod.net/10-applicatione-for-mom-and-pregnant.html) ที่พร้อมมอบข้อมูลดี ๆ สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ ขอพาไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ 7 เรื่องเข้าใจผิดของคุณแม่ควรเข้าใจอย่างถูกต้อง
รวม 7 ความเชื่อไม่ถูกต้องของคุณแม่ตั้งครรภ์
1. ดื่มน้ำมะพร้าวช่วงตั้งครรภ์ส่งผลต่อการแท้งลูก
เนื่องจากในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงมีความเชื่อว่าฮอร์โมนนี้บีบมดลูกจนทำให้แท้งบุตร ทั้งที่จริงในน้ำมะพร้าวมีปริมาณเอสโตรเจนน้อยมากจึงดื่มได้โดยไม่อันตราย แต่อาจอันตรายสำหรับคุณแม่ที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษเท่านั้น
2. ขณะตั้งครรภ์ห้ามออกกำลังกาย
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถออกกำลังกายได้ เช่น การว่ายน้ำ การเดินเร็ว แต่ควรเลี่ยงการออกกำลังกายที่เสี่ยงอุบัติเหตุง่าย หรือการออกกำลังกายที่รุนแรงมากเป็นพิเศษ โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอยังช่วยลดการเกิดโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์อีกด้วย
3. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ขณะตั้งครรภ์
อันที่จริงคุณแม่ตั้งครรภ์สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อย แต่ควรระมัดระวังเรื่องท่วงท่าและสุขภาพ เพราะตั้งครรภ์ช่วงไตรมาสแรกคุณแม่อาจแพ้ท้องหนัก อาการของคนท้อง ช่วงนั้นจึงอ่อนเพลียง่ายและควรเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ช่วงท้องแก่ เนื่องจากอาจทำให้คุณแม่เหนื่อยง่าย
4. คนท้องห้ามนอนคว่ำเพราะอาจทับลูก
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถนอนได้ทุกท่า แต่ท่านอนที่ดีที่สุดคือท่านอนตะแคง แต่หากต้องการนอนคว่ำแนะนำให้ใช้หมอนรองบริเวณต้นคอและบริเวณต้นขา เพื่อให้นอนสบายยิ่งขึ้น
5. สะโพกใหญ่จะคลอดลูกง่าย
การคลอดลูกง่ายหรือยากนั้นมีเรื่องสรีระคุณแม่ตั้งครรภ์เข้ามาเกี่ยวข้องจริง ๆ แต่ไม่ใช่ว่าคุณแม่สะโพกใหญ่จะคลอดง่ายกว่าคุณแม่สะโพกเล็ก เพราะสิ่งที่ทำให้คลอดง่ายหรือยากคือกระดูกเชิงกราน ซึ่งปกติแล้วกระดูกเชิงกรานคุณแม่จะขยายขึ้นเองโดยธรรมชาติ
6. อาการแพ้ท้องเกิดขึ้นเฉพาะไตรมาสแรกหรือ 3 เดือนแรก
ความจริงแล้วอาการแพ้ท้องมักพบบ่อยช่วงไตรมาสแรกเท่านั้น แต่คุณแม่บางรายสามารถแพ้ท้องแม้เข้าไตรมาส 2 ก่อนอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งหากแพ้ท้องหนักและติดต่อนานเกินไป ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้น เพราะอาจเป็นอันตรายและทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้
7. คิดว่าลูกน้อยไม่สามารถรับรู้ความเครียดของแม่ได้
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าความเครียดสามารถส่งผ่านถึงลูกน้อยได้ช่วงประมาณไตรมาส 2 หรือเข้าสู่เดือนที่ 6 ของการตั้งครรภ์ โดยสามารถส่งผ่านกันทางฮอร์โมน หากคุณแม่เครียดบ่อยอาจส่งผลต่อสุขภาพลูกระยะยาว เช่น โรคอ้วน ความจำไม่ดี เป็นต้น จึงเป็นเหตุผลที่คุณแม่ควรทำจิตใจให้สบายไม่เครียด
เชื่อว่าข้อมูลที่ แอปปรึกษาหมอ (https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2010997) นำมาฝากกันนี้จะช่วยไขข้อข้องใจคุณแม่เป็นอย่างดี และสำหรับท่านใดที่ต้องการปรึกษาแพทย์และพยาบาลตลอดเวลา สามารถเข้าร่วมกลุ่มพูดคุยหรือแชร์ประสบการณ์กับคุณแม่มือใหม่ท่านอื่น ๆ และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไปจนถึงการเลี้ยงลูก พร้อมติดตามบทความมีประโยชน์จากแอพฯ Alive Powered by AIA หากถามว่าแอพ alive ดีไหม บอกเลยว่าดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างแน่นอน เพราะเต็มไปด้วยสาระมากประโยชน์ โดยสามารถอ่านรีวิว แอพ alive แอปตั้งครรภ์ (https://www.iphonemod.net/10-applicatione-for-mom-and-pregnant.html) ได้ที่ www.aia.co.th/th/Alive