ThaiFranchiseCenter Webboard

ยานยนต์ | Vehicles => รถยนต์ | Car => ข้อความที่เริ่มโดย: นากาตะ มูซาชิ ที่ กันยายน 25, 2021, 01:49:20 PM

หัวข้อ: ถ้ารถของคุณมีอาการกระตุก หรือเครื่องเดินสะดุด ไมว่าจะเกิดระหว่างเร่งเครื่อง เข้า
เริ่มหัวข้อโดย: นากาตะ มูซาชิ ที่ กันยายน 25, 2021, 01:49:20 PM
รถยนต์ ในปัจจุบันมีความซับซ้อนในเรื่องเครื่องยนต์กลไกและระบบการใช้งานต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่หลายคนต้องทำความเข้าใจและหมั่นสังเกตอาการผิดปกติเบื้องต้นที่อาจเกิดขึ้นกับรถของตัวเองได้ เพราะเมื่อใช้งานไปเป็นเวลานาน สิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ความเสื่อมสภาพของชุดอุปกรณ์หรืออะไหล่บางชิ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับรถของเรา รวมถึงอาการ "รถกระตุก" ที่หลายคนอาจเคยเจอนั่นเอง 

รถกระตุกเกิดจากอะไร

เชื่อว่าผู้ขับขี่หลายคนคงเคยประสบปัญหาขณะขับรถ เช่น พอเริ่มเบาเครื่องชะลอความเร็วลง รอบเครื่องตก เครื่องยนต์ก็เกิดอาการกระตุกและสะดุด เหมือนจะดับ หรือตอนกำลังออกรถแล้วรู้สึกว่ารถกระตุก เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

1. ปลั๊กหัวเทียนหลวม
ปลั๊กหัวเทียนหลวม จะเป็นสาเหตุแรก ๆ ที่ทำให้รถเกิดอาการกระตุก หรือเครื่องสะดุด เพราะถ้าเสียบไม่แน่น จะทำให้เกิดกระแสไฟไม่สม่ำเสมอ จนหัวเทียนไม่มีไฟไปจุดระเบิดในแต่ละรอบของลูกสูบ

 วิธีแก้ไขเบื้องต้น ทำได้โดยการขยับเสียบปลั๊กหัวเทียนให้แน่น แต่ถ้าไม่แน่นเพราะปลายสายเป็นโลหะ ให้ใช้คีมบีบเพื่อให้ตัวโลหะล็อกแน่นขึ้น และถ้าเกิดตรวจเช็กดูแล้วว่าสายหรือบริเวณปลั๊กหัวเทียนขาดชำรุด สามารถแก้ไขด้วยการเอาเทปพันสายไฟ พันรอบปลั๊กหัวเทียนหรือสายให้แน่นหนาสัก 2 รอบ จากนั้นลองสตาร์ตดูว่าเครื่องติดหรือไม่ หากใช้งานได้ปกติควรนำเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อทำการปรับเปลี่ยนใส่ของใหม่ และเพื่อความมั่นในใจการขับขี่ครั้งหน้า

2. หัวเทียนเสื่อมสภาพ
หัวเทียนเสื่อมสภาพ หรือที่เรียกกันว่าหัวเทียนบอด ซึ่งเมื่อหัวเทียนเสื่อมสภาพนั้น อย่างแรกจะเกิดอาการสตาร์ตไม่ติดหรือติดยาก และเมื่อสตาร์ตติดแล้วเดินเครื่องไปสักระยะ เครื่องยนต์จะมีอาการสั่น กระตุก อืด เร่งไม่ขึ้น นั่นเป็นเพราะหัวเทียนจุดประกายไฟได้ยาก และจุดระเบิดไม่สม่ำเสมอ

วิธีแก้ไขเบื้องต้น ให้ลองถอดหัวเทียนออกมาตรวจเช็กดูว่ามีคราบเขม่าดำหรือมีคราบน้ำมันติดอยู่ที่ขั้วของหัวเทียนหรือไม่ พร้อมกับดูที่เขี้ยวหัวเทียนว่าสึกกร่อนจนเป็นลักษณะโค้งไม่มีเหลี่ยมคมหรือเปล่า หากถอดออกมาแล้วมีอาการข้างต้นให้รีบเปลี่ยนใหม่และให้เปลี่ยนพร้อมกันทั้งชุด เพื่อหัวเทียนจะได้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีเท่า ๆ กัน

3. หัวฉีดสกปรก
หัวฉีดสกปรก หรือหัวฉีดเริ่มอุดตัน มักเป็นสาเหตุที่พบได้ค่อนข้างบ่อย เพราะเมื่อหัวฉีดอุดตันจะทำให้การฉีดเชื้อเพลิงไม่สะดวก น้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊สที่ถูกฉีดออกไปจะไม่เพียงพอกับสัดส่วนการจุดระเบิด ส่วนมากจะเกิดกับรถที่ผ่านการใช้งานมานาน

ซึ่งเมื่อเกิดการอุดตันจะส่งผลทำให้กำลังตกเร่งไม่ขึ้น เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ ถ้าปล่อยไว้นานมีโอกาสที่จะทำให้รถพังได้ แต่ที่แน่ ๆ รถจะกินน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้หัวฉีดอุดตันหรือสกปรกนั้นมาจากสิ่งที่เจือปนอยู่ในน้ำมัน เช่น น้ำ สนิมที่ก้นถัง รวมถึงเศษชิ้นส่วนที่หมดสภาพ ไม่ว่าจะเป็นยางท่อน้ำมัน ท่ออะลูมิเนียมและอื่น ๆ ที่ถึงแม้จะมีไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงกั้นเป็นด่านแรก แต่ก็ไม่ได้ 100% จนทำให้สิ่งสกปรกไปเกาะติดอยู่ที่หัวฉีด และทำให้เกิดการอุดตันนั่นเอง 

วิธีแก้ไขเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยเติมสารล้างหัวฉีดที่หาซื้อได้ตามศูนย์บริการหรือปั๊มน้ำมันทั่วไป ลงในถังน้ำมันเชื้อเพลิงตามสัดส่วนที่กำหนด ซึ่งปกติจะผสมในปริมาตร 1 ขวด ต่อน้ำมัน 1 ถัง หรืออย่างน้อยครึ่งถัง โดยสารล้างหัวฉีดดังกล่าวจะผสมเข้าไปกับน้ำมันเชื้อเพลิง พอเครื่องยนต์ทำงานก็จะเข้าไปทำความสะอาดที่หัวฉีด แล้วล้างคราบสกปรกโดยทันที และถูกขจัดไปพร้อมกับการจุดระเบิด หรืออีกวิธีคือ การนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อถอดหัวฉีดออกมาทำความสะอาดทั้งระบบ เพื่อที่จะทำให้เครื่องยนต์ของคุณกลับมามีกำลังและเดินเรียบเหมือนใหม่ไปได้นาน ๆ

4. ไส้กรองอากาศสกปรก


อีกสาเหตุที่พบบ่อยของอาการรถกระตุกนั้น มาจากที่ไส้กรองอากาศสกปรก หรือมีฝุ่นจับตัวกันอย่างหนาแน่น ทำให้อากาศไม่สามารถเข้าไปที่ห้องเผาไหม้ได้ ส่งผลทำให้เครื่องยนต์กระตุกหรือสั่นได้

วิธีแก้ไขเบื้องต้น คือ ถอดไส้กรองอากาศออกมาเป่าไล่ฝุ่น แต่ถ้าสกปรกมากแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ดีที่สุด โดยทั่วไปอายุการใช้งานของไส้กรองอากาศควรจะต้องเปลี่ยนทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร

5. กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตัน
กรองน้ำมันเชื้อเพลิงมีหน้าที่กรองและดักจับสิ่งสกปรก ทั้งฝุ่นผง เศษโลหะ ที่มาพร้อมกับน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนใหญ่จะใช้กระดาษกรองพับเป็นครีบเพื่อกรองสิ่งสกปรกไม่ให้หลุดรอดเข้าไปเป็นอันตรายกับชิ้นส่วนในระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นปั๊มติ๊กในหัวฉีดในเครื่องเบนซิน และปั๊มหัวฉีดในเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งถ้าเมื่อกรองน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน อาจส่งผลเสียทำให้เครื่องยนต์มีอาการสะดุด กระตุก เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงมาไม่ทันความต้องการของเครื่องยนต์

วิธีแก้ไขเบื้องต้น ให้ถอดกรองน้ำมันเชื้อเพลิงออกมาเปลี่ยนใหม่ หรือให้ช่างผู้ชำนาญปรับเปลี่ยนให้ โดยสามารถตรวจเช็กตามระยะที่กำหนดไว้ในคู่มือ ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดให้เปลี่ยนในระยะ 40,000-80,000 กิโลเมตร

6. ลิ้นปีกผีเสื้อสกปรก
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เครื่องมีอาการผิดปกติคือ ลิ้นปีกผีเสื้อเกิดการสกปรก อันเกิดจากผงฝุ่นที่เล็ดลอดผ่านเข้ามาตามท่ออากาศ เพราะกรองอากาศหมดสภาพ ซึ่งผงฝุ่นเหล่านี้จะไปสะสมทำให้ตัวเซ็นเซอร์ซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณไปกล่อง ECU ผิดเพี้ยน

วิธีแก้ไขเบื้องต้น คือ การถอดเอาตัวเรือนลิ้นเร่งหรือลิ้นปีกผีเสื้อออกมาล้างทำความสะอาด โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดล้างลิ้นปีกผีเสื้อฉีดพ่นเอาสิ่งสกปรกออก หรือหากดูแล้วมีคราบติดมากก็สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแบบเดียวกับที่ใช้กับรถล้างออกได้ ส่วนการถอด-ประกอบนั้นสามารถหาดูได้ในคู่มือประจำรถ เพราะรถแต่ละรุ่นมีวิธีถอด-ประกอบไม่เหมือนกัน ดังนั้นทำตามคู่มือปลอดภัยสุด



ข้อมูลจาก : วาไรตี้ https://storenikesfr.org (https://storenikesfr.org)