ThaiFranchiseCenter Webboard
การให้บริการทางธุรกิจ | Business Service => การเงิน | Finance => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ กันยายน 14, 2020, 03:09:38 PM
-
การทำ ประกันไฟไหม้ ที่อยู่อาศัย นี้ควรทำตั้งแต่วันแรกของการมีบ้านหรือที่อยู่อาศัย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถรู้วันเวลาที่เกิดขึ้นแน่นอนได้ เพราะเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้การทำประกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยปกป้องคุ้มครองและรับความเสียหายแทนเรา เมื่อเทียบกับค่าเบี้ยประกันที่ถูกมาก ถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง
เนื่องจาก ประกันไฟไหม้ (https://www.thaiins.com/th/products/ประกันภัยบ้าน-ธุรกิจ-และอื่นๆ/ประกันบ้าน-happy-guardian) ออกแบบมาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เช่น เจ้าของที่อยู่อาศัย บ้าน หรือคอนโด ซึ่งถือว่าเป็นระดับสภาพความเสี่ยงภัยที่ต่ำเมื่อเทียบกับสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม โรงงาน เป็นต้น เมื่อมีสภาพความเสี่ยงต่ำ ค่าเบี้ยประกันจึงต่ำตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าของที่อยู่อาศัยตัดสินใจซื้อประกันได้ง่ายขึ้น
ก่อนที่เจ้าของที่อยู่อาศัย จะตกลงทำไทยประกันภัย (https://www.thaiins.com/th/products/ประกันภัยบ้าน-ธุรกิจ-และอื่นๆ/ประกันบ้าน-happy-guardian) นอกจากเรื่องค่าเบี้ยประกันแล้ว ควรดูในเรื่องของความคุ้มครองของกรมธรรม์ และการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของประกัน ทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องสำคัญของการทำประกันภัยเลยทีเดียว ซึ่ง ความคุ้มครองของกรมธรรม์หลัก ๆ ของกรมธรรม์ก็จะเกี่ยวข้องกับ อาทิเช่น ภัยจากไฟไหม้, ภัยจากฟ้าผ่า, ภัยจากการระเบิด, ภัยจากยานพาหนะ, ภัยจากอากาศยานหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน, ภัยเนื่องจากน้ำ โดยในแต่ละข้อก็จะมีข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันในการรับหรือไม่รับประกันภัย เช่น ภัยเนื่องจากน้ำ จะรับเฉพาะที่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ การปล่อย รั่วไหล ล้น จากท่อน้ำ ถังน้ำ ฯลฯ รวมถึงน้ำฝนที่ผ่านเข้ามาทำให้อาคารเสียหายชำรุด แต่ไม่รวมถึงน้ำท่วม หรือท่อประปานอกอาคารที่แตก เป็นต้น
ผู้เอาประกันจึงควรอ่านและทำความเข้าใจในตัวกรมธรรม์ให้ดีที่สุด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้เอาประกัน
มาต่อกันที่เรื่อง การจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งจะจ่ายเท่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง โดยคิดเฉพาะส่วนที่เอาในประกัน เช่น ตัวอาคาร สิ่งปลูกสร้าง โดยไม่นับรวมเฟอร์นิเจอร์หรือทรัพย์สินส่วนอื่น แต่ทางผู้เอาประกันสามารถเพิ่มความคุ้มครองได้กับบริษัทประกันภัย ซึ่งอาจมีค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติม และการทำประกันภัยประเภทนี้ ยึดถือหลักการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเท่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้น หากจะทำประกันกับบริษัทประกัน 2 บริษัท โดยทุนประกันรวมกันแล้วมากกว่าสิ่งปลูกสร้าง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินเท่ากับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ซึ่งทั้งสองบริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนร่วมกัน
ดังนั้นแล้ว เจ้าของที่อยู่อาศัย จึงควรทำประกันคุ้มครองความเสี่ยงวินาศภัย และอัคคีภัย ไว้ตั้งแต่เริ่มต้นการเข้าอยู่อาศัยในบ้าน เพื่อความอุ่นใจของครอบครัว