ThaiFranchiseCenter Webboard

สุขภาพ ความสวยความงาม | Health & Beauty => แม่และเด็ก | Child => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ มกราคม 24, 2020, 01:33:50 PM

หัวข้อ: หมั่นสังเกตอาการลูกน้อย ลูกร้องไห้ไม่หยุด พ่อแม่ไม่ควรชะล่าใจ!
เริ่มหัวข้อโดย: อัญณา ที่ มกราคม 24, 2020, 01:33:50 PM
การเรียนรู้ความต้องการของลูกผ่านเสียงร้องไห้ถือเป็นโจทย์การบ้านข้อแรก ๆ ที่พ่อแม่มือใหม่ต้องผ่านให้ได้ เพื่อจะสามารถจัดลำดับความเร่งด่วนในการตอบสนองลูกได้อย่างเหมาะสม

โดยปกติแล้ว ทารกร้องไห้ (https://www.samitivejhospitals.com/th/ลูกร้องไห้/) เพื่อแสดงความต้องการบางอย่างหรือเป็นการสื่อสารถึงภาวะที่ไม่สุขสบาย เช่น หิวเจ็บปวด ไม่สบาย และร้องเพื่อต้องการให้อุ้ม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยตรวจสอบสภาวะแวดล้อมหรือสาเหตุทีทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัวและรีบแก้ไขเพื่อให้ลูกหยุดร้องไห้ แต่หาก ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ (https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1729148) ร้องไห้ไม่หยุด ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง ร้องไห้รุนแรงจนหน้าแดง เกร็งหรือขาบิดงอ โดยเฉพาะในกรณีที่ทารกที่มีอายุในช่วง 3 สัปดาห์ – 4 เดือน คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก็ไม่ควรชะล่าใจเพราะอาจเป็นอาการ โคลิค (https://pantip.com/topic/30636323) หรืออาการที่คนรุ่นปู่ย่าตายายมักใช้เรียกกันว่า “ร้องร้อยวัน” นั่นเอง


(https://images.pexels.com/photos/47090/baby-tears-small-child-sad-47090.jpeg?auto=compress&cs=tinysrgb&dpr=2&w=300)


อาการโคลิค ไม่ถือเป็นโรคหรือเป็นความผิดปกติของทารกและไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของทารก แม้ไม่มีการระบุสาเหตุที่แน่ชัดของ อาการโคลิค แต่คนรุ่นก่อนเชื่อว่า ทารกร้องไห้ (https://pantip.com/topic/31718365) เพราะ อาการโคลิค เพราะปวดท้องจากท้องอืดท้องเฟ้อหรือมีลมในกระเพาะมาก จึงนิยมใช้ยามหาหิงคุ์ทารอบสะดือทารก รวมถึงต้องจับทารกเรอหลังอิ่มนมทุกครั้ง แต่ส่วนใหญ่หาก ทารกร้องไห้ จาก อาการโคลิค วิธีการดังกล่าวก็อาจไม่ช่วยได้มากนักคุณพ่อคุณแม่จึงต้องใช้วิธีการอื่น ๆเข้ามาผสมผสานเพื่อรับมือขณะที่ ลูกร้องไม่หยุด เช่นการนวดท้องเบา ๆ การจับเดินโยกไปมา พาลูกน้อยไปในที่สงบ รวมถึงการอาบน้ำอุ่นและห่อตัวให้รู้สึกสบายขึ้น

ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จะสังเกตุได้ว่า เด็กร้องไห้ เพราะ อาการโคลิค จะแตกต่างกับการร้องไห้ปกติดังนี้
1.ลูกร้องไม่หยุด แบบไม่มีสาเหตุทั้งที่สุขภาพแข็งแรงและสบายดี
2.ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุในช่วงเวลาเดียวกันในแต่ละวันโดยเฉพาะในช่วงเย็นและหัวค่ำ
3.เมื่อ เด็กร้องไห้ แล้วจะปลอบได้ยากไม่ว่าจะอุ้มหรือกอดก็ไม่ทำให้สงบได้ ต้องรอให้หยุดร้องเอง

แต่หากลูกร้องไห้จนมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ชะล่าใจและรีบพาลูกพบแพทย์โดยเร็ว ได้แก่ไม่ยอมกินนมหรือกินน้อยกว่าเดิมไม่ตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ผิวซีดหรือคล้ำ อาเจียนและมีไข้ รวมถึงกรณีที่ ลูกร้องไม่หยุด จาก อาการโคลิค และทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวล เครียด กดดันหรือมีทัศนคติเชิงลบต่อการดูแลลูกน้อย ก็ควรต้องรีบปรึกษาแพทย์เช่นเดียวกัน

อาการโคลิค ของลูกน้อยจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามระยะเวลา เมื่อลูกเติบโตขึ้นการร้องไห้โยเยจะลดลง เมื่อนั้นคุณพ่อคุณแม่จะมีความสุขกับการติดตามพัฒนาการใหม่ ๆ ของลูกน้อยที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับครอบครัวได้แทบทุกวัน