ThaiFranchiseCenter Webboard
การให้บริการทางธุรกิจ | Business Service => การเงิน | Finance => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ สิงหาคม 17, 2019, 12:13:10 PM
-
สำหรับใครก็ตามที่อยากลงทุนใน กองทุนรวม นั้น เราเชื่อว่าเมื่อทุกคนหาข้อมูลสิ่งที่ได้เห็นเป็นอันดับแรกเลยก็น่าจะเป็น กองทุนรวม (https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment/mutual-funds.html)ltf (https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment/long-term-equity-fund.html) และกองทุนรวม rmf ซึ่งกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้ต่างก็เป็นที่นิยมนั่นเอง และในการลงทุนเราเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงอยากที่จะได้เป็นเงินเอาไว้สำหรับใช้ในการต่างๆ ด้วยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการนำเอามา ซื้อบ้าน (https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/scb-new-loan.html) โปะหนี้ บัตรเครดิต (https://www.scb.co.th/th/personal-banking/cards/credit-cards/all-cards.html) ที่มีค้างอยู่บ้างเล็กน้อย หรืออาจจะนำไปซื้อรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งไม่ว่าผลที่ต้องการใช้นั้นคืออะไรก็ตาม แต่อย่างน้อยสิ่งที่ดีก็คือ การลงทุนนั้นเป็นเหมือนการออมอย่างหนึ่ง เพียงแต่ว่าวิธีที่เราเลือกออมนั้นอาจจะตามมาด้วยความเสี่ยงที่มีผลแปรโดยตรงกับกำไรที่จะได้จากการลงทุนนั้นนั่นเอง อย่างเช่น ถ้าไม่อยากมีความเสี่ยงมากก็อาจจะลงทุนในตราสารหนี้ หรือตลาดเงินทุน ที่จะเป็นการนำเงินไปลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน (https://www.scb.co.th/th/corporate-banking/credit-facilities/guarantee/scb-acceptance-aval.html) หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นต้น และในวันนี้สำหรับใครที่อยากจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุน ltf และ rmf นั้นเราก็มีมาฝากกันด้วย
1. กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF) ซึ่งก็คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้น โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้
- เงินลงทุนสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีภาษีนั้น และต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
แต่ทั้งนี้เราก็จะต้องทำตามเงื่อนไขของการลงทุนใน LTF ดังนี้
- ต้องถือหน่วยลงทุนของ LTF ไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยนับตามปีปฏิทิน
- หากมีการขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนด 5 ปี ถือว่าผิดเงื่อนไขการลงทุน เราก็จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกต่อไป
2. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund : RMF) ซึ่งก็คือ กองทุนรวมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้เกิดการออมเงินระยะยาวไว้สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ซึ่งจะคล้ายกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังนี้
- เงินลงทุนสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีภาษีนั้น และเมื่อรวมกับเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแล้ว จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
แต่เราก็ต้องทำตามเงื่อนไขของการลงทุนใน RMF ดังนี้
- ลงทุนต่อเนื่องทุกปี โดยลงทุนขั้นต่ำอย่างน้อย 3% ของรายได้ในแต่ละปีหรือ 5,000 บาท แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะน้อยกว่า
- สามารถซื้อหน่วยลงทุนปีเว้นปีได้
- ลงทุนและถือไว้จนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก
- ผิดเงื่อนไขการลงทุนผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกต่อไป