ThaiFranchiseCenter Webboard

สุขภาพ ความสวยความงาม | Health & Beauty => แม่และเด็ก | Child => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ เมษายน 15, 2019, 03:24:04 PM

หัวข้อ: เก็บนมแม่อย่างไร ให้เก็บได้นานๆ และไม่มีกลิ่นเหม็นหืน
เริ่มหัวข้อโดย: อัญณา ที่ เมษายน 15, 2019, 03:24:04 PM
ด้วยน้ำนมที่มีเยอะมากหรือจากการที่คุณแม่ต้องทำงาน ทำให้ไม่สามารถให้ลูกดูดนมจากเต้าได้ จึงต้องใช้วิธีการปั๊มนมเก็บไว้แทน ซึ่งหลายคนก็มักจะเจอกับปัญหาการเก็บนมแม่ (https://www.meadjohnsonni.com/th/นมแม่/สารอาหารในนมแม่)ที่ไม่รู้จะเก็บอย่างไรดี วันนี้เราจึงนำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการเก็บรักษานมแม่มาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีวิธีการเก็บอย่างไร
วิธีเก็บนมแม่ ที่ถูกต้อง
การเก็บน้ำนมแม่สามารถเก็บได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่ต้องการเก็บน้ำนมนานเท่าไหร่ โดยมีวิธีการเก็บดังนี้
1.เก็บไว้ในกระติกน้ำแข็ง
การเก็บนมไว้ในกระติกน้ำแข็ง เป็นวิธีที่เหมาะกับคุณแม่ที่ออกไปทำงานและใช้เวลาว่างในที่ทำงานปั๊มนมเอาไว้ โดยไม่สามารถนำนมไปเก็บไว้ในตู้เย็นได้จึงต้องเก็บใส่กระติกน้ำแข็งแทน ซึ่งวิธีนี้จะสามารถเก็บไว้ได้นาน 1 วัน
2.เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา
เป็นการเก็บน้ำนมไว้ในตู้เย็นที่เป็นช่องธรรมดา โดยจะเก็บไว้ได้นาน 2-3 วัน ซึ่งหากลูกน้อยดื่มนมเก่งมากและมักจะดื่มหมดภายใน 2-3 วันก็สามารถเก็บนมด้วยวิธีนี้ได้เลย
3.เก็บในช่องแช่แข็งประตูเดียว
สำหรับคุณแม่ที่มีตู้เย็นเป็นแบบประตูเดียว และต้องการเก็บนมในช่องแช่แข็ง จะสามารถเก็บไว้ได้นาน 2 สัปดาห์
4.เก็บในช่องแช่แข็ง 2 ประตู
หากตู้เย็นเป็นแบบ 2 ประตู จะสามารถเก็บนมไว้ในช่องแช่แข็งได้นานที่สุด โดยเก็บไว้ได้นานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว ซึ่งวิธีนี้ก็เหมาะกับคุณแม่ที่มีน้ำนมเยอะจนลูกดื่มไม่ทัน จึงต้องปั้มเก็บไว้แบบระยะยาวนั่นเอง
เทคนิคการเก็บนม ให้สะอาดปลอดภัย และไม่เหม็นหืน
เมื่อรู้วิธีการเก็บนมกันไปแล้ว ทีนี้ก็มาดูสิว่าจะต้องเก็บอย่างไรให้สะอาดปลอดภัยและไม่ให้มีกลิ่นเหม็นหืนตามมา โดยเราก็มีคำแนะนำมาฝากกันดังนี้
1.เก็บในถุงสำหรับเก็บน้ำนม
ถุงเก็บน้ำนมส่วนใหญ่จะผลิตขึ้นมาอย่างได้มาตรฐาน จึงสามารถเก็บน้ำนมไว้ได้นานโดยไม่มีสารปนเปื้อนและไม่ทำให้มีกลิ่นเหม็นหืน จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ทำให้ลูกท้องอืด (https://www.meadjohnsonni.com/th/บทความ/อาการไม่สบายท้อง-ท้องอืด-ท้องเสีย-ร้องกวน-และแหวะนม-เกิดจากอะไร) หรือทำให้ทารกท้องเสีย (https://www.meadjohnsonni.com/th/บทความ/อาการไม่สบายท้อง-ท้องอืด-ท้องเสีย-ร้องกวน-และแหวะนม-เกิดจากอะไร)อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงควรเก็บนมในถุงสำหรับเก็บนมแม่โดยเฉพาะ
2.แช่ในช่องแช่แข็งทันที
หลังจากปั๊มนมเสร็จเรียบร้อยแล้วควรนำไปแช่ในช่องแช่แข็งทันที เพราะจะช่วยคงคุณค่าของน้ำนมไว้ได้มากที่สุดและไม่ทำให้มีกลิ่นเหม็นหืนอีกด้วย
3.อย่าเก็บนมร่วมกับอาหารอื่น
การเก็บนมร่วมกับอาหารชนิดอื่น อาจมีกลิ่นอาหารเข้ามาปนกับกลิ่นนมแม่ จนทำให้มีกลิ่นเหม็นแปลกๆ ได้ และอาจทำให้นมเสียง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นควรเก็บแยกไว้เฉพาะนมแม่เท่านั้น
4.คุณแม่ต้องไม่ทานอาหารที่มีกลิ่นแรง
คุณแม่ควรเลือกทานอาหารแม่ลูกอ่อน (https://www.meadjohnsonni.com/th/โภชนาการลูก/คุณแม่ตั้งครรภ์/โภชนาการคุณแม่ตั้งครรภ์)ที่มีประโยชน์และเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรงอย่างเด็ดขาด เช่น กระเทียม เพราะกลิ่นจะส่งผ่านไปกับน้ำนมด้วย เพื่อปั๊มนมเก็บไว้นานๆ ก็อาจมีกลิ่นเหม็นหืนได้นั่นเอง
รู้แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมปั๊มนมและเก็บนมแม่ให้ถูกวิธีกันด้วย โดยคุณแม่สามารถปั๊มนมเก็บไว้ให้ลูกดื่มได้เสมอ แม้ว่าลูกจะอยู่ในวัยที่สามารถทานอาหารเสริม สำหรับเด็ก (https://www.meadjohnsonni.com/th/บทความ/โภชนาการอาหารเด็ก1-3ปี)ได้แล้วก็ตาม เพราะนมแม่มีประโยชน์จึงให้ลูกทานควบคู่ไปกับการทานอาหารอื่นได้เลย