ThaiFranchiseCenter Webboard
การให้บริการทางธุรกิจ | Business Service => การเงิน | Finance => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ สิงหาคม 28, 2025, 03:04:17 AM
-
พ่อแม่บางคนมักคิดว่าการที่ลูกเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นเรื่องธรรมดาและคงเสียค่ารักษาพยาบาลไม่มาก จึงเลือกที่จะไม่ ซื้อประกันเด็ก (https://krungthai.com/th/personal/insurance/health/detail/371)ให้ลูก ทั้งที่ความจริงแล้วเด็ก ๆ มีความเสี่ยงต่อโรคภัยต่าง ๆ มากกว่าผู้ใหญ่ อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลแต่ละครั้งยังค่อนข้างสูง บางกรณีค่าใช้จ่ายสูงกว่าผู้ใหญ่เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ วันนี้เราจะพาพ่อแม่ทุกคนไปทำความเข้าใจกันว่าประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญอย่างไร และควรเลือกประกันอย่างไรให้เหมาะกับเด็ก
ประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญอย่างไร?
เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 1 - 5 ขวบ ถือเป็นช่วงวัยที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเต็มที่ ทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ได้ง่าย สิ่งที่ตามมาคือค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นประกันสุขภาพเด็กจึงสำคัญอย่างยิ่ง
ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาล
ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเด็กแต่ละครั้งมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น หากเป็นการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนค่าใช้จ่ายจะเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 – 20,000 บาท แต่หากมีประกันสุขภาพของเด็กก็จะช่วยให้พ่อแม่หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้เกือบ 100%
คุ้มครองโรคหลากหลาย
ประกันสุขภาพเด็กครอบคลุมโรคที่พบบ่อยในเด็ก เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก มือเท้าปาก อีสุกอีใส ฯลฯ ยิ่งหาก ทำประกันให้ลูก ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เจ็บป่วยก็จะสามารถคุ้มครองลูกจากโรคต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม แม้จะตรวจเจอโรคภายหลังก็ยังสามารถเคลมประกันได้
เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ
ประกันสุขภาพเด็กหลายเจ้ามักจะมีเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญากระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้พ่อแม่สามารถพาลูกเข้ารับการรักษาพยาบาลได้อย่างทันท่วงที หรือสามารถตัดสินใจพาลูกน้อยไปรักษาพยาบาลยังโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือแพทย์ทันสมัยได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย
วิธีเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะกับเด็ก
เนื่องจากประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญอย่างมาก การเลือกซื้อประกันย่อมต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วน โดยปัจจัยที่ควรพิจารณามีดังต่อไปนี้
รายละเอียดความคุ้มครอง
อันดับแรกต้องพิจารณาก่อนว่าประกันฉบับนั้น ๆ คุ้มครองตั้งแต่อายุเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ และคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง วงเงินคุ้มครองสูงสุดเท่าไหร่ และที่สำคัญคือโรงพยาบาลที่รองรับสิทธิประกันดังกล่าวมีมากหรือน้อย หรืออยู่ใกล้กับที่พักอาศัยหรือไม่
ความคุ้มครองเพิ่มเติม
นอกเหนือจากความคุ้มครองหลักแล้ว ควรพิจารณาว่าประกันฉบับนั้น ๆ มอบความคุ้มครองเพิ่มเติมอะไรอีกบ้าง เช่น ค่าฉีดวัคซีนสำหรับเด็กฟรี ค่าตรวจสุขภาพ ค่าใช้จ่ายด้านทันตกรรม เป็นต้น
เบี้ยประกันไม่เกินกำลัง
พ่อแม่ที่วางแผนจะ ซื้อประกันให้ลูก เราขอแนะนำให้เลือกประกันที่มีค่าเบี้ยประกันต่อปีเป็นสัดส่วนไม่เกิน 10 – 15% ของรายได้ต่อปีของพ่อและแม่รวมกัน เช่น พ่อแม่มีรายได้ต่อปีรวมกัน 400,000 บาท ควรเลือกซื้อประกันที่มีค่าเบี้ยประกันต่อปีไม่เกิน 40,000 – 60,000 บาท เพื่อไม่ให้กระทบกับสถานะทางการเงินของครอบครัวในระยะยาว
ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพเด็ก ประกันชีวิต (https://krungthai.com/th/personal/insurance/life-insurance) ประกันสะสมทรัพย์ (https://krungthai.com/th/personal/insurance/life-insurance/saving-life/558)ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ และสำหรับพ่อแม่คนไหนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเลือก ทำประกันให้ลูก กับบริษัทไหนดี เราขอแนะนำประกันสุขภาพสุขใจจากธนาคารกรุงไทย ที่มอบความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก มอบจำนวนเงินผลประโยชน์ต่อรอบปีกรมธรรม์สูงสุดถึง 300,000 บาท หรือจำนวนเงินผลประโยชน์ต่อการรักษา 1 ครั้ง สูงสุดถึง 75,000 บาท ที่สำคัญคือค่าเบี้ยประกันไม่แพงและสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/img-Governance.md.webp)