ThaiFranchiseCenter Webboard

ตลาดกลางธุรกิจ SMEs และแฟรนไชส์ | Open Market => ซื้อ-ขาย ธุรกิจขายตรง, ขายตรง, ธุรกิจเครือข่าย, MLM, รายได้เสริม, รายได้พิเศษ => ข้อความที่เริ่มโดย: เต่าแมลง ที่ สิงหาคม 09, 2013, 08:47:14 AM

หัวข้อ: เมล็ดกาแฟไทยกัยลาวต่างกันตรงไหน
เริ่มหัวข้อโดย: เต่าแมลง ที่ สิงหาคม 09, 2013, 08:47:14 AM

เมล็ดกาแฟของไทยกับของลาวต่างกันแค่ไหน คุณภาพของรสชาติและความหอมต่างกันหรือไม่!!!!
หลายคนคงรู้ว่าประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องเมล็ดกาแฟขี้คือประเทศบราซิล
คุณเคยสงสัยไม่ว่าประเทศไทยส่งออกเมล็ดกาแฟบางหรือป่าว กาแฟเป็นพืชที่มีมาจากเขตร้อนชื้นในประเทศแอฟริกา จากนั้นก็ได้แพร่ไปยังหลายประเทศรวถึงประเทศที่อยู่ในแถบเอเชียตะันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย ประเทศไทยจะว่าไปแล้วก็ถือว่ายังใหม่อยู่มาก ตามสถิติพบว่าประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกาแฟอยู่ประมาณ 20,000 ไร่ ผลิตกาแฟได้เพียง 750 ตัน แต่ภายในปีเดียวกันประเทศไทยต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟเกือบจะ 60,000 ตัน เพื่อเป็นการปรับดุลกรค้าของประเทศ จึงได้มีการรณรงค์ให้มีการปลูกกาแฟโรบาสต้าในภาคใต้ของปะเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โครงการนี้ยังเกี่ยวเนื่องไปถึงการปลูกพืชทดแทน การปลูกกาแฟของคนไทยชาวเขาที่อาศัยอยู่ในเขตสามเหลี่ยมทองคำและตามแนวเขตแดนพม่าและลาว จึงเริ่มหันมาสนใจปลูกกาแฟพันธุ์อราบิกากัน แทนการปลูกฟิ่น
(http://sinoukcoffeebean.ran4u.org/files/2013/06/typica.jpg) (http://sinoukcoffee.com/)
ประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกเมล็ดกาแฟเป็นยังไงบ้าง แล้วจะเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศได้หรือไม่
ประเทศไทยเป็นชาติ ที่มีเมล็ดกาแฟเป็นสินค้าออกอย่างเป็นทางการในปี 1976 เราส่งกาแฟโรบัสต้ากว่า 850 ตัน ออกขายในตลาดโลก ในช่วงปี 1980 ราคาในตลาดโลกมีความแข็งแกร่ง จึงช่วยให้การส่งออกมีการเติบโต ไปในทิศทางที่ดี ในปีต่อมาและถึงจุดสูงสุดในช่วง ปี 1991-1992 ที่อัตรา 60, 000 ตัน ความล้มเหลวของ “สัญญากาแฟสากล”ในเดือนกรกฎาคมปี 1989 และภาวะราคากาแฟโลกที่ตกต่ำจากผลผลิตที่ล้นตลาดมีผลกระทบ ที่รุนแรงต่อชาวไร่กาแฟอย่างรุนแรง รัฐบาลไทยต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกระทันหัน เมื่อเผชิญหน้ากับ สถานการณ์การคุกคามของการมีอัตราการเสนอขายที่มากกว่าความต้องการซื้อ จนเกินไปและเริ่มลดกำลังผลิตภายใต้แผนห้าปี(1992-1997) ให้ชาวไร่กาแฟ เปลี่ยนไปปลูกพืชผลอย่างอื่น เนื่องจากพยายามที่จะลดเนื้อที่ในการเพาะปลูกกาแฟ จากที่เกือบจะถึง 500,000 ไร่(หรือประมาณ 200, 000 เอเคอร์)
สนใจเมล็ดกาแฟ (http://sinoukcoffeebean.ran4u.org/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5/)ติดต่ได้ตามข้อมุูลข้างล่างนี้เลยนะครับ
..................................................
ชื่อผู้ติดต่อ : สิริณัฏฐ์ กาญจนพฤทธิ์
เบอร์โทร : 084 -1546656 ; 085-6616549
Email : sinoukthai@gmail.com
ที่อยู่ : 186/438 ม.พาร์คเวย์ชาร์เลต์ ถ.รามคำแหง 190/1 มีนบุรี กทม.10510
http://sinoukcoffee.com

หัวข้อ: Re: เมล็ดกาแฟไทยกัยลาวต่างกันตรงไหน
เริ่มหัวข้อโดย: เต่าแมลง ที่ สิงหาคม 14, 2013, 07:47:25 AM

ขออนุญาตดันกระทู้นะครับ

อ้างจาก: เต่าแมลง ที่ สิงหาคม 09, 2013, 08:47:14 AM

จำหน่ายเมล็ดกาแฟลาว sinoukcoffee คุณภาพดีสินค้าจากประเทศลาวแท้ๆ
เมล็ดกาแฟของไทยกับของลาวต่างกันแค่ไหน คุณภาพของรสชาติและความหอมต่างกันหรือไม่!!!!
หลายคนคงรู้ว่าประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องเมล็ดกาแฟขี้คือประเทศบราซิล
คุณเคยสงสัยไม่ว่าประเทศไทยส่งออกเมล็ดกาแฟบางหรือป่าว กาแฟเป็นพืชที่มีมาจากเขตร้อนชื้นในประเทศแอฟริกา จากนั้นก็ได้แพร่ไปยังหลายประเทศรวถึงประเทศที่อยู่ในแถบเอเชียตะันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย ประเทศไทยจะว่าไปแล้วก็ถือว่ายังใหม่อยู่มาก ตามสถิติพบว่าประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกาแฟอยู่ประมาณ 20,000 ไร่ ผลิตกาแฟได้เพียง 750 ตัน แต่ภายในปีเดียวกันประเทศไทยต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟเกือบจะ 60,000 ตัน เพื่อเป็นการปรับดุลกรค้าของประเทศ จึงได้มีการรณรงค์ให้มีการปลูกกาแฟโรบาสต้าในภาคใต้ของปะเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โครงการนี้ยังเกี่ยวเนื่องไปถึงการปลูกพืชทดแทน การปลูกกาแฟของคนไทยชาวเขาที่อาศัยอยู่ในเขตสามเหลี่ยมทองคำและตามแนวเขตแดนพม่าและลาว จึงเริ่มหันมาสนใจปลูกกาแฟพันธุ์อราบิกากัน แทนการปลูกฟิ่น
(http://sinoukcoffeebean.ran4u.org/files/2013/06/typica.jpg) (http://sinoukcoffee.com/)
ประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกเมล็ดกาแฟเป็นยังไงบ้าง แล้วจะเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศได้หรือไม่
ประเทศไทยเป็นชาติ ที่มีเมล็ดกาแฟเป็นสินค้าออกอย่างเป็นทางการในปี 1976 เราส่งกาแฟโรบัสต้ากว่า 850 ตัน ออกขายในตลาดโลก ในช่วงปี 1980 ราคาในตลาดโลกมีความแข็งแกร่ง จึงช่วยให้การส่งออกมีการเติบโต ไปในทิศทางที่ดี ในปีต่อมาและถึงจุดสูงสุดในช่วง ปี 1991-1992 ที่อัตรา 60, 000 ตัน ความล้มเหลวของ “สัญญากาแฟสากล”ในเดือนกรกฎาคมปี 1989 และภาวะราคากาแฟโลกที่ตกต่ำจากผลผลิตที่ล้นตลาดมีผลกระทบ ที่รุนแรงต่อชาวไร่กาแฟอย่างรุนแรง รัฐบาลไทยต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกระทันหัน เมื่อเผชิญหน้ากับ สถานการณ์การคุกคามของการมีอัตราการเสนอขายที่มากกว่าความต้องการซื้อ จนเกินไปและเริ่มลดกำลังผลิตภายใต้แผนห้าปี(1992-1997) ให้ชาวไร่กาแฟ เปลี่ยนไปปลูกพืชผลอย่างอื่น เนื่องจากพยายามที่จะลดเนื้อที่ในการเพาะปลูกกาแฟ จากที่เกือบจะถึง 500,000 ไร่(หรือประมาณ 200, 000 เอเคอร์)
สนใจเมล็ดกาแฟ (http://sinoukcoffeebean.ran4u.org/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5/)ติดต่ได้ตามข้อมุูลข้างล่างนี้เลยนะครับ
..................................................
ชื่อผู้ติดต่อ : สิริณัฏฐ์ กาญจนพฤทธิ์
เบอร์โทร : 084 -1546656 ; 085-6616549
Email : sinoukthai@gmail.com
ที่อยู่ : 186/438 ม.พาร์คเวย์ชาร์เลต์ ถ.รามคำแหง 190/1 มีนบุรี กทม.10510
http://sinoukcoffee.com