แนะนำข้อมูลในการส่งของไปอังกฤษที่คุณควรรู้
(https://img2.pic.in.th/pic/send-parcel.png)
หลายคนคงคิดว่าการส่งพัสดุหรือสินค้าจากไทยไปอังกฤษอาจดูเป็นเรื่องง่ายแต่ในความเป็นจริงมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาทั้งเรื่อง ค่าขนส่ง, ระยะเวลา, ภาษีศุลกากร และกฎระเบียบการส่งของไปอังกฤษ (https://rnpexpress.com/export/export-uk-europe/) ถ้าหากไม่มีการวางแผนที่ดีอาจจะเกิดปัญหาค่าธรรมเนียมที่ไม่คาดคิด หรือพัสดุติดศุลกากรจนถึงขั้นถูกตีกลับได้
ดังนั้นก่อนที่จะส่งของไปอังกฤษ ควรทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับ วิธีการจัดส่ง, ประเภทที่ส่งพัสดุไปอังกฤษได้, ข้อจำกัดด้านศุลกากร และเทคนิคการแพ็คของให้ปลอดภัย เพื่อให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นและคุ้มค่าที่สุด
ส่งของไปอังกฤษจำเป็นต้องใช้เอกสารอะไร?
เมื่อส่งของไปอังกฤษ แน่นอนว่ามีเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมเพื่อให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่น และป้องกันปัญหาจากศุลกากรอังกฤษ ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้
- ใบกำกับสินค้าใช้สำหรับการระบุรายละเอียดสินค้าเพื่อส่งของไปอังกฤษเช่น มูลค่า และข้อมูลผู้ส่ง-ผู้รับซึ่งต้องมีรายละเอียดสินค้า ข้อมูลผู้ส่งและผู้รับ วัตถุประสงค์ในการส่ง รหัสศุลกากรสินค้าและมูลค่าของสินค้าเพื่อนำไปใช้คำนวณภาษีนำเข้า
- ใบแสดงรายการบรรจุภัณฑ์ เอามาใช้สำหรับให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพัสดุ เช่น จำนวนชิ้น น้ำหนัก และขนาดกล่องต้องระบุรายการสินค้าและจำนวน น้ำหนักรวมของพัสดุ ขนาดและประเภทบรรจุภัณฑ์ วิธีการบรรจุโดยจะใช้ร่วมกับใบกำกับสินค้า โดยเฉพาะสำหรับการขนส่งเชิงพาณิชย์
- แบบฟอร์มศุลกากร ใช้สำหรับในการแจ้งข้อมูลสินค้าให้ศุลกากรอังกฤษตรวจสอบถ้าเป็นประเภท CN22 จะใช้สำหรับพัสดุมูลค่าไม่เกิน 270 ปอนด์ ส่วน CN23 ใช้สำหรับพัสดุมูลค่าเกิน 270 ปอนด์ และต้องแนบไปกับพัสดุ ต้องมีรายละเอียดสินค้าและมูลค่า วัตถุประสงค์ในการจัดส่ง น้ำหนักและรหัส HS Code ลายเซ็นของผู้ส่ง
- ใบอนุญาตนำเข้าสินค้า กรณีสินค้าควบคุมโดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในหมวดสินค้าควบคุมหรือมีข้อจำกัดในการส่งของไปอังกฤษ เช่น อาหารและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ยาและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท สินค้าลิขสิทธิ์ หรือแบรนด์เนม
ส่งของไปอังกฤษมีราคายังไงบ้าง?
อัตราค่าขนส่งของไปอังกฤษขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น น้ำหนัก ขนาดของพัสดุ วิธีการจัดส่ง และผู้ให้บริการขนส่ง ซึ่งโดยทั่วไปค่าขนส่งจะถูกคำนวณตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
- คำนวณจากน้ำหนักพัสดุ โดยค่าส่งของไปอังกฤษจะพิจารณาจากน้ำหนักจริงหรือ น้ำหนักเชิงปริมาตร แล้วเลือกค่าที่สูงกว่า ตัวอย่างการคำนวณเช่นพัสดุหนัก 5 กก. แต่มีขนาด 40 × 30 × 20 cm คำนวณน้ำหนักเชิงปริมาตร = (40 × 30 × 20) ÷ 5000 = 4.8 กก. กรณีนี้จะถูกคิดค่าขนส่งตาม น้ำหนักจริง 5 กก.
- การคำนวณจากบางประเภทพัสดุมีอัตราค่าขนส่งแตกต่างกัน เช่น สินค้าอันตรายอย่างสารเคมี แบตเตอรี่ลิเธียม อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมและพัสดุเกินขนาด หรือพัสดุที่มีด้านใดด้านหนึ่งยาวเกิน 100 ซม. อาจถูกคิดค่าขนส่งพิเศษ รวมถึงของที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ เช่น อาหารสดหรือเวชภัณฑ์ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเช่นกัน
- แต่ว่านอกจากค่าส่งของไปอังกฤษแล้ว ยังต้องพิจารณาภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียมศุลกากรของอังกฤษ เช่นพวกภาษีนำเข้าและ VAT อังกฤษเก็บ VAT 20% ของมูลค่าสินค้า + ค่าขนส่ง แต่ถ้าค่าสินค้าต่ำกว่า 135 ปอนด์ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า แต่ยังต้องเสีย VAT ค่าสินค้าเกิน 135 ปอนด์ ต้องเสียภาษีนำเข้าเพิ่มเติม
ส่งของไปอังกฤษต้องส่งด่วนหรือส่งธรรมดาแบบไหนดี?
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/packing.png)
สำหรับการส่งของจากไทยไปอังกฤษสามารถเลือกได้ทั้ง การส่งด่วนและการส่งธรรมดา (โดยแต่ละแบบมีระยะเวลาในการจัดส่งแตกต่างกันประมาณนี้
- การส่งด่วนมีระยะเวลาการจัดส่ง 3-7 วัน เหมาะสำหรับเอกสารสำคัญ หรือสินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว พัสดุที่มีมูลค่าสูง และต้องการความปลอดภัย การขนส่งทางธุรกิจเช่นการส่งตัวอย่างสินค้าหรือสินค้าขายออนไลน์ ข้อเสียคือมีราคาสูงกว่าการส่งธรรมดาพัสดุขนาดใหญ่และหนักมากอาจมีค่าขนส่งที่แพง
- ส่วนของการส่งธรรมดาจะมีระยะเวลาการจัดส่ง 7-30 วัน เหมาะสำหรับสินค้าทั่วไปที่ไม่ต้องรีบด่วน ของที่มีน้ำหนักมาก หรือพัสดุขนาดใหญ่ที่ต้องการลดต้นทุนพัสดุที่ส่งเป็นของขวัญหรือสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องถึงเร็ว ข้อเสียคือ ใช้เวลานานกว่าการส่งด่วน อาจมีความล่าช้าในขั้นตอนศุลกากร ติดตามสถานะพัสดุได้ยากกว่าในบางบริการ
วิธีแพ็คของก่อนส่งของไปอังกฤษ
การแพ็คพัสดุอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ของที่ส่งของไปอังกฤษหรือประเทศอื่นเช่นส่งของไปญี่ปุ่นถึงปลายทางอย่างปลอดภัย ลดความเสียหาย และผ่านด่านศุลกากรได้อย่างราบรื่น โดยมีหลักการแพ็คที่ควรใช้เช่นการเลือกกล่องที่ใหญ่พอในการชิปปิ้งไปอังกฤษ ให้มีที่ว่างสำหรับกันกระแทก แต่ไม่ควรใหญ่เกินไปจนของขยับไปมาได้ ใช้กล่องลูกฟูกแบบหนา เพื่อรองรับแรงกดและแรงกระแทกระหว่างขนส่งและหากเป็นสินค้าที่แตกหักง่าย ควรใช้กล่อง 2 ชั้น หรือบรรจุลงกล่องขนาดเล็กก่อน แล้วค่อยใส่กล่องใหญ่อีกชั้น
นอกจากนี้การส่งของไปอังกฤษยังควรบับเบิ้ลกันกระแทกห่อรอบสินค้าที่แตกหักง่าย หรือใช้กระดาษห่อ โฟมกันกระแทก ใส่รอบกล่องให้พัสดุไม่เคลื่อนที่ และสามารถใช้กล่องพลาสติกแข็งพร้อมกับซองกันกระแทก แล้วก็ต้องปิดผนึกกล่องให้แน่นหนาโดยใช้เทปกาวหนาปิดแนวรอยต่อทุกด้านของกล่อง และใช้เทคนิค H-Tape Method เพื่อให้แน่ใจว่ากล่องไม่เปิดระหว่างขนส่ง ถ้ากล่องมีของหนักควรเสริมเทปกาวที่ฐานกล่องเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
สรุปข้อควรรู้ก่อนส่งของไปอังกฤษ
สิ่งที่ต้องทำในการส่งของไปอังกฤษเตรียมเอกสารให้ครบต้องใช้ ใบกำกับสินค้า, แบบฟอร์มศุลกากร (CN22/CN23) และใบอนุญาตนำเข้าเพื่อให้ผ่านศุลกากรอังกฤษได้ง่ายโดยเลือกรูปแบบการขนส่ง ส่งด่วนหรือส่งธรรมดา และต้องแพ็คของให้ปลอดภัยโดยใช้กล่องขนาดพอดีและวัสดุกันกระแทกปิดผนึกแน่นหนาและติดฉลาก FRAGILE ถ้าของแตกหักง่ายเขียนที่อยู่ชัดเจนและตรวจสอบข้อจำกัดศุลกากรซึ่งจะต่างกับการส่งของไปอเมริกา ส่งของไปจีน และประเทศอื่น ๆ