ประกันชั้น 3 คืออะไร ประกันถูกและดี เซฟค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
(https://img2.pic.in.th/pic/car-insurance-type3.jpg)
หากใครที่กำลังซื้อรถยนต์หรือกำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่ เรามาลองทำความรู้จักกับประกัน กันมากขึ้นดีกว่ามีประกันไว้จะได้อุ่นใจเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยภายในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับประกันชั้น 3 (https://insurverse.co.th/car-insurance/type3/) กันว่าคืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง และประกันชั้น 3 เหมาะกับผู้ใช้งานรถแบบไหนบ้าง เรามาหาข้อมูลไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
ประกันชั้น 3 คืออะไร ทำประกันเอาไว้ดีอย่างไร?
ประกันภัยชั้น 3 เป็นแผนประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่ให้จ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ต่ำกว่าแผนประกันชั้นอื่น แต่การทำประกันชั้น 3 จะช่วยให้อุ่นใจในการขับขี่บนท้องถนน ดีกว่าการไม่มีประกัน โดยประกันชั้น 3 ทางบริษัทประกันจะรับผิดชอบต่อค่าเสียทางทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้โดยสารภายในรถรวมถึงคู่กรณีด้วย แม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิด แต่จะไม่ได้คุ้มครองค่าเสียหายซ่อมรถของผู้เอาประกัน หรือกรณีอื่น ๆ เช่น รถชนข้าวของข้างทาง หรือจากเหตุจากภัยธรรมชาติ และรถหาย การมีประกันชั้น 3 จึงช่วยให้เซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะกว่าการไม่มีประกันแม้จะเป็นประกันที่เบี้ยประกันน้อยกว่าแผนประกันอื่น ๆ
ประกันชั้น 3 ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง?
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/type3-car-insurance603baa2746ed5acd.png)
ในส่วนของประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้างนั้น แผนประกันรถยนต์ชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองหลักอยู่ 2 ส่วนคือ บุคคลโดยสารที่อยู่ในรถ และทรัพย์สิน รถยนต์ของคู่กรณีเท่านั้น รถของผู้เอาประกันชั้น 3 จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเอง ซึ่งในส่วนของรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างเรามาดูกันต่อเลยครับ
คุ้มครองบุคคลในรถและคู่กรณี
อย่างแรกที่ประกันชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองคือบุคคลที่อยู่ในรถทั้งรถผู้เอาประกัน และรถของฝ่ายคู่กรณี โดยจะคุ้มครองเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากอาการบาดเจ็บ และจ่ายค่าชดเชยกรณีทุพพลภาพ พิการ หรือเสียชีวิต โดยบริษัทประกันจะออกค่าใช้จ่ายให้ตามวงเงินที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ และจะช่วยในเรื่องของค่าประกันตัวให้กับผู้เอาประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
คุ้มครองรถยนต์และทรัพย์สินของคู่กรณี
ในส่วนที่สองของการได้รับความคุ้มครองจากประกันชั้น 3 คือ การคุ้มครองรถยนต์และทรัพย์สินเฉพาะของคู่กรณีเท่านั้น จะไม่คุ้มครองรถของผู้เอาประกัน โดยจะให้ความคุ้มครองกับคู่กรณีในค่าใช้จ่ายเรื่องค่าซ่อมรถ หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งรถของผู้เอาประกันจะต้องเสียค่าซ่อมรถเองไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ถึงอย่างไรเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ของประกันภัย เพราะต้องแจ้งตรงสถานที่เกิดเหตุและมีคู่กรณีด้วย
ประกันรถยนต์ชั้น 3 เหมาะกับใคร การใช้งานแบบไหน?
เนื่องจากราคาประกันชั้น 3 มีเบี้ยค่าประกันที่ค่อนข้างถูกและมีความคุ้มครองไม่เยอะ ส่วนใหญ่จะคุ้มครองทางฝั่งของคู่กรณี จึงทำให้เหมาะกับคนที่ใช้งานรถน้อย นาน ๆ ที เป็นรถเก่า และมีความชำนาญในการขับรถมีสติ ต้องการทำประกันที่มีราคาถูก มาดูกันว่าประกันรถชั้น 3 เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้งานรถยนต์ แม้จะมีรอยขีดข่วนตามรถบ้างก็ไม่ได้ซีเรียส เพียงแต่ต้องการเซฟในเรื่องค่าใช้จ่ายหากเกิดอุบัติเหตุรถชนกันแล้วต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณี การทำประกันชั้น 3 จึงตอบโจทย์ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเสียหายของคู่กรณีเลยเพราะบริษัทประกันจะคุ้มครองในส่วนนี้
- เหมาะกับคนที่มีความเชี่ยวชาญในการขับรถ รู้เรื่องรถยนต์เป็นอย่างดี สามารถซ่อมเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ แม้รถจะไม่สวยเหมือนใหม่แต่ก็ยังใช้งานได้อยู่ สามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้ แต่ต้องการความสบายใจจากการคุ้มครองของประกันชั้น 3 ที่จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายของคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- เหมาะกับคนที่ใช้งานรถยนต์เพื่อพาณิชย์ ถึงจะไม่กังวลเกี่ยวกับรอยขีดข่วนบนรถยนต์ แต่ก็ใช้งานบ่อยการมีประกันชั้น 3 จึงมีความอุ่นใจกว่าไม่ต้องกังวลมากหากเกิดอุบัติเหตุกับคู่กรณี
- เหมาะกับรถยนต์มือ 2 เพราะด้วยความที่รถผ่านการใช้งานมามากแล้วการทำประกันชั้น 1 และ 2 อาจใช้จ่ายมากไป การทำประกันชั้น 3 จึงมีความคุ้มค่ามากกว่า
- เหมาะกับรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมามากแล้ว มีอายุการใช้งานเยอะ 7-10 ปี ประกันชั้น 3 จะสามารถทำประกันได้ไม่จำกัดอายุการใช้งานของรถ แถมยังได้รับความคุ้มครองต่าง ๆ ชดเชยค่าเสียหายให้กับคู่กรณีได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ประกันชั้น 3 คุ้มครองแค่รถคู่กรณี แต่ไม่คุ้มครองรถเราจริงไหม กรณีไหนบ้างที่ประกันจะไม่เคลม
หากสงสัยว่าประกันชั้น 3 คุ้มครองเพียงแค่รถของคู่กรณีจริงหรือไม่ คำตอบคือ จริง ซึ่งประกันชั้น 3 จะคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลการบาดเจ็บ ค่าเสียหายทรัพย์สินและรถของคู่กรณีเท่านั้น และจะไม่คุ้มครองผู้เอาประกันดังนี้
- ค่าซ่อมรถยนต์ตัวเอง อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี จะไม่สามารถเคลมค่าซ่อมรถของตนเองได้
- ทรัพย์สินของตนเอง สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ไม่สามารถขอเคลมเงินประกันได้
- รถหาย แม้จะสามารถพิสูจน์ได้ว่ารถเราสูญหายหรือถูกขโมย ประกันชั้น 3 ก็จะไม่ได้ให้ความคุ้มครอง
- ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ก็จะไม่สามารถเคลมประกันชั้น 3 ได้
ประกันชั้น 3 มอบความคุ้มครองที่คุ้มค่า มีไว้อุ่นใจกว่า
ประกันชั้น 3 มีราคาเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าแผนประกันชั้นอื่น ๆ การมีประกันไว้ย่อมอุ่นใจกว่าไม่ทำประกันอะไรเลย เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วจะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องชดเชยให้กับคู่กรณีได้อีกเยอะ ซึ่งประกันชั้น 3 ยังช่วยในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลการเจ็บป่วยของคนในรถทั้งฝั่งเรา และฝั่งคู่กรณีอีกด้วย แต่เรื่องค่าเสียหายทรัพย์สินและรถยนต์จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะฝั่งของคู่กรณีเพียงเท่านั้น ประกันชั้น 3 นี้จึงเหมาะกับคนมีความชำนาญในการขับรถ หรืออาจจะเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาพอสมควรแล้วนั่นเอง