ThaiFranchiseCenter Webboard
สุขภาพ ความสวยความงาม | Health & Beauty => ความงาม | Beauty => ข้อความที่เริ่มโดย: nemophilanie ที่ กันยายน 26, 2023, 07:19:50 PM
-
มอยส์เจอไรเซอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ปิดท้ายการบำรุงผิวหน้าก่อนนอนหรือก่อนใช้ครีมกันแดด แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมมอยส์เจอไรเซอร์จึงต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว เรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน
มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ช่วยเติมและรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำหน้าที่เคลือบผิวเพื่อเก็บกักน้ำใต้ผิวหน้าและสารบำรุงผิวของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ให้ระเหยออกไป ผิวหน้าจึงคงความชุ่มชื้น นุ่มนวล อิ่มน้ำ แข็งแรง ไม่ระคายเคืองง่าย และยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนขึ้นด้วย
ส่วนผสมมอยส์เจอไรเซอร์แบ่งตามที่ให้ความชุ่มชื้นได้ 3 ประเภท
1. Occlusives เป็นประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ โดยการเคลือบหรือปิดผิวเพื่อไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นของผิวไว้อย่างดีเยี่ยม Occlusives เป็นไขมันที่ผิวมันดูดซึมไม่ได้ เช่น ซิลิโคน ขี้ผึ้ง ปิโตรเลียมเจล ลาโนลิน สารสกัดจากน้ำมันมะกอก สารสกัดจากถั่วเหลือง สารสกัดจากจมูกข้าวสาลี และสารสกัดจากรำข้าว เป็นต้น
2. Humectants เป็นประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ (https://www.jeab.com/style-beauty/beauty/10-best-facial-moisturizer)ที่ช่วยให้ผิวฉ่ำน้ำ นำน้ำมาไว้บนผิวโดยการดูดซับน้ำจากผิวที่อยู่ลึกลงไปจากชั้นหนังกำพร้ามาไว้ที่ชั้นผิวและในขณะเดียวกันก็ดึงน้ำจากอากาศภายนอกเข้ามาที่ชั้นผิวด้วย ตัวอย่างสารที่มีคุณสมบัติที่ดึงดูดน้ำได้ดี เช่น กลีเซอรีน ไฮยาลูรอนิก ยูเรีย ซอร์บิทอล และอัลฟาไฮดรอกซี เป็นต้น
3. Emollients เป็นประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ทำให้ผิวเนียนนุ่ม โดยการช่วยประสานเซลล์ที่ตายแล้ว เป็นการเติมร่องผิวและเคลือบผิวด้วยไขมันบาง ๆ จึงทำให้ผิวเนียนเรียบ ตัวอย่างสารในกลุ่ม Emollients เช่น เชียร์บัตเตอร์ คอลลาเจน ปาล์มิเตท และสควาเลน เป็นต้น
แนะนำการเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะกับผิว
1. ผิวธรรมดา เป็นผิวที่มีความแข็งแรงสมดุลพอดี ไม่มันหรือแห้งเกินไป สามารถใช้ Moisturizer ทั้งที่เป็น Water-based และ Oil-based ทั้งในรูปแบบที่เป็นโลชั่นและครีม แต่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมประเภท Occlusives ที่มากเกินไป เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้
2. ผิวมัน เป็นผิวที่ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ซึ่งอาจมาจากผิวขาดความชุ่มชื้นจนต่อมไขมันต้องผลิตไขมันออกมาเพิ่มเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นหรือเกิดจากพันธุกรรม อย่างไรก็ตาม มอยส์เจอไรเซอร์ก็ยังจำเป็นกับผิวมัน เพราะเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นต่อมไขมันก็จะลดการผลิตไขมันออกมา โดยสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Water-based ทั้งในรูปแบบโลชั่นและเจลเพื่อให้ซึมสู่ผิวได้รวดเร็ว แนะนำให้หลีกเลี่ยงมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมประเภท Occlusives
3. ผิวแห้ง เป็นผิวที่ขาดความชุ่มชื้นและควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Oil-based ในรูปแบบโลชั่น ครีม หรือบาล์ม moisturizer แนะนำ ได้แก่ Moisturizer ที่มีส่วนผสมประเภท Occlusives สูง เพื่อช่วยกักความชุ่มชื้นไม่ได้ระเหยออกจากผิว และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ Moisturizer ที่มีส่วนผสมหลักเป็น Humectants โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศมีความชื้นต่ำ เนื่องจากไม่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าแห้งได้
4. ผิวผสม เป็นผิวหน้าที่มีทั้งบริเวณที่มีความมันส่วนเกิน ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง กับผิวแห้งบริเวณแก้ม moisturizer แนะนำ (https://www.jeab.com/style-beauty/beauty/10-best-facial-moisturizer) ได้แก่ Moisturizer ที่มีส่วนผสมของน้ำและน้ำมันเท่า ๆ กัน อยู่ในรูปแบบกึ่งโลชั่นกึ่งครีมที่ให้ความชุ่มชื้นระดับปานกลาง หรือเลือกใช้ Moisturizer แยกตามส่วนก็ได้เช่นกัน
การใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของชั้นผิว ให้ผิวเกิดความสมดุล และช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การไม่ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าแห้ง ขาดความชุ่มชื้น เกิดริ้วรอย รูขุมขนกว้าง และระคายเคืองง่าย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของผิวหน้า เราจึงต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์ทุกวันไม่ควรขาด ที่สำคัญควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของเราด้วย แต่หากคุณยังกังวลว่าจะเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช่สำหรับผิวของคุณได้อย่างไร หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อไหนดี (https://www.jeab.com/style-beauty/beauty/10-best-facial-moisturizer) เราขอให้คุณแวะเข้าไปที่ https://www.esteelauder.co.th/products/688/product-catalog/skin-care/moisturizer แล้วคลิก “ค้นหามอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช่สำหรับผิวของคุณ” ตอบคำถาม 2 - 3 ข้อ คุณก็จะได้ Moisturizer ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพิ่มความชุ่มชื้นและแก้ปัญหาผิวหน้าของคุณได้ง่าย ๆ ไม่ต้องพลิกดูส่วนผสมหลังกล่องให้วุ่นวาย เพราะ Estee Lauder เลือกมาให้แล้วว่าใช่