ThaiFranchiseCenter Webboard
		การให้บริการทางธุรกิจ | Business Service => สมัครงาน | Jobs => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ กันยายน 11, 2023, 05:23:23 AM
		
			
			- 
				\
 หากคุณมีรถเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ มอเตอร์ไซค์หรือจะเช่ารถขับ ก็สามารถเริ่มต้นเป็นคน ขับแท็กซี่ รับจ้างได้ไม่ยาก แต่หากคุณไม่มี ใบขับขี่สาธารณะ จะไม่สามารถทำอาชีพนี้ได้ ที่สำคัญแม้ว่าคุณจะทำงานประจำอยู่แล้วก็สามารถหารายได้เสริมจากตรงนี้ได้ แต่ก่อนจะเริ่มทำแบบจริงจัง ตัวคุณเองก็ต้องศึกษาเรื่องของการเตรียมตัวและเทคนิคการเรียกลูกค้า ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่คิด ไปดูกันว่าต้องทำอย่างไร
 
 1.ทำ ใบขับขี่สาธารณะ ให้เรียบร้อยจึงจะสามารถเริ่มรับลูกค้าได้ โดยการขอรับใบขับขี่นั้นเพียงแค่คุณไปที่กรมการขนส่งทางบก ที่เดียวกันกับการขอใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล เริ่มต้นจะต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เช่น สายตา ปฏิกิริยาเท้า จากนั้นใช้เวลา 5 ชั่วโมงในการอบรมและทดสอบข้อเขียน ก่อนหน้านั้นจะต้องมีใบขับขี่ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ถัดมาเป็นการเตรียมเอกสารดังนี้
 สำเนาและใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว มีอายุอย่างน้อยกว่า 1 ปี
 บัตรประชาชนฉบับจริง พร้อมสำเนา
 สำเนาทะเบียนบ้าน
 ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะจะแสดงให้เห็นว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัว อันจะทำให้การขับรถไม่เต็มประสิทธิภาพหรือเกิดอันตราย
 หลักฐานที่รับรองว่าคุณได้ผ่านการอบรมและจบหลักสูตรการอบรมจากกรมการขนส่งทางบก หรือออกโดยโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกรับรองตามกฎหมาย (ถ้ามี)
 2.สำหรับใครไม่มีรถสามารถเช่ารถแท็กซี่ได้ โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเช่า ดังนี้
 ค่าเช่าจะขึ้นอยู่กับสภาพและรุ่นของรถ
 ค่าประกันรถ การวางเงินประกันรถกับอู่เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งจะได้เงินประกันคืนตอนยกเลิกสัญญาประมาณ 2,000-3,000 บาท
 ค่าเชื้อเพลิงแนะนำเป็นแบบเติมแก๊ส NGV เพราะราคาถูกกว่าน้ำมันแต่ละวันจะตกประมาณ 300-400 บาท แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ขับ โดยเฉลี่ยจะตกอยู่ที่ประมาณวันละ 700-1,200 บาท
 ศึกษาเส้นทางให้แม่นยำ เพราะคุณมีหน้าที่พาลูกค้าไปทุกที่ที่เขาต้องการ โดยไม่หลง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร
 
 ขับแท็กซี่ ให้ได้ลูกค้า มีเทคนิคอย่างไร
 1.ต้องรู้ทางหลัก-ทางลัด เป็นวิธีการพาผู้โดยสารไปยังจุดหมายโดยเร็วและถือเป็นการแก้ไขสถานการณ์ เมื่อเจอการจราจรที่ติดขัด
 2.ต้องรู้เวลาและจุดรอผู้โดยสาร เป็นเทคนิคที่เหล่าคนขับแท็กซี่ทำกันเป็นประจำ เพื่อประหยัดทั้งเวลาและค่าเชื้อเพลิง จะไม่นิยมตะลอนหาลูกค้า ตลอดจนต้องทราบช่วงเวลาที่จะมีผู้โดยสารต้องการใช้บริการ จุดที่นิยมคือแหล่งท่องเที่ยวตอนกลางคืน
 3.ต้องรู้ปั๊ม NGV มีจุดไหนบ้าง ถือเป็นวิธีการบริหารต้นทุนที่คุ้มค่า จะช่วยคุมต้นทุนได้
 4.สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เป็นสิ่งที่คนขับแท็กซี่เลี่ยงไม่ได้ เพราะประเทศไทยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติชื่นชอบมาพักผ่อน ฉะนั้นเมื่อมีผู้โดยสารกลุ่มนี้ หากไม่อยากเสียลูกค้า จะต้องสื่อสารให้ได้และให้บริการอย่างซื่อสัตย์
 
 หลังจากที่รู้แล้วว่าจะทำอาชีพเสริม (https://www.grab.com/th/blog/driver/ทำงานอะไรดี-15-อาชีพเสริม/)หลังเลิกงานต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง หากใครอยากมีรายได้เสริมจากอาชีพ ขับแท็กซี่ (https://www.grab.com/th/blog/driver/วิธีเพิ่มรายได้แท็กซี่/) นี้ ขอแนะนำการขับ GrabTaxi เป็นอีกหนึ่งอาชีพสำหรับคนที่อยากมีรายได้เสริมที่ทำง่าย ไม่ยาก และทำในวันหยุดก็ได้
 
 (https://sv1.picz.in.th/images/2022/09/07/alA5Jt.md.png)