ThaiFranchiseCenter Webboard
การให้บริการทางธุรกิจ | Business Service => การเงิน | Finance => ข้อความที่เริ่มโดย: ว่านโบตั๋น ที่ สิงหาคม 25, 2023, 04:47:25 AM
-
กองทุน ssf ถือเป็นหนึ่งในบรรดากองทุนรวมเพื่อการเกษียณที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มมนุษย์เงินเดือน เพราะนอกจากจะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภทแล้ว ssf ลดหย่อนภาษี ได้อีกด้วย ซึ่งเงินที่ได้รับการลดหย่อนจะสามารถนำไปสมทบทุนไว้เป็นเงินก้อนเพื่อใช้จ่ายในวัยเกษียณ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง เป็นการลงทุนแบบไหน และแตกต่างจากกองทุน rmf (https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1222) อย่างไร วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน
เปิดเงื่อนไข ssf ลดหย่อนภาษี ได้อย่างไรบ้าง
สำหรับ “กองทุนรวมเพื่อการออม” (Super Saving Funds) หรือ ssf คือ กองทุนที่รัฐบาลอนุมัติจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน โดยสามารถเลือกลงทุนได้แทบทุกประเภทสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดเงิน, ตราสารหนี้, หุ้นไทยและต่างประเทศ, อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ทองคำ ที่สำคัญคือ เงินที่ลงทุนกับกองทุน SSF นั้น สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งนโยบายด้านการลดหย่อนภาษีของกองทุนนี้ถือเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่ากองทุน LTF แบบเก่า โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- สามารถลดหย่อนภาษีโดยไม่มีกำหนดขั้นต่ำ แต่ต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องยื่นเสียภาษีตลอดทั้งปี หรือต้องไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อกองทุนเกษียณอายุอื่น ๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- การซื้อกองทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนให้ครบ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อ หรือจนกว่าจะเสียชีวิต แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
- ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านกองทุนได้ระหว่างปีพ.ศ. 2563 – 2567 หลังจากนี้ต้องรอประกาศนโยบายจากทางรัฐบาลอีกครั้ง
กองทุน SSF แตกต่างจาก RMF อย่างไร?
เนื่องจากกองทุน ssf เงื่อนไขบางข้อมีส่วนที่ค่อนข้างคล้ายกับกองทุน RMF อย่างมาก ทำให้นักลงทุนมือใหม่มักเกิดความสับสนได้ง่าย
- SSF หรือกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (Super Saving Funds) สามารถลงทุนได้ทุกประเภทสินทรัพย์ ลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนหน่วยลงทุนขั้นต่ำ ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี สามารถขายได้เมื่อครบ 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ โดยรูปแบบกองทุนมีทั้งแบบ “จ่ายปันผล” และ “ไม่จ่ายปันผล” ซึ่งผู้ลงทุนควรพิจารณาจากเป้าหมายการลงทุนเป็นหลัก หากต้องการเงินสดระหว่างที่ลงทุนก็เลือกกองทุนแบบมีเงินปันผล แต่หากไม่ได้ต้องการเงินสดระหว่างลงทุนก็ให้เลือกกองทุนที่ไม่มีปันผล เพราะกองทุนจะนำเงินก้อนนั้นรวมเข้ากับกองทุนเพื่อลงทุนต่อ ทำให้มูลค่ากองทุนเพิ่มขึ้น เมื่อครบกำหนด 10 ปี มีโอกาสขายคืนแบบได้กำไรสูง
- RMF หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) กองทุน rmf ลดหย่อนภาษี (https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1222) สามารถลงทุนได้ทุกประเภทสินทรัพย์ ลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี ไม่จำกัดจำนวนหน่วยลงทุนขั้นต่ำ ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี สามารถขายคืนได้หลังอายุ 55 ปี ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่สูงสุดได้ไม่เกิน 30%
ขั้นตอนการวางแผนการเงิน (https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1245) การลงทุนไม่ว่าจะเป็นกองทุน RMF หรือ SSF DR คือ (https://krungthai.com/th/content/depositary-receipt) ได้ทั้งประโยชน์ลดหย่อนภาษีและทำให้ได้ผลตอบแทนกลับมาในระยะยาว สร้างความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ หากคุณเป็นผู้มีรายได้ ควรเริ่มต้นลงทุนเพื่อตนเองและครอบครัวตั้งแต่วันนี้