ThaiFranchiseCenter Webboard
ยานยนต์ | Vehicles => รถยนต์ | Car => ข้อความที่เริ่มโดย: คอตแอคติค ที่ มกราคม 31, 2023, 07:41:12 AM
-
(https://sv1.img.in.th/UIyFeN.jpeg)
อาการเมื่อยล้าสะสมหลังจากขับรถเป็นระยะเวลานานนั้น ถือเป็นปัญหาน่าปวดหัวที่คนใช้รถเกือบทุกคนต้องเคยประสบ เพราะนอกจากจะสร้างความรำคาญใจให้กับตัวเราและเพื่อนร่วมทางแล้ว มันยังทำให้การท่องเที่ยวและการพักผ่อนหมดสนุกไปอีกด้วย วันนี้เราจึงนำเอาเทคนิคขับรถดี ๆ ที่สามารถป้องกันอาการเหนื่อยล้าสะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากครับ
1.ปรับเบาะให้อยู่ในระดับสายตา
(https://sv1.img.in.th/UIytnM.jpeg)
เจ้าของรถทุกคนควรปรับเบาะรถให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ระดับที่เราขอแนะนำคือระดับสายตาที่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้พอดี หากคุณเป็นคนตัวสูงคุณก็ควรปรับเบาะลงมาให้พอดี เว้นระยะห่างศีรษะกับเพดานประมาณหนึ่งกำปั้น หากคุณเป็นคนตัวเล็กคุณก็ควรขยับเบาะให้สูงขึ้นจนพอดี เพราะระดับความสูงของเบาะนั้นจะส่งผลต่อกระดูกสันหลังในกรณีที่ต้องขับรถทางไกล มันจะช่วยลดอาการปวดที่ช่วงหลังได้ในระดับหนึ่งครับ
2.เลื่อนระยะห่างเบาะให้เหมาะสม
คุณควรปรับระยะห่างของเบาะให้เหมาะสมกับช่วงตัวและส่วนสูงของคุณ ขาและเท้าต้องสามารถเหยียบเบรกและคันเร่งได้อย่างถนัด พวงมาลัยต้องไม่ใกล้หรือห่างจนเกินไป เบาะต้องทำให้ผู้ขับขี่นั่งสบายไม่อึดอัด เข่าไม่ชน ขาและแขนไม่ตึง จำไว้ว่าระยะห่างที่เหมาะสมของรถและผู้ขับแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป หากคุณนั่งขับได้อย่างสบายมันก็จะทำให้อาการเหนื่อยล้าลดน้อยลงได้ครับ
3.จับพวงมาลัยให้ถูกต้อง
พวงมาลัยถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่เราต้องคอยจับและควบคุมตลอดเวลา ทำให้ช่วงแขนและมือของผู้ขับขี่ต้องรับภาระหนักพอสมควร ดังนั้นคุณจึงควรจับพวงมาลัยให้ถูกต้องเพื่อให้อาการเมื่อยล้าบริเวณหัวไหล่ แขน และช่วงลำตัวลดน้อยลงครับ โดยตำแหน่งจับที่เหมาะสมคือบริเวณสามและเก้านาฬิกาของพวงมาลัย (ซ้ายและขวา) ซึ่งท่าจับนี้นอกจากจะช่วยลดทอนอาการเหนื่อยล้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว มันยังช่วยให้การควบคุมรถยนต์ดีขึ้นอีกด้วยครับ
4.ปรับกระจกมองข้างและมองหลังให้เห็นชัดเจน
(https://sv1.img.in.th/UIypiL.jpeg)
เมื่อท่านั่งและการจับพวงมาลัยถูกต้องแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่เราควรให้ความสำคัญเลยก็คือกระจกมองข้างและกระจกมองหลังครับ คุณควรปรับกระจกเหล่านี้ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม อยู่ในระดับสายตาที่พอดี สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเอี้ยวตัวหรือชะเง้อไปมา ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเหนื่อยล้าระหว่างขับขี่ได้แล้ว มันยังทำให้การเดินทางของคุณสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ
5.เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
หากคุณรู้ตัวว่าต้องเดินทางไกล ต้องขับรถเป็นระยะเวลานาน ๆ คุณก็ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เสพสารเสพติดหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนออกเดินทาง เพราะมันจะทำให้มีอาการเหนื่อยล้าสะสมมากยิ่งขึ้น ทำให้ตัวคุณไม่มีสมาธิและไม่สามารถขับรถได้อย่างเต็มที่ นอกจากจะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวไม่สนุกแล้ว มันยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกด้วยครับ
นอกจากเตรียมร่างกายของผู้ขับขี่ให้พร้อมแล้ว คุณก็ยังต้องเตรียมรถให้พร้อมขับอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน หากคุณเป็นเจ้าของรถสายจอดที่ไม่มีเวลานำรถออกไปขับ คุณก็ควรใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม (https://www.aprtech.co.th/content/6991/what-causes-car-battery-deteriorate)จากการจอดนานครับ
ป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนาน ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 (https://www.aprtech.co.th/product/24633-18722/ctek-mxs-50) และ CTEK XS 0.8 (https://www.aprtech.co.th/product/24230-18495/ctek-xs-08) เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
bolttech.co.th (https://www.bolttech.co.th/blog/8-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A5)