ThaiFranchiseCenter Webboard

การให้บริการทางธุรกิจ | Business Service => การเงิน | Finance => ข้อความที่เริ่มโดย: nemophilanie ที่ กรกฎาคม 20, 2022, 04:28:35 PM

หัวข้อ: อย่ามองข้าม โรคอาหารเป็นพิษ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: nemophilanie ที่ กรกฎาคม 20, 2022, 04:28:35 PM
   โรคอาหารเป็นพิษ มักพบได้บ่อย ๆ โดยมีสาเหตุจากการที่เรารับประทานอาหารที่ไม่สะอาดหรือพฤติกรรมการชอบรับประทานอาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ ทำให้มีเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย ส่วนความรุนแรงของโรคนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ก็มีตั้งแต่ไม่รุนแรงมากไปจนถึงขั้นเสียชีวิต แต่มีการพบว่า อาการ อาหาร เป็น พิษ ในเด็กจะมีความอันตรายมากกว่า เนื่องจากพบว่าเด็กเสี่ยงที่จะเกิดภาวะขาดน้ำเฉียบพลันได้มากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งภาวะขาดน้ำจะมีอาการแสดง เช่น
1. เยื่อบุในช่องปากแห้ง
2. ปัสสาวะน้อย
3. มีอาการกระหายน้ำ
4. ร้องไห้ไม่มีน้ำตา
5. ผิวหนังเย็น

หากเด็กมีอาการใดอาการหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นภาวะขาดน้ำ ควรรีบพาเด็กส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยต่อไปจะดีที่สุด เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในปริมาณมาก จึงควรค่อย ๆ จิบน้ำเกลือแร่ ORS ไม่ควรรับประทานยาหยุดถ่ายเพราะจะทำให้เชื้อโรคยังค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้อาการของโรคไม่หาย
นอกจากนี้ ใครที่สับสนว่า โรค มือ เท้า ปาก อาการ เป็นอย่างไร จะมีอาการท้องเสียเหมือนกันหรือไม่ แล้วจะแยกความแตกต่างระหว่างโรคอาหารเป็นพิษและโรค มือ เท้า ปาก ได้อย่างไร ต้องขอบอกก่อนเลยว่าอาการของโรค มือ เท้า ปาก จะสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ส่วน คือ อาการเบื้องต้นและอาการแทรกซ้อน

-   อาการเบื้องต้น เช่น ท้องเสียหรือถ่ายเหลวที่มีการอาเจียนร่วมด้วย มีตุ่มใสขึ้นบริเวณมือ เท้า ลำตัว
-   อาการแทรกซ้อน เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือหัวใจวายเฉียบพลัน

ไม่ว่าเด็กจะป่วยจากโรคมือเท้าปาก หรือ โรคอาหารเป็นพิษ ก็มีความอันตรายที่จะส่งผลให้มีอาการรุนแรงจนต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วย IPD ได้ หลายคนทราบกันอยู่แล้วว่า ipd คือ อะไร แต่ยังไม่ทราบว่า opd คือ (https://online.scbprotect.co.th/content/what-is-ipd-and-opd) อะไร วันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายเพิ่มเติมกัน ดังนี้

-   ipd คือ ลักษณะของผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป หรือที่เรียกกันโดยทั่วไป คือ ผู้ป่วยใน
-   opd คือ ลักษณะของผู้ป่วยที่มีอาการไม่ค่อยรุนแรง เข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลไม่เกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป หรือที่เรียกกันโดยทั่วไป คือ ผู้ป่วยนอก ส่วนใหญ่แพทย์มักวินิจฉัยอาการและให้ยากลับไปรับประทานที่บ้าน

ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดนอกเหนือจากการปรับพฤติกรรม คือ การมีแผนประกันที่มีความคุ้มครองที่ครอบคลุม โดยควรมีการรับผิดชอบในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งกรณีที่เป็นผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเมื่อมีการเจ็บป่วยจากโรคเฉพาะที่มักจะพบได้บ่อยในแต่ละช่วงวัย เช่น โรคอาหารเป็นพิษ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรค มือ เท้า ปาก เป็นต้น

ชมข้อมูลเพิ่มเติม
https://online.scbprotect.co.th/content/what-is-ipd-and-opd