การจัดฟันแบบใส จัดฟันที่มาแรงในยุคนี้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมการจัดฟันที่ไร้เหล็กแบบเดิมๆออกไป เป็นที่นิยมกันมากในตอนนี้โดยเฉพาะดารา เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และแน่นอนว่าการจัดฟันแบบใสข้อเสียก็ยังมี นั่นคือจัดฟันแบบใสราคาจะค่อนข้างสูงกว่าจัดฟันแบบโลหะธรรมดา
(https://www.img.in.th/images/5609f577f7ce0dc77155e26512240303.jpg)
จัดฟันแบบใส คืออะไร ทำไมจึงเป็นที่นิยม
จัดฟัน Invisalign คือ การจัดฟันแบบใส (https://www.smileseasons.com/invisalign/) ด้วยนวัตกรรมใหม่แบบไร้เหล็ก มีลักษณะใส สามารถถอดออกได้ โดยจะออกแบบมาเฉพาะบุคคล ช่วยทำให้ฟันเรียงตัวสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมเพราะจุดเด่นของ Invisalign คือ ใสเป็นธรรมชาติ สามารถถอดออกได้ ประหยัดเวลา ดูแลรักษาความสะอาดภายในช่องปากได้ง่าย ไร้เหล็กทำให้เวลาจัดฟันแล้วไม่ทำให้รู้ว่ากำลังจัดฟัน
จัดฟันแบบใส Invisalign มีกี่แบบ
การจัดฟันแบบใส Invisalign แบ่งออกเป็น 4 แบบเพื่อให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
1. จัดฟันแบบใส Invisalign Full
เป็นการจัดฟันแบบใสที่ครอบคลุมทุกลักษณะฟัน เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง ฟันยื่น หรือผู้ที่เคยจัดฟันมาก่อน หรือไม่เคยจัดฟัน โดยการจัดฟันแบบ Invisalign Full จะมีจำนวนชุดเครื่องมือมากกว่า 14 ชุด โดยใช้ระยะเวลาในการทำ 1-2 ปี
2. จัดฟันแบบใส Invisalign Lite
เป็นการจัดฟันใสที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง ไม่มาก ซึ่งจะมีชุดเครื่องมือไม่เกิน 14 ชิ้น ใช้ระยะเวลาในการทำ 6 เดือน - 1 ปี
3. จัดฟันแบบใส Invisalign i7 (Invisalign Express)
เป็นการดัดฟันใสที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการจัดเรียงฟันเล็กน้อย หรือผู้ที่จัดฟันแล้วฟันมีการคืนกลับเนื่องจากไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ จะใช้ชุดเครื่องมือ 7 ชุด ใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 6 เดือน
4. จัดฟันแบบใส Invisalign go
เป็นการจัดฟันที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสภาพฟันปานกลางไปจนถึงปัญหาที่ซับซ้อน (ต้องจัดฟันหลายซี่) เพราะมีเครื่องมือจัดฟันถึง 20 ชิ้น ใช้ระยะเวลาในการทำ 3- 6 เดือน
ข้อดี - ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส
(https://www.img.in.th/images/3bbc5248da2030693cd47828ea03b4b9.jpg)
ข้อดีของการจัดฟันแบบใส Invisalign
- ทานอาหารได้ตามใจ แม้แต่ของแข็งโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าเหล็กจะหลุด
- ไม่มีแผลในช่องปาก เพราะไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันและลวดที่เป็นเหล็ก
- ไร้เหล็ก ทำให้มั่นใจเวลายิ้มหรือพูดคุย
- เจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบการใส่เหล็ก
- ทำความสะอาดช่องปากง่าย
- ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย
- ทำได้ทุกเพศทุกวัย ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ
ข้อเสียการจัดฟันแบบใส Invisalign
- ต้องมีวินัยในการใส่ Invisalign วันละ 22 ชั่วโมง ซึ่งถอดได้เฉพาะเวลาทานอาหารและทำความสะอาดฟัน
- ผู้ที่มีปัญหาฟันเก ฟันซ้อนมากๆ จะไม่เหมาะกับการจัดฟันแบบใส
- ราคาค่อนข้างสูงกว่าการจัดฟันแบบอื่นๆ
จัดฟันแบบใส เหมาะกับใคร
- ดารา นักแสดง หรือผู้ที่ไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็นเหล็กจัดฟัน เพราะอาจส่งผลในเรื่องภาพลักษณ์ บุคลิกภาพได้
- ผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่ากำลังจัดฟัน
- ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องพบปะผู้คนและต้องมีบุคลิกภาพดี เช่น ผู้บริหาร นักร้อง นักแสดง นางแบบ พิธีกร พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
- ผู้ที่ไม่ค่อยสะดวกไปพบแพทย์บ่อยๆ
- ผู้ที่มีปัญหาฟันไม่ซับซ้อนรุนแรงมากตามที่ทันตแพทย์ประเมิน
เปรียบเทียบจัดฟันแบบใสแต่ละยี่ห้อ
(https://www.img.in.th/images/31f3ecc340f172779646deef94c80066.jpg)
จัดฟันแบบใส ยี่ห้อ Invisalign
เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ผลิตทำด้วยพลาสติกโพลีเมอร์ใส จากประเทศอเมริกา ออกแบบขึ้นเฉพาะบุคคล สามารถเปลี่ยนเครื่องมือได้ด้วยตัวเองตามคำแนะนำทันตแพทย์ โดยเปลี่ยนทุก2สัปดาห์ ระยะเวลาในการจัดฟัน ยี่ห้อ Invisalign ประมาณ 6 เดือน - 2 ปี
จัดฟันใส ยี่ห้อ GIKO
เป็นการจัดฟันแบบใสจากประเทศญี่ปุ่น ผลิตเครื่องมือจัดฟันแบบใสจากแล็ปในประเทศไทย โดยผลิตจากพลาสติกใส ไร้เหล็กไร้สี เหมาะกับคนที่มีปัญหาฟันเล็กน้อย
จัดฟันใส ยี่ห้อ Zenyum
บางคนอาจมีข้อสงสัยว่าการจัดฟันแบบZenyumดีไหม งั้นลองมาทำความรู้จักกัน Zenyum เป็นการจัดฟันใสจากประเทศสิงคโปร์ เน้นแก้ไขปัญหาเฉพาะฟันหน้าทั้งบนและล่าง
จัดฟันใส ยี่ห้อ Aline
Aline เป็นการจัดฟันแบบใสจากประเทศเกาหลี ซึ่งชื่อใหม่คือ Beforedent จุดเด่นคือราคาประหยัด สะดวกไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อยๆ และใช้เวลาจัดฟันค่อนข้างสั้นประมาณ 3-6 เดือน
อยากจัดฟันแบบใส มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
จัดฟันแบบใสราคา แต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกัน รวมถึงสภาพฟันแต่ละเคส โดยมีราคาเริ่มต้นดังนี้
- Invisalign ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 40,000 - 200,000 บาท
- GIKO ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ เซ็ตละ 9,000 บาท
- Zenyum ราคาประมาณ 52,430 บาท ทุกเคสราคาเดียวไม่จำกัดจำนวนชิ้นอุปกรณ์
- Aline ราคาเริ่มต้น 37,000 บาท
ขั้นตอนของการจัดฟันแบบใส
- เข้ารับการปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ปัญหาของการจัดฟันทั้งหมด
- เคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อย เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน
- เอ็กซเรย์และถ่ายรูปช่องปาก
- สแกนฟันแบบ3D ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- ใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส
- นัดพบทันตแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันแบบใส
- หลังจัดฟันแบบใส่เสร็จ ต้องรับรีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันให้เรียงตัวสวยงาม
ทั้งนี้การจัดฟันแบบใส เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่ไม่ต้องการถอนฟัน ซึ่งการจัดฟันแบบใสของแต่ละเคสจะใช้ระยะเวลาแตกต่างกัน ระยะเวลาโดยประมาณจะอยู่ที่ 3 เดือน - 2 ปี ขึ้นกับสภาพความซับซ้อนของฟัน
ข้อปฏิบัติระหว่างการจัดฟันแบบใส
- ต้องมีระเบียบในการใส่ชุดเครื่องมือ อย่างน้อย 20-22 ชัวโมงต่อวัน
- ควรถอดชุดเครื่องมือเมื่อทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีสีเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์จัดฟันใสสีขุ่น
- ใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อทำความสะอาดฟัน
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
- ไม่เเนะนำให้ใช้แปรงสีฟันหรือยาสีฟันขัดอุปกรณ์จัดฟัน เพราะอาจทำให้เกิดรอยได้
- ควรใช้น้ำที่อุณหภูมิปกติกับสบู่อ่อนทำความสะอาดอุปกรณ์จัดฟัน
(https://www.img.in.th/images/6d831cb664a4164429f257a0cb09756b.jpg)
ข้อสรุป การจัดฟันแบบใส
การจัดฟันแบบใสแต่ละแบบ สามารถช่วยแก้ปัญหาตามความซับซ้อนของฟันแต่ละบุคคลตามเคสอย่างเหมาะสม และมีหลากหลายยี่ห้อหลากหลายราคาให้เลือกตามความสนใจของแต่ละบุคคล