หลายคนอาจจะคิดว่าร่างกายสุขภาพแข็งแรงดี ไม่จำเป็นต้องทำประกันสุขภาพก็ได้ บอกเลยว่าคุณอาจคิดผิด เพราะโรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าวันนี้จะสบายดี แต่วันพรุ่งนี้อาจเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ซึ่งการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแต่ละครั้งค่ารักษาไม่ใช่น้อยๆ ยิ่งหากต้องนอนโรงพยาบาลหลายๆ คืน อาจเสียหายถึงขั้นต้องนำเงินเก็บมาเป็นค่ารักษาพยาบาลเลยทีเดียว ดังนั้น การทำประกันสุขภาพ (https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health/tamjai)ไว้จึงเป็นตัวช่วยจัดการความเสี่ยงด้านการเงินได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อแผนประกันเพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการมากที่สุดมี ดังนี้
(https://i.imgur.com/RQNnuYf.jpeg)
1. ค่าเบี้ยประกัน
สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนการซื้อประกันสุขภาพคือ “เบี้ยประกัน” โดยค่าประกันที่เหมาะสมไม่ควรมีราคาเกินกว่า 10-15% ของรายได้รวมทั้งปี ทั้งนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าค่าเบี้ยที่จ่ายจะเหมาะสมกับรายรับและค่าใช้จ่ายประจำในแต่ละเดือน โดยค่าเบี้ยประกันนั้นจะปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ เนื่องจากว่าวัยที่สูงขึ้นก็ย่อมมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือเจ็บป่วยต่างๆ มากกว่านั่นเอง
2. วงเงินคุ้มครอง
นอกจากค่าเบี้ยประกันแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนซื้อประกันสุขภาพคือ “วงเงินคุ้มครอง” โดยจะต้องพิจารณาว่าหากเจ็บป่วยขึ้นมา จะต้องมีเงินคุ้มครองเท่าไหร่ถึงจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดได้โดยไม่ทำให้คุณต้องลำบากไปกู้หนี้ยืมสินหรือนำเงินเก็บมาใช้ ทั้งนี้ อาจพิจารณาจากโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านก็ได้ว่า หากคุณเกิดเจ็บป่วยและต้องนอนโรงพยาบาล ค่าห้องจะตกคืนละเท่าไหร่ เพื่อนำมาคำนวณและเลือกแผนประกันที่เหมาะสมโดยไม่ทำให้การเงินของคุณสะดุด
3. ความคุ้มครอง
เนื่องจากการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ค่าผ่าตัด ค่าห้อง ค่ายา ค่าอาหาร และค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น ดังนั้น ก่อนซื้อประกันสุขภาพจะต้องอ่านรายละเอียดดีๆ ว่าให้ความคุ้มครองในด้านไหนบ้าง ทั้งนี้หากคุณทำงานประจำและทางที่ทำงานมีสวัสดิการประกันสุขภาพให้ด้วย ก็สามารถนำวงเงินคุ้มครองในส่วนตรงนั้น มาพิจารณาร่วมกับการซื้อประกันแผนใหม่เพิ่มเติมได้ด้วย
4. ความเสี่ยงในการเกิดโรค
การประเมิน “ความเสี่ยง” ในการเกิดโรคของตัวเองนั้นก็เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้คุณเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสมได้ด้วย โดยอาจจะประเมินได้จากโรคส่วนตัว กรรมพันธุ์ ประวัติการป่วยของคนในครอบครัว เป็นต้น เช่น ถ้าหากว่าคนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็ง ก็ควรเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงการป่วยด้วยโรคมะเร็งด้วย เป็นต้น
และทั้งหมดนี้เป็น 4 ข้อที่ควรคำนึงถึงก่อนการเลือกซื้อประกันสุขภาพเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด