ThaiFranchiseCenter Webboard
ไลฟ์สไตล์ | Life Style => อาหาร และเครื่องดื่ม | Food & Beverage => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ สิงหาคม 27, 2021, 02:35:58 PM
-
พฤติกรรมการแสดงออก ในปัจจุบันถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่เด็กทุกวันนี้ควรเป็น ควรได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างยิ่งนะครับ เนื่องมาจากว่า การเลี้ยงดูลูกสมัยนี้ในยุคเทคโนโลยี ยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนไปนั้น ทุกคนสามารถเสพสื่อได้จากทุกทิศทุกทาง มีตัวอย่างมากมาย ลักษณะของการเลี้ยงลูกแบบที่ต้องบังคับให้เชื่อฟังนั้น อาจจะไม่ใช่ทางที่ดีกับการเลี้ยงลูกในยุคนี้นะครับ แต่ควรจะเป็นการฝึกฝนให้ลูกไม่เป็นเด็กขี้อาย (https://www.milo.co.th/blog/6-วิธีช่วยฝึกให้เด็กขี้อาย-กล้าแสดงออกมากขึ้น)ฝึกให้เขานั้นสามารถมีการแสดงออกอยากสร้างสรรค์ กล้าคิด กลาพูด กล้าทำ ตามวัย ตามพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงอายุนั่นเอง ซึ่งในวันนี้เรามีวิธีสร้างความมั่นใจให้ลูก (https://www.milo.co.th/blog/5-กิจกรรมและวิธีเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูก)ฝึกลูกให้กล้าแสดงออก (https://www.milo.co.th/blog/6-วิธีช่วยฝึกให้เด็กขี้อาย-กล้าแสดงออกมากขึ้น)อย่างสร้างสรรค์ ได้อย่างไร เรามาดูกันเลย
1. อัลเบิร์ต แบนดูรา นักจิตวิทยาชาวแคนาดา เชื่อว่าการเรียนรู้ของมนุษย์นั้นเกิดจากการสังเกตผ่านตัวแบบ ซึ่งถ้าเป็นไปตามทฤษฎี ควรสร้างรูปแบบห้องเรียนให้เด็กๆ มีโอกาสแสดงออกหรือแสดงความคิดเห็นได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น เปิดโอกาสให้เขาได้มีช่วงเวลาเล่าถึงประสบการณ์ต่างๆที่เขาพบเจอ หรือให้นำเสนองานต่างๆในรูปแบบที่เขาคิดขึ้นมาเอง วิธีการนี้จะทำให้เด็กที่มีความกล้าแสดงออกอยู่แล้วได้มีพื้นที่ในการแสดงออก และยังกลายเป็นแบบอย่างให้กับเด็กคนอื่นๆอยากลุกขึ้นมามีบทบาทด้วยเช่นกัน
2. ไม่เร่งไม่บังคับ เราไม่จำเป็นต้องไปเร่งรัดลูกของเรา หรือบังคับ ดังนั้นให้เวลากับเขาในการเตรียมตัว เตรียมตัวคิด เตรียมตัวพูด เตรียมตัวเล่าสิ่งต่างๆ ให้พ่อแม่ฟัง ไม่ใช่เกิดจากการที่พ่อแม่นั้น ไปจี้ถามคำถามจากลูกน้อยนะครับ ทีนี้เองลูกของเราก็จะเกิดความกล้าเวลามีเหตุอะไรที่อยากจะเล่าให้แม่ พ่อ หรือครู หรือเพื่อน เวลาอยู่ในสังคมนั่นเอง
3. สำรวจ สังเกต ความชอบ ละสิ่งที่เขาสนใจ ความกล้าแสดงออกนั้น เป็นผลพวงจากสิ่งที่เรียกว่า ความเชื่อมั่นในตนเอง (Self Confidence) ซึ่งความเชื่อมั่นในตัวเองนี้เป็นพลังอย่างหนึ่งที่ที่ช่วยให้เรากล้าตัดสินใจและทำกิจกรรม ดังนั้นในฐานะพ่อแม่ ก่อนที่จะให้เขาออกไปเผชิญความกล้า ก็ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่คุณจะให้เขากล้าแสดงออกสิ่ง เป็นสิ่งที่เขารู้ ชื่นชอบและถนัด
4. ให้กำลังใจ การให้กำลังใจถือเป็นการเสริมแรงที่ถูกนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้มาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งถ้าเราต้องการให้เด็กมีพฤติกรรมกล้าแสดงออก เราก็ควรให้ความสำคัญกับการแสดงออกที่เหมาะสมของเขา โดยการชมเชยในสิ่งที่เขาได้กระทำ อาจไม่จำเป็นว่าจะต้องชมเชยด้วยคำสรรเสริญเยินยอมากมายเสมอไป การที่เรารับฟังเขาแล้วบอกเขาว่าสิ่งที่เขานำเสนอออกมานั้นน่าชื่นชมและน่าสนใจ แค่นี้ก็เป็นการให้กำลังใจเด็กที่ยอดเยี่ยมแล้ว
การเลี้ยงดูลูก เพื่อให้เขามีพัฒนาการเป็นไปตามแต่ละช่วงวัยนั้น สามารถฝึกฝน และเรียนรู้กันได้นะครับ เพื่อให้เขาได้แสดงออกอย่างเหมาะสม มีความสุขในการเจริญเติบโต ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ไม่เป็นลูกเข้ากับเพื่อนยาก (https://www.milo.co.th/blog/ลูกไม่มีเพื่อน-เข้ากับเพื่อนไม่ได้-สอนอย่างไรดี) เพราะจะทำให้เด็กไม่กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกที่ควร เวลาที่เขาต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม ด้วยกระบวนการข้างต้นนั้น พวกเราสามารถลองนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อฝึกฝนลูกของเราให้มีทักษะ พัฒนาการที่ดีได้นะครับ