ThaiFranchiseCenter Webboard

การให้บริการทางธุรกิจ | Business Service => การเงิน | Finance => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ กรกฎาคม 09, 2020, 05:22:03 AM

หัวข้อ: เหตุผลที่เราควรขายหุ้นออกจากพอร์ท
เริ่มหัวข้อโดย: อัญณา ที่ กรกฎาคม 09, 2020, 05:22:03 AM

สำหรับธุรกิจที่หลาย ๆ คนนั้น ใฝ่ฝันก็คือธุรกิจนักลงทุนกองทุนรวม (https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment/fund/mutual-funds.html) และการลงทุนที่งายที่สุด ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องทำการตลาดก็คือการลงทุนหุ้นนั่นเอง แต่รู้หรือไม่ว่าทุกธุรกิจย่อมมีความเสี่ยงอย่างที่ใครหลายคนไม่ควรมองข้ามเช่นการกู้เงินขอ สินเชื่อ (http://สินเชื่อ) จาก bank of Thailand (https://www.scb.co.th/th/about-us.html)
 โดยเราจะเลือกหุ้นอย่างไร เพื่อจะได้หุ้นที่แข็งแกร่งนั่นเอง การที่เราลงทุนนั้น เราจะต้องสะสมหุ้นและได้รับเงินปันผลจากหุ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อใครที่จะเลือกเป็นวีไอ ก็คงจะเริ่มงงกันแล้วใช่ไหมว่า เราจะขายหุ้นเมื่อใดกันแน่
1.ธุรกิจขาดทุน
สำหรับสิ่งแรกที่อยากแนะนำก็คือ หากธุรกิจนั้นขาดทุน ซึ่งการขาดทุนที่ว่า ไม่ใช่มาจากการที่หุ้นราคาตก แต่เป็นการที่พื้นฐานของหุ้นนั้นเปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่นหากสำรวจธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในตอนนี้ จะเห็นได้ชัดเลยว่าเริ่มขาดทุนลงไปจำนวนมาก และกว่าที่จะฟื้นตัวนั้นอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ซึ่งแนะนำว่าหากเจอแบบนี้ให้ขายไปก่อนจะดีกว่า บางคนมักจะกลัวหุ้นราคาแพง เลยอยากที่จะรอซื้อหุ้นที่ราคาถูก แต่แท้ที่จริงแล้ว หากหุ้นถูกเพราะกิจการแย่ลง คุณก็ไม่ควรไปซื้อมาจะดีกว่า
2.ธุรกิจแข่งขันต่อไไม่ได้
เชื่อได้เลยว่าหลายคนน่าจะสงสัยว่าการที่ธุรกิจนั้นแข่งขันต่อไม่ได้แปลว่าอะไรกันแน่ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ได้แก่ ยุคที่ธุรกิจเทปคาสเซ็ทรุ่งเรือง แต่เมื่อปัจจุบัน มีการเปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือได้แบบง่าย ๆ เทปคาสเซ็ทก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ตายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
3 ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลง
สำหรับสิ่งที่หลาย ๆ คนควรรู้ก็คือ หากธุรกิจที่เราลงทุนไปนั้นไม่มีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าสิ่งที่ควรทำมากที่สุดก็คือการทิ้งธุรกิจนั้นไป อย่างธุรกิจทีวีดิจิตอบที่เมื่อก่อนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ การที่เรานั้นพบว่าทีวีดิจิตอลไม่ได้มีดีอย่างที่คิด เราเห็นธุรกิจที่แย่ลงเพราะไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แบบนั้นเราควรจะทิ้งธุรกิจนี้ไปจะดีที่สุด
 
4.ผู้บริหารไม่มีความน่าไว้ใจ
อันดับต่อไปที่อยากให้ทุกคนนั้นพิจารณาให้ได้มากที่สุดก็คือการดูที่ผู้บริหาร หากว่าผู้บริหารของเรานั้นนำเงินไปใช้ในทางที่มิชอบ เช่นการฟอกเงินหรือว่าไปฉ้อโกง เป็นต้น สิ่งสำคัญมากที่สุดก็คือเราจะต้องพยายามหาคนที่น่าไว้ใจได้ มาดูแลเราอีกทีจะดีที่สุดเพราะเงินของเราจะได้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากกว่าเดิม
5. การกู้เงินและเพิ่มทุนโดยไม่มีการขยายกิจการ
สำหรับสิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ เวลาเราให้เพื่อนยืมเงิน เราก็ต้องถามก่อนใช่ไหมว่า เอาเงินไปทำอะไร แล้วธุรกิจที่เราลงทุนซื้อหุ้นล่ะ เราจะปล่อยให้เขาทำธุรกิจโดยที่ไม่ได้ถามเลยหรือว่า เขาจะนำเงินเราไปลงทุนในการใด เพราะบางครั้งเขาอาจจะเอาไปใช้สุรุยสุร่ายก็ได้

นี่ก็คือตัวอย่างห้าข้อง่าย ๆ ที่อยากให้หลายคนเลือกพิจารณาสำหรับการสังเกตธุรกิจของตัวเอง เชื่อเถอะว่ายังมีอีกหลายข้อสำหรับสังเกตอย่างแน่นอน หากว่าคุณไม่อยากให้ธุรกิจเจ๊งแล้วล่ะก็ ขอแนะนำเลยว่าให้พยายามมองหาวิธีที่ดีที่สุดในการติดตามข่าว เพื่อที่ว่าตัวคุณเองจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังนั่นเอง