1.3K
22 พฤศจิกายน 2559
เนอวานาลุยมิกซ์ยูสรามอินทรา ดึงที่ดินเก่าสิงห์ฯรับเอสเอ็มอี

 
 
เนอวานาฯ เอาใจกลุ่มเอสเอ็มอี ย่านรามอินทรา ผุดโครงการมิกซ์ยูส “เนอวานา แอทเวิร์ค รามอินทรา” โฮมออฟฟิศ มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท และคอมมิวนิตีมอลล์
 
นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทในเครือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบันตลาดโฮมออฟฟิศย่านรามอินทราไม่มีสินค้าใหม่ในตลาดเลย

เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าในรูปแบบของทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียมเป็นหลัก เนื่องจากราคาที่ดินริมถนนรามอินทราเฉียด 1 แสนบาทต่อตารางวา หากนำมาพัฒนาอาคารสำนักงาน ซึ่งใช้ระยะเวลาการคืนทุนนานก็จะไม่คุ้ม
 
เมื่อพิจารณาความต้องการพื้นที่สำนักงานในพื้นที่ พบว่า มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น เพราะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีมีการขยายตัว แต่ด้วยอัตราค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในเมืองมีอัตราที่สูง ทำให้กลุ่มธุรกิจใหม่เหล่านี้ต้องใช้ทาวน์เฮาส์มาเป็นโฮมออฟฟิศแทน

แต่ประโยชน์การใช้สอยไม่ตอบโจทย์ความต้องการ ประกอบกับถนนรามอินทราเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากในอนาคตจะเป็นจุดตัดของรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเทา (วัชIพล-สะพานพระราม9)
 
ด้วยศักยภาพของทำเลและความต้องการของผู้บริโภค บริษัทจึงได้นำที่ดินเก่าของสิงห์ เอสเตท จำนวน 9 ไร่ มาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยโฮมออฟฟิศและคอมมิวนิตีมอลล์ โดยในส่วนของโฮมออฟฟิศใช้ชื่อว่า “เนอวานา แอทเวิร์ค รามอินทรา” ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรากม.2 เป็นอาคารสูง 4.5 ชั้น ขนาด 34-45 ตารางวา จำนวน 61 หน่วย มูลค่า 1,000 ล้านบาท

โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส เฟสแรกจำนวน 31 หน่วย ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 55% ซึ่งลูกค้าที่ซื้อมาจากหลากหลายธุรกิจ ในจำนวนนี้ 80% เป็นการซื้อเพื่อดำเนินธุรกิจเอง และอีก 20% เป็นการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ทั้งนี้ คาดว่าจะทำการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนได้ภายในเดือนมกราคม 2560
 
ในส่วนของเฟสที่ 2 มีจำนวน 30 หน่วย คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2560 โดยมีราคาขายที่ 15.9-22 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนที่จะนำที่ดินบริเวณด้านหน้าโครงการดังกล่าว พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มาพัฒนาในรูปแบบของคอมมิวนิตีมอลล์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ โดยจะสรุปผลได้ในเดือนธันวาคม 2559 นี้ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาส 1/2560

คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมกับโครงการโฮมออฟฟิศภายในปลายปี 2560 สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนแรกปี 2559 บริษัทมียอดขายประมาณ 1,700 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 2,000 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้าทำรายการ สิงห์ เอสเตทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มเพื่อแบ่งแยกขอบข่ายกัน เพื่อป้องกันประเด็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดยสิงห์ฯจะดำเนิน 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย โดยเน้นกลุ่มลูกค้าระดับ Luxury และระดับ Super Luxury, ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า

ส่วน DAII ความคืบหน้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 55.63% มูลค่ารายการ 3,395 ล้านบาท โดยสิงห์ฯจะแลกกับหุ้นสามัญของ เนอวานา ที่สิงห์ฯ ถืออยู่ทั้งหมด คาดรู้ผลสรุปกลางเดือนธันวาคม ปี2559 ซึ่งต่อไป DAII จะดำเนิน 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย โดยเน้นกลุ่มลูกค้าระดับต่ำกว่า Luxury และธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะไม่แข่งขันกันในการจัดซื้อที่ดิน

อ้างอิงจาก  thansettakij.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
Fashionisland 17-18 ก.พ. นี้ เอา..
831
งาน SUGOI JAPAN FEST 2024 PRESEN..
588
เมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ต้อนรับ..
442
มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ และ จังหวัดสมุ..
433
งาน Pet Space Station
430
งาน The Nine Center Rama 9 Chine..
428
ข่าวทำเลค้าขายมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด