|
|
|
|
|
25 กรกฎาคม 2558 |
กทม. เล็งผุด 4 ตลาดชานกรุงกระตุ้นเศรษฐกิจ ก.ค.-ธ.ค.นี้
ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ1 ทำเนียบรัฐบาล : นายอรรถพร สุวัธนเดชา รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินการโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ครั้งที่ 5/2558 เพื่อหารือการเตรียมจัดงานตลาดนัดชุมชน 4 มุมเมือง ซึ่งกรุงเทพมหานครและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะร่วมกัน
จัดขึ้นระหว่างเดือน ก.ค.-ธ.ค. 58 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าในราคาถูก ยุติธรรม และถูกสุขลักษณะ รวมทั้งลดปัญหาการจราจรประชาชนสามารถเดินทางไปจับจ่ายโดยง่าย โดยมี นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธานการประชุม
รองปลัดกรุงเทพมหานคร รายงานที่ประชุมว่า กรุงเทพมหานครกำหนดจัดตลาดนัดชุมชน 4 มุมเมือง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 แห่ง ประกอบด้วย
- ตลาดชานกรุงถนนอุทยาน เขตทวีวัฒนา ณ บริเวณถนนอักษะ ช่วงถนนพุทธมณฑลสาย 4 – ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา
- ตลาดชานกรุงศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด เขตทุ่งครุ ณ บริเวณด้านหน้าสนามฟุตบอล ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด
- ตลาดชานกรุงหน้าห้างไอทีสแควร์ เขตหลักสี่ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารหลักสี่พลาซ่า และ
- ตลาดชานกรุงกรมอุตุนิยมวิทยา เขตบางนา ณ บริเวณสนามฟุตบอลด้านหน้ากรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งตลาดแต่ละแห่งจะเน้นการนำผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายสินค้าแก่ผู้บริโภคโดยตรง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ของดีราคาถูก
โดยแบ่งเป็นโซนอาทิ ผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP เขต) สินค้าทางการเกษตร (ผักปลอดสารพิษ ผลไม้ ต้นไม้ กล้วยไม้) สินค้าอุปโภค บริโภค อาหารทะเล อาหารสำเร็จรูป ศิลปะ ของที่ระลึก โซนธุรกิจการตลาด ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ SME BANK อาหารขึ้นชื่อของแต่ละเขต และสินค้าทางการเกษตรที่เชื่อมโยงกับจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งจัดนิทรรศการด้านศิลปะและวิถีชุมชน การแสดงดนตรี การแสดงวัฒนธรรมและประเพณีประจำท้องถิ่นอีกด้วย โดยกำหนดจัดระหว่างเดือน ก.ค.-ธ.ค. 58 ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 15.00-22.00 น.
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ และได้มอบหมายให้กรุงเทพมหานครดำเนินการจัดตลาดนัดชุมชน 4 มุมเมือง โดยเร็ว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกและได้รับความสะดวกในการจับจ่ายซื้อสินค้า เนื่องจากสถานที่ตั้งตลาดอยู่ในชุมชนที่ประชาชนอาศัย ไม่ต้องเดินทางไปซื้อสินค้าในหลายจุด และสามารถซื้อสินค้าครบวงจรในสถานที่เดียวกัน อีกทั้งเป็นการกระจายสินค้าด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมจากผู้ผลิตให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
452
