2.3K
3 สิงหาคม 2558
สัมมากรฯตั้งเป้า5ปีรายได้ทะลุ 4,000 ล้านบาท



นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด(มหาชน)หรือSAMCO เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 ว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีการเติบโต 7-8% ซึ่งเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำในปีก่อน จากสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความชัดเจนและเริ่มนิ่ง


อีกทั้งรัฐบาลได้มีการวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะนี้การอัดฉีดเงินของภาครัฐยังไม่มีความชัดเจนออกมา ทำให้ให้เศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปีที่ผ่านมายังฝืดอยู่ ส่งผลต่อกำลังซื้อที่ยังมีการชะลอตัว แม้ว่าจะยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่มาก

อย่างไรก็ตามคาดว่าสถานการณ์ต่างๆจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หากรัฐบาลมีแผนการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีรูปแบบแน่นอน และจะส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีความคึกคักมากกว่าครึ่งปีแรก เมื่อผู้บริโภคมีความมั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจมากขึ้น โดยในปีนี้มองว่าที่อยู่อาศัยแนวราบจะมีการเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 8% หรือมียอดโอนประมาณ450,000 ล้านบาท เนื่องจากประชาชายังมีความต้องการ และอั้นการใช้จ่ายมาจากช่วงปีที่ผ่านมา

สำหรับเป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯในระยะเวลา5 ปีข้างหน้า (2558-2562) ตั้งเป้ามีรายได้ 4,000 ล้านบาทในปี 2562 หรือเติบโต 400% โดยวางแผนเปิดโครงการใหม่เฉลี่ยปีละ 3 โครงการ ซึ่งยังเน้นโครงการแนวราบเป็นหลัก มูลค่าโครงการรวมต่อปีจะอยู่ที่กว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี หรือโครงการละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯเน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ราคา 6 ล้านบาทขึ้นไป และทาวน์โฮม ราคา 2-4 ล้านบาท

โดยแผนการดำเนินงานในปี2558นี้จะเปิดตัวใหม่2 โครงการ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ มูลค่าประมาณ1,000 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม รามอินทรา-วงแหวน มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาทเช่นกัน นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมปิดการขาย 5 โครงการ ได้แก่ รามคำแหง มีนบุรี นิมิตใหม่ รังสิต คลอง 2 และอควา ดิวิน่า



 
อีกทั้งในปีนี้บริษัทฯได้ตั้งงบซื้อที่ดินในกรุงเทพฯ เพิ่มอีก3 แปลง มูลค่าประมาณ750-900 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาโครงการในอนาคต ซึ่งบริษัทยังเน้นโครการแนวราบเป็นหลัก ส่วนโครงการในต่างจังหวัดขณะนี้บริษัทฯมีที่ดินอยู่แล้วจำนวน 25 ไร่ ในพัทยา จ.ชลบุรี ใกล้กับสวนน้ำ Cartoon Network โดยจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2560 ระดับราคา 1.5-3 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถโอนได้ไนปี 2562

ส่วนการที่บริษัท อาร์พีซีจี จำกัด(มหาชน)หรือRPC เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 1 ใน SAMCO โดยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากเดิมที่ 25.25%เป็น48.25% นั้นบริษัทฯจะได้รับประโยชน์ไนเชิงการเป็น Strategic Partner โดย RPC ได้มีการส่งผู้บริหารเข้ามาบริหารใน SAMCO 3-4 คนเพื่อช่วยให้บริษัทฯมีความคล่องตัวมากขึ้น ประกอบกับเข้ามาสนับสนุนและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีและระบบการก่อสร้าง เพื่อเสริมศักยภาพการบริหารงานของบริษัทและสามารถรองรับการเติบโตตามเป้าหมายรายได้ 4,000 ล้านบาทภายในปี 2562

ทั้งนี้ในส่วนการลงทุนพัฒนาและปรับปรุงด้านเทคโนโลยีการทำงานภายในองค์กรนั้นบริษัทฯใช้เงินลงทุนกกว่า 10 ล้านบาท

ส่วนการเจรจากับพันธมิตรที่สนใจเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทฯในการลงทุนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีหลายราย แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนในขณะนี้ ทั้งนี้บริษัทฯพร้อมที่จะเปิดรับพันธมิตรที่มีความสนใจที่จะร่วมทุนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์กับบริษัทอยู่ตลอด เนื่องจากการร่วมทุนกับพันธมิตรถือเป็นช่องทางหนึ่งที่บริษัทฯจะได้รับผลประโยชน์ในด้านการเติบโตของบริษัทและมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

“ขณะนี้ก็มีพันธมิตรเข้ามาคุยสนใจอยากจะร่วมทุนกับเราในบางโปรเจกต์ แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งเราก็เปิดรับพันธมิตรตลอดอยู่แล้ว ไม่ได้ปิดโอกาส เพราะถ้าเรามีการร่วมทุนกับรายใดรายหนึ่งก็เป็นการช่วยให้บริษัทฯมีการเติบโตมากขึ้นและความสามารถในการแข่งขันก็มีมากขึ้นเช่นกัน”

ด้านแผนการพัฒนาศูนย์การค้าคอมมูนิตี้ มอลล์ เพียวเพลส ในมหาวิทยาลัยขอนแก่นสัญญาเช่าระยะยาว 30ปี มูลค่าลงทุนประมาณ350 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯได้ร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการในขอนแก่น คือ พิมานกรุ๊ป ถือหุ้นในสัดส่วน 50:50 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับสัญญาที่ดินและการขออนุญาตก่อสร้างกับมหาวิทยาลัยข่อนแก่น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปและเซ็นสัญญาได้ในช่วงกลางปี 2558 และเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี 2558 กำหนดแล้วเสร็จในช่วงปี 2560



“ขอนแก่นก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะการที่เราไปลงทุนทำโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมีนักศึกษาเป็นจำนวนมาก มีบุคลากร 30,000-40,000คน มีโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ซึ่งรวมแล้วมีจำนวนคนแสนกว่าคน โดยคอมมูนิตี้มอลล์ของเราตั้งอยู่ตรงกลาง ถือเป็นทำเลในมหาวิทยาลัยที่มีศักยภาพ”

อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 2,000 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 1,700 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ที่ 1,800 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปี 2557 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,150 ล้านบาท ซึ่งรายได้ในปีนี้จะมาจากการโอนโครงการแนวราบ 1,050 ล้านบาท การโอนโครงการคอนโดมิเนียม 500 ล้านบาท และรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 250 ล้านบาท ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอนในปัจจุบันเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนในปีนี้ทั้งหมด

ขณะเดียวกันบริษัทฯคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้นเป็นกว่า 10% จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8.69% ซึ่งเป็นการเติบโตตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการโอนโครงการคอนโดมิเนียม S9 เข้ามาในปีนี้เป็นปีแรก ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิสูงอยู่ที่ 12-14% มากกว่าโครงการแนวราบที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8% ส่งผลช่วยผลักดันอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ให้เติบโตขึ้น

อนึ่ง บริษัท สัมมากร จำกัด(มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี2513โดยเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาฯเดิมถือหุ้นใหญ่โดยสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ สัดส่วน42% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อปี2537 และเมื่อกลางเดือนมีนาคม2558 ที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ โดย RPC เข้ามาถือหุ้นใหญ่แทนในสัดส่วน 48.25% ส่งผลให้หุ้นของสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ เหลือเพียง 16%

ปัจจุบันมีโครงการที่พักอาศัยแนวราบทั้งหมด9 โครงการ ถายใต้แบรนด์ “สัมมากร” ได้แก่ บางกะปิ ,มีนบุรี ,นิมิตใหม่ ,รังสิต คลอง2 ,รังสิต คลอง7 ,นครอินทร์ ,ราชพฤกษ์ ,รามคำแหงและอควา ดิวิน่า นอกจากนี้ยังมีคอนโดฯ1 โครงการคือ เอส9 และการร่วมทุนกับ RPC พัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้ชื่อ ศูนย์การค้าเพียวเพลส ปัจจุบันมี 3 สาขา คือ รามคำแหง110,รังสิต คลอง2 และ ราชพฤกษ์

อ้างอิงจาก  lokwannee.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
งาน กินอร่อยร้อยเมนู อร่อยแสงออก..
451
คอกาแฟไม่ควรพลาด! เทศกาลกาแฟที่ใ..
434
งาน THE MALL LIFESTORE THAPRA BI..
413
งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่..
410
งาน มหกรรมรับสร้างบ้าน 2024
405
เซ็นทรัลพัฒนา ส่งต่อความสดจากทะเ..
402
ข่าวทำเลค้าขายมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด