หน้าอินโฟกราฟฟิค    แฟรนไชส์    ประกอบกิจการในรูปแบบของบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล มี...
2.7K
28 พฤษภาคม 2563
ประกอบกิจการในรูปแบบของบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล มีข้อดีข้อเสีย อย่างไร

แบบบุคคลธรรมดา 
ข้อดี
  1. ใช้คนในการเริ่มก่อตั้งกิจการได้ง่าย แค่เพียง 1 คนก็สามารถจดทะเบียนธุรกิจได้
  2. สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง มีความคล่องตัวในการตัดสินใจสูง
  3. ไม่มีการแบ่งจ่ายเงินส่วนแบ่งของกำไร เจ้าของกิจการรับผลกำไรขาดทุนแต่เพียงผู้เดียว
  4. ข้อบังคับทางกฏหมายมีน้อย
  5. ค่าใช้จ่ายในด้านการบริหารต่ำ
ข้อเสีย
  1. ไม่อาจระดมความคิดจากใคร ต้องคิดเอง ทำเอง ตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ผิดวิธีหรือไม่ทันกับกระแสความต้องการในสังคมได้
  2. เป็นการเสียภาษีแบบเหมาจ่าย โดยการนำรายได้ของปีนั้นๆมาหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายตามแต่ลักษณะธุรกิจ เมื่อหักแล้วเหลือเท่าไรค่อยนำเอามาคำนวนเพื่อเสียภาษีแม้ในปีนั้นขาดทุน ก็ต้องเสียภาษี
  3. อัตราภาษีแบบก้าวหน้าเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 1 แสนบาทแรก ยกเว้นภาษี เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 1 แสน-5แสนบาทเสียภาษี10% เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 5แสน-1ล้านบาทเสียภาษี20% เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 1ล้าน-4ล้านบาทเสียภาษี30% เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย4ล้านบาทขึ้นไปเสียภาษี37%
  4. ไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจมาลดหย่อนภาษีได้
  5. ความน่าเชื่อถือต่ำ ก่อให้เกิดปัญหาในการติดต่อเจรจาโดยเฉพาะหากต้องแข่งขันกับพวกที่เป็นนิติบุคคล
  6. การขอสินเชื่อทำได้ยากเนื่องจากการไม่มีงบการเงินและเอกสารอื่นๆ ทำให้ธนาคารไม่เข้าใจสถานะทางธุรกิจ
  7. หากธุรกิจเกิดความเสียหายเจ้าของธุรกิจเป็นผู้แบกภาระทั้งหมดไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่สามารถกระจายความเสี่ยงได้
  8. ตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีไม่บังคับให้ต้องจัดทำบัญชี แต่ในทางภาษีอากรต้องจัดทำบัญชีเงินสด รับ-จ่าย โดยเฉพาะการเลือกหักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควร (ค่าใช้จ่ายจริง)
แบบนิติบุคคล
ข้อดี
  1. มีผู้ร่วมลงทุนมากกว่า 2 คนขึ้นไป ทำให้มีเสถียรภาพและมีความน่าเชื่อถือรวมถึงยังเป็นการสร้างรากฐานองค์กรที่แข็งแรงได้
  2. ได้รับยกเว้นเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่บุคคลธรรมดา
  3. ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งมีทุนที่ชําระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาทและมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท
  4. สามารถรระดมเงินทุนจากผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้น ทำให้สามารถมีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการได้สูง
  5. มีการประชุมระดมความคิดมันสมองเข้ามาใช้ในการดำเนินกิจการ ทำให้เกิดความหลากหลายในความคิดและมุมมอง
  6. กรณีประสบผลขาดทุนสุทธิก็ไม่ต้องเสียภาษี ก็จะสามารถยกผลขาดทุนสุทธิไปหักเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีต่อไปได้ ไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชี
  7. สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้เช่นค่าเสื่อมสภาพเครื่องจักร ค่าอบรมพนักงาน เป็นต้น
  8. สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้ง่ายเพราะมีเสถียรภาพในด้านเอกสารและสถานะที่ทางธนาคารได้รับทราบตลอดเวลาทำให้เข้าใจสภาพขององค์กรเป็นอย่างดี
  9. นิติบุคคลจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างสม่ำเสมอ เช่น มาตรการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจต่างๆ , มาตรกรจากกรมสรรพากร เป็นต้น
  10. ธุรกิจดูน่าเชื่อถือ ทำให้ง่ายต่อการติดต่อประสานงาน หรือติดต่อซื้อขายกับธุรกิจรายอื่นๆ 
ข้อเสีย
  1. การมีคณะกรรมการบริหาร มีการระดมความคิด อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการตัดสินใจ และอาจนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งภายในได้
  2. มีคณะกรรมการบริหาร หากต้องมีการตัดสินใจที่สำคัญๆ ต้องขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น อาจทำให้ขาดความคล่องตัว
  3. หากมีผลขาดทุนจากการประกอบกิจการ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งบาดหมางกันได้
  4. ต้องมีหน้าที่จัดทำบัญชี และจัดให้มีการสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น 
อินโฟกราฟฟิคที่น่าสนใจอื่นๆ