สสว. จับมือจีนตรวจมาตรฐานสร้างความเชื่อมั่น เพิ่มโอกาส SME ไทยในตลาดจีนหลังวิกฤตโควิด - 19
สสว. จับมือ CCIC ประเทศจีน และ เซ็นทรัลแล็บ ร่วมตรวจรับรองมาตรฐาน พร้อมติด QR Code สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เตรียมความพร้อมก่อนส่งออกไปจีน มั่นใจช่วยลดขั้นตอนและอุปสรรคในการส่งออกไปจีนหลังโควิดทุเลา เพิ่มโอกาส SME ไทยในตลาดจีนหลังวิกฤตโควิด - 19
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ประเทศจีนถือได้ว่าเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย และมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และนับเป็นตลาดสินค้าส่งออกตลาดเดียวที่ยังมีศักยภาพในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ในการส่งสินค้าของไทยไปประเทศจีนยังประสบอุปสรรคปัญหาต่างๆ อีกมาก ทั้งในเรื่องของกฎระเบียบของแต่ละมณฑลที่แตกต่างกัน เรื่องมาตรฐานด้านต่างๆ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การขยายตลาดสินค้าของเอสเอ็มอีไทยเติบโตน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (เซ็นทรัลแล็บ) ซึ่งเป็นบริษัทที่ สสว. ถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ และ China Certification & Inspection (Group) Co., Ltd บริหารงานโดย China National Import & Export Commodities Inspection Corporation (CCIC) ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจ ตรวจสอบสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก โดยความร่วมมือดังกล่าว เพื่อร่วมมือแก้ไขปัญหาการส่งออกของเอสเอ็มอีไทยไปยังประเทศจีน และนั่นถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของ สสว. ในการนำผู้ประกอบการสู่ตลาดจีน
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีสินค้ามะพร้าวน้ำหอม จากบริษัท เอนซี โคโคนัท ซึ่งเป็นบริษัทที่ส่งออกมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากชาวจีนมาก โดยทางเซ็นทรัลแล็บและ CCIC ได้ตรวจรับรองมาตรฐานมะพร้าวน้ำหอมของไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ประเทศจีนกำหนด โดยสินค้ามะพร้าวน้ำหอม ได้มีการติดสติกเกอร์ QR Code เพื่อรับรองมาตรฐาน และสร้างความมั่นใจให้ความผู้บริโภคจีน ว่าเป็นสินค้ามะพร้าวน้ำหอมจากประเทศไทย และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
ผอ. สสว. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อสแกน สติกเกอร์ QR Code จะแสดงข้อมูลที่สำคัญ ได้แก่
- ชื่อผลิตภัณฑ์ และข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ เช่น ขนาด น้ำหนัก จำนวนการบรรจุ วิธีบริโภค เป็นต้น
- แหล่งกำเนิดสินค้า
- ชื่อผู้ผลิต
- ข้อมูลบริษัทอย่างย่อ
- เอกสารสำคัญการจดทะเบียนต่างๆ เช่น เอกสารจดเครื่องหมายการค้า ใบรับรองใบประกาศนียบัตร เป็นต้น
- ข้อมูลภาพกระบวนติดตามของข้อมูลสินค้า และการขนส่ง
- หน่วยตรวจสอบและเอกสารรับรองต่างๆ เช่น ใบตรวจทางวิทยาศาสตร์
- ชื่อด่านท่าเรือที่ส่งออกและปลายทางที่นำเข้า ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าที่มาจากประเทศไทย ให้กับผู้บริโภคในประเทศจีน
นอกจากนี้ ในปี 2564 สสว. มีแผนที่จะจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการตรวจสอบเซ็นทรัลแล็บผ่านโครงการต่างๆ ของ สสว. รวมทั้งรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ประสบอุปสรรคในการส่งออกสินค้าสู่ตลาดจีน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ
- แยกตามประเภทปัญหา เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาดังกล่าวไปพร้อมๆ กันในทุกๆ สินค้า เช่น ด้านบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้ตามที่กำหนด มาตรฐานสินค้า และขั้นตอนการตรวจสอบรับรองผลิตภัณฑ์ และ
- แยกตามประเภทกลุ่มสินค้า เนื่องจากสินค้าแต่ละประเภทมีความต้องการด้านมาตรฐานต่างกัน โดยอาจจะทดลองในสินค้าประเภทเดียวกันก่อนในขั้นต้น นอกจากนี้ จะขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าของเอสเอ็มอีให้สูงขึ้น
“มาตรการในการรับรองมาตรฐานร่วมกันที่ต้นทางการผลิตในไทย จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้เอสเอ็มอีไทย และลดอุปสรรคในการส่งออกไปตลาดจีนได้มาก ทำให้สินค้าไทยผ่านไปยังมณฑลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะทั้งประเทศจะใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการส่งออก และการตรวจสอบต่างๆ ทำให้สินค้าจากไทยมีความได้เปรียบกว่าสินค้าจากประเทศอื่นๆ มากขึ้น” นายวีระพงศ์ กล่าว
อ้างอิงจาก : MGROnline.com