ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ประโยชน์ของวิตามินและแร่ธาตุบำรุงของคนท้อง

สำหรับใครก็ตามที่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์แล้วนั้นก็ควรที่จะไปดำเนินการ ฝากครรภ์ กับแพทย์ให้เรียบร้อย ทั้งนี้ก็เพื่อให้การตั้งครรภ์ของเรานั้นอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเราจะสามารถสอบถามถึงวิธีการปฏิบัติตัว  การรับประทานอาหาร รวมถึงการกระทำอย่างอื่นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้สุขภาพทารกที่อยู่ในครรภ์ได้เกิดมาอย่างสมบูรณ์แข็งแรงและมี พัฒนาการเด็ก ที่เป็นไปตามวัย ซึ่งการที่เราจะรู้ว่าพัฒนาการเด็กเป็นอย่างไรในขณะที่อยู่ในครรภ์นั้น ทางแพทย์ก็จะมีการ นับอายุครรภ์ และอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจดูการเจริญเติบโตทารกไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะคลอดออกมานันเอง และเมื่อคลอดทารกออกมาแล้วแน่นอนว่าก็ต้องมีการตั้งชื่อลูก โดยในการตั้งชื่อส่วนใหญ่นั้นคนไทยก็มักจะ ตั้งชื่อลูกตามวันเกิด เพื่อเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลให้กับตัวเด็กเอง สำหรับในวันนี้ใครก็ตามที่อยากรู้ประโยชน์ของวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ คนท้อง ต้องกินเป็นประจำตามคำแนะนำของแพทย์นั้นมันคืออะไร เราก็มีข้อมูลมาฝากกันด้วย
1.   ธาตุเหล็ก แน่นอนว่าเมื่อตั้งครรภ์นั้นคุณแม่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องส่งธาตุเหล็กไปส่งลูกที่อยู่ในครรภ์ ซึ่งถ้าเด็กนั้นมันก็จะมีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง โดยในปัจจุบันนั้นถ้าตัวเองก็มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป มันก็อาจจะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น ferrous fumarate นั้นมันก็จะเป็นส่วนประกอบธาตุเหล็กที่แตกตัวได้ดีที่สุด ประมาณ 33% เมื่อเรากินเข้าไป โดยร่างกายจะดูดซึมประมาณ 10% ฉะนั้นคนท้องควรได้รับธาตุเหล็กอย่างน้อยวันละ 7 มิลลิกรัมต่อวัน โดยในช่วง 4 เดือนแรก อาจจะยังไท่ต้องการมาก ฉะนั้นเราไม่จำเป็นที่จะต้องทานเสริมในช่วงนี้ เพราะมันอาจจะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง เนื่องจากผลข้างเคียงของธาตุเหล็กนั่นเอง
2.   กรดโฟลิก ซึ่งถ้าหากว่าใครวางแผนว่าจะตั้งครรภ์ในช่วงใดนั้นคุณแม่ก็สามารถที่จะทานกรดโฟลิกเสริมไว้ก่อนได้เลย รวมถึงถ้าหากว่าตั้งครรภ์แล้วในช่วง 3 เดือนแรกก็มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับกรดโฟลิคในปริมาณที่เพียงพอ เพราะมันช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั่นเอง โดยคนท้องนั้นควรที่จะได้รับกรดโฟลิกวันละ 4 มิลลิกรัม เป็นอย่างน้อย เพื่อใช้ในการพัฒนาระบบสมองของเด็กทารกที่อยู่ในครรภ์นั่นเอง
3.   แคลเซียม โดยคนทั้งนั้นควรได้รับแคลเซียมประมาณ 30 กรัม เพื่อที่จะแบ่งให้ทารกที่อยู่ในครรภ์ประมาณ 2.5% จากปริมาณนี้ โดยแคลเซียมทั้งหมดของแม่ส่วนใหญ่นั้นมันก็จะเป็นส่วนประกอบของกระดูกของแม่ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับให้เพียงพอจากอาหารที่เราได้กินเข้าไปในแต่ละวัน และในช่วงตั้งครรภ์นั้นคนท้องก็อาจเป็นตะคริวได้ง่ายจึงต้องการแคลเซียมเพื่อลดการเกิดตะคริวด้วยนั่นเอง
4.   วิตามินรวม โดยทั่วไปแล้วถ้าหากว่าเป็นคุณแม่ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคนั้นก็สามารถที่จะได้รับวิตามินรวมอย่างเพียงพอจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินรวมเสริมก็ได้ แต่ถ้าหากว่าแพทย์วินิจฉัยแล้วให้ทานวิตามินรวมเสริมนั้นก็สามารถรับประทานได้ตามปกติ