10 ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้าน ต้องทำอย่างไรบ้าง

[อัญณา]

การขอสินเชื่อบ้าน หรือกู้เงินเพื่อซื้อบ้านหรือคอนโดนั้น โดยปกติจะอนุมัติวงเงินให้ไม่เกิน 90% ของราคาที่ซื้อขายหรือราคาประเมิน ซึ่งกว่าจะอนุมัติผ่านนั้นมีขั้นตอนหลายอย่าง โดยมีอะไรบ้างนั้น ไปอ่านกันเลยค่ะ

1.   เตรียมความพร้อม
โดยคุณต้องเตรียมความพร้อมด้านสถานะทางการเงินให้ดี ซึ่งได้แก่ รู้ความสามารถในการกู้เงินของตนเอง ประเมินว่าเรามีกำลังรับภาระผ่อนบ้านหรือผ่อนคอนโดไหวหรือไม่ เก็บออมเงินดาวน์บ้านไว้ ทำบัญชีให้สวย ชำระหนี้ทุกอย่างให้ตรงเวลา ปิดบัญชีหนี้ที่ค้างชำระให้หมด หรือทำให้การเป็นหนี้ผ่อนสินค้าต่างๆ ให้น้อยที่สุด

2.   เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย
โดยแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่ละแห่ง จะมีค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยบ้านที่ไม่เท่ากัน โดยเราต้องหาข้อมูลจากแหล่งปล่อยกู้ทั้งหมดที่เราสนใจมาเปรียบเทียบกัน แล้วดูว่าที่ไหนตอบโจทย์ได้ตรงใจและมีความคุ้มค่ากับเรามากที่สุด

3.   เตรียมเอกสาร
โดยหลักๆ การขอสินเชื่อบ้านจะต้องเตรียมเอกสาร 3 ประเภทด้วยกัน คือ เอกสารเกี่ยวกับผู้ขอสินเชื่อ เอกสารทางการเงิน และเอกสารเกี่ยวกับตัวบ้าน ซึ่งจะได้แก่ สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ขอสินเชื่อ ทะเบียนสมรสหรือทะเบียนหย่าร้าง ถ้าหากมี สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนที่ออกโดยบริษัทที่ผู้ขอสินเชื่อทำงานอยู่ สำเนาโฉนดที่ดินที่จะซื้อจากโครงการต่างๆ สำเนาสัญญาซื้อขายบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่จะขาย

4.   ยื่นขอสินเชื่อ
นำเอกสารที่เตรียมไว้ทั้งหมดไปยื่นขอสินเชื่อที่ฝ่ายสินเชื่อเคหะของธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เราเลือกไว้ เพื่อแสดงเจตจำนงในการขอกู้ หลังจากนั้นก็ต้องมีการชำระค่าธรรมเนียมในการประเมินหลักประกันอีกด้วย

5.   สำรวจและประเมินหลักประกัน
ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจบ้านและที่ดินสำหรับจะมาจำนองเป็นหลักประกันเพื่อประเมินราคา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-7 วันทำการ

6.   พิจารณาการขอสินเชื่อ
ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะทำการพิจารณาคำขอสินเชื่อของเรา จากการวิเคราะห์ฐานะทางการเงิน รายรับ รายจ่ายในแต่ละเดือน หนี้สิน หลักประกัน ความสามารถในการผ่อนชำระ และปัจจัยต่างๆ ประกอบกัน จากนั้นจึงจะแจ้งผลให้เราทราบภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์หรือ 1 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่ละแห่งด้วย

7.   แจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อ
โดยผลการอนุมัติจะมีอยู่ 3 อย่างคือ ผ่าน ไม่ผ่าน และได้วงเงินกู้น้อยกว่าที่ขอไว้ ซึ่งจะได้แค่ประมาณ 90% ของราคาประเมิน โดยส่วนที่เหลือผู้ขอกู้จะต้องหามาจ่ายเพิ่มเอง หรืออาจจะเปลี่ยนธนาคารหรือสถาบันการเงินที่จะขอกู้ใหม่ก็ได้ เพื่อที่ผลอนุมัติจะได้ผ่านตามต้องการ

8.   ลงนามในสัญญา
เมื่อทางธนาคารหรือสถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องติดต่อกลับไปเพื่อลงนามในสัญญากู้เงินและสัญญาจำนอง และนัดวันไปทำนิติกรรมจำนองที่สำนักงานที่ดินกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นๆ

9.   โอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง
ผู้ซื้อ ผู้ขาย และเจ้าหน้าที่จากธนาคารหรือสถาบันการเงินจะต้องไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองพร้อมกันที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งทุกอย่างก็จะดำเนินการต่อโดยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดิน โดยตัวเราซึ่งก็คือผู้ซื้อต้องเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินการ ซึ่งได้แก่ ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง ค่าประกันอัคคีภัย ค่าประกันวงเงินกู้ เป็นต้น

หลังจากโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จากธนาคารหรือสถาบันการเงินจะมอบเช็คให้แก่เรา และเราต้องนำเช็คนั้นกับเงินคงเหลือที่อาจต้องจ่ายเพิ่มมอบให้แก่ผู้ขายหรือเจ้าของโครงการบ้านอีกที จากนั้นเราก็จะต้องมีหน้าที่ผ่อนชำระเงินกู้ให้แก่ธนาคารหรือสถาบันการเงินตามสัญญา