ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


กระจกรถยนต์แบบไหน? ปลอดภัยสำหรับทุกคน

กระจกรถยนต์แบบไหน? ปลอดภัยสำหรับทุกคน
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2022, 09:13:35 AM »
“กระจกรถยนต์” เป็นสิ่งที่ติดมากับรถยนต์ทุกคันนับตั้งแต่ถอยออกจากศูนย์บริการ แต่บางครั้งอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดจนอาจทำให้กระจกรถยนต์ได้รับความเสียหาย จนต้องเปลี่ยนใหม่ (กระจกรถแตกทำอย่างไร https://www.smk.co.th/newsdetail/279) แต่กระจกรถยนต์มีทั้งหมดกี่ประเภท แล้วแบบไหนปลอดภัยต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารบ้าง
 
กระจกรถยนต์มีทั้งหมดกี่ประเภท?

กระจกรถยนต์มีความสำคัญอย่างมากต่อผู้ขับขี่รถยนต์และผู้โดยสาร หากรถยนต์มีการติดตั้งกระจกรถยนต์ที่ด้อยคุณภาพอาจส่งผลร้ายต่อร่างกายของบุคคลภายในห้องโดยสาร เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ กระจกรถยนต์มักได้รับแรงกระแทกจนแตกเสียหาย เนื้อกระจกที่แตกอาจสร้างบาดแผลฉกรรจ์แก่คนในห้องโดยสาร จึงควรเลือกซื้อกระจกรถยนต์ที่จะสร้างบาดแผลแก่ร่างกายให้น้อยที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิต ปัจจุบันกระจกรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปมี 2 ประเภท ได้แก่

1. กระจกเทมเปอร์

มีความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตร กระจกชนิดนี้จะได้รับความร้อนที่ 650-700 องศาเซลเซียส และจะถูกทำให้ผิวหน้าเย็นตัวลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดแรงอัด อุณหภูมิที่แตกต่างกันจะทำให้เกิดแรงต้านจากภายนอก เวลาแตกจะกลายเป็นเม็ดเล็กๆ เกาะกันอยู่ หากแตกออกมาก็จะมีความแหลมคมน้อย เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อคนที่อยู่ในรถ กระจกชนิดนี้ยังสามารถแยกย่อยเป็นอีก 2 ชนิด คือ

- กระจกเทมเปอร์แบบธรรมดา เป็นการนำกระจก FLOAT ไปผ่านกระบวนการเทมเปอร์ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับการทำคอนกรีตอัดแรง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระจก สร้างให้เกิดชั้นของแรงอัดที่ผิวกระจกเพื่อต้านแรงจากภายนอก เวลาแตกจะเป็นเม็ดเล็กๆ ลามไปทั้งบาน
- กระจกโซนเทมเปอร์ เป็นกระจกที่ผ่านขั้นตอนการผลิตแบบพิเศษ เมื่อกระจกชนิดนี้แตกจะเป็นเศษชิ้นใหญ่ จึงเหมาะสำหรับติดตั้งเป็นกระจกบังหน้ารถ เพราะยังสามารถมองทางได้ชัดเจนกว่ากระจกแบบเทมเปอร์ที่แตกเป็นชิ้นเล็กละเอียด แม้ว่ากระจกประเภทนี้เวลาแตกจะลามไปทั้งบานเช่นกัน แต่ความละเอียดจะแตกต่างกันในแต่ละส่วนของกระจก บริเวณโซนกลางและล่างกระจกจะแตกเป็นเม็ดโตเพื่อให้ยังสามารถมองเห็นเส้นทางได้บ้าง ส่วนบริเวณขอบจะแตกเป็นเม็ดเล็กๆ แต่อาจเสี่ยงต่อการแตกจากแรงเค้น หรือ Stress crack ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกะทันหัน แรงดัน เช่น แรงดันจากระเบิด หรือสนามซ้อมเครื่องบินขับไล่ หรือโครงสร้างที่ไม่แข็งแรงจากการประกอบ

2. กระจกลามิเนต

มีความหนาประมาณ 6 มิลลิเมตร ทำจากกระจกที่ถูกรีดเป็นแผ่นบางแล้วเอามาเชื่อมประกอบกันด้วยฟิล์ม PVB หรือ EVA นำมารีดเพื่อให้ฟิล์มยึดติดกับกระจก แล้วนำมาอบในเตาเพื่อไล่อากาศออก การผลิตแบบนี้ทำให้เวลากระจกแตก จะไม่มีเศษกระจกร่วงออกมา เพราะฟิล์มในแต่ละชั้นจะช่วยยึดเศษกระจกไว้ นอกจากนี้ยังช่วยกันไม่ให้น้ำหรือลมซึมผ่านเข้ามาได้ด้วย ลักษณะการแตกยังเป็นแบบร้าวเป็นเส้นเฉพาะบริเวณที่แตกเท่านั้น มีลักษณะคล้ายใยแมงมุม ไม่ลามไปทั้งบานเหมือนกับกระจกเทมเปอร์ แต่เป็นกระจกที่มีวันหมดอายุ โดยสามารถสังเกตได้จากรอยฝ้าตามขอบ หรือมุมกระจก

หากกระจกรถยนต์แตกสามารถดำเนินการเปลี่ยนกระจกทั้งบาน (เคลมประกันกระจกรถยนต์กับศูนย์บริการ https://www.glasstech.co.th/2021/01/04/เคลมประกันกระจกฯ/) หรืออาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกระจกชุดใหม่เสมอไป และอาจซ่อมแซมรอยกระจกร้าวได้ด้วยตนเองแบบง่ายๆ (น้ำยาซ่อมกระจกรถคืออะไร? ซ่อมได้จริงไหม? https://www.smk.co.th/newsdetail/2766) คุ้มครองรถคุณด้วยประกันภัยรถยนต์คนกรุง ประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 11,600 บาท เบี้ยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง คุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/19 หรือ โทร.1596 Line : @smkinsurance

Re: กระจกรถยนต์แบบไหน? ปลอดภัยสำหรับทุกคน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2022, 03:34:14 PM »
บางคนเลือกไม่ถูกติดกระจกเอาเทห์ไว้ก่อนเอาจริงมันไม่ปลดภัยเลยด้วยซ้ำ
อะไรกลาหลายสิ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานจะดีที่สุดก็ว่าได้
มาจากโณงงานเเน่นอนว่ามีความปลอดภัยอยู่เเล้วในการใช่ชีวิต
เเต่ถ้าเราไปเเต่งเพิ่มนู้นนี้นั้น live22 มันก็ทำให้ตัวรถเราหรือสิ่งต่างๆ
มันไม่สมดุลกันนั้นเเหล่ะ live22 - http://www.thaifranchisecenter.com/forumboard/index.php?action=post;topic=129786.0;last_msg=402756 มันเลยขาดความปลอดภัยมากที่สุด
ฉะนั้นเราเอาของเดิมมาตรฐานโรงงานจะดีที่สุดเเล้ว
อย่าไปปรับเปลี่ยนอะไรให้มันมากเลยจะดีกว่า ประบไปก็เท่านั้น
มันเทห์เเต่ไม่คุ้มชีวิตของเราหรอก มันทำให้เราเสี่ยงมากขึ้น