สารอาหารในนมแม่ ช่วยพัฒนาสมองลูกให้สมุดุล

[อัญณา]

ที่มีความสำคัญสำหรับลูกน้อยของท่านในยุคนี้ที่มีการแข่งขันทางด้านสิตปัญญกันมากขึ้นอีกชนิดหนึ่งคือ MGFM คุณแม่หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า MFGM คือ อะไร และมีประโยชน์อะไรสำหรับลูกน้อยของท่านบ้าง  MGFM คือ เซลล์ส่วนที่ห่อหุ้มไขมันในนมไว้ มีส่วนประกอบเป็นไขมันเชิงซ้อนหลากหลายตัว ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างเซลล์สมอง พร้อมเพิ่มจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์มากขึ้น ยิ่งจุดเหล่านี้ประสานเชื่อมต่อกันมาก ก็หมายถึงสมองได้ทำงานจากการที่ลูกได้เรียนรู้มากขึ้น ถือเป็นการ พัฒนาสมอง อย่างหนึ่ง การที่เด็กได้รับนมที่มี MFGM ทำงานร่วมกับ DHA ช่วยเสริมการเชื่อมต่อเซลล์สมองเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า นอกจากจะช่วยเรื่องพัฒนาการเด็กทางร่างกายให้แข็งแรงจากสารอาหารต่างๆแล้ว MFGM ที่มีอยู่ในนมแม่ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองให้กับลูกน้อย ลูกน้อยมีพัฒนาการทางสมองที่ดี ทั้งยังส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมของลูกน้อยอีกด้วย
คุณค่าและประโยชน์ของ นมแม่ นั้น ส่งผลต่อพัฒนาการรอบด้านของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย ที่ สารอาหารในนมแม่ มีครบทั้งโปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่และสารอาหารต่างๆ ที่เหมาะสมกับร่างกายของลูกน้อยจนถึงสารอาหารดีๆ ที่สามารถพัฒนาสมองได้อย่าง MFGM ที่มีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพสมองของลูกน้อย พร้อมส่งผลถึงพัฒนาการทางความคิดและอารมณ์ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต่างมีอยู่ใน “นมแม่” ทั้งสิ้น ดังนั้นทุกสิ่งที่ได้มาจาก นมแม่ ล้วนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อของท่าน
แม่ควรให้นมลูกน้อยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งตามมาตรฐานทั่วไปลูหน้อยควรได้รับนมแม่อย่างต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปีหรือนานกว่านั้น นมแม่ถือเป็นอาหารของลูกน้อยที่สมบูรณ์และเหมาะสมที่สุดทั้งในด้านโภชนาการและการสร้างภูมิคุ้มกัน นมแม่ประกอบไปด้วยสารอาหารหลายชนิด เช่น แอนติบอดีและโปรตีนต่างๆ ที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน นอกจากนี้ยังมีเซลล์ที่มีชีวิตต่างๆ ทั้งเซลล์จากแม่ รวมทั้งแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางอาหารของทารก นมแม่ ที่ผลิตขึ้นในแต่ระยะจะมีปริมาณสารอาหารที่แตกต่างกันและมีสารอาหารตามความต้องการของร่างกายลูกน้อย และยังขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมที่อยู่อาศัย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยยังไม่สมบูรณ์ ลูกน้อยจะมีภูมิคุ้มกันโดยรับแอนติบอดีต่างๆ ตามที่แม่สร้างขึ้นผ่านทาง นมแม่ นมแม่ จึงช่วยให้ลูกน้อยสามารถสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องตัวเองจากสภาวะแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ นมแม่ จึงถือเป็นอาหารและยาที่ดีที่สุดของลูกน้อย ซึ่งแตกต่างจากนมผงที่ถึงแม้ว่าบริษัทผู้ผลิตจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความใกล้เคียงกับนมแม่ แต่ไม่สามารถสังเคราะห์สารก่อภูมิคุ้มกันที่มีความจำเพาะตามที่แม่สร้างได้ อย่างไรก็ตามหากแม่ไม่สามารถให้นมลูกจากอก หรือไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลา คุณแม่สามารถการเก็บรักษาน้ำนมเพื่อให้ลูกน้อยกินในภายหลังได้