ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


จะทำบัตรเครดิตทั้งที อย่าพิจารณาเพียงแค่คะแนนบัตรเครดิตเท่านั้น

แน่นอนว่าในปัจจุบันนั้นมีผลิตภัณฑ์การเงินจากธนาคารมาให้เราได้เลือกสมัครกันเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บัตรเงินสด บัตรเครดิต หรือสินเชื่อในรูปแบบต่างๆ ซึ่งไม่ว่าเราจะเลือกสมัครอะไรก็ตามนั้นเราจำเป็นที่จะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนั้นๆ อย่างละเอียดโดยเฉพาะในเรื่องของวัตถุประสงค์ในการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินนั้นๆ อย่างเช่น ใน บัตรเครดิต และ บัตรเงินสด นั้นก็ยังมีหลายคนที่สับสนและใช้กันผิดประเภทอยู่เลย นอกจากนี้แล้วในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็สำคัญด้วยเช่นกัน
อย่างเช่น ใครที่สมัคร credit card นั้นก็อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการรับ คะแนนบัตรเครดิต หรือ แต้มบัตรเครดิต อย่างแน่นอน  ซึ่ง คะแนนบัตรเครดิต หรือ แต้มบัตรเครดิต นี้นั้นหลายๆ คนนิยมนำมาเป็นหัวข้อในการพิจารณาเลือกว่าจะทำ credit card กับธนาคารหรือสถาบันการเงินใดดี ซึ่งจริงๆ แล้วนั้นการที่เราจะทำบัตรเครดิตซักใบโดยมองเพียงแค่เรื่องของแต้มสะสมหรือคะแนนสะสมนั้นก็คงจะไม่ค่อยถูกซักเท่าไหร่และอาจจะทำให้เราได้บัตรเครดิตที่ไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเราด้วย นอกจากนี้แล้วเราต้องยอมรับด้วยว่าของรางวัลที่แต่ละธนาคารให้นั้นมันไม่เหมือนกันและยังใช้จำนวนคะแนนในการแลกสิ่งของที่แตกต่างกันอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น โทรศัพท์จำนวน 1 เครื่องนั้นสามารถใช้คะแนน 50,000 คะแนนในการแลกได้ เป็นต้น ซึ่งถ้าหากมองแล้วนั้นแต่ละธนาคารต่างก็มีเอัตราในการแลกของรางวัลที่ต่างกัน อย่างเช่น ธนาคาร A ใช้คะแนน 50,000 คะแนน สามารถแลก โทรทัศน์ได้แล้ว แต่ถ้าหากใช้บัตรเครดิตของธนาคาร B จะต้องคะแนนถึง 10,000 คะแนน ในการแลกโทรทัศน์ 1 เครื่อง ซึ่งเกณฑ์การได้คะแนนในแต่ละคะแนนนั้นก็จะแตกต่างกัน อย่างเช่น ธนาคาร A ให้ทุกๆ การใช้จ่าย 20 บาท ได้ 1 คะแนน แต่ในขณะที่ธนาคาร B ทุกๆ การใช้จ่าย 15 บาท ได้ 1 คะแนน
หากมองแค่ตัวเลขนี้หลายคนอาจจะคิดว่า ธนาคาร B ให้คะแนนสะสมที่ดีกว่าแต่จริงๆ แล้วนั้นไม่ใช่เลย คราวนี้เรามาดูกันว่าทำไม ยกตัวอย่างเช่น การคำนวณใช้แต้มคะแนนบัตรเครดิตเพื่อแลกโทรทัศน์นั้น สมมติว่า บัตรเครดิตทั้ง 2 ธนาคาร มีระยะเวลาการสะสมแต้มที่ 5 ปีเท่ากัน
-   ธนาคาร A : ใช้ 50,000 คะแนนในการแลกโทรทัศน์ 1 เครื่อง โดยการจ่ายทุกๆ 20 บาท จะได้ 1 คะแนน = 50,000 x20 เพราะฉะนั้นเราจะต้องใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 1,000,000 บาท จึงสามารถแลกโทรทัศน์ได้ 1 เครื่อง
-   ธนาคาร B : ใช้ 100,000 คะแนนในการแลกโทรทัศน์ 1 เครื่อง โดยการจ่ายทุกๆ 15 บาท จะได้ 1 คะแนน = 100,000 x15 เพราะฉะนั้นจะต้องใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 1,500,000 บาท จึงจะสามารถแลกโทรทัศน์ได้ 1 เครื่อง
และที่เราได้ยกตัวอย่างไปนั้นจะเห็นได้ว่าธนาคาร B นั้นต้องใช้จำนวนเงินที่เยอะกว่าธนาคาร A ถึง 500,000 บาท ถึงจะสามารถแลกโทรทัศน์ได้ตามที่ต้องการ ฉะนั้นแล้วสิ่งที่เราควรใช้ในการเปรียบเทียบ ก็คือ สิ่งที่เป็นหน่วยเดียวกัน เท่ากัน อย่างเครดิตเงินคืนเป็นบาท ตัวอย่างเช่น ธนาคารนี้ให้เครดิตเงินคืน 3% หากเติมน้ำมัน 1,000 บาทขึ้นไป ในขณะที่อีกธนาคารให้เพียง 2% หากเติมน้ำมันเกิน 1,000 บาทเช่นกัน อันนี้เราก็สามารถเปรียบเทียบได้นั่นเอง