คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เคยได้ยินหรือประสบเรื่องราวของช่วงต่อ
ประกันรถยนต์หรือต่อ
พรบรถยนต์ด้วยตนเอง ที่ว่าตอนอยู่ในช่วงทำประกันไม่เกิดอุบัติเหตุเลย แต่ขาดต่อประกันไม่กี่วันหรือเพียงวันเดียวดันเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งทำให้เราต้องใส่ใจและอย่าละเลยในการขาดต่อประกันโดยเด็ดขาด ดังนั้น วันนี้เราจะขอนำแนวทางในการต่อประกันรถยนต์มาบอกกัน
1. ก่อนที่ประกันรถยนต์ของคุณจะหมดภายใน 1-2 เดือน ทางบริษัทประกันจะมีการแจ้งให้ทราบผ่านทางจดหมาย และโทรศัพท์ว่าใกล้ถึงกำหนดวันที่ต้องต่อประกันแล้ว
2. สอบถามไปยังบริษัทประกันว่าในปีต่อไปถ้าเราทำประกันต่อราคาเบี้ยประกันจะราคาเท่าไหร่ ความคุ้มครองให้อะไรบ้าง
3. สำหรับบางคนที่ไม่แน่ใจว่าจะต่อประกันกับที่เดิมหรือไม่ อาจลองเช็คเบี้ยประกันของบริษัทอื่นๆ มาเทียบกันก็ได้
4. แต่ถ้าจะต่อประกันกับบริษัทใหม่ ก็ต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้ คู่มือรถยนต์ (เล่มสีฟ้า) หน้าปัจจุบันกรมธรรม์เดิม (ถ้ามี) ใบขับขี่ของผู้ที่ระบุชื่อในกรมธรรม์ (ถ้าเลือกระบุผู้ขับขี่) บัตรประจำตัวประชาชน แต่ถ้าต่อประกันรถยนต์ที่เดิม ก็แค่แจ้งกับทางบริษัทประกันเท่านั้น แล้วก็รอรับใบเรียกเก็บเงินค่าเบี้ยประกันของปีต่อไป
5. ต้องอ่านรายละเอียดกรมธรรม์อย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจ และไม่ควรขาดช่วงในการต่อประกัน
หากประกันรถยนต์ประเภทเดิมไม่ครอบคลุมความคุ้มครอง หรือความคุ้มครองมากเกินกับค่าเบี้ยประกันที่สูงไม่คุ้มค่ากับตนเอง คุณสามารถเปลี่ยนประเภทประกันหรือเพิ่มความคุ้มครองได้ โดย
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองความเสียหายและค่ารักษาที่เกิดขึ้นจากรถคันที่เอาประกันภัยและรถของคู่กรณี เมื่อผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิด และความเสียหายต่อรถยนต์เนื่องจากสูญหาย ไฟไหม้ โดย
ประกันชั้น 1 ราคาแพงกว่าประกันประเภทอื่น ซึ่งประกันชั้น 1 จะเป็นประกันภัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยอาจมีหลายคนที่ไม่ทราบว่า
ประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้างและแตกต่างกับประกันชั้น 1 อย่างไร ซึ่งประกันชั้น 2 จะไม่คุ้มครองความเสียหายของรถผู้เอาประกันภัย ดังนั้นหากผู้ขับขี่มีประสบการณ์การขับขี่แล้วไม่เคยเกิดอุบัติเหตุโดยตนเองเป็นฝ่ายผิด ก็ควรเปลี่ยนมาเป็นประกันประเภทนี้จะได้รับความคุ้มค่า คุ้มราคามากกว่า หรือหากเคยมีอุบัติเหตุแค่กรณีรถชนรถขณะขับเคลื่อนเท่านั้น ก็อาจเปลี่ยนมาเป็นการประกันชั้น 2+ ที่เพิ่มเติมในความเสียหายต่อรถยนต์ ผู้เอาประกันภัยตามกรณีดังกล่าว และกรณีที่รถชนสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พาหนะ ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบทั้งของตนเองและคู่กรณี สุดท้ายคือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 เป็นประกันที่คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อรถยนต์ และทรัพย์สินของคู่กรณี ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิดและไม่คุ้มครองรถยนต์และทรัพย์สินของผู้เอาประกัน แต่อาจเปลี่ยนมาเป็นประกันรถยนต์ชั้น 3+ ที่เพิ่มเติมในความเสียหายต่อรถยนต์ผู้เอาประกันภัย กรณีรถชนรถขณะขับเคลื่อนเท่านั้น กรณีที่รถชนสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พาหนะ ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบทั้งของตนเองและคู่กรณี
หากความคุ้มครองในการประกันรถยนต์ประเภทเดิมหรือบริษัทเดิมไม่สร้างความประทับใจตลอดระยะเวลาทำประกัน ต่อประกันยนต์ครั้งต่อไป ขอโอกาสให้ DirectAsia เราสัญญาว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่า คุ้มราคา และการบริการที่ดีเยี่ยม เราพร้อมให้คำปรึกษาและเลือกแบบประกันที่เหมาะสำหรับคุณมากที่สุด