หลายคนเคยสังเกตกันใช่ไหมละว่าบัตรเครดิตแต่ละใบที่เราถืออยู่นั้นมักมีตราประทับบนมุมใดมุมหนึ่งของบัตรว่า Visa, Master Card หรือ JCB แน่นอนว่าโลโกดังกล่าวไม่ได้มีไว้โดยไม่มีความหมายอะไร เพราะทั้งสามชื่อที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือผู้ให้บริการเครื่อข่ายการชำระเงิน
(Payment Gateway) หรือบริษัทตัวกลางที่มีหน้าที่คอยเชื่อมโยงข้อมูลการใช้งานของเราไปยังธนาคารที่เราสมัครบัตรเครดิตด้วย ซึ่งทั้ง Visa, Master Card และ JCB ต่างก็มีรายละเอียดปลีกย่อยในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบคำถามผู้ที่กำลังจะ
สมัครบัตรเครดิตแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกบัตรของ Payment Gateway เจ้าไหนดี วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกรายละเอียดของบัตรทั้งสามเจ้ากัน ส่วนจะมีข้อมูลอะไรบ้างนั้น หากพร้อมแล้ว อย่ารอช้ารีบตามไปดูกันได้เลย
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นบัตรเครดิตเหมือนกันแต่เมื่อถึงเวลาใช้งานทั้งสามบัตรต่างมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราที่แต่ละเจ้าจะกำหนดเรตราคาเป็นของตัวเอง นอกจากนี้สิทธิพิเศษที่ผู้ถือบัตรจะได้รับก็ไม่เหมือนกัน เช่นเจ้าแรกให้สิทธิใช้บริการห้องเลาจน์ฟรี ในขณะที่อีกเจ้ามอบประกันเดินทางให้กับเจ้าของบัตรในกรณีเดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นการยากหากว่าเราจะบอกว่าบัตรประเภทไหนดีที่สุด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ถือบัตร
VISAVISA นั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในเครือข่ายการชำระเงินที่มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และด้วยความครอบคลุมของ Payment Gateway จากอเมริกาเจ้านี้ จึงทำให้ผู้ที่ถือบัตร VISA สามารถใช้งานเพื่อชำระเงินหรือกดเงินสดจากตู้ ATM ได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือบัตร VISA จะได้มีทั้งหมดคร่าวๆ ดังนี้ ประกันการเดินทาง, ประกันการใช้จ่าย และอัปเกรดห้องพักโรงแรมฟรีเป็นต้น (โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของบัตร VISA แต่ละประเภทได้ที่ธนาคารที่คุณสนใจ)
Mastercard บัตรเครดิตลำดับต่อมาได้แก่ Master Card ด้วยความทั่วถึงที่มีไม่แพ้ VISA จึงทำให้บัตรดังกล่าวได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรจะได้นั้นแทบจะไม่แตกต่างจากบัตร ของ Payment Gateway เจ้าแรกเลย ไม่ว่าจะเป็น อัปเกรดห้องพักฟรี, บริการอาหารเช้า, เช็กเอาท์สาย เป็นต้น
JCB ปิดท้ายกันด้วยบัตร JBC แม้ว่าบัตรเครดิตจากประเทศญี่ปุ่นใบนี้จะได้รับความนิยมในไทยน้อยกว่าบัตรสองประเภทแรก แต่หากใครที่เดินทางไปญี่ปุ่นเป็นประจำแล้วมีบัตรของ JCB ไว้กับตัว รับประกันเลยว่าคุณจะได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น รับส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษจากร้านค้าและร้านอาหารสัญชาติญี่ปุ่น เป็นต้น
ต้องบอกก่อนเลยว่าบัตรเครดิตนั้นมีประโยชน์มากมายทั้งสำหรับคนที่อยู่ในไทยและคนที่เดินทางไปต่างประเทศ เพราะเราไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวไว้ตลอดเวลายามไปซื้อสินค้าหรือบริการ และด้วยกระแสของโลกปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มหันมาใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักในการชำระเงินกันมากขึ้น ดังนั้นการมีบัตรเครดิตจึงทำให้ชีวิตของเราสามารถดำเนินไปแบบไม่มีสะดุด