เป็นที่รู้กันว่า
สูตรค็อกเทล นั้นมีอยู่หลากหลาย ทั้งนี้ก็เพราะว่าเครื่องดื่มค็อกเทลนั้นเป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการเอาส่วนผสม 2 ชนิดมารวมกัน ซึ่งหนึ่งในส่วนผสมนั้นจะมีเหล้าหรือวอดก้าผสมอยู่ด้วย ฉะนั้นค็อกเทลจึงเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ นอกจากเหล้าหรือ
วอดก้า แล้วในค็อกเทลโดยส่วนใหญ่ก็จะมีน้ำผลไม้หรือน้ำเชื่อมกลิ่นต่างๆ ผสมอยู่ด้วย ซึ่งก็แล้วแต่ว่า สูตรค็อกเทล แก้วนั้นเป็นอย่างไร
ซึ่งเรากล้าบอกได้เลยว่า ต่อให้เอาคน 2 คน มาชงค็อกเทลพร้อมๆ กัน ในส่วนผสมที่ใช้ปริมาณเดียวกัน รสชาติของค็อกเทลที่ออกมานั้นย่อมให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเร็วความแรงในการเขย่าแก้วเชคเกอร์ทำให้อุณหภูมิที่ได้แตกต่างกันส่งผลไปถึงรสชาติของค็อกเทลแก้วนั้น นอกจากนี้การชงค็อกเทลตาม สูตรค็อกเทล ต่างๆ นั้นยังมีวิธีการหรือเทคนิคพิเศษอื่นๆ ที่บาร์เทรนเดอร์ใช้อยู่อีกมากมาย และในวันนี้เราได้รวบรวมฝากกัน
1. วิธีการชักไฟ เทเข้า เทออก (in-out flaming) สูตรค็อกเทลนี้เป็นการทำให้เหล้าหอมยิ่งขึ้น ด้วยการจุดไฟ แล้วเทเหล้าผ่านอากาศไปมา คล้ายกับชาชักที่เป็นการโชว์ลีลาในการชักนั่นแหละ และวิธีการนี้ยังเป็นการลดดีกรีของแอลกอฮอล์ลงด้วยทำให้มีกลิ่นหอมและดื่มง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง
2. วิธีการบดขยี้ (muddling) แน่นอนว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการชงค็อกเทลตาม สูตรค็อกเทล นี้ก็คือ ไม้บดขยี้ (muddler) ซึ่งการบดนั้นก็อาจจะเป็นใบมิ้นท์ ใบสาระแหน่ หรือมะนาว ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. วิธีการปั่น (Blendind) คือ การนำส่วนผสมต่างๆ ใส่ในเครื่องปั่น เพื่อปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกันซึ่งสิ่งที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ ปริมาณของน้ำแข็งที่จะให้พอดีกับรสชาติของค็อกเทลแก้วนั้น
4. วิธีการจุดไฟ (flamming) โดย สูตรค็อกเทล นี้จะเป็นการทำให้เครื่องดื่มร้อนเพื่อให้ได้กลิ่นและดื่มง่ายขึ้น หรือเพื่อดื่มแก้หนาว ด้วยการใช้ไฟแช็คหรือไม้ขีดจุดไฟนั่นเอง
5. วิธีการทำให้ร้อน (burning) หรืออาจจะเรียกว่า hot drink วิธีการนี้คือการจุดไฟเผาที่ตัวเหล้าโดยตรง หรืออาจจะผสมน้ำร้อน โกโก้ กาแฟ ชาที่ร้อนลงในค็อกเทลนั้น
ศิลปะในการชงค็อกเทลนั้นไม่มีข้อกำหนดที่ตายตัวอยู่แล้ว อย่างที่เราได้บอกกันไปแล้วว่าการชงค็อกเทลพร้อมกัน 2 คน ในส่วนผสมที่ปริมาณเท่ากันอาจจะได้รสชาติที่ต่างกัน เพราะปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุณหภูมิน้ำแข็ง เวลาที่ใช้ในการเขย่า การริน การคน หรือการผสมในแบบอื่น เป็นต้น ทั้งนี้หากใครที่คิดอยากจะเป็นบาร์เทรนเดอร์เองบ้างก็ลองนำส่วนผสมต่างๆ มาลองทำดูก่อนก็ได้ โดยอาจจะหา สูตรค็อกเทล ที่ทำง่ายๆ ตามเว็บไซต์ต่างๆ ก็ได้