ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ประสบการณ์การ เป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์

ประสบการณ์การ เป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์



วันนี้จะมาขอเล่าประสบการณ์การเป็นอีสุกอีใสในช่วงเวลาสงกรานต์ให้ฟังกัน แม้ตอนนี้จะหายเป็นปกติแล้ว จะเหลือก็เพียงร่อยรอยของตุ่มที่แห้งและกำลังตกสะเก็ด เลยจะมารวบรวมข้อมูลไว้เผื่อจะมีประโยชน์ต่อคนอื่น ๆ ในอนาคตบ้างนะครับ

โรคอีสุกอีใส หรือในภาษาอังกฤษว่า Chickenpox นั้นเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลา มีอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามลำตัว แผ่นหลัง ใบหน้า และมีไข้ร่วมด้วย

ต้นเหตของโรคเกิดจาก ไวรัสวาริเซลลา หรือ Human herpes virus type3 เป็นไว้รัสชนิดเดียวที่ทำให้เกิดโรคงูสวัด สามารถติดต่อได้ด้วยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรง หรือสัมผัสถูกของใช้ที่ผู้ที่ป่วยเป็นอีสุกอีใสหรืองูสวัดใช้อยู่ รวมทั้งการสูดหายใจเอาละลองของตุ่มน้ำ ผ่านทางเยื่อเมือกมีระยะฟักตัวประมาณ 10-20 วัน สำหรับในรายที่เป็นงูสวัด สามารถติดต่อในรูปแบบของอีสุกอีใสได้ โดยเฉพาะมารดาที่ให้นมบุตร หากมารดางูสวัด ลูกก็อาจเป็นอีสุกอีใสได้

อาการของโรคนั้น
หากเป็นเด็กจะมีไข้ต่ำ ๆ มีอาการอ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ส่วนในผู้ใหญ่จะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด แต่ก็จะมีผื่นขึ้นไปด้วยตั้งแต่วันที่เริ่มมีไข้ หรือหลังจากมีไข้แล้วหนึ่งวัน ซึ่งในช่วงแรกผื่นจะเป็นผื่นแดงราบก่อน แล้วจึงกลายมาเป็นตุ่มนูน มีน้ำใส ๆ และคัน ต่อมาอีก 2-3 วันจะตกสะเก็ด โดยจะเกิดขึ้นไล่จากไรผมก่อนแล้วกระจายไปตามใบหน้าและลำตัว แผ่นหลัง บางคนมีตุ่มขึ้นในช่องปากทำให้ปากและลิ้นเปื่อยเจ็บคอได้ และผื่นจะขึ้นมากที่สุดบริเวณใบหน้าและลำตัว สำหรับเด็กวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่มักจะมีอาการรุนแรงและมีตุ่มมากกว่าเด็ก ผื่นเหล่านี้จะไม่มีแผลเป็นและสามารถหายได้เอง ยกเว้นมีเชื้อแบคทีเรียมาแทรกซ้อน โรคนี้แล้วเมื่อหายจะมีเชื้อหลบอยู่ที่ปมประสาทซึ่งอาจจะออกมาเป็นงูสวัด ในภายหลังได้ ผื่นนี้จะขึ้นตามลำตัวทีละระลอก ไม่พร้อมกัน บางทีจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบก่อน บางทีก็ขึ้นเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ก่อน บางทีก็ขึ้นเป็นตุ่มกลัดหนอง และบางทีก็เริ่มตกสะเก็ด จึงทำให้คนสมัยก่อนเรียกโรคนี้ว่าอีสุกอีใส

อาการแทรกซ้อนของโรคอีสุกอีใส
มักจะพบการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนบนผิวหนัง ทำให้กลายเป็นหนองและแผลเป็นตามมา บางรายอาจแทรกซ้อนกระจายเข้าสู่กระแสเลือดทำให้โลหิตเป็นพิษและปอดบวม สำหรับผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ได้รับยารักษามะเร็ง หรือสเตอรอยด์ เชื้ออาจจะกระจายไปอวัยวะภายในอื่น ๆ เช่น ปอด ตับ สมองได้

โรคอีสุกอีใสนี้ไม่ได้เป็นโรคติดต่อแต่เป็นโรคที่ติดตัวทุกคนมาแต่กำเนิด จะเป็นหรือไม่เป็นก็ขึ้นอยู่กับเวลาของบุคคลนั้น ๆ

การรักษา
เป็นโรคที่หายได้เอง โดยอาจมีไข้อยู่ไม่กี่วัน ตุ่มจะตกสะเก็ดและค่อย ๆ หายไปภายใน 1-3 สัปดาห์ ผู้ป่วยจึงควรพักผ่อนและดื่มน้ำมาก ๆ สามารถทานยาลดไข้ได้แต่ไม่ค่อยใช้แอสไพริน จะทำให้การอาการทางสมองและตับ ทำให้ถึงตายได้ ควรอาบน้ำและใช้สบู่ฟอกผิวหนังให้สะอาด ควรตัดเล็บให้สั้นและอย่างเกา เพราะอาจติดเชื้อได้ หากคันมากจนทนไม่ไหว ให้ใช้ยาคลอเฟนิรามีนช่วยลดอาการคันได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้มียาที่ยับยั้งการเติบโตของไวรัส แต่มีราคาแพง นอกจากนี้ต้องใช้ภายในวันแรก มิเช่นนั้นอาจไม่ได้ผล

การดูแลผู้ป่วยที่เป็นอีสุกอีใส
1. หากรู้สึกคันอย่าแกะหรือเกาปุ่มหนองเพราะอาจติดเชื้อได้
2. โรคนี้สามารถเป็นเองและหายเองได้ ยกเว้นในผู้ใหญ่บางรายที่อาจมีอาการรุนแรงเพราะการติดเชื้อ หรือมีโรคแทรกซ้อน การให้ยาบางชนิดเช่น ยาบรรเทาคัน หรือการใช้น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือประคบจะช่วยทำให้สบายตัวขึ้น หลีกเลี่ยงการให้ยาลดไข้จำพวกแอสไพรินเพราะอาจมีโรคแทรกซ้อนชนิดอื่นๆ ตามมาได้
3. การใช้ยาต้านเชื้อไวรัสอีสุกอีใส ซึ่งจำเป็นต้องให้ในระยะเวลา 24-48 ชั่วโมงจึงจะทำให้ระยะเวลาของการเป็นโรคสั้นลง แผลตกสะเก็ดได้เร็วขึ้น แต่ยากลุ่มนี้จะมีราคาแพงมาก
4. ส่วนของการดูแลผิวที่เป็นผื่น ให้ทำความสะอาดแผลให้สะอาดแล้วป้องกันการแทรกซ้อนของเชื้อแบคทีเรีย หรือรับประทานยาเขียววันละ 3-10 เม็ดต่อวัน

วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส
ในสหรัฐอเมริกานั้น วัคซีนนี้อยู่ในตารางการให้วัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคในเด็กอยู่แล้วตั้งแต่ช่วงอายุ 12-18 เดือน และกำหนดให้ฉีดให้เด็กอายุ 11-12 ปี ที่ยังไม่เคยรับวัคซีนและยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนด้วย สำหรับในประเทศไทย เนื่องจากวัคซีนอีสุกอีใสมีราคาค่อนข้างสูง และพบว่ากว่าครึ่งของเด็กที่เป็นอีสุกอีใสและมีอายุต่ำกว่า 10 ขวบ ยังมีอาการที่ไม่รุนแรง จึงไม่มีกำหนดให้เป็นวัคซีนบังคับฉีดแต่อย่างไร

สำหรับอาการป่วยเป็นอีสุกอีใสของตัวผมเอง จะเหมือนกับข้อมูลข้างต้น โดยเริ่มติดต่อจากเด็ก ๆ ในหมู่บ้านก่อนแล้วมาติดลูกชายผมเข้า ลูกชายเป็นอยู่สองอาทิตย์แล้วก็หาย ลูกสาวก็มาเป็นต่อ พอลูกสาวหาย ราว ๆ วันที่ 10 ผมทำงานวันสุดท้ายก็มีอาการตะครั่นตะครอตัวปวดหัวบ้าง แต่ก็เหมือนไข้ทั่วไป ตอนนั้นก็ทานพาราแก้ไข้ไว้ กินซาร่าไปสองเม็ด ก็ค่อยยังชั่วขึ้นทำงานได้จนเย็น

พอวันรุ่งขึ้นก็มีอาการปวดหัว แล้วก็คันที่พุงจนเกาถลอกหมด เห็นตุ่มอยู่สองสามเม็ดก็ไม่ได้คิดอะไร กินพาราลงไปอีกก็ทุเลาลง พอบ่าย ๆ ผมไปล้างแอร์ในบ้านพอล้างเสร็จก็มาดูตัวเอง ตุ่มขึ้นเต็มไปหมด ที่หน้าก็ขึ้นด้วย ก็สรุปได้ว่าเป็นอีสุกอีใสแล้ว

วันนั้นพออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็นอนซมเลย ไข้ขึ้นตลอดแล้วก็มีตุ่มเต็มตัวไปทั่วทั้งหน้าตา ไปหมด หาหมอกินยาแก้ไข แก้อักเสบ มากิน 2-3 วันไข้ก็ลด วันที่ 4-5 ตุ่มก็ยุบและตกสะเก็ดแล้ว ทรมานมากจะเกาก็ไม่ได้ ได้แต่ลูบ ๆ เอา ผ่านไปไม่เกินอาทิตย์ก็ดีขึ้นเองครับ ใครที่กำลังจะเป็นอีสุกอีใส ลองเอาความรู้ในบทความนี้ไปใช้กันได้นะครับ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ โรคงูสวัด