ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


Kin-JJigae อร่อยไม่ยั้งกับบุฟเฟต์หม้อไฟเกาหลีแค่ 199 บาท!!!

Kin-JJigae อร่อยไม่ยั้งกับบุฟเฟต์หม้อไฟเกาหลีแค่ 199 บาท!!!




ในช่วงสมัยสงครามโลก ทหารเกาหลีที่ต้องต่อสู้กับความหนาวเย็น ได้คิดค้นการกินหม้อไฟที่เอาของทุกอย่างที่หาได้ใส่ลงไปต้มรวมกันในหม้อ เพื่อกินประทังความหิวและแก้หนาว ซึ่งของที่ใส่ลงไปในหม้อไฟ ก็มีทั้้งกิมจิที่เป็นอาหารประจำชาติ สแปมกระป๋องที่ทหารยุคนั้นต้องมีพกติดตัวไว้ หรือไม่ก็ไส้กรอก และเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง เมนูหม้อไฟยามยากของทหารเกาหลีนี้ ก็เริ่มแพร่หลายไปในหมู่ชาวเกาหลี และกลายมาเป็นเมนูหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน



"หม้อไฟเกาหลี" ประกอบด้วย มักกะโรนี เส้นจับแช ไส้กรอกไก่ ปูอัด หมูสันใน หมูสับ หมูสามชั้น ฯ


วิธีการกินหม้อไฟแบบเกาหลีนั้น แตกต่างจากการกินหม้อไฟแบบญี่ปุ่น เพราะหม้อไฟแบบเกาหลี เมื่ออาหารทุกอย่างในหม้อสุก ก็จะปิดเตาและกินต่อไปเรื่อยๆ จะไม่เปิดเตาทิ้งไว้ให้น้ำเดือดปุดๆ แบบหม้อไฟญี่ปุ่น เพราะหม้อของเกาหลีถูกออกแบบมาให้กักเก็บความร้อนเอาไว้ได้นาน อาหารจึงสุกระอุทั่วถึง แม้จะทิ้งเอาไว้อย่างนั้นก็ยังไม่หายร้อน

ซึ่งในเมืองไทย "หม้อไฟทหารเกาหลี" แบบนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นที่เกาหลี ก็จะเห็นมีให้เห็นอยู่ตามถนนหนทางทั่วไปเลย แล้วถ้าอยากกินหม้อไฟเกาหลีที่เมืองไทย จะไปหากินได้ที่ไหนล่ะ....คำตอบ คือ ลองมาที่ร้าน "Kin jjigae" ร้านอาหารเกาหลีลูกผสม ส่งตรงจากกรุงโซล ที่ตั้งอยู่ใต้อพาร์ตเมนท์แวนด้า เพลส ข้างมหาวิยาลัยรังสิต ในหมู่บ้านเมืองเอกดูสิ เพระาว่าที่นี่ เขามีเมนูบุฟเฟต์หม้อไฟเกาหลี ในราคาเบาๆ แค่ 199 บาท เท่านั้นเอง!!!



เมื่อน้ำซุปเริ่มผสมกับซอส




เครื่องเคียงที่ห้ามพลาด กิมจิ, หัวไชเท้่าดองที่ทางร้านดองเอง รสชาติละมุนละไมและกลิ่นไม่แรง, พริกป่นเกาหลีผัดกับหอมเจียวและน้ำมันงา



ที่ "Kin jjigae" เมื่อสั่งบุฟเฟต์ จะมีชุดผักจัดออกมาให้หนึ่งชุด เช่น ผักกาดหอม ผักโขม ถั่วงอก ต้นหอมญี่ปุ่น และซอสรสชาติเข้มข้นที่เป็นส่วนผสมของกิมจิ โคชูจัง กระเทียม และพริกแดงเกาหลี รสชาติจะเผ็ดร้อนนิดๆ และมีรสเปรี้ยวจากกิมจิ แล้วก็ใส่น้ำซุปปลาลงไปในหม้อ รอให้เดือด จากนั้นก็สามารถสั่งอย่างอื่นเพิ่มด้วยการเขียนจำนวนของอาหารที่ต้องการลงไปในใบสั่งอาหารที่วางไว้ให้บนโต๊ะ เช่น อุด้ง, จับแช, ไส้กรอกหมู, หมูสามชั้น, หมูสับ, เนื้อไก่ หรือเนื้อหมูสันนอก ซึ่งบุฟเฟต์หม้อไฟเกาหลีนี้ สามารถนั่งกินได้เรื่อยๆ ภายในเวลา 1ชั่วโมงครึ่ง และถ้ากินไม่หมด ปรับ 10 เท่าของราคาอาหาร

ส่วนใครที่ไม่กินหม้อไฟ หรืออยากหาของกินเล่นมาเสริมทัพความอร่อย ที่ "Kin jjigae" ก็มีหลากหลายเมนูที่มีทั้งสูตรเกาหลีแท้ๆ และแนวฟิวชั่นที่ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น แถมยังราคาไม่แพงอีกต่างหาก สมกับที่อยู่ในย่านนักศึกษา เป็นราคาที่กินแล้วกระเป๋าไม่แฟ่บแน่นอน




"เห็ดย่างเมียงดง"




"Seoul Zabb"




"Roll Za with Wasabi Sauce"


มนูที่ควรสั่งมากินเล่นแก้เหงาปาก คือ "เห็ดย่างเมียงดง" (ราคา 69 บาท) เห็ดเข็มทองพันเบคอนย่างมาสุกกำลังดี ราดด้วยน้ำจิ้มสุดแซ่บสไตล์ไทยๆ ตามด้วยเกี๊ยวซ่าเนื้อนุ่มราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัด "Seoul Zabb" (ราคา 79 บาท) แล้วตบด้วย "มันทอดกินจิเก" (ราคา 49 บาท) มันทอดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ราดด้วยมายองเนส มันฝรั่งนุ่มๆ เข้ากันได้ดีกับมายองเนสรสเปรี้ยวอมหวาน  จบด้วยเมนูชื่อแปลกอย่าง "Roll Za with Wasabi Sauce" (ราคา 59 บาท) ภายนอกจะดูเหมิือนป่อเปี๊ยะทอดกรอบ แต่อร่อยแตกต่างตรงที่ราดด้วยซอสวาซาบิรสฉุนนิดๆ และแมงโก้ซัลซ่าเปรี้ยวอมหวาน รสตัดกันแต่กลับอร่อยลงตัว


ส่วนเมนูที่ควรสั่งมากิน เพื่อความอิ่มจริงจัง คือ "คิมบับ" (ราคา 89 บาท) ข้าวห่อสาหร่ายของเกาหลี ที่จะแตกต่างกับข้าวห่อสาหร่ายของญี่ปุ่นตรงที่สาหร่ายที่ใช้ห่อข้าวจะเหนียวนุ่มกว่า เพราะต้องเอาไปอังไฟก่อนจะเอามาห่อข้าว และต้องทาด้วยน้ำมันงา พร้อมโรยงาที่ด้านบน ทำให้คิมบับหอมน่ากินมากขึ้น ต่อด้วยเมนู "หมูอบกังนัม" (ราคา 99 บาท) ที่คุณแม่เจ้าของร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง โดยใช้สันคอหมูหมักกับรากผักชีและกระเทียมพริกไทย แล้วอบจนเปื่อยนุ่มในหม้ออัดแรงดัน จากนั้นโรยงาและสาหร่ายทะเล เป็นเมนูที่กินเปล่าๆ ก็อร่อย หรือจะกินกับข้าวก็ได้ เป็นเมนูที่ห้ามพลาดเด็ดขาด เมื่อมาที่ "Kin jjigae"




"คิมบับ"




"หมูอบกังนัม"




ข้าวเหนียวนุ่มกินคู่กับหมูอบกังนัม



ส่วนเมนูเส้นสไตล์เกาหลี ก็มีให้เลือกเช่นกัน ต้องลองเมนูเด็ดที่ถูกใจใครหลายๆ คน อย่าง "เส้นจับแชผัดผักรวม" (ราคา 59 บาท) ที่ใช้เส้นจับแชเหนียวนุ่มมีความยืดหยุ่นเวลาเคี้ยว เมนูนี้ความอร่อยอยู่ตรงที่ ทั้งเส้นจับแช เนื้อไก่และผักต่างๆ ผัดกับน้ำซอสรสชาติกลมกล่อมจนเข้าเนื้อ อร่อยลงตัวไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลยแม้แต่น้อย

หรือใครที่ชอบเมนูยอดฮิตอีกหนึ่งเมนูของเกาหลีอย่าง "ต๊อกป๊อกกิ" ก็ห้ามพลาด "Rabokki" (ราคา 89 บาท) มาม่าเกาหลีผัดกับต๊อกป๊อกกิ ใส่ไข่ต้ม เป็นเมนูที่เหมาะจะสั่งมากินกับผองเพื่อน แล้วแข่งกันสาวเส้นตอนร้อนๆ จะยิ่งอร่อยเด็ด เพราะน้ำซอสที่มีรสชาติเผ็ดร้อนๆ นิด จะเคลือบเส้นมาม่าและต๊อปป๊อกกิเอาไว้จนทั่ว เหนียวนุ่มเข้มข้นถึงใจ




"เส้นจับแชผัดผักรวม"





"Rabokki"


นอกจากเมนูที่ว่ามานี้แล้ว ยังมีเมนูอาหารเกาหลีแท้ และเมนูเกาหลีแบฟิวชั่นให้เลือกสั่งอีกเพียบ แล้วยังมีโปรโมชั่นต่างๆ มาเอาใจลูกค้าอยู่ตลอด สามารถเข้าไปติดตามได้ที่เฟซบุ๊คของร้านได้เลย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :  http://www.wongnai.com/articles/kin-jjigae

emo33 emo33 emo33 emo33 emo33