เพราะการมองเห็นที่ชัดเจน เป็นความหวังของผู้ที่มีปัญหาทางสายตาไม่ว่าจะสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง แต่การใส่แว่นสายตา หรือการใส่คอนแทคเลนส์เพื่อช่วยการมองเห็นก็มีอุปสรรค์บางอย่างที่น่ารำคาญ ไม่ว่าจะทั้งความหนักของเลนส์แว่นที่อยู่บนหน้า ทั้งการทำกิจกรรมบางอย่างที่ไม่สามารถใส่แว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ได้ เช่นการว่ายน้ำ อยู่ที่มีฝุ่นและลมแรง เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อให้สามารถกลับมามองเห็นได้เหมือนคนสายตาปกติ การเข้ารับการรักษาด้วยการทำเลสิค จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามควรจะมีความรู้ก่อนจะทำเลสิค เพราะเลสิคอาจไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนค่ะ
ทำความรู้จัก เลสิค (LASIK)เลสิค คือวิธีผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาต่าง ๆ เช่น สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงอย่างถาวร ด้วยการใช้เลเซอร์ โดยจะทำการแยกกระจกชั้นตาส่วนนอกออกก่อนแล้วจึงใช้เลเซอร์ (Excimer Laser) ยิงไปที่กระจกตาส่วนที่เหลือเพื่อปรับความโค้งของกระจกตาแล้วจึงนำกระจกตาส่วนนอกมาปิดกลับเข้าที่เดิม ทำให้หลังการทำเลสิค สามารถกลับมามองเห็นได้ชัดเหมือนคนสายตาปกติ
ประโยชน์ของการทำเลสิคเลสิคมีประโยชน์ต่อการรักษาปัญหาทางสายตาได้อย่างถาวร โดยการใช้เลเซอร์มาแก้ไขปัญหาความโค้งของกระจกตา ทำให้กระจกตากลับมาปกติ หรือเหมาะสมกับความยาวของกระบอกตา เพื่อให้แสงสามารถกระทบที่จุดจอประสาทตาได้อย่างพอดี
1. เลสิคแก้ปัญหาสายตาสั้นสายตาสั้นเกิดจากกระจกตาที่โค้งมากเกินไป หรือกระบอกตายาวเกินไป ทำให้จุดกระทบของแสงตกก่อนจะถึงจอประสาทตา จึงทำให้การมองเห็นวัตถุระยะใกล้สามารถมองได้ชัดเจน แต่การมองเห็นวัตถุระยะไกลจะไม่ชัด ดังนั้นการทำเลสิคแก้ปัญหาสายตาสั้นจึงทำได้โดยการใช้เลเซอร์ปรับให้กระจกตามีความโค้งน้อยลง เพื่อให้การหักเหของแสงสามารถอยู่ตรงจุดจอประสาทตาเหมือนกับคนสายตาปกติ
2. เลสิคแก้ปัญหาสายตายาวโดยกำเนิดเพราะสายตายาวเกิดจากการที่มีกระจกตาโค้งน้อยกว่าปกติ หรือกระบอกตาสั้นเกินไป ทำให้จุดกระทบของแสงตกไปหลังจอประสาทตา จึงทำให้มองเห็นวัตถุระยะไกลได้ชัด แต่มองเห็นวัตถุระยะใกล้ได้ไม่ชัด ดังนั้นการทำเลสิคแก้ปัญหาสายตายาวจึงทำได้โดยใช้เลเซอร์ปรับความโค้งของกระจกตาให้มากขึ้น เพื่อให้การหักเหของแสงสามารถอยู่ตรงจุดจอประสาทตาเหมือนกับคนสายตาปกติ
3. เลสิคแก้ปัญหาสายตาเอียงปัญหาของผู้ที่มีภาวะสายตาเอียงคือการมองเห็นภาพไม่ชัด สาเหตุจากการที่มีกระจกตาไม่สม่ำเสมอกัน ทำให้แสงไม่สามารถกระทบไปที่จอประสาทตาได้เพียงจุดเดียว การทำเลสิคเพื่อแก้ปัญหาสายตาเอียงจึงทำได้โดยการใช้เลเซอร์ปรับให้กระจกตามีความโค้งที่เสมอกัน เพื่อให้การหักเหของแสงสามารถอยู่ตรงจุดจอประสาทตาเหมือนกับคนสายตาปกติ
เลสิคมีกี่ประเภท อะไรบ้างโดยหลักการนั้น เลสิคเป็นการผ่าตัดแก้ไขความโค้งกระจกตา แต่ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้การผ่าตัดเลสิคมีความหลากหลายมากขึ้น โดยแต่ละวิธีอาจมีข้อแตกต่างถึงกระบวนการผ่าตัด หรือผลลัพธ์และผลข้างเคียงจากการทำเลสิค
1. ReLEx SMILE ผ่าตัดเลสิคสมัยใหม่เป็นวิธีผ่าตัดที่พัฒนาต่อมาจากการทำเลสิคแบบดั้งเดิม โดยวิธีนี้จะไม่ต้องเปิดฝากระจกตาเพื่อแยกชั้นก่อน แต่จะแยกกระจกตาออกมาเป็นรูปเลนส์ผ่านแผลขนาดเล็ก ก่อนปรับความโค้งของกระจกตาด้วยเลเซอร์ ทำให้แผลจากวิธีนี้เล็ก แผลหายไว พักฟื้นได้เร็ว และยังลดผลข้างเคียงเดิม คือลดอาการเคืองและอาการตาแห้งอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาสายตายาวได้
2. Bladeless FemtoLASIK ผ่าตัดเลสิคไร้ใบมีดเป็นวิธีที่พัฒนามาจากการทำเลสิคแบบดั้งเดิม สำหรับการผ่าตัดเลสิควิธีนี้จะใช้เลเซอร์ความถี่สูงแทนการใช้ใบมีดเพื่อแยกกระจกตาส่วนนอกออก ก่อนจะใช้เลเซอร์ปรับแต่งความโค้งของกระจกตาส่วนที่เหลือ เพื่อแก้ไขปัญหาสายตา โดยวิธีนี้สามารถแยกชั้นกระจกตาได้อย่างเรียบเนียนกว่าเดิม สามารถกำหนดความหนาของกระจกตาที่ต้องการเปิดได้ ทำให้สามารถรักษาผู้ที่มีกระจกตาบางได้ มีความปลอดภัย และผลข้างเคียงน้อยกว่าวิธีดั้งเดิม
3. MicrokeratomeLASIK ผ่าตัดเลสิคแบบใช้ใบมีดเป็นการผ่าตัดเลสิคแบบดั้งเดิม ที่ใช้ใบมีดอัตโนมัติที่มีความแม่นยำสูงในการแยกชั้นกระจกตาส่วนนอก ก่อนที่จะใช้เลเซอร์ยิงไปที่กระจกตาส่วนที่เหลือเพื่อปรับแต่งความโค้งของกระจกตา ก่อนที่จะปิดกระจกตาส่วนนอกกลับที่เดิม โดยวิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้นและเอียง แต่ข้อจำกัดคือสำหรับผู้ที่มีกระจกตาไม่หนามากพอ อาจไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้ และไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาตาแห้ง เพราะการทำเลสิคอาจมีผลข้างเคียงทำให้ตาแห้งกว่าปกติ
4. การทำ PRK (Photorefractive Keratectomy)เป็นวิธ๊แก้ไขปัญหาทางสายตาโดยไม่ต้องแยกชั้นกระจกตา แต่จะทำการลอกผิวกระจกตาออกและยิงเลเซอร์เพื่อปรับความโค้งของกระจกตา ก่อนจะปิดด้วนคอนแทคเลนส์เพื่อลดการระคายเคือง สำหรับวิธีนี้จะไม่มีรอยต่อจากการผ่าตัด แต่โอกาสระคายเคืองมาก และปวดตามากกว่าวิธีอื่น ๆ วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาทางสายตาไม่มาก ผู้ที่มีกระจกตาบางจนไม่สามารถทำเลสิคได้ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการกระแทกที่ตา
5. การทำ ICL (Implantable Collamer Lens)ICL เป็นเลนส์เสริมชนิดถาวร โดยแพทย์จะเพิ่มเลนส์เสริมนี้ไปบริเวณหลังม่านตาและหน้าเลนส์แก้ว เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับเลนส์ตาธรรมชาติ และเลนส์เสริมนี้ยังสามารถถอดออกได้หากสายตาเปลี่ยน โดยไม่ทำให้กระจกตาบางลงอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถทำเลสิคได้ หรือผู้ที่มีปัญหาด้านสายตามาก ๆ
ข้อดี - ข้อจำกัดของการทำเลสิคข้อดีของการทำเลสิค- สามารถแก้ปัญหาทางสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียงได้อย่างถาวร ไม่จำเป็นต้องพึ่งแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป
- คุณภาพชีวิตดีขึ้น จากการมองเห็นได้ชัดเจน
- การผ่าตัดใช้เวลาไม่นาน และสามารถพักฟื้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้
ข้อจำกัดของการทำเลสิคข้อจำกัดจากการทำเลสิคขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและวิธีการทำเลสิค ในบางรายอาจมีข้อจำกัดทำให้ไม่สามารถทำการรักษาด้วยเลสิคนี้ได้ เช่น
- ผู้ที่มีโรคทางตา เช่น จอประสาทตาเสื่อม ตาแห้งอย่างรุนแรง หรือมีกระจกตาที่บางเกินไป
- ผู้ที่มีโรคที่เกี่ยวข้องกับการหายของแผล เช่น เบาหวาน
- ผู้ที่มีปัญหาทางสายตามาก ๆ เช่น สายตาสั้นมากเกินไป
ใครบ้างที่ควรทำเลสิค- ผู้ที่มีปัญหาในการใส่แว่นสายตา หรือใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากความไม่คล่องตัว ความไม่สะดวก
- อายุมากกว่า 20 ปี
- มีค่าสายตาคงที่แล้วมากกว่า 1 ปี
- ผู้ที่มีสุขภาพตาปกติดี ไม่มีโรคทางตาที่ร้ายแรง
- ไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการทำเลสิคอย่างถูกต้อง
ใครที่ไม่ควรทำเลสิค- ผู้ที่มีภาวะกระจกตาบางเกินไป หรือตาแห้ง
- มีโรคทางตาที่เป็นอันตราย หรือโรคที่ส่งผลถึงการหายของแผล
- ผู้ที่มีค่าสายตายังไม่คงที่
ข้อปฏิบัติก่อนทำเลสิค1. หาข้อมูลและเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ต้องศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเรื่องการทำเลสิคก่อน และเข้ารับปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพตาโดยรวมเพื่อดูว่าสามารถรับการรักษาด้วยเลสิคได้หรือไม่
2. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับการตรวจสำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ต้องงดใส่ก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนตรวจเพราะมีผลต่อการวัดค่าสายตา และควรมีญาติมาด้วยเพราะจะต้องมีการหยอดตาเพื่อขยายม่านตา ทำให้ตาไม่สามารถสู้แสงได้ 4-6 ชั่วโมง
3. การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดช่วงก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรทำให้ตาได้รับการระคายเคืองน้อยที่สุด ดังนั้นควรงดแต่งหน้า รวมไปถึงการใช้สเปรย์และน้ำหอม เพื่อลดโอกาสระคายเคือง พักผ่อนให้เพียงพอ และเนื่องจากหลังผ่าตัดไม่ควรโดนน้ำ จึงควรสระผมก่อนเข้ารับผ่าตัด
ขั้นตอนการทำเลสิคในวันทำเลสิค แพทย์จะหยอดยาชาเพื่อระงับความเจ็บปวด และทำการแยกชั้นกระจกตาด้วยใบมีดอัติโนมัติมาบางส่วน และใช้เลเซอร์ยิงเข้ากระจกตาส่วนที่เหลือเพื่อปรับความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสม จากนั้นจึงนำชั้นกระจกตาที่ผ่าออกมาปิดกลับเข้าที่เดิมโดยไมต้องเย็บ แผลจะสมานได้เองในเวลาประมาณ 5 นาที
การปฏิบัติตัวหลังจากทำเลสิคอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัดในบางรายอาจเกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์หลังทำเลสิค เช่นน้ำตาไหล ปวดตา ตาแดง ระคายเคือง สู้แสงไม่ได้ หรือยังมองเห็นไม่ชัด
วิธีดูแลตนเองสำหรับหลังผ่าตัดทันที- ไม่ควรถอดฝาครอบดวงตาออกทันทีหลังผ่าตัดเสร็จ
- หลีกเลี่ยงที่มีลมหรือฝุ่นมาก ๆ
- ระวังไม่ให้น้ำหรือฝุ่นเข้าตา
- ไม่ควรฝืนใช้สายตาทันทีหลังทำเลสิค พักสายตาให้ได้มากที่สุด
- งดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับตาที่เพิ่งผ่าตัด
ข้อปฏิบัติทั่วไปหลังผ่าตัดทำเลสิคหลังผ่าตัดทำเลสิคแล้วต้องมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจในวันถัดไป และต้องมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง รับประทานยาฆ่าเชื้อป้องกันการติดเชื้อ หลังจากนั้นควรดูแลตนเองเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นจากการติดเชื้อ หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น กระจกตาหลุด กระจกตาถลอก เป็นต้น
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากทำเลสิค- ภาวะตาแห้ง เพราะการทำเลสิคทำให้ตาแห้งขึ้น
- ตาแดง และการระคายเคือง
- การเห็นแสงไฟจ้าในตอนกลางคืนในระยะแรก สักพักอาการจะดีขึ้น
- การติดเชื้อ หากดูแลไม่ดี อาจเกิดการติดเชื้อหลังผ่าตัดได้
ทำเลสิคที่ไหนดีเพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก ๆ ดังนั้นเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น ลดโอกาสเลี่ยงจากการรักษาผิดพลาด การเลือกสถานที่ทำเลสิคจึงสำคัญ
- สถานที่บริการควรสะอาด ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรางสาธารณะสุข
- จักษุแพทย์ควรมีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดแก้ไขปัญหาสายตา และมีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วย
- เครื่องมือที่ใช้รักษาควรทันสมัย เพื่อให้การรักษาเป็นไปได้อย่างแม่นยำ และประสบความสำเร็จ
- เจ้าหน้าที่บริการควรมีความรู้ สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง
- ราคาที่เหมาะสม ควรเช็คราคากับหลาย ๆ ที่ และเปรียบเทียบระหว่างราคาและคุณภาพที่ตนเองสามารถยอมรับได้
ทำเลสิคราคาเท่าไหร่เลสิคราคาเท่าไหร่นั้นขึ้นกับแต่ละวิธีที่รักษา และสถานที่บริการ
- MicrokeratomeLASIK ราคาอยู่ในช่วง 38,000-80,000 บาท
- Bladeless FemtoLASIK ราคาอยู่ในช่วง 50,000-100,000 บาท
- ReLEx SMILE ราคาอยู่ในช่วง 90,000-120,000 บาท
- PRK ราคาอยู่ในช่วง 35,000-80,000 บาท
- ICL ราคาอยู่ในช่วง 70,000-150,000 บาท
ข้อสรุปสำหรับผู้ที่อยากรักษาภาวะสายตาสั้น-ยาว-เอียงแบบถาวร โดยไม่ต้องพึ่งแว่นสายตาและคอนแทคเลนส์ เราควรศึกษาหาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำเลสิคก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ และเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินคุณสมบัติว่าสามารถรักษาด้วยเลสิคได้หรือไม่ และสามารถทำเลสิคประเภทใดได้ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำเลสิคได้นั่นเอง