ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


บัตรทองกับประกันสังคม เราเลือกอะไรดีกว่ากัน

        เรื่องของสุขภาพ เป็นสิ่งที่เราจะต้องดูแลรักษากันเอาไว้ ซึ่งในปัจจุบันนี้นะครับ โรงพยาบาลหลายแห่งทั้งโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน โดยปกติแล้วจะมีการรับบริการต่างๆ จากสิทธิ์ที่ผู้ป่วยจะมี ยกตัวอย่างเช่น บัตรประกันสังคม ประกันภัย ประกันชีวิต หรือสิทธิบัตรทองต่างๆ ซึ่งในวันนี้นะครับ เราจะมาลองดูกันในเรื่องของสิทธิ์ประกันสังคม สิทธิบัตรทองกันนะครับ ว่ามีสิทธิ์เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย
        ประกันสังคม คือ เป็นการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม โดยที่ผู้ประกันตนจ่ายเอง หรือจ่ายรวมกับนายจ้างและภาครัฐ ขึ้นอยู่ตามมาตรา 33 39 และ40 ที่ผู้ประกันเลือกลงทะเบียนไว้ ประกันสังคม สิทธิ์กับคนที่เป็นลูกจ้างที่บริษัทได้ส่งเงินสมทบกองทุนให้โดยที่ไม่ต้องสมัคร หรือผู้ที่ลาออกจากงาน อยากสมัครเองก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ผู้ที่ทำอาชีพอิสระ สามารถลงทะเบียนได้อายุตั้งแต่ 15-60 ปี ก็มีสิทธิ์ที่จะทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องของการครอบคลุมโรคร้ายแรงต่างๆ ก็จะมีความแตกต่างกันในบางประการนะครับ ยกตัวอย่างเช่น ประกันสังคมยังไม่คุ้มครองโรค อุบัติเหตุที่เกิดจากสารเสพติด และปลูกถ่ายอวัยวะ ปลูกถ่ายไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ไขกระดูกสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะตา ส่วนสิทธิประกันสุขภาพ ไม่คุ้มครองโรคหรืออุบัติเหตุที่เกิดจากสารเสพติด การปลูกถ่ายอวัยวะ ยกเว้นสิทธิเฉพาะผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย หากเป็นผู้ป่วยใน สามารถใช้สิทธิรักษาเกิน 180 วัน เฉพาะที่โรคเกิดจากภาวะแทรกซ้อน
   มาต่อกันที่ลักษณะของการใช้สิทธิ์ประกันสังคม ที่โดยปกติแล้ว สิทธิ์ประกันสังคมนั้น จะใช้กับโรงพยาบาลที่เลือกสิทธิ์ไว้ตอนลงทะเบียน ส่วนในกรณีฉุกเฉินสามารถเข้าที่ไหนก่อนก็ได้ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ทั้งในภาครัฐและเอกชนซึ่งบัตรทอง ใช้กับโรงพยาบาลในชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลงทะเบียน หากไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีแพทย์เชี่ยวชาญได้
   จากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้น เราก็จะพบว่าทั้งสองแบบนั้น จะมีข้อเด่น และข้อด้อยที่แตกต่างกันออกไป โดยที่ประกันสังคม จำเป็นต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน แต่มีสวัสดิการเพิ่มจากบัตร 30 บาท เช่น กรณีเสียชีวิต ชราภาพ เกษียณ รวมถึงชดเชยรายได้ ส่วนสิทธิประกันสุขภาพ จะไม่มีค่าใช้จ่ายและได้รับสิทธิรักษาฟรีอัตโนมัติโดยทันที มีการรักษาครอบคลุม แต่รอคิวนานมาก การบริการไม่ค่อยดี เพราะบุคลากรมีจำกัด อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง ไม่มีวันหมดอายุและไม่จำเป็นต้องส่งเงินเข้าสมทบกองทุน
   ส่วนในเรื่องของการประกันภัยรูปแบบต่างๆ นะครับประกันภัยนั้น จะมีความสำคัญของการประกันภัยต่อผู้เอาประกันภัย  คือ  การให้ความคุ้มครองและเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ชีวิตของตนเองและครอบครัว และความสำคัญของการประกันภัยต่อสังคม  คือ  เป็นหลักประกันความมั่นคงให้แก่ผู้เอาประกันภัย  และช่วยแบ่งเบาภาระของสังคมทำให้เกิดความมั่นใจ  หากเกิดอุบัติภัยและความเสียหายขึ้น  ผู้ประสบภัยจะได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ซึ่งการดูแลในส่วนของประกันภัยก็มีหน่วยงานที่รองรับอย่าง bank of Thailand ที่ช่วยสร้างความมั่นใจในการดูแลระบบการเงิน ทำให้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
   สิทธิ์ของประกันภัย และสิทธิ์ของบัตรทองต่างๆ นะครับ จะเป็นตัวช่วยในการแบ่งเบาภาระในเรื่องของการดูแลความเสียหายต่างๆ ชดเชยค่าสินไหมทดแทน ทำให้เวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นนั้น เราก็ไม่ต้องรับภาระที่หนักเกินไปนั่นเอง