ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


อยากขอ รีไฟแนนซ์บ้าน กับ SCB ต้องทำอย่างไร วันนี้เราหาคำตอบมาให้แล้ว

   ใครก็ตามที่มีบ้านครอบครองเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโด ฯลฯ โดยกำลังใช้บริการขอ สินเชื่อบ้าน กับธนาคารเจอกับปัญหานี้หรือไม่ เมื่อผ่อนไปได้สักระยะหลังจาก 2 - 3 ปีแรก จู่ ๆ ก็พบว่าหลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ยบ้าน สูงขึ้น จนกระทั่งเงินที่ผ่อนไปกลายเป็นดอกเบี้ยมากกว่าหรือเท่ากับเงินต้น ทำให้รู้สึกเหนื่อยกับการผ่อนบ้านหรือ ผ่อนคอนโด ไปแล้วเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ผ่อนเท่าไรหนี้ก็ยังลดลงอย่างช้า ๆ ไม่เป็นที่น่าพอใจ หากนี่คือปัญหาของคุณ คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่ต้อง รีไฟแนนซ์บ้าน ก็เป็นไปได้ เรามาดูกันว่าการ รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร
   หากพูดถึงการรีไฟแนนซ์ขออธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การย้ายหนี้จากธนาคารเดิมไปอยู่กับธนาคารใหม่เพราะเล็งเห็นแล้วว่ามีอะไรหลายอย่างที่คุ้มกว่า ซึ่งเรื่องสำคัญที่สุดก็คือ ดอกเบี้ย สำหรับ สินเชื่อบ้าน การจะขอรีไฟแนนซ์ได้นั้นต้องอยู่กับธนาคารเดิมตามระยะเวลาที่กำหนดเสียก่อน เพราะระยะเวลานั้นจะมาพร้อมกับดอกเบี้ยอัตราพิเศษ แต่หลังจากพ้นระยะสัญญาไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยบ้าน จะเป็นแบบลอยตัว ซึ่งทำให้หลายคนพบกับปัญหาดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น
   ตัวอย่างสถานการณ์ที่ควรจะรีไฟแนนซ์บ้านก็คือ หากคุณ ผ่อนคอนโด กับธนาคารแห่งหนึ่งโดยมีเงื่อนไขว่าได้รับดอกเบี้ยพิเศษในระยะเวลา 3 ปีแรก และหลังจากนั้นดอกเบี้ยเป็นแบบลอยตัว ซึ่งแน่นอนว่าจะสูงกว่าช่วง 3 ปีแรกอย่างเห็นได้ชัด หากช่วงแรกคุณได้รับอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เมื่อพ้น 3 ปีไปแล้ว ดอกเบี้ยแบบลอยตัวในปีนั้นอยู่ที่ 5% เท่ากับว่าคุณต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว จนทำให้จ่ายไม่ไหว สำหรับ สินเชื่อบ้าน ซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ดอกเบี้ยที่เพิ่มเข้ามาจัดว่าเป็นจำนวนเงินค่อนข้างมากจึงควรต้องรีไฟแนนซ์
   เราขอแนะนำว่าหากตัดสินใจว่าจะ รีไฟแนนซ์บ้าน  คุณควรศึกษาเงื่อนไขของแต่ละธนาคารให้ดีและควรติดต่อธนาคารให้ได้ตั้งแต่ช่วงใกล้หมดสัญญากับธนาคารเดิม เมื่อตัดสินใจเลือกธนาคารได้แล้ว อย่างเช่น หากคุณต้องการ รีไฟแนนซ์บ้าน กับ SCB ขั้นตอนต่อมาก็คือ การติดต่อธนาคารและเตรียมเอกสาร ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากครับนอกจากเอกสารแสดงรายได้แล้ว เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในตัวบ้านหรือคอนโดก็เป็นสิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อม สุดท้ายก็คือใบเสร็จการชำระหนี้ล่าสุดกับธนาคารเดิม
   หากเอกสารทุกอย่างพร้อมการได้รับอนุมัติให้รีไฟแนนซ์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก และเมื่อได้รับอนุมัติเงินที่ผ่อนต่อจากนี้ไปก็จะเป็นเงินต้นมากกว่าดอกเบี้ย เพราะคุณยังคงได้รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษไปอย่างน้อยอีก 3 ปี จึงมีเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำไว้ว่า ในช่วงสามปีแรกกับธนาคารเดิมและสามปีแรกกับธนาคารใหม่ หากผ่อนได้มากเท่าไรก็จะยิ่งทำให้เงินต้นลดลงได้มากขึ้นเท่านั้นทำให้ผ่อนหมดเร็วขึ้น
   การ รีไฟแนนซ์บ้าน หากทำอย่างรอบคอบและมีการวางแผนอย่างดีคุณก็จะได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งการรีไฟแนนซ์กับ SCB ก็มีข้อดีเพราะธนาคารมีทีมงานที่คอยให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพเพื่อให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสิทธิพิเศษเรื่องการทำประกันอัคคีภัยรวมถึงประกันประเภทอื่น ๆ เพื่อที่อยู่อาศัย เสริมความมั่นคงให้กับบ้านของคุณได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากประกันเพื่อที่อยู่อาศัยแล้วยังมีบริการอื่น ๆ เช่น ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ เป็นต้น ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญให้บริการอีกด้วย

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/car-loans.html