ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


การประเมินมูลค่าสินค้าคงคลัง

การประเมินมูลค่าสินค้าคงคลัง
« เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2021, 06:50:29 AM »
การประเมินมูลค่าสินค้าคงคลัง

การประเมินมูลค่าทรัพย์สินต่างๆในโลกนี้นั้น มีหลากหลายรูปแบบและหลากหลายสิ่งมาก ทุกคนคงจะเคยได้ยินแต่การประเมินที่ดิน บ้าน และคอนโด เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงขอยกเรื่องการประเิมนมูลค่าสินคาคงคลัง เพื่อนำเอามาถ่ายทอดเป็นความรู้ ให้กับทุกๆท่านได้อ่านกัน

การประเมินมูลค่าสินค้าคงคลัง คือเครื่องช่วยให้วิสาหกิจสามารถจัดหาเงินสำหรับการจัดหาสินค้าที่ประกอบเป็น สินค้าคงคลัง สินค้าคงเหลือ ซึ่งมักจะเป็นสินทรัพย์ในปัจจุบันที่สำคัญที่สุดของวิสาหกิจนั้นๆ และจำเป็นต้องมีการวัดมูลค่าที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่างบการเงินนั้นถูกต้อง หากสินค้าคงคลังไม่ได้รับการวัดอย่างเหมาะสม ค่าใช้จ่าย และ รายได้ จะไม่สามารถจับคู่ได้อย่างเหมาะสม และวิสาหกิจดังกล่าวก็อาจทำการตัดสินใจทางธุรกิจได้ไม่ดี มีความเสี่ยงต่อธุรกิจนั้นๆได้

สินค้าคงคลังที่กล่าวถึงนี้อาจจะเป็นสินค้าใดๆ ก็ได้ของวิสาหกิจนั้นๆ ที่ผ่านมาสถาบันการเงินก็มักอำนวยสินเชื่อให้กับวิสาหกิจต่างๆ เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ โดยเอาสินค้าคงคลังของวิสาหกิจบางส่วนมาค้ำประกัน เช่น ถ้าวิสาหกิจหนึ่งไปกู้เงินของสถาบันการเงินมา สถาบันการเงินก็ต้องพิจารณาว่าวิสาหกิจนั้นมีสินค้าคงคลังสอดคล้องกับเงินกู้หรือไม่ และให้มีการตรวจนับจำนวนสินค้าคงคลังทุกระยะ เช่น ทุกเดือน เพื่อให้มั่นใจว่ามูลหนี้กับสินค้าคงคลังนั้นสอดคล้องหรือใกล้เคียงกัน

สำหรับราคาอ้างอิงสินค้าต่างๆ ก็อาจพิจารณาจากราคาตลาด หรือราคากลางเป็นสำคัญ เช่น ราคาข้าว ก็อาจใช้ราคาของสมาคมโรงสีข้าวไทย (https://bit.ly/3efoanv)  ก็มีราคาข้าวสารและราคาข้าวเปลือกรายจังหวัด หรือราคากลางของสินค้าเกษตรประเภทต่างๆ ตามการแจกแจงรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (https://bit.ly/3nOXcGH) เป็นต้น รวมทั้งจากแหล่งที่เชื่อถือได้อื่นๆ ซึ่งหาได้ไม่ยากในประเทศไทย

วิธีการประเมินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเช่น the First-In, first-Out (FIFO) ซึ่งวิธีนี้จะถือว่าหน่วยแรกที่เข้าสู่สินค้าคงคลังเป็นการขายครั้งแรก ตัวอย่างเช่น สมมติว่าร้านเบเกอรี่ผลิตขนมปัง 200 ก้อนในวันจันทร์ ในราคาชิ้นละ 100 บาทและอีก 200 ก้อนในวันอังคารที่ราคาชิ้นละ 125 บาท FIFO ระบุว่าหากร้านเบเกอรี่ขายได้ 200 ก้อนในวันพุธ ต้นทุนของสินค้าที่ขาย จะอยู่ที่ 100 บาทต่อก้อน (บันทึกในงบกำไรขาดทุน) เนื่องจากเป็นต้นทุนของแต่ละก้อนแรกในสินค้าคงคลัง  ส่วนราคา 125 บาทต่อก้อนจะถูกจัดสรรให้กับสินค้าคงคลังที่สิ้นสุด (https://bit.ly/3nPQQXC)

อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=189