ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รูปร่างกระชับและดูดีเริ่มที่การออกกำลังกายและดูแลตัวเอง



รูปร่างที่กระชับและได้สัดส่วนนั้น มาจากวินัยการดูแลตัวเองอย่างดี การออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเลือกทานอาหารที่ประโยชน์ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็คือการมีร่างกายที่แข็งแรงและสมส่วนสวยงาม กล้ามเนื้อต่างๆชัดเจนมากขึ้น ไขมันก็ลดน้อยลง และยังทำให้การเต้นของหัวใจแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วย การออกกำลังกายนั้นก็มีให้เลือกได้หลากหลายตามที่เราต้องการ บางคนชอบไปออกกำลังกายที่ยิม ที่มีเครื่องออกกำลังกายและยังมีเทรนเนอร์ส่วนตัวคอยให้คำแนะนำอีกด้วย และมีไม่น้อยที่ชอบออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น วิ่งในสวนสาธารณะ ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ

ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายเท่านั้นที่ทำให้เรามีรูปร่างที่ได้สัดส่วนและลดน้ำหนักได้ แต่ยังมีทางเลือกในการทำ IF ซึ่งก็คือ การลดน้ำหนักแบบ IF หรือการลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting คือ วิธีลดน้ำหนักที่คิดค้นโดยทีมแพทย์ เป็นการลดน้ำหนักด้วยการกินอาหารเป็นช่วงเวลา (Feeding) และปล่อยให้ร่างกายหยุดรับอาหารเป็นช่วงเวลา (Fasting) แต่ทั้งนี้หลังการลดน้ำหนักแบบ ก็มีเงื่อนไขที่สำคัญอยู่ 3 ข้อ ได้แก่ ต้องงดอาหาร 1 มื้อในแต่ละวัน หลีกเลี่ยงการกินอาหารมื้อดึก กินอาหารตามปกติในช่วงเวลา Feeding 8 ชั่วโมง การลดน้ำหนัก  Intermitent Fasting 6 วิธี ซึ่งก็คือ การลดน้ำหนักแบบ Lean gains คือ การกินอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง และอดอาหารในช่วงเวลา 16 ชั่วโมง หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสูตร 8/16 เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น การลดหนักแบบ Fast 5 เป็นการอดอาหารที่ค่อนข้างหักดิบ  เพราะเป็นการกินอาหารเพียง 5 ชั่วโมงและอดอาหาร 19 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง การลดน้ำหนักแบบ Eat stop Eat คือ จะต้องอดอาหาร 24 ชั่วโมง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนวันที่ไม่อดก็สามารถกินได้ตามปกติ แต่ก็ต้องกินอย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่วิธีนี้ไม่ แนะนำสำหรับคนที่เริ่มลดน้ำหนัก เพราะจะทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้นในวันต่อไปและส่งผลต่ออารมณ์ ด้วย การลดน้ำหนักแบบ 5:2 คือการกินอาหารตามปกติ 5 วัน และกินอาหารแบบ Fasting 2 วัน ซึ่งจะเลือก ทำติดกัน 2 วันหรือห่างกันก็ได้ วิธีนี้จะไม่ใช่การอดอาหารทั้งวัน แต่จะเป็นการลดปริมาณอาหารให้น้อยลง แทน เช่น ผู้ชายสามารถกินได้ 600 แคลอรี่ ส่วนผู้หญิงกินได้ 500 แคลอรี่ หรือประมาณ1/4 ของแคลอรี่ที่ได้รับต่อวัน การลดน้ำหนักแบบ The Warrior Diet เป็นการอดอาหารในช่วงกลางวันดื่มได้แค่น้ำเปล่า และมารับประทานอาหารหนักในมื้อค่ำเพียงมื้อเดียวเท่านั้น การลดน้ำหนักแบบ ADF เป็นอดอาหารแบบวันเว้นวัน ซึ่งจัดว่าเป็นวิธีค่อนข้างหักโหมเพราะต้องอด อาหาร 1 วัน กินอาหาร 1 วัน แล้วกลับมาอดอีก 1 วัน แต่ทั้งนี้ก็เหมือนกับ IF สูตร 5:2 เพราะในวันที่ Fast  เราสามารถกินอาหารแคลอรีต่ำได้ แต่ต้องกินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าเรามีหนังหน้าท้องที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ การปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อทำ Tummy Tuck เพื่อทำให้หน้าท้องกระชับ เหมาะสำหรับคนที่เคยผ่านการมีลูกและหน้าท้องหย่อนยาน ซึ่งจะเรียกความมั่นใจในการมีหุ่นดีและรูปร่างที่กระชับมากยิ่งขึ้นได้