ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ RS กับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce


digital disruption คือการหยุดชะงักของธุรกิจอันเนื่องมาจากการเข้ามาของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ซึ่งอาจเป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทำให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปจนมีผลกระทบกับตัวสินค้าและการบริการ หรืออาจจะเป็นนวัตกรรมใหม่ของคู่แข่งหรือผู้เล่นรายอื่น ๆ ในตลาด ที่ได้แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของเราไปครอง ซึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการถูก disruption ธุรกิจ ก็มีอยู่มากมาย เช่น Nokia, Kodak, สื่อสิ่งพิมพ์ และนิตยสารต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนธุรกิจที่เติบโตจากการ digital disruption ก็อย่างเช่น smartphone, lineman, grab, uber, facebook, youtube, Netflix เป็นต้น digital disruption ส่วนใหญ่นั้นเกิดจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป จึงมีการใช้แทนกันกับคำว่า technology disruption
   สำหรับธุรกิจในประเทศไทยของเราที่ได้รับผลกระทบจากการ digital disruption แล้วยังสามารถปรับกลยุทธ์ให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้งนั้น ต้องยกให้กับ RS Group เชื่อแน่ว่าถ้าอาร์เอสไม่ผันตัวไปทำ commerce ก็คงไม่มี RS ในแบบที่เติบโตได้อย่างทุกวันนี้ ซึ่งเชื่อว่าแรก ๆ หลายคนที่เปิดช่อง 8 ทางดิจิทัลทีวี คงรู้สึกแปลก ๆ ที่เห็นมีรายการขายสินค้าอยู่บ่อย ๆ ใครจะนึกว่าทุกวันนี้ธุรกิจ commerce ของ RS นั้นสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทเป็นหลักถึง 60% และจะเป็น 80% ในอีก 2 ปีข้างหน้า
   RS Group เรียกกลยุทธ์ของตัวเองว่าเป็น entertainmerce ซึ่งเกิดจากคำว่า Entertainment กับ Commerce มารวมกัน โดย RS เริ่มต้นมาจากการเป็นธุรกิจบันเทิง เป็นค่ายเพลงและทำสื่อ เมื่อเกิดการ disruption ก็ได้รีบปรับกลยุทธ์หันไปทำ Commerce โดยนำสินค้าที่เป็นเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น สินค้าสุขภาพ เครื่องสำอาง ฯลฯ ซึ่งจับตลาดได้ดี สามารถสร้างรายได้และกำไรในปีปัจจุบันแบบคาดไม่ถึง
   จากนี้ RS Group จึงได้วางโมเดลธุรกิจใหม่นี้กับ technology disruption และได้ตั้งเป้ารายได้ไว้สูงถึงหมื่นล้านในปี พ.ศ.2565 ทำการ disruption ธุรกิจ ของตัวเองใหม่หมด วางเรื่องโครงสร้างของทีมงานใหม่ ปรับผังองค์กร มีการเปลี่ยนโลโก้ของบริษัทใหม่ และได้เปลี่ยนหมวดบริษัทจดทะเบียนจากธุรกิจสื่อมาเป็นธุรกิจพาณิชย์ มีการประกาศแผนการตลาดใช้ฐานข้อมูลลูกค้า หรือ Big Data เข้ามาวิเคราะห์เพื่อวางแผนผลิตภัณฑ์ กลุ่มเป้าหมาย และการเข้าถึงผู้บริโภค
   ถ้าพูดถึง RS ในวันนี้ที่ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราคงจะไม่นึกถึงการเป็นสื่อหรือการเป็นเพียงแค่ค่ายเพลงเป็นหลักอีกต่อไป แต่เราจะนึกถึงโมเดลธุรกิจที่มีแพลทฟอร์มผลิตภัณฑ์ที่ขายแบบครอบคลุม โดยเรื่องเพลง ละคร ศิลปิน และคอนเสิร์ต ก็ยังเป็นสิ่งที่มีแฟนคลับติดตามอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม แม้จะเป็นยุค technology disruption ก็ยังยืนหยัดได้
   ทำความรู้จักกับบริษัทอาร์เอสเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย https://www.rs.co.th/th หากอยากเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรชั้นนำ สมัครงาน RS ได้ที่นี่ https://www.rs.co.th/th/career/