ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


3​ ความเข้าใจผิด​ ๆ ​ เกี่ยวกับ วิธีกินยาคุม 28 เม็ด



3​ ความเข้าใจผิด​ ๆ ​ เกี่ยวกับ วิธีกินยาคุม 28 เม็ด   

   ในปัจจุบันนี้ ยาคุมกำเนิดในท้องตลาด สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด และยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด ซึ่งในส่วนของยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ดนั้น ในยาทั้งหมด 1 แผง จะประกอบด้วยเม็ดยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนจำนวนทั้งหมด 21 เม็ด และเม็ดแป้ง ที่ไม่มีส่วนผสมของฮอร์โมนหรือตัวยาใด ๆ อีก 7 เม็ด ที่มีขนาดและสีสันแตกต่างจากอีก 21 เม็ดฮอร์โมนอย่างชัดเจน โดย วิธีกินยาคุม 28 เม็ดนั้นสามารถรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนได้ตั้งแต่วันแรก ไปจนถึงวันที่ 5 ของรอบประจำเดือน จากนั้นจึงทานยาต่อไปตามแนวลูกศรที่กำกับไว้บนแผง อย่างต่อเนื่องและตรงเวลาทุกวัน

   หากสาว ๆ เริ่มกินยาคุมเนิดอย่างถูกต้อง ตรงเวลา และต่อเนื่อง โอกาสที่จะสามารถคุมกำเนิดได้นั้นมีมากถึง 99.7% เท่ากับว่าอาจมีโอกาสพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3% ต่อปี โดยสามารถมีเพศสัมพันธ์ในเวลาใดก็ได้ ในระหว่างการทานยาคุมกำเนิดนั้น ประจำเดือนจะยังคงมาสม่ำเสมอแต่มาในปริมาณที่น้อยลง ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากประจำเดือนได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับ วิธีกินยาคุม 28 เม็ด อยู่ในปัจจุบัน สำหรับบทความในวันนี้ เราจึงอยากจะมาชี้แจงและแก้ไขความเข้าใจผิดเหล่านี้ ให้ทุกท่านได้ทราบกัน

1. ความเข้าใจผิด : ยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าแบบ 21 เม็ด เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ดมักจะมีปริมาณฮอร์โมนสูงกว่า
   ความเป็นจริง : ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 หรือ 28 เม็ดนั้น ล้วนให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด หรือป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีเทียบเท่ากัน ความแตกต่างหลัก ๆ อยู่ที่วิธีการกินเท่านั้น โดย วิธีกินยาคุม 28 เม็ด จะต้องกินทุกวัน เพื่อให้ไม่ลืม ทั้งเม็ดที่เป็นฮอร์โมน และเม็ดแป้ง เมื่อทานยาแผงเก่าจนครบ 28 วันแล้ว ก็สามารถเริ่มทานแผงใหม่ได้เลยโดยไม่ต้องหยุดยาหรือเว้นวันแต่อย่างใด

2. ความเข้าใจผิด : หากทานยาคุมกำเนิดแล้วมีผลข้างเคียงคล้ายอาการแพ้ท้อง อย่างเช่นอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน อารมณ์แปรปรวนฉุนเฉียว หรือมีประจำเดือนมากเกินกว่าปกติ นับว่าเป็นอันตราย ให้รีบหยุดการทานยาทันที
   ความเป็นจริง : อาการผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ นับว่าเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นจากการรับประทานยาคุมกำเนิดอยู่แล้ว หากทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ อาการดังกล่าวก็จะค่อย ๆ บรรเทาลงไปเมื่อร่างกายสามารถปรับตัวกับปริมาณฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับเพียงบางคนเท่านั้น ซึ่งในคนที่สูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ หรือคนที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้มากกว่า

3. ความเข้าใจผิด : สำหรับผู้ที่เริ่มทานยาคุมกำเนิด แล้วยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกทานแบบไหนอย่างไรดี สามารถพิจารณาจากยี่ห้อยาคุมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้เลย
   ความเป็นจริง : เพราะร่างกายของผู้หญิงแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน การเลือกรับประทานยาคุมนั้น จึงต้องคำนึงถึงประเภทและปริมาณฮอร์โมนในยาคุมเป็นหลัก ก่อนที่จะเลือกจากยี่ห้อ ทั้งนี้ตัวยาในยาคุมแต่ละ Generation จะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอให้สามารถตอบโจทย์ทั้งการคุมกำเนิด และการรักษาสิว ผิวพรรณได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงลงได้อีกด้วย

   อย่างไรก็ตาม ก่อนจะซื้อยาคุมมารับประทาน ก็อย่าลืมปรึกษาเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากการรับประทานยาคุมที่ดีที่สุด