ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


จะพิจารณาบ้านจัดสรรจากโฆษณาได้อย่างไรบ้าง

สำหรับใครก็ตามที่พอจะมีเงินเก็บอยู่แล้วแล้วต้องการที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองนั้นแน่นอนว่าก็คงจะกลับรายละเอียดในหลายๆเรื่องที่เราต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นประเภทของบ้าน งบประมาณ ทำเล รวมไปถึงเรื่องของแบบบ้าน ซึ่งในเรื่องต่างๆเหล่านี้นั้นเราก็ควรที่จะพิจารณาจากความสะดวกสบายที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นและสามารถใช้สอยบ้านนั้นได้อย่างคุ้มค่านั่นเอง โดยในปัจจุบันนั้นเราจะเห็นได้ว่าหลายๆคนนิยมที่จะซื้อบ้านจัดสรรในโครงการต่างๆกันมากกว่าที่จะปลูกบ้านในที่ดินเปล่าเพราะมีข้อดีที่เข้ากับใครหลายๆคน วันนี้ใครก็ตามที่อยากรู้ว่าโฆษณาบ้านต่างๆที่เราได้เห็นกันอยู่เป็นประจำนั้นเราจะพิจารณานำมาเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจอย่างไรได้บ้างนั้นเราก็มีคำตอบมาฝากเพื่อนๆทุกคนกันด้วย
1.   ให้เราพิจารณาจากชื่อโครงการกันก่อนเลย ทั้งนี้ก็เพราะว่าชื่อโครงการนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วมันก็จะแฝงไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการนั้นให้เราได้รู้โดยย่อ อย่างเช่น โครงการ nirvana beyond bangna - att u park ที่เราก็จะรู้ได้ว่าอยู่ในทำเลย่านบางนาและอยู่ใกล้กับ community mall อย่าง att u park ด้วย หรือมันอาจจะบอกลักษณะเด่นของโครงการนั้นๆ เช่น บ้านริมคลอง, เลคไซด์วิลล่า, บ้านริมน้ำ หรือถ้าหากว่าบอกแหล่งที่ตั้งก็ อย่างเช่น บ้านบางบัวทอง, บ้านรัตนาธิเบศร์, ศรีนครินทร์วิลล่า เป็นต้น จากที่เราได้กล่าวไปนั้นก็จะทำให้เพื่อนๆสามารถที่จะเดาลักษณะเด่นของโครงการนั้นได้โดยที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านรายละเอียด
2.   ให้เราพิจารณาจากภาพแสดงทัศนียภาพของโครงการหรือภาพแบบบ้าน ซึ่งภาพที่แสดงต่างๆนั้นจะถือว่าเป็นองค์ประกอบหลักของการโฆษณาบ้านจัดสรร ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายหุ่นจำลอง บ้านตัวอย่าง หรือภาพถ่ายจากของจริงที่ได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันก็จะรวมไปถึงภาพถ่ายของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ สนามเด็กเล่น หรือสวนพักผ่อนหย่อนใจเป็นต้น โดยเราก็ควรที่จะเปรียบเทียบและตั้งใจดูว่าภาพถ่ายที่เราเห็นในโฆษณานั้นใกล้เคียงกับของจริงมากน้อยแค่ไหน
3.   ให้เราพิจารณาจากราคาขายและข้อเสนอพิเศษต่างๆ แน่นอนว่าโฆษณาที่ดีนั้นก็จะบอกราคาขายเบื้องต้นเอาไว้ให้เราได้รู้ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการคัดเลือกโครงการที่เรามีความสามารถในการจ่ายนั่นเอง การที่เราพิจารณาในเรื่องของราคาขายนั้นก็ควรดูควบคู่ไปกับเรื่องของอัตราค่าผ่อนชำระในแต่ละงวดด้วย รวมไปถึงเรื่องของค่าจองและเงื่อนไขการชำระเงินดาวน์ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเลยก็คือ อข้อเสนอแนะพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาส่วต่างๆหรือมีของแจกหรือของแถมเ ป็นต้น
4.   ให้เราพิจารณาที่ตั้งของโครงการด้วย ซึ่งมันก็จะแสดงเส้นทางการเข้าโครงการและสถานที่ต่างๆในบริเวณรอบโครงการ
5.   ให้เราพิจารณารายละเอียดที่ดินและเจ้าของโครงการ ซึ่งในส่วนนี้มักจะพิมพ์อยู่ด้านล่างเล็กสุดของโฆษณา ซึ่งมันก็จะบอกถึงความน่าเชื่อถือของโครงการได้เป็นอย่างดี ซึ่งในกฎหมายนั้นก็จะกำหนดให้มีการเขียนบอกเลขโฉนดที่ดิน ชื่อกรรมการผู้จัดการ ทุนจดทะเบียนของบริษัทดำเนินการ ใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน หรือระยะเวลาโครงการ เป็นต้น