สุดยอด เทคนิค work from home อย่างไรให้เข้าตาเจ้านาย

[อัญณา]

            หลายคนอาจมองว่าการ work from home ค่อนข้างเป็นอุปสรรคต่อการแสดงความสามารถ และพิสูจน์ฝีมือการทำงานให้หัวหน้างานเห็น เพราะเมื่อทำงานที่บ้าน หัวหน้างานก็อาจไม่สามารถเห็นผลงาน และความสามารถของเราได้อย่างชัดเจน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ช่วง work from home แบบนี้ ก็มีโอกาสดี ๆ ซ่อนอยู่ไม่น้อย เพียงแค่เราจะมองเห็น และรู้เทคนิคในการ work from home มากพอจะฉวยโอกาสดี ๆ นั้นไว้ได้หรือไม่
           เทคนิคสำคัญ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำงานที่บ้านให้ได้ผลงานโดดเด่น เป็นที่ถูกใจของหัวหน้างาน มีอยู่เพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น ซึ่ง iprospect thailand ขอนำมาสรุปเป็น 5 ข้อ ดังนี้
1.   จัดเวลาการทำงานให้ชัดเจน
           หากไม่จัดเวลาการทำงานให้ชัดเจน เวลาส่วนตัวอาจมาเบียดบังเวลางาน ทำให้งานเสร็จช้ากว่ากำหนด หรือลดประสิทธิภาพลงได้ ในขณะเดียวกัน หากปล่อยให้เวลางานรุกล้ำเวลาส่วนตัวที่มีให้กับครอบครัว นั่นก็ไม่ถือว่าเป็นการทำงานจากบ้านที่ดี ดังนั้นจึงควรจัดเวลาทำงานให้ชัดเจน เริ่มกี่โมง จบกี่โมง ในกรณีที่ต้องทำงานต่อจนเสร็จ ควรจะต้องจบงานให้ได้ภายในกี่โมง เพื่อแบ่งเวลาไปใช้กับมิติอื่นด้วยเช่นกัน วิธีนี้จะช่วยให้ work-life balance ไม่เสีย งานเสร็จทันตามกำหนด ไม่ลดประสิทธิภาพลง และเวลาส่วนตัวก็มีมากพอที่จะดูแลสุขภาพตัวเองอีกด้วย
2.   ให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามกติกาขององค์กร
           เนื่องจากเป็นการทำงานที่บ้าน จึงทำให้องค์กรและหัวหน้างานไม่สามารถติดตามหรือตรวจสอบการทำงานของพนักงานได้เหมือนที่สำนักงาน ดังนั้นความร่วมมือและการเคารพกฎกติกาของพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดันต้น ๆ เมื่อเราร่วมมือและเคารพกฎกติกาของทางองค์กรอย่างเต็มที่ หัวหน้างานก็จะมองเห็นข้อดีนี้ในตัวเราได้อย่างชัดเจน
3.   หมั่นติดต่อสื่อสารกับคนในทีม และคนในองค์กร
          เมื่อเปรียบเทียบระหว่างพนักงานที่มีความเคลื่อนไหวในแอปพลิเคชันซึ่งใช้ในการ work from home เป็นประจำ กับพนักงานที่มักหายจากแอปพลิเคชันไปครั้งละหลายชั่วโมง พนักงานรายแรกซึ่งแสดงตัวตนและติดต่อสื่อสารกับคนในทีมอยู่ตลอดเวลา จะได้รับการมองในแง่ที่ดีกว่าจากหัวหน้างานเสมอ สังเกตได้ว่าพนักงานที่หายจากการติดต่อไปเป็นเวลานาน ๆ ไม่รายงานความคืบหน้า มักจะถูกหัวหน้างานซักถามเป็นประจำ แม้ว่าพนักงานรายนั้นจะทำงานอยู่จริง แต่การไม่ติดต่อสื่อสารกับคนในทีมเป็นประจำ ก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกมองไปในแง่ไม่ดีนัก ดังนั้น ตราบใดที่ยังทำงานที่บ้าน ควรหมั่นติดต่อสื่อสาร และรายงานความคืบหน้า หรือขอคำปรึกษาจากคนในทีมอย่างสม่ำเสมอจะดีที่สุด
4.   ตั้งเป้าหมายการทำงานในแต่ละวัน รวมทั้งเป้าหมายในระยะยาว
          หลายคนอาจตั้งเป้าหมายการทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในกรณีของการทำงานที่บ้าน การตั้งเป้าหมายควรละเอียดและชัดเจนมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง เนื่องจากเราต้องใช้เป้าหมายนี้บังคับให้ตัวเองสามารถทำงานให้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด ในสถานที่ที่เรียกว่า บ้าน ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการพักผ่อนมากกว่าการทำงาน ดังนั้นหากเป้าหมายการทำงานไม่ชัดเจน ไม่กำหนด to-do-list ในแต่ละวัน ก็อาจส่งผลให้งานเสร็จล่าช้า หรือถูกตำหนิจากหัวหน้างาน ในทางกลับกัน หากตั้งเป้าหมายการทำงานในแต่ละวันไว้แล้วเป็นอย่างดี และสามารถทำตามเป้าหมายนั้นได้เป็นส่วนใหญ่ ก็จะสามารถพิสูจน์ให้ทางองค์กรเห็นว่าเรามีความสามารถในการจัดการงานได้ แม้ว่าจะทำงานที่บ้านก็ตาม
5.   ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
          ปัจจุบันเราทุกคนอยู่ในยุคดิจิทัล การสื่อสารที่สะดวกรวดเร็วทำให้เราทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น แอปพลิเคชันซึ่งใช้ในการทำงานที่บ้านมีให้เลือกหลายแบบ หลากหลายฟังก์ชัน ทุกองค์กรสามารถประชุมผ่านวิดีโอ ห้องแชท และรับส่งไฟล์กันในห้องประชุมได้อย่างอิสระ ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะใช้งานแอปพลิเคชันเหล่านี้ให้คล่องแคล่วจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้การทำงานที่บ้านราบรื่นมากขึ้น ติดต่อประสานงานและประชุมงานกันได้อย่างไม่มีสะดุด
          เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะต้องทำงานที่บ้านต่อเนื่องไปจนถึงเมื่อไร แต่เราสามารถฉกฉวยโอกาสดี ๆ จากการทำงานที่บ้านได้ เมื่อรู้ 5 เทคนิคข้างต้น และทดลองปรับใช้กับตัวเอง iprospect thailand เชื่อว่า เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้การทำงานที่บ้านของทุกคนราบรื่น และกระตุ้นให้หัวหน้างานมองเห็นความโดดเด่นที่มีอยู่ในตัวคุณอย่างแน่นอน