ความกังวลของคนต้องการกู้ซื้อบ้านมีอยู่หลายข้อด้วยกัน ซึ่งสาเหตุก็มักเกิดจากความ “ไม่รู้” เนื่องจากหลายคนเมื่อได้ลองศึกษาทำความรู้จักกับขั้นตอนและวิธีการ กู้บ้าน ได้สักระยะหนึ่งแล้ว มักบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าที่จริงการ กู้บ้าน ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แต่หลักการเบื้องต้นจะเป็นอย่างไร รวมถึงเคล็ดลับของการผ่อนบ้านให้หมดไวต้องทำอย่างไรนั้นเราไปดูพร้อม ๆ กันเลย

ประเมินตัวเองก่อนเป็นลำดับแรก
คุณสมบัติทั่วไปของผู้กู้สินเชื่อบ้าน ได้แก่ มีรายได้ถึงเกณฑ์และมั่นคง มีอายุงานตามกำหนด และมีอายุราว 20 - 40 ปี เช่น ผู้กู้เป็นพนักงานบริษัท เงินเดือน 15,000 บาท ทำงานที่บริษัทปัจจุบันมานานกว่า 6 เดือน อายุ 29 ปี ไม่เคยมีประวัติค้างชำระหนี้ ไม่มีภาระหนี้ต่อเดือนเกิน 60% ของรายได้ เบื้องต้นถือว่า “ผ่านเกณฑ์” สรุปง่าย ๆ ว่าผู้กู้ต้องแสดงเอกสารหลักฐานให้สถาบันการเงินเชื่อว่าผู้กู้มีกำลังชำระหนี้บ้านได้ตลอดอายุสัญญาซึ่งอาจยาวนานถึง 30 ปีนั่นเอง

ประเมินวงเงินกู้ซื้อบ้าน
โดยปกติสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อบ้านที่ 40% ของเงินรายได้ เราจะแสดงตัวอย่างการคำนวณวงเงินกู้ของผู้กู้ที่มีเงินเดือนปัจจุบัน 15,000 บาท ดังนี้
15,000 x 40% = 6,000 บาท สมมติอายุสัญญาเงินกู้คือ 30 ปี เราจะคำนวณต่อตามด้านล่าง
(6,000 x 12) x 30 = 2,160,000 บาท
ดังนั้นผู้กู้ซึ่งมีรายได้ปัจจุบัน 15,000 บาทต่อเดือน หากเลือกผ่อนชำระ 30 ปี มีแนวโน้มจะได้วงเงินกู้ซื้อบ้านเป็นจำนวน 2,160,000 บาท หากมูลค่าของบ้านที่ต้องการซื้อสูงกว่าวงเงินที่คำนวณได้ผู้กู้ควรหาบุคคลมากู้ร่วม ซึ่งมีคุณสมบัติตามเงื่อนไข/หลักเกณฑ์ที่สถาบันการเงินกำหนด

เปรียบเทียบดอกเบี้ยของสถาบันการเงินต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจยื่นกู้
ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินซื้อบ้าน หรือ กู้เงินสร้างบ้าน การเปรียบเทียบดอกเบี้ยก่อนตัดสินใจถือเป็นเรื่องที่ควรทำ เนื่องจากสินเชื่อประเภทนี้เป็นสินเชื่อก้อนใหญ่ อายุสัญญายาวนานหลักสิบปี แม้อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าเพียง 0.5% ก็จะกลายเป็นจำนวนเงินมากในอนาคต จึงควรเลือกสินเชื่อที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดเท่าที่จะสามารถหาได้ในเวลานั้น

ติดตามอัตราดอกเบี้ยตามรอบอายุสัญญา แล้วทำ Retention หรือ Refinance เมื่อดอกเบี้ยดีดตัวสูง
สินเชื่อบ้านมีหลายประเภทเรามักพบคำว่าดอกเบี้ยคงที่หรือดอกเบี้ยลอยตัว เช่น MRR - 2.00% ปรากฎอยู่ในตารางดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน เช่น
ดอกเบี้ยปีแรก 0.56%
ดอกเบี้ยปีที่ 2 - 3 MRR - 2.00%
ดอกเบี้ยหลังจากนั้น  MRR – 1.25%
ตามตัวอย่างที่ยกมา (อ้างอิงจากสินเชื่อบ้าน ธนาคารกรุงไทย) อัตราดอกเบี้ยในปีแรกเราจะเรียกว่า “ดอกเบี้ยคงที่” สำหรับดอกเบี้ยปีต่อ ๆ ไปแม้จะปรับไปตาม MRR ซึ่งถือเป็น “ดอกเบี้ยลอยตัว” แต่ธนาคารกรุงไทยก็ยังคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า MRR อยู่ดี จึงถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านที่ต่ำและน่าสนใจมาก
กลับมาที่เรื่อง Retention และ Refinance โดยทั่วไปในสัญญากู้ซื้อบ้านจะระบุว่าเมื่อผู้กู้ผ่อนชำระค่าบ้านครบ 3 ปี (แล้วแต่กำหนด) จะสามารถขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม (Retention) หรือย้าย เอาบ้านเข้าธนาคาร อื่น (Refinance) ได้โดยไม่เสียค่าปรับ เมื่อกลับไปที่ตัวอย่างด้านบน หลังจากผู้กู้ผ่อนครบ 3 ปี หากผู้กู้ทำการ Retention หรือ Refinance ผู้กู้ก็มีโอกาสจะได้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า MRR – 1.25% จึงช่วยให้การผ่อนบ้านของผู้กู้รายนี้ใช้ระยะเวลาสั้นกว่าที่ตั้งไว้ตอนแรก เพราะเป็นการผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้กู้มีกำลังชำระเกินค่างวดทุกเดือน รวมถึงการหาเงินมาโปะจ่ายค่าบ้านก็จะมีส่วนช่วยให้การผ่อนบ้านกินระยะเวลาสั้นลงได้อีกเช่นกัน

อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านในยุคปัจจุบันนั้นมีหลายรูปแบบ ผู้ต้องการกู้ซื้อบ้าน กู้ซื้อคอนโด กู้เงินสร้างบ้าน หรือต้องการ เอาบ้านเข้าธนาคาร เพื่อขอ สินเชื่อบ้านแลกเงิน ต่างก็สามารถขอคำปรึกษาจากสถาบันการเงินที่สะดวกได้ทุกแห่ง ขอเพียงสำรวจความต้องการของตนเองให้แน่ชัดและสามารถตอบข้อมูลสถานะการเงินของตนเองได้อย่างชัดเจน สถาบันการเงินก็จะสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผู้กู้ได้ง่ายขึ้น  ทั้งนี้ อย่าลืมศึกษาเงินกู้ SME กู้ทำธุรกิจ (เพิ่มเติม: https://krungthai.com/th/content/sme/loan) และกู้เงินเปิดร้านด้วยล่ะ

ที่มาข้อมูล
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2058107
https://www.home.co.th/finance/which-bank-is-the-best-home-loan-53666
https://www.krungsri.com/th/planyourmoney/must-stories/credit-plan/6-things-should-know-borrow-money-building-house

ใครที่ผ่านไปมาบนถนนพหลโยธินขาเข้าเมืองใกล้กับวงเวียนหลักสี่คงจะสะดุดตากับโครงการคอนโดมิเนียมที่มีรูปทรงแปลกตาชื่อว่า เดอะ เบส สะพานใหม่ ซึ่งเป็นคอนโดแบบ High Rise สูง 14 ชั้น จากค่ายแสนสิริ ไม่เพียงแต่ความแปลกตาเท่านั้นหากแต่ คอนโด สะพานใหม่ แห่งนี้ยังได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากมาตั้งแต่ช่วงเปิดตัวโครงการจากจุดเด่นหลายด้านที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ไฮไลต์ โครงการคอนโด เดอะ เบส สะพานใหม่
ด้านทำเล ที่ตั้งของ คอนโดมิเนียมใหม่พร้อมอยู่ แห่งนี้อยู่ใกล้วงเวียนหลักสี่ซึ่งถือเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์สูง ใกล้กับสนามบินดอนเมือง ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนและทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวก ที่สำคัญเดอะ เบส สะพานใหม่แห่งนี้ยังเป็น คอนโดใกล้ bts  โดยห่างจากสถานีสายหยุดเพียง 30 เมตรเท่านั้น เรียกว่าออกจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสก็ถึง คอนโด สะพานใหม่ แห่งนี้ทันที จึงถือเป็นตัวจริงในกลุ่ม “ คอนโดติดรถไฟฟ้า ” ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์สำหรับคนยุคใหม่มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และแหล่งจับจ่ายทั่วไปอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเป็นทางเลือกมากมาย อาทิ ห้างเซ็นทรัล รามอินทรา  บิ๊กซี สะพานใหม่ เทสโก้ โลตัส หลักสี่ ห้างฟู๊ดแลนด์ ตลาดยิ่งเจริญและตลาดออเงิน อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับสถานพยาบาลชั้นนำอย่างโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลและโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ต้องถือว่า คอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้าพร้อมอยู่ โครงการนี้ได้จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้กับผู้พักอาศัยอย่างครบครัน มีโซน Club House 2 ชั้น ที่แยกออกมาชัดเจน พร้อม Co-working Space ที่สามารถเข้าใช้งานได้ตลอด 24 ชม.ตอบโจทย์การทำงานของคนยุคใหม่ในสไตล์ Digital Nomad ได้เป็นอย่างดี มีสวนกลาง Sunshine Atrium และสวนกลางดาดฟ้า  พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวนหย่อมร่มรื่น ทางโครงการยังมีบริการ Smart Locker ไว้ให้กับลูกบ้าน พร้อมจุดบริการรับส่งพัสดุ Work Station สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รวมถึงจุดส่ง Food Delivery ไว้รองรับการใช้บริการ ซึ่งถือว่าลงตัวมาก ๆ สำหรับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่

ด้านดีไซน์ของห้องพัก สำหรับห้องพักทุกยูนิตใน คอนโดพร้อมอยู่ โครงการนี้จะมีรูปแบบที่หลากหลายพร้อมการจัดวางตำแหน่งห้องให้กระจายตัวไปหลายพื้นที่ ลดความแออัดของการใช้งานทั้งยังนำหลัก Universal Design มาจัดฟังก์ชันพื้นที่รองรับการใช้งานของคนได้ทุกเพศทุกวัย  ห้องพักใน คอนโด สะพานใหม่ โครงการนี้มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 24.75 - 55.75 ตารางเมตร แต่ละยูนิตจะมีเพดานสูงช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีจึงปลอดโปร่งโล่งสบาย วัสดุที่เลือกใช้ภายในห้องพักมีคุณภาพมาตรฐาน ใช้ไฟแบบ Downlight ทั้งห้อง ส่วนระบบการรักษาความปลอดภัยก็ช่วยให้เกิดความมั่นใจได้มากขึ้นเพราะเป็นระบบ Digital Door Lock พร้อมนวัตกรรมล้ำ ๆ มาเพิ่มความสะดวกสบายในการพักอาศัยโดยเฉพาะระบบ Home Automation ให้สามารถจัดการทุกเรื่องภายในห้องพักด้วยแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือได้ตลอด 24 ชม. รวมทั้งยังสามารถสั่งการผ่านเสียง (Voice Command) ได้ด้วย  ทางโครงการได้จัดแต่งห้องพักไว้ให้เรียบร้อย (Fully Furnished) แต่ละยูนิตมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ชุดเครื่องนอนและเครื่องใช้ไฟฟ้า หิ้วกระเป๋าใบเดียวก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที

โครงการเดอะ เบส สะพานใหม่  โครงการคอนโดใหม่ 2565 ที่มีจุดเด่นมากมายและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนได้อย่างลงตัว มีราคาเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้านบาทเท่านั้น หากสนใจสามารถดูรายละเอียดเพื่อซื้อคอนโดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sansiri.com/condominium/thebase-saphanmai/th/


ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/condominium/thebase-saphanmai/th/
https://thinkofliving.com/คอนโด/รีวิวตึกเสร็จ-the-base-สะพานใหม่-คอนโด-high-rise-14-ชั้น-ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว-สถานีสายหยุด-จาก-แสนสิริ-รีวิวฉบับที่-2110-658589-รีวิวโครงการ/

   การใช้จ่ายเกิดขึ้นได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายที่ได้วางแผนมาแล้ว หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน จนบางครั้งเงินในบัญชีก็มีไม่พอให้จับจ่ายได้ในเวลานั้น สินเชื่อเงินสด จึงกลายเป็นตัวช่วยอันดับแรกที่เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน วันนี้จะมาบอกข้อดีของการสมัคร สินเชื่อเงินด่วน ที่ควรจะทราบไว้เพื่อความคุ้มค่าในอนาคต

   สินเชื่อเงินสด เป็นสัญญาการขอกู้ยืมเงินจากธนาคารประเภทหนึ่งซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ (1) บัตรเครดิต เอาไว้รูดใช้จ่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ (2) บัตรกดเงินสด สำหรับกดเงินสดออกมาจากตู้ ATM โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีกับธนาคาร และ (3) สินเชื่อส่วนบุคคล คือธนาคารให้เงินมาเป็นก้อนตามวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ โดยที่ผู้กู้ให้สัญญากับธนาคารว่าจะมีการใช้หนี้สินเชื่อคืนให้พร้อมดอกเบี้ยภายในระยะเวลาที่กำหนด สาเหตุที่ สินเชื่อเงินด่วน ได้รับความนิยมจากบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนก็เพราะว่าสามารถนำมาใช้จ่ายได้ทันทีที่ต้องการ หรือนำมาช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สินรายย่อย ๆ ให้ปิดบัญชีไปได้โดยเหลือสถานะเพียงลูกหนี้ของธนาคารเพียงแห่งเดียว ที่สำคัญคือเป็นการกู้เงินในระบบที่มีขั้นตอนและกระบวนการรวมถึงข้อตกลงอย่างชัดเจน มีกฎหมายคุ้มครอง ทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้จะไม่ถูกเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ต่อไปนี้คือข้อดีของการมีสินเชื่อจากธนาคารไว้ในครอบครอง

การขอสินเชื่อแบบเงินสดจากธนาคารได้รับการอนุมัติง่ายกว่าสินเชื่อประเภทอื่นโดยไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน เพียงใช้สำเนาบัตรประชาชน สำเนาบัญชีธนาคาร สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน เนื่องจากเอกสารดังกล่าวเพียงพอใช้เป็นหลักประกันให้กับธนาคารว่าผู้กู้จะมีความสามารถในการใช้หนี้ภายในกำหนดได้

รูปแบบการใช้จ่ายในยุค 5G เปลี่ยนแปลงเป็นสังคมไร้เงินสดมากขึ้น ประกอบกับบัตรเครดิตนั้นใช้งานง่าย รูดใช้จ่ายจากที่ไหนก็ได้ และบางธนาคารยังจัดโปรแกรมส่งเสริมการขายร่วมกับร้านค้าเมื่อมีการใช้บัตรเครดิต ไม่ว่าจะเป็นการให้ส่วนลดหรือแลกคะแนน ซึ่งผู้ใช้มีแต่ได้กับได้ จึงทำให้ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก

สินเชื่อที่ได้รับคือวงเงินที่ไม่มีการกำหนดอายุการใช้งาน หมายความว่าหากผู้กู้มีการชำระหนี้ตามกำหนดก็สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดได้อยู่ตลอด ถือเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายได้มากกว่าการถอนเงินหรือโอนจ่ายจากบัญชีธนาคารโดยตรง

การสมัครเป็นสมาชิกสินเชื่อจากธนาคารเมื่อได้รับการอนุมัติ ก็จะได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่มาพร้อมกับบัตร เช่น สิทธิความคุ้มครองด้านประกันอุบัติเหตุฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือได้รับส่วนลดจากร้านค้าที่ได้ทำโปรแกรมส่งเสริมการขายร่วมกับธนาคารไว้ และยังสามารถแลกพอยต์ได้เมื่อสะสมยอดการใช้จ่ายได้ครบตามจำนวนที่กำหนด

มีระบบในการตรวจสอบและความคุ้มครองเรื่องสิทธิส่วนบุคคลเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมายและได้รับการรับรอง ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกเอาเปรียบเหมือนกับการกู้เงินนอกระบบ

บอกได้เลยว่ายุคปัจจุบันนี้หากไม่มีบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด ก็คงเหมือนมีเครื่องมือทางการเงินไม่ครบ เพราะสังคมถูกขับเคลื่อนให้มีพฤติกรรมเป็นเช่นนั้น เมื่อรู้แล้วว่าการเป็นสมาชิกสินเชื่อจากธนาคารมีข้อดีตามที่กล่าวมาข้างต้น หากสมัครและได้รับอนุมัติ ก็จะอุ่นใจว่ามีเงินสำรองพร้อมใช้เสมอ  ทั้งนี้ อย่าลืมศึกษาการสมัครสินเชื่อ (เพิ่มเติม: https://krungthai.com/th/personal/loan/personal-loan/) สินเชื่อแบบออนไลน์ และการสมัครสินเชื่อออนไลน์ไว้ด้วยนะ



ที่มาข้อมูล
https://money.priceza.com/blog/personal-loan/advantages-and-disadvantages-of-cash-card/

   คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่เคยตั้งคำถามว่า ipd คือ อะไร และ opd คืออะไร วันนี้เราจะมาตอบข้อสงสัยกัน มากไปกว่านั้นเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับอาการไข้หวัดใหญ่ที่บอกได้เลยว่า มีความน่ากลัวกว่าที่คิด จะมีข้อมูลน่ารู้อะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง ตามไปดูกัน
มาทำความรู้จักกับอาการไข้หวัดใหญ่และรู้จักว่า ipd คืออะไร เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
   โรคไข้หวัดใหญ่นั้นเกิดจากการที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Influenza Virus โดยอาจได้รับมาจากการไปสัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ ที่มีเชื้อตัวนี้อยู่ ซึ่งการฟักตัวของเชื้อไวรัสนี้ก็จะอยู่ประมาณ  1-3 วัน จึงจะเริ่มแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา เช่นนั้นเราจึงควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายไม่ไปสัมผัสสิ่งของที่อาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสตัวนี้ อาการไข้หวัดใหญ่จะต่างกับอาการอาหารเป็นพิษอย่างชัดเจน  แม้ว่าอาจจะมีอาการเวียนศีรษะ อ่อนเพลียได้เหมือนกัน อาการของไข้หวัดใหญ่คือ มีไข้สูงมากกว่า 38 องศา มีน้ำมูกใส ไม่เหนียวข้น คัดจมูก มีน้ำมูกเยอะ การหายใจไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เนื่องจากมีน้ำมูก เสมหะ มีอาการไอแห้ง ๆ มีอาการคลื้นไว้ เวียนหัว อาเจียน มากไปกว่านั้นก็อาจมีอาการหนาวสั่น รู้สึกไม่อยากอาหาร มีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งในผู้ป่วยที่เป็นเด็กก็จะเกิดอาการท้องเสียได้ง่าย เรียกได้ว่ามีหลากหลายอาการมาก
   ในส่วนของผู้ป่วย IPD ก็คือผู้ป่วยใน ผู้ป่วย OPD ก็คือผู้ป่วยนอก เราสามารถทำความเข้าใจง่าย ๆ ด้วยความแตกต่างของการรักษาพยาบาล คือถ้ามีการนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลมากกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไปก็จะถือเป็นผู้ป่วยใน ในกรณีที่จะมีการนอนหรือไม่ได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของคุณหมอ ระดับอาการของผู้ป่วยและปัจจัยอื่น ๆ
จากข้อมูลของอาการไข้หวัดใหญ่ที่เราในนำมาเสนอนั้น เราควรที่จะมีการวางแผนการใช้จ่ายค่าดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการเลือกประกันโรคร้าย ประกันสุขภาพ โดยควรเลือกซื้อที่ครอบคลุมการรักษาแบบ ipd เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล เพราะเราไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าอาการและระดับความรุนแรงที่เราเป็นจะมากหรือน้อยขนาดไหนเพื่อความอุ่นใจในอนาคต
ที่มาข้อมูล
-   https://online.scbprotect.co.th/content/detail?contentId=A69418E000234F5F99F7E93C4C9AE78A
-   https://online.scbprotect.co.th/content/detail?contentId=F07AF9A310C14DEBB9822A9C36A7BABF

เชื่อว่าใครที่เป็นเจ้าของรถ ไม่ว่าจะเป็น รถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนบุคคล รถตู้ ฯลฯ น่าจะคุ้นเคยกับคำว่าพรบรถยนต์รวมถึงการต่อภาษีรถกันเป็นอย่างดี เพราะทั้ง พ.ร.บ. และภาษีรถเป็นสิ่งที่คนมีรถต้องมี แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนอาจไม่ทราบว่าทั้ง พ.ร.บ. และภาษีรถ มีความสำคัญอย่างไร เพราะฉะนั้นลองมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นพร้อมไขข้อสงสัยว่าเพราะอะไรรถทุกคันจึงต้องต่อ พ.ร.บ. และภาษีรถ
สำหรับพรบรถยนต์ หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 คือประกันรถภาคบังคับที่รถทุกคันต้องมี ความสำคัญของ พ.ร.บ. คือภาครัฐจะคุ้มครองตัวบุคคลกรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ การสูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต รวมถึงมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน โดยไม่คำนึงว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด และไม่ได้คุ้มครองเฉพาะผู้ขับขี่หรือผู้ประสบอุบัติเหตุเท่านั้นแต่ยังคุ้มครองไปถึงครอบครัวรวมถึงผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่อาจได้รับผลกระทบ โดย พ.ร.บ. เป็นข้อบังคับตามกฏหมายที่รถทุกคันต้องมี ตรงกันข้ามกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2 หรือชั้น 3 ที่เป็นประกันภาคสมัครใจ ไม่มีกฎหมายบังคับ
แม้ พ.ร.บ. รถ จะเป็นข้อบังคับทางกฎหมายและไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับตัวรถ แต่ถึงอย่างนั้นหากพิจารณาดี ๆ แล้วจะพบว่ามีประโยชน์ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา พ.ร.บ. จะทำหน้าที่คุ้มครองตัวบุคคล ทุกครั้งที่ใช้รถใช้ถนนจะอุ่นใจยิ่งขึ้นเพราะมี พ.ร.บ. ทำหน้าที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลรวมถึงค่าสินไหมทดแทนกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั่นเอง
นอกจาก พ.ร.บ. รถ ที่เจ้าของรถควรให้ความสำคัญแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มาคู่กัน คือ การต่อภาษีรถยนต์หรือที่หลายคนเรียกว่าการต่อป้ายวงกลม โดยไม่ว่าจะเป็นยานพาหนะประเภทก็ตามจำเป็นต้องชำระภาษีทุกปี ห้ามปล่อยให้ภาษีขาดเด็ดขาด เนื่องจากมีผลบังคับทางกฎหมายเช่นเดียวกับ พ.ร.บ. รถ รถคันใดไม่ต่อภาษีถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยภาษีรถยนต์ที่ชำระไปนั้นจะถูกนำไปใช้บริหารงานคมนาคมรวมถึงถูกใช้ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งเพื่อยกระดับการเดินทางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
จะเห็นว่าทั้ง พรบ. และการต่อภาษีรถยนต์ทุกปี ถือเป็นสิ่งที่ท่านเจ้าของรถทุกคันควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกับเวลาที่ประกันรถยนต์หมดอายุและต้องการต่อประกันภัย รถยนต์ ออนไลน์ผ่าน SCB PROTECT ที่ได้รับการรับรองจากธนาคารไทยพาณิชย์ สถาบันการเงินชั้นนำของไทยว่าใช้ระบบการดำเนินการได้มาตรฐานเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับขั้นตอนซื้อประกันรถยนต์ผ่าน SCB PROTECT จะง่ายและสะดวกแค่ไหนเราไปดูพร้อมกัน
1.   คลิก https://online.scbprotect.co.th/motor กรอกข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์หรือเบี้ยประกันเดิม
2.   เลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ เช่น คาดการณ์ว่าจะใช้รถเป็นระยะทางไม่เกิน 10,000 กม. ต่อปี สามารถเลือกแผนประกันแบบคุ้มครองตามการใช้งานจริงที่ปรากฏขึ้นบนเว็บไซต์ได้เลย
3.   กรอกข้อมูลส่วนตัว หากสงสัยว่าต่อ ประกัน รถยนต์ ใช้ เอกสาร อะไร บ้าง ในขั้นตอนนี้หากสามารถเตรียมสำเนาบัตรประชาชน สำเนาเล่มทะเบียนรถ สำเนาใบขับขี่ และหน้ากรมธรรม์ฉบับเดิมไว้ด้วยจะช่วยให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
4.   ชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์จากนั้นรอรับไฟล์กรมธรรม์ผ่านอีเมล หรือรอรับกรมธรรม์ต้นฉบับผ่านทางไปรษณีย์แล้วแต่ผู้เอาประกันจะกำหนด
ไม่มีใครทราบได้เลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นตอนไหน นอกจากประกันรถภาคสมัครใจแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการต่อ พ.ร.บ. และภาษีรถ เพราะจะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างน้อยก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลและยังหากกรณีเสียชีวิต ครอบครัวยังได้เงินชดเชยอีกด้วย
ที่มาข้อมูล
-   https://online.scbprotect.co.th/content/detail?contentId=AB5EB7802F1F4532ACEBF20CFDE7CB60
-   https://online.scbprotect.co.th/content/detail?contentId=CDEF287F5FF64F789EA8550D91C6EEA8

   หากถามว่าเหตุผลที่ทำให้ บ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์ หรือ บ้านเดี่ยว ไทรน้อย รวมไปถึง บ้านแฝด ชัยพฤกษ์ ได้รับความสนใจจากคนที่กำลังมองหา บ้านใหม่พร้อมอยู่ หรือบ้านแฝดสวย ๆ สักหลัง มั่นใจว่าคำตอบส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของทำเลที่ตั้ง เพราะนอกจากจะรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า ห้างค้าส่งซูเปอร์มาร์เก็ต โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลแล้ว ยังอยู่ไม่ไกลจากถนนเส้นสำคัญ สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงสถานีคลองบางไผ่-สถานีเตาปูน สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางซื่อ อีกทั้งในอนาคตยังมีแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บ้าน ชัยพฤกษ์ - ไทรน้อยไม่ได้มีดีแค่เรื่องทำเลที่ตั้งเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นเรื่องแนวคิดการออกแบบ ซึ่งตอนนี้จะมีบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ชัยพฤกษ์ - ไทรน้อย โครงการไหนน่าสนใจที่จะซื้อบ้านบ้างนั้นมาดูกันเลย

สราญสิริ ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ
สำหรับโครงการ บ้าน ชัยพฤกษ์ ที่อยากแนะนำคือโครงการ บ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์ สราญสิริ ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ โครงการสวยที่มาพร้อมแนวคิดที่ทันสมัยท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น วัสดุชั้นดีแข็งแรงทนทาน และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกด้าน อย่างนวัตกรรม Breeze Panel เพิ่มช่องระบายอากาศเพื่อถ่ายเทอากาศและความร้อน นวัตกรรม LOW-E Glass กระจกลดความร้อน นวัตกรรม Absorption Floor ที่ห้องนอนชั้น 1 ช่วยลดแรงกระแทก นวัตกรรม Security Home Automation ระบบรักษาความปลอดภัยเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ นอกจากนั้น บ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์ ยังมีให้เลือกมากถึง 8 แบบ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 135 ตารางเมตร เหมาะสำหรับคนวัยหนุ่มสาวที่กำลังมองหา บ้านใหม่ เพื่อเริ่มต้นสร้างครอบครัว ไปจนถึงบ้านขนาดพื้นที่ใช้สอยมากถึง 294 ตารางเมตร เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีคนหลายเจนอยู่ร่วมกัน โดย โครงการบ้านเดี่ยว แห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 6 ล้านบาท

อณาสิริ ชัยพฤกษ์ - วงแหวน
ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการบ้านแฝด บ้านเดี่ยว ไทรน้อย - ชัยพฤกษ์ที่น่าสนใจ เพราะโครงการนี้มีให้เลือกทั้งรูปแบบบ้านเดี่ยวและ บ้านแฝด โดยแบบบ้านเดี่ยวมีพื้นที่ใช้สอย 151, 153 และ 161 ตารางเมตร ในขณะที่แบบ บ้านแฝด ชัยพฤกษ์ มีพื้นที่ใช้สอยกว้างถึง 145 ตารางเมตร จึงให้ความรู้สึกไม่ต่างจากบ้านเดี่ยว  อย่างไรก็ตามส่วนที่เป็นไฮไลท์เด็ดของโครงการอยู่ที่การออกแบบส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่ทำให้การใช้ชีวิตทุกนาทีลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหน้าต่างขนาดใหญ่ในห้อง Master Bedroom ช่วยให้เปิดรับแสงจากธรรมชาติได้มากกว่าเดิม การเพิ่มห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ห้องสันทนาการ หรือห้องนอนผู้สูงอายุก็ได้ การปรับเปลี่ยนพื้นที่ใต้บันไดให้เป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบมากขึ้น และที่สำคัญเจ้าของบ้านสามารถเลือกชนิดของต้นไม้ที่จะปลูกเองได้อีกด้วย สำหรับ โครงการบ้านจัดสรร แห่งนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 4.49 ล้านบาท
   
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับโครงการบ้านแฝด บ้านเดี่ยว ไทรน้อย - ชัยพฤกษ์ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งโครงการสราญสิริ ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ และอณาสิริ ชัยพฤกษ์-วงแหวน เป็นโครงการที่พิถีพิถันในการออกแบบสมกับเป็นโครงการ บ้าน ชัยพฤกษ์ บ้านหรู หลังสวยที่รับประกันเลยว่าใครเห็นก็ต้องอยากได้

ที่มาข้อมูล
https://www.condonewb.com/insight/1131/ชัยพฤกษ์
https://www.sansiri.com/singlehouse/saransiri-chaiyaphruek-chaengwattana/th/
https://www.sansiri.com/singlehouse/anasiri-chaiyapruek-wongwaen/th/

สำหรับคนที่กำลังมองหา บ้าน เชียงใหม่ บนทำเลศักยภาพใกล้กับแหล่งอำนวยความสะดวกและแหล่งไลฟ์สไตล์เพื่อการใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ ตามแบบฉบับของคนยุคใหม่นั้น ขอแนะนำ โครงการบ้านจัดสรร แนวใหม่จากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ “แสนสิริ” ที่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัว เพราะ บ้านโครงการใหม่ 2565 ที่แสนสิริเตรียมไว้ให้นั้นมีหลายสไตล์ให้เลือก โดยมีโครงการที่นำมาแนะนำดังต่อไปนี้

บุราสิริ สันผีเสื้อ
เป็นโครงการ บ้านเดี่ยว เชียงใหม่ สไตล์โมเดิร์นล้านนาในบรรยากาศของรีสอร์ทหรู พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตอบโจทย์การใช้งานของสมาชิกทุกวัยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการพักอาศัยของผู้สูงวัย ซึ่งบริเวณชั้นล่างของ บ้านเดี่ยว เชียงใหม่ แห่งนี้ได้ออกแบบและเลือกใช้วัสดุเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงวัย พร้อมเน้น “เปิดโล่ง” เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก  โครงการบ้านเชียงใหม่ แห่งนี้ยังได้นำนวัตกรรมสมัยใหม่มาช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย ทั้งนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น หรือ Dust Free House เพื่อการป้องกันฝุ่น PM 2.5 และระบบ Home Automation  โดยมีแบบ บ้านหรู ให้เลือก 5 สไตล์ ทั้งขนาด 3 และ 4 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 128 - 247 ตารางเมตร บ้านเดี่ยว เชียงใหม่ โครงการนี้อยู่บนถนนวงแหวนรอบนอก อำเภอเมืองเชียงใหม่ ใกล้กับศูนย์ราชการเชียงใหม่ ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล แม็คโคร และยังอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลชั้นนำของจังหวัด เช่น โรงพยาบาลล้านนา และโรงพยาบาลกรุงเทพ เชียงใหม่ โดยราคาเริ่มต้นของ บ้าน โครงการ บุราสิริ สันผีเสื้อแห่งนี้อยู่ที่ 6 ล้านบาท

1517 นิมมาน
เป็น โครงการบ้านเชียงใหม่ อีกแห่งที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับผู้มองหา บ้านทาวน์โฮม สไตล์ช็อปเฮาส์ที่สามารถทำธุรกิจได้ เพราะนอกจากสไตล์ของ บ้าน เชียงใหม่ แห่งนี้จะตอบโจทย์การค้าขาย ทำธุรกิจ และโชว์สินค้าได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจหลักของเมืองเชียงใหม่ นั่นก็คือถนนนิมมานเหมินท์ โดย บ้านจัดสรร โครงการนี้ตั้งอยู่ระหว่างซอยนิมมานเหมินท์ 15 และซอยนิมมานเหมินท์ 17 เรียกได้ว่าอยู่กลางย่านธุรกิจและแหล่งไลฟ์สไตล์เลยทีเดียว โครงการ 1517 นิมมาน อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพียง 650 เมตร และไม่ไกลจากสนามบินเชียงใหม่ จึงเหมาะสำหรับการทำธุรกิจการค้ารองรับกลุ่มนักศึกษาวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากสถานพยาบาลอย่างโรงพยาบาลเชียงใหม่รามและโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
 บ้าน เชียงใหม่ โครงการนี้ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์การให้บ้านและพื้นที่ทำธุรกิจรวมอยู่ในที่เดียวกัน โดยมีดีไซน์แนว Modern Contemporary ด้วยจุดเด่นของ White Curve และยังใช้กระจกขนาดใหญ่เป็นตัวโชว์ไอเดียทำธุรกิจ หรือ Window Display ให้เห็นจรดเพดาน ด้วย Layout หน้ากว้าง ออกแบบการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างเต็มที่ และยังสามารถเลือกฟังก์ชันการใช้งานพื้นที่ได้ตามต้องการ โดยสามารถเลือกบ้านที่มีบันไดอยู่ตรงกลางเพื่อการแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน หรือมีบันไดอยู่ด้านหลังเพื่อการใช้งานพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ มีแบบบ้าน 3 ชั้นครึ่ง ให้เลือก 2 สไตล์ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 233 และ 267 ตารางเมตร ทั้งสองแบบมี 2 ห้องนอน และสามารถจอดรถได้ 1 คัน ในราคาเริ่มต้นที่ 5.9 ล้านบาท

หากสนใจหรือต้องการหาบ้านที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 2 โครงการบ้านเชียงใหม่ จากแสนสิริ สามารถเข้าไปดูได้ที่  https://www.sansiri.com/โซน/เชียงใหม่

ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/singlehouse/burasiri_sanphisuea/th/
https://www.sansiri.com/commercial/1517-nimman/th/

คำว่าบ้านคือวิมานของเรา คำนี้เชื่อว่าโดนใจใครหลายคนที่หากจะคิดมีบ้านทั้งทีก็ต้องเลือก ซื้อบ้าน ที่ทำเลต้องใช่ สิ่งอำนวยความสะดวกต้องมี บ้านไม่ควรเล็กหรือใหญ่จนเกินไปทำให้ดูแลรักษาได้ลำบาก วันนี้จะขอพามาปักหมุด บ้าน ชัยพฤกษ์ ทำเลดีมีสิ่งอำนวยความสะดวกสุดโดนใจ มีโครงการไหนบ้างมาดูกัน   

ด้วยเป้าหมายของแสนสิริคือการนำแรงบันดาลใจของลูกค้ามาออกแบบบ้านให้มีทางเลือกหลากหลายตามแบบฉบับที่ลูกค้าชื่นชอบ จึงได้จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ บ้านใหม่พร้อมอยู่ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัวโดยเฉพาะเรื่องทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถสร้างความสุขให้กับทุกคนอย่างแท้จริงดังนี้

โครงการสราญสิริ บ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์ -แจ้งวัฒนะ
คือ บ้าน ชัยพฤกษ์ ที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษด้วยการผสมผสานเอกลักษณ์ของท้องถิ่นไทยให้เข้ากับฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างลงตัว ทั้ง Innovation ที่ทันสมัยอย่าง Breeze Panel ช่วยถ่ายเทอากาศและระบายความร้อนออกจากตัวบ้านด้วยช่องระบายอากาศที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ และการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมรอบบ้านให้โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น แบบ บ้าน ชัยพฤกษ์ ของโครงการสราญสิริ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะแต่ละหลังประกอบด้วย 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน โซนรับประทานอาหาร และห้องครัวไทย ส่วนห้องอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแบบบ้านดังนี้
เกสรชมพู่ มีพื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
เสน่ห์จันทร์ มีพื้นที่ใช้สอย 221 ตร.ม.​ ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 2 คัน
ช่อม่วง มีพื้นที่ใช้สอย 263 ตร.ม.​ ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 2 คัน
ดาราทอง มีพื้นที่ใช้สอย 294 ตร.ม​. ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน
ผกากรอง มีพื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
หยกมณี มีพื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม.​ ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
บุหลักดั้นเมฆ มีพื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม.​ ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
ทองชมพูนุช มีพื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.​ ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

โครงการอณาสิริ บ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์ - วงแหวน
บ้านเดี่ยว ไทรน้อย โครงการนี้ถูกออกแบบมาให้เพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชันอันทันสมัยเหมาะกับความต้องการของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ใน Master Room ห้องเก็บของขนาดใหญ่ใต้บันได หรือห้องอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานของแต่ละคนในครอบครัวได้ตามใจ บ้านเดี่ยว ไทรน้อย โครงการอณาสิริประกอบด้วยห้องครัว ห้องรับแขก และโซนรับประทานอาหาร สำหรับห้องหลักอื่น ๆ แตกต่างกันดังนี้
Malmö (N) (มอลโม่) มีพื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน
Vallvik (วัลวิค) มีพื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน
Vallvik+ (วัลวิคพลัส) มีพื้นที่ใช้สอย 153 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน
Donsö (ดอนโซ) มีพื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีห้องอเนกประสงค์ จอดรถได้ 2 คัน

ขึ้นชื่อว่า บ้านหรู แล้วบอกได้เลยว่าการหาบ้านของแสนสิริไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังแน่นอน เพราะแค่ บ้านเดี่ยว ไทรน้อย กับ บ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์ ที่ปักหมุดมานี้เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มของ บ้านจัดสรร คุณภาพส่วนหนึ่งของแสนสิริเท่านั้น ยังมีโครงการอื่น ๆ ของแสนสิริในทำเลงามที่น่าสนใจอีกเพียบ สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่ https://www.sansiri.com/thai/

ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/singlehouse/saransiri-chaiyaphruek-chaengwattana/th/
https://www.sansiri.com/singlehouse/anasiri-chaiyapruek-wongwaen/th/

   ทาวน์โฮมโครงการใหม่ 2565 มีหลากหลายโครงการให้เลือกสรร สำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อ บ้าน ปิ่นเกล้า – บางใหญ่ ที่บรรยากาศภายใน บ้านทาวน์เฮ้าส์ ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ไม่แพ้ บ้านเดี่ยว ปิ่นเกล้า โครงการอื่น ๆ  เรามี 2 โครงการคุณภาพจากแสนสิริมาแนะนำ จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

สิริ เพลส จรัญ-ปิ่นเกล้า
   สิริ เพลส จรัญ-ปิ่นเกล้าเป็น บ้านทาวน์โฮม ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มีความชอบที่หลากหลายและมีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ภายในบ้านเดี่ยว ปิ่นเกล้า จึงมีบริเวณห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ มีช่องแสงธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นภายในบ้าน และรองรับงานอดิเรกที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เพดานบ้าน ทาวน์โฮม ปิ่นเกล้า ยังมีความสูงแบบพิเศษโดยเฉพาะในห้องนอนใหญ่ที่มีความสูงถึง 3.7 เมตร ช่วยให้การสร้างสรรค์พื้นที่ส่วนตัวเป็นไปตามความต้องการได้มากกว่า สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ทาวน์โฮม ปิ่นเกล้า จัดเตรียมไว้ให้แบบครบครันไม่ต่างกับ บ้านเดี่ยว ปิ่นเกล้า ทั้งคลับเฮาส์ท่ามกลางสวนสีเขียวขนาดใหญ่ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกาย สนามเด็กเล่นเสริมทักษะ และระบบรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐาน ที่ตั้งของโครงการอยู่บริเวณถนนหอการค้าไทย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีพื้นที่โครงการรวม 47 ไร่ แบ่งเป็น 413 ยูนิต ประกอบไปด้วยทาวน์โฮม 2 ชั้น บนพื้นที่ใช้สอย 118 และ 133 ตร.ม. อยู่ไม่ไกลจาก รร.อนุบาลเด่นหล้า (7.5 กม.) เซ็นทรัลปิ่นเกล้า (9.3 กม.) รพ.ตา หู คอ จมูก (7.3 กม.) และรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีบางบำหรุ (2.5 กม.) โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.79 ล้านบาท

สิริ เพลส บางใหญ่
   บ้าน ปิ่นเกล้า ที่มาพร้อมกับความแตกต่างตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งถูกออกแบบบ้านให้มีสีสันที่หลากหลาย ภายในบ้านมีห้องอเนกประสงค์ที่รองรับการใช้งานได้มากกว่า มีช่องแสงธรรมชาติที่เพิ่มบรรยากาศอบอุ่นและยังช่วยประหยัดพลังงานได้ในตัว และมีเพดานสูงแบบพิเศษช่วยเพิ่มความรู้สึกโล่งโปร่งสบายตา พื้นที่ใช้สอยมีขนาด 93 - 133 ตร.ม. ภายในประกอบด้วย 2 - 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ด้านหน้าบ้านกว้าง 5.2 - 5.7 เมตร จอดรถได้ 1 - 2 คัน นอกจากนี้พื้นที่ส่วนกลางได้มีการจัดเตรียมไว้ให้พร้อมไม่ต่างจากโครงการ บ้านเดี่ยว ปิ่นเกล้า อื่น ๆ โดยมีทั้งคลับเฮาส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือแยกโซนเด็ก ห้องออกกำลังกายท่ามกลางวิวสวน สนามเด็กเล่นเสริมทักษะ สนามบาสเกตบอล และระบบรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานตลอด 24 ชม. ที่ตั้งของโครงการนี้อยู่บริเวณถนนประชาอุทิศ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ไม่ไกลจากแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต​ (8.5 กม.) รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์​ (12 กม.) รร.กสิณธรเซนต์ปีเตอร์ (12 กม.) และรถไฟฟ้าสายสีม่วง​ สถานีตลาดบางใหญ่​ (8.6 กม.) เป็นต้น โดยราคาเริ่มต้นของ บ้าน ปิ่นเกล้า อยู่ที่ 2.39 - 3 ล้านบาท

   สำหรับใครที่กำลังซื้อบ้านโครงการใหม่ในทำเลปิ่นเกล้า – บางใหญ่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sansiri.com/location/pinklao/

ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/townhome/siri-place-charan-pinklao/th/
https://www.sansiri.com/townhome/siri-place-bangyai/th/

   โดยปกติแล้วก่อนที่จะรับโอน บ้านใหม่ ซึ่งได้ตกลงซื้อไว้เป็นที่เรียบร้อย จำเป็นที่จะต้อง ตรวจบ้านก่อนโอน ให้ละเอียดที่สุด เพื่อให้สบายใจได้ว่า บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ที่ซื้อใหม่ได้ถูกส่งมอบอย่างสมบูรณ์แบบและไม่เกิดปัญหาจุกจิกตามมาให้ต้องซ่อมแซมด้วยเงินในกระเป๋าของเราอีก

   หลายคนเลือกใช้บริการของบริษัทเอกชนใน การตรวจรับบ้าน ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายเป็นหลักพันขึ้นไปใน การตรวจรับบ้าน แต่หากต้องการเซฟงบประมาณที่มีอยู่ก็สามารถใช้ วิธีตรวจรับบ้าน ด้วยตัวเอง โดยใช้แนวทางดังต่อไปนี้

   เปิดลิสต์วิธีการ ตรวจบ้านก่อนโอน  ด้วยตัวเอง
ตรวจเช็กระบบไฟ โดยตรวจเช็กที่สวิตซ์และเต้ารับทุกจุดในบ้านด้วยการใช้เครื่องมือตรวจสอบเบรกเกอร์ตัดไฟรั่วไหลเพื่อทดสอบระบบไฟฟ้าว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่ ทั้งนี้จำเป็นต้องศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือดังกล่าวอย่างละเอียดก่อนเพื่อความปลอดภัยด้วย นอกจากนั้นยังต้องตรวจเช็กมิเตอร์ไฟฟ้าว่ามีการหมุนอยู่ทั้งที่ไม่ได้ใช้งานไฟฟ้าหรือไม่ หากการทำงานของมิเตอร์ผิดปกติจะได้รีบแจ้งกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ขายให้ช่วยจัดการแก้ไขก่อนการรับโอน

ตรวจเช็กระบบน้ำประปา ซึ่งจะต้องตรวจอย่างละเอียดในเรื่องต่อไปนี้

มิเตอร์น้ำ ต้องตรวจเช็กดูว่าระหว่างที่ไม่ได้เปิดน้ำภายในบ้านมิเตอร์หมุนอยู่หรือไม่ หากมิเตอร์ทำงานโดยไม่ได้มีการเปิดใช้น้ำต้องให้ทาง โครงการบ้าน เข้าตรวจสอบแก้ไขก่อน

ภายในห้องน้ำ จะต้องดูแรงดันของน้ำตามก๊อกน้ำและฝักบัวว่าเป็นปกติหรือไม่ นอกจากนั้นยังต้องดูที่การรั่วซึมและระดับความลาดเอียงของพื้นห้องน้ำที่มีผลต่อการระบายน้ำภายในห้องน้ำ หากไม่ได้ระดับที่เหมาะสมจะทำให้เกิดปัญหาน้ำขังหรือท่วมในห้องน้ำได้ ส่วนชักโครกต้องดูว่ามีปัญหาตันหรือมีกลิ่นไม่สะอาดหรือไม่

โซนสำหรับการซักล้าง ควรตรวจดูว่ามีรอยแตกหรือรั่วซึมและช่างได้ต่อท่อไปที่บ่อพักหรือไม่ โดยสังเกตจากการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์หลังราดน้ำ

การตรวจสอบโครงสร้างของ บ้าน และผนัง ต้องมีสภาพที่สมบูรณ์ไม่มีรอยแตกร้าว ซึ่งระหว่าง การตรวจรับบ้าน  หากพบรอยแตกร้าวตามผนังบ้านควรทำสัญลักษณ์ไว้ให้ชัดเจนแล้วรีบแจ้งให้ทางโครงการได้เข้ามาจัดการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน
หลังคาบ้าน สำหรับ วิธีตรวจรับบ้าน ด้วยการเช็กหลังคานั้นจะต้องตรวจสอบให้ดีว่ามีปัญหาน้ำรั่วซึมหรือไม่ โดยใช้การสังเกตบริเวณฝ้าเพดานภายในบ้านว่ามีร่องรอยของน้ำหรือไม่ รวมถึงดูว่ามีรอยน้ำที่พื้นหรือเปล่า

เพดาน ต้องตรวจสอบว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งหากได้มาตรฐานควรจะได้ระดับเท่ากันทั้งห้อง สีที่ทาไว้จะต้องเรียบเนียนไม่มีร่องรอยคราบปูนเลอะเทอะ

พื้น ในกรณีของพื้นที่ทำจากลามิเนตหรือไม้ต้องตรวจดูว่าเรียบได้ระดับเท่ากันทั้งบ้านหรือไม่ พร้อมเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีไม้โก่งหรือบวมขึ้นมา หากเป็นพื้นกระเบื้องจะต้องไม่แตกหรือแอ่น
ช่องเปิดประตูหน้าต่างในบ้าน ต้องตรวจสอบให้ดีว่าบานพับใช้งานได้ตามปกติหรือไม่

บริเวณรอบตัวบ้าน ต้องเช็กว่าไม่มีร่องรอยของพื้นทรุดหรือเป็นหลุมบ่อ

รั้วบ้าน ต้องไม่เป็นสนิมและเปิดปิดได้สะดวกพร้อมต่อการใช้งานได้ทันที

เพราะการ ตรวจบ้านก่อนโอน เป็นเรื่องสำคัญที่คนซื้อบ้านมองข้ามไม่ได้จึงต้องหา วิธีตรวจรับบ้าน ที่สามารถทำได้เองหรือใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางช่วยจัดการให้ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาหลังการโอนรับบ้านหรือคอนโดเรียบร้อยแล้ว  อย่างไรก็ตาม ขอฝากบ้านแถวดอนเมืองสำหรับคนหาบ้านและแบบบ้านจากแสนสิริด้วยล่ะ

ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-รวมลิสต์ตรวจบ้าน-คอนโด-ฉบับด้วยตนเอง-ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม/th   

   การมีเงินทุนสำรองธุรกิจถือเป็นการบริหารความเสี่ยงเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องหยุดชะงักเมื่อเกิดวิกฤต แต่หากธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ยังไม่มีเงินสำรองเพียงพอ การยื่นขอสินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจกับธนาคารจึงเป็นทางออกเพื่อความอยู่รอด วันนี้เราจึงขอมาแนะนำสินเชื่อออนไลน์เพื่อธุรกิจที่สมัครง่ายนำมาใช้เพิ่มสภาพคล่องได้แบบทันท่วงที
   SCB มีสินเชื่อออนไลน์ออกมารองรับกับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะ นั่นก็คือสินเชื่อมณีทันใจที่สมัครสินเชื่อออนไลน์ SCB ได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน    ความโดดเด่นของสินเชื่อมณีทันใจหรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าแม่มณีทันใจเป็นหนึ่งในสินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจแบบออนไลน์ที่สมัครง่ายผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากกับทาง SCB อยู่แล้ว อนุมัติวงเงินให้กู้สูงสุดถึง 300,000 บาท มีอัตราดอกเบี้ยแบบ MRR+10% ต่อปี ในระยะเวลาการผ่อนที่นานถึง 36 เดือน ให้คุณสามารถผ่อนได้สบาย ๆ และยังโปะลดต้นลดดอกได้อีกด้วย ที่สำคัญสมัครง่ายอนุมัติไวใน 5 นาที โดยไม่ต้องใช้หลักฐานและสินทรัพย์ค้ำประกัน ช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าการไปขอสินเชื่อกับธนาคารโดยตรง เท่านี้ธุรกิจของคุณก็จะมีเงินทุนสำรองหมุนเวียนที่สามารถนำไปต่อยอดผลผลิต ทำการตลาดออนไลน์หรือใช้บริหารจัดการวัตถุดิบเพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น หมดปัญหาเรื่องการขาดสภาพคล่องทางธุรกิจไปได้เลย นอกจากนั้นสิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการขอสินเชื่อมณีทันใจยังจะทำให้คุณสามารถช่วงชิงความได้เปรียบในการขายสินค้าและบริการผ่านพาร์ทเนอร์ของ SCB บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Shopee , Shippop , Fastwork และ LnwShop รวมไปถึงแอปพลิเคชันเดลิเวอรีอาหารต่าง ๆ ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายของคุณสร้างผลกำไรตอบแทนได้มากขึ้นกว่าเดิม
   สินเชื่อออนไลน์จึงเป็นทางออกที่ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจขนาดย่อยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินเชื่อแม่มณีทันใจของ SCB ที่ทั้งปลอดภัย สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องมีเอกสารและหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งยังพ่วงมาด้วยสิทธิประโยชน์ที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจของคุณเดินหน้าต่อได้อย่างก้าวกระโดด
ที่มาข้อมูล
-   https://www.scb.co.th/th/sme-banking/articles/business-tips-and-advisory/methods-for-addin-liquidity.html
-   https://www.scb.co.th/th/sme-banking/business-loan/manee-tanjai/tunjai-loan.html
-   https://www.scb.co.th/th/sme-banking/articles/business-tips-and-advisory/trend-loan-5-mins.html




   

        หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของญี่ปุ่น ฝันอยากมีบ้านในสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งโดดเด่นด้วยความมินิมอล มีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่เอกลักษณ์กลับชัดเจน และให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่ผู้อยู่อาศัย ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความทันสมัยเป็นที่ให้เราได้ใช้ชีวิตครอบครัวและมีพื้นที่ส่วนตัวเพื่อทำตาม Passion สิริ เพลส ทาวน์โฮม คลอง 2 ตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี

   ด้วยศักยภาพของพื้นที่ทำให้หลายคนกำลังมองหาบ้านทาวน์โฮม รังสิต ไม่ว่าจะเป็น บ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านทาวน์โฮม หรือ บ้านเดี่ยว รังสิต คลอง 2 ซึ่งมีโครงการคุณภาพจากแสนสิริหลายโครงการเกิดขึ้นบนทำเลใหม่ใจกลางรังสิตแห่งนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นบ้านที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบรับกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย หนึ่งในนั้นคือ สิริ เพลส ทาวน์โฮม คลอง 2 ซึ่งเป็น ทาวน์โฮมโครงการใหม่ 2565 ที่เต็มไปด้วยฟังก์ชันและบรรยากาศสำหรับครอบครัวของคนรุ่นใหม่

   สิริ เพลส รังสิต - คลอง 2 เป็น บ้าน รังสิต รูปแบบทาวน์โฮมแถวรังสิตสไตล์ Modern Japanese  ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่ญี่ปุ่นทุกวันตั้งแต่หน้าโครงการจนถึงตัวบ้าน โดยได้ผสานความทันสมัยเข้ากับความเชื่อของคนญี่ปุ่น เช่น สีของบ้าน ไม่ต้องแปลกใจเมื่อเข้ามาที่โครงการนี้แล้วพบว่าบ้านทาวน์โฮมแต่ละหลังมีสีที่ต่างกัน ซึ่งแต่ละสีที่เลือกใช้เป็นสีมงคลทั้งหมด โดยสีเทา (Hiiro) สื่อถึงความสุข โชคดี ปลอดภัย หากต้องการสีที่สื่อถึงการเริ่มต้นสิ่งใหม่ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ การงาน การเรียน ความรัก และความสำเร็จ ต้องเลือกบ้านสีน้ำตาล (Tobiiro) ส่วนสีเขียว (Midori) หมายถึงสมดังหวัง ต้องการสื่อถึงชัยชนะและความสำเร็จต้องเลือกบ้านสีแดง (Akai) แค่เรื่องสีบ้านก็ทำให้สนุกแล้ว
   สำหรับ สิริ เพลส รังสิต - คลอง 2 มีราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท โดยตัวบ้านมีตั้งแต่ 2 – 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 93 - 128 ตร.ม. ภายในตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นโทนสีสว่างและความเป็นธรรมชาติจึงให้ความรู้สึกที่อบอุ่น ฝ้าเพดานมีความสูงเกือบ 4 เมตร นอกจากทำให้โปร่งสบายแล้วยังเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกมาก มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามแพชชั่นส่วนตัว มีช่องแสงธรรมชาติช่วยเพิ่มความสว่างในบ้านโดยไม่ต้องเปิดไฟทั้งบริเวณบันไดและห้องน้ำ ช่วยประหยัดทั้งไฟ ประหยัดพลังงาน และยังดีต่อสุขอนามัยด้วย แสนสิริใส่ใจบ้านทาวน์โฮมเช่นเดียวกับ บ้านเดี่ยว รังสิต คลอง 2 ด้วยการใช้นวัตกรรมช่วยลดบ้านร้อน เช่น ใช้ UV Shield ซึ่งเป็นสีชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนแสงแดด ลดความร้อนสะสมระหว่างวัน เลือกใช้กระจกเขียวตัดแสง Tinted Glass แทนกระจกใสเพราะลดความร้อนได้มากกว่าจึงเย็นสบายมากขึ้น ติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมช่องเสียบ USB ที่ Master Bedroom และห้องโถงชั้นล่าง เพื่อชาร์จแบตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต่าง ๆ ได้สะดวก พร้อมจุดต่อสัญญาณ Wi-Fi และเดินสาย LAN เรียบร้อย
   พื้นที่ส่วนกลางของ สิริ เพลส ทาวน์โฮม คลอง 2 ให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบอย่างครบครันท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นเดียวกับ บ้านเดี่ยว รังสิต คลอง 2 แต่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นร่วมสมัยที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เนื่องจากการออกแบบบริเวณคลับเฮาส์มีการเลือกใช้สีและองค์ประกอบของอาคารแบบญี่ปุ่น
   เรื่องของทำเลก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน สิริ เพลส รังสิต - คลอง 2 อยู่ใจกลางรังสิตทำให้การเดินทางสะดวกมาก เพราะใกล้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ใกล้สนามบินดอนเมือง และยังอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงอีกด้วย ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ตลาด โรงพยาบาล และสถานศึกษาชื่อดัง เช่น ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ตลาดรังสิต โรงพยาบาลเปาโล รังสิต โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ คลองหลวง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ย่านนี้จึงเหมาะในการอยู่อาศัยมากทีเดียว

   อยู่ บ้าน รังสิต ยังไงให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นทุกวัน...สิริ เพลส รังสิต - คลอง 2 คือคำตอบ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sansiri.com/townhome/siriplace-rangsit-klong-2/th/

ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/townhome/siri-place-rangsit/th/
https://www.sansiri.com/โซน/รังสิต-ปทุมธานี-ลำลูกกา
https://www.sansiri.com/singlehouse/anasiri-rangsit-klong2/th/
https://www.sansiri.com/townhome/siriplace-rangsit-klong-2/th/

แนะนำประกันสุขภาพจาก SCB ทางเลือกดี ๆ ที่เหมาะสำหรับคุณและครอบครัว
   ในสภาพปัจจุบันที่อาการเจ็บป่วยใกล้ตัวเรามากขึ้น หลายคนเริ่มมองหาการดูแลด้านสุขภาพที่ช่วยให้อุ่นใจได้มากขึ้น และหลายคนรู้สึกว่าสวัสดิการด้านสุขภาพซึ่งที่ทำงานจัดให้นั้นอาจไม่เพียงพอต่อการรักษาพยาบาลในปัจจุบัน ด้วยเหตุทั้งหมดนี้เอง ประกันสุขภาพจึงกลายมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และในวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลประกันของ SCB ที่เน้นดูแลสุขภาพทั้งรูปแบบปกติ รวมไปถึงประกันโรคร้าย (เพิ่มเติมที่ : https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/health-insurance/mcci.html ) โดยเราเลือกมาแล้วว่าเป็นแพ็กเกจที่คุณจะทำเองก็ดีหรือจะทำให้สมาชิกในครอบครัวก็ได้เช่นกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันดีกว่าครับ
   ขอเริ่มต้นด้วยประกันสุขภาพแพ็กเกจ "OPD คุ้มครบ จบหายห่วง" มาพร้อมกับจุดเด่น คือ ให้คุณหมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (OPD) หากสังเกตให้ดีแพ็กเกจประกันหลายที่จะกำหนดค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในเป็นแบบรายครั้ง ซึ่งจะกำหนดว่าในหนึ่งปีใช้ได้กี่ครั้งและต่อครั้งใช้ได้ไม่เกินเท่าไร โดยตามปกติแล้วเราจะใช้ไม่ครบจำนวนครั้งที่กำหนด แต่แพ็กเกจนี้ไม่ใช่อย่างนั้นเพราะเป็น OPD แบบเหมาจ่ายรายปี หมายความว่าในการเข้ารักษาครั้งหนึ่งค่ารักษาจะเป็นเท่าไรก็ได้ (ตามวงเงินเหมาจ่ายที่ระบุไว้ในกรมธรรม์) นอกจากนี้การรักษาแบบผู้ป่วยในก็คุ้มครองอย่างเต็มที่ตั้งแต่แพ็กเกจเบี้ยประกันต่ำสุด และยิ่งไปกว่านั้นยังเลือกแผนคุ้มครองทั่วโลกเพื่อให้เป็นประกันภัยเดินทางต่างประเทศได้อีกด้วย ช่วยให้คุณหมดห่วงเรื่องการรักษาพยาบาลไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
   หันมาดูประกันโรคร้ายกันบ้างกับแพ็กเกจ "เคลมคุ้มกลุ่มโรคร้าย" ให้คุณได้อุ่นใจกับการคุ้มครองโรคร้ายถึง 5 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงโรคมะเร็งด้วย แพ็กเกจนี้มีจุดเด่นคือ หากไม่มีการเคลมโรคร้ายตลอดอายุสัญญา คุณจะได้รับเบี้ยประกันที่จ่ายไปคืนเต็มจำนวน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสิทธิ์เคลมโรคร้ายได้หลายครั้งด้วย เรียกว่าเป็นแพ็กเกจประกันโรคร้ายที่คิดมาแล้วเพื่อทุกคน รองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี
   แพ็กเกจสุดท้ายที่เราเลือกมาแนะนำในวันนี้คือประกันโรคมะเร็ง "แผนประกันเพราะห่วงใย คุ้มครองมะเร็ง" มีจุดเด่นคือ ให้ความคุ้มครองโรคมะเร็งด้วยวงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท สำหรับวงเงินขนาดนี้จัดได้ว่าเพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วยมะเร็งตั้งแต่กระบวนการวินิจฉัยโรคไปจนกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการรักษา ที่สำคัญคือ เมื่อใดก็ตามที่คุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลามคุณจะได้รับสิทธิ์หยุดจ่ายเบี้ยประกันโดยยังคงได้รับความคุ้มครองตามแผนประกันที่เลือกไว้ ถือเป็นประกันมะเร็งที่ให้คุณสบายใจเรื่องค่าใช้จ่ายได้อย่างแท้จริง
   ปิดท้ายวันนี้หลายคนอาจรู้สึกว่าแพ็กเกจที่เราแนะนำมีทั้งประกันสุขภาพแบบที่คุ้มครองการรักษาโรคทั่วไป แบบที่คุ้มครองโรคร้าย รวมถึงแพ็กเกจเสริมซึ่งเป็นประกันภัยเดินทางต่างประเทศด้วย ทีนี้จะเลือกประกันแบบไหนดีที่จะเหมาะกับคุณและครอบครัว หากนี่คือสิ่งที่คุณสงสัยขอเชิญคลิกเข้าไปทำแบบทดสอบเบื้องต้นได้ ที่นี่ ครับ ด้วยการตอบคำถามเพียงไม่กี่ข้อคุณก็จะได้ภาพคร่าว ๆ ว่าประกันแบบไหนที่จะเหมาะทั้งกับคุณและคนที่คุณรัก

ที่มาข้อมูล
-   https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/health-insurance/mcci.html
-   https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/health-insurance/cancer-insurance.html
-   https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/health-insurance/questionnaire.html
-   https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/health-insurance/opd-worry-free.html
-   https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/choose-insurance-before-travel-abroad.html

โรคร้ายแรงที่ต้องระวังมีดังนี้

1.มะเร็ง เป็นโรคร้ายอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตผู้ป่วยมากที่สุด ทุกคนมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งและมีระยะเวลารักษายาวนาน มะเร็งไม่ใช่โรคติดต่อ สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในร่างกายทำให้เติบโตเป็นเนื้องอกในอวัยวะต่าง ๆ และลุกลามไปอวัยวะใกล้เคียง หากไม่ทันสังเกตปล่อยให้ลุกลามไปทั่ว กว่าจะรู้ตัวอาจสายเกินไป มะเร็งที่พบมาก ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงมะเร็งในเด็ก แม้อัตราการเกิดมะเร็งในเด็กยังคงต่ำมาก แต่เป็นแล้วรักษาหายยาก ยิ่งต้องเข้ารักษาแบบ ipd คือ ผู้ป่วยในนอนพักในโรงพยาบาลจะใช้เวลาฟื้นร่างกายนานต้องใช้เงินจำนวนมาก หากผู้ป่วยได้ทำ ประกัน มะเร็ง คุ้มครองจากประกันโรคร้ายแรง ไว้จะลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ช่วยให้ตัดสินใจพบแพทย์ได้ตั้งแรกระยะแรกและมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้

2.โรคหัวใจ อายุที่เพิ่มขึ้นมีโอกาสเกิดโรคหัวใจมากขึ้น วิธีการดำเนินชีวิตที่กระทบต่อสุขภาพ ความเครียด กินอาหารไขมันสูง โรคความดันโลหิตสูง ประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตย่อมมีโอกาสเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดอุดตันจากลิ่มเลือดได้เช่นกัน สังเกตสัญญาณเตือนของโรคหัวใจและ ว่ามีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ขาบวมเท้าบวมโดยไม่มีสาเหตุ ริมฝีปาก ปลายนิ้วมือนิ้วเท้าเป็นสีเขียวคล้ำเนื่องจากเลือดไหลเวียนไปไม่สะดวก ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง หากทราบว่าตนเองมีความเสี่ยงแต่ไม่มีการวางแผนทำประกันโรคหัวใจของ scb protect คุ้มครองจากโรคร้ายอาจต้องเจอกับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาที่บานปลายจนแบกรับไม่ไหว

3.โรคร้ายแรงในเด็ก เช่น ไข้หวัดใหญ่, โรคติดเชื้อไวรัส RSV, โรคมือ เท้า ปาก ล้วนเป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือปลายฝนต้นหนาว เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปีหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายและมีอาการรุนแรงทำให้ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ จนถึงขั้นเสียชีวิต สำหรับโรคมือเท้าปากที่ดูไม่รุนแรง แต่มีอาการแทรกซ้อนทำให้เยื่อบุสมองเกิดการอักเสบ แขนขาอ่อนแรงเป็นอัมพาตฉับพลัน มีอาการน้ำท่วมปอดแบบเฉียบพลัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จนถึงภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอและมีโรคประจำตัว เมื่อเจ็บป่วยและเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้มีอาการหนักได้เช่นกัน

อย่างที่รู้กันดีว่าทุกการรักษามีค่าใช้จ่ายยิบย่อย ไม่เฉพาะโรคร้ายที่เกริ่นมาข้างต้นเท่านั้น การรักษาพยาบาลเสียเงินก้อนใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัวส่งผลกระทบต่อการเงินของครอบครัวอย่างฉับพลัน แต่ถ้าวางแผนทำ ประกัน โรค ร้าย  แนะนำให้พิจารณาแผนประกันซึ่งเคลมจ่ายโรคที่ตนเองมีความเสี่ยงสูงจะช่วยบรรเทาความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในหรือ ipd คือ  แผนรักษาที่ต้องแอดมิดเข้านอนในโรงพยาบาล เคลมประกันแบบเหมาจ่ายคุ้มครองไปถึงหลักแสนหรือหลักล้านบาทได้เลย


ที่มาข้อมูล
-https://online.scbprotect.co.th/content/detail?contentId=EF9A4A322DCE48C5B957DB5EBA0110EF
-https://online.scbprotect.co.th/content/detail?contentId=A69418E000234F5F99F7E93C4C9AE78A
-https://www.bumrungrad.com/th/conditions/heart-diseases
-https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/cancer
-https://gettgo.com/blog/medicine-cost

จัดเต็มข้อมูล iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ราคาพร้อมโปรโมชั่นจาก AIS ที่คุณห้ามพลาด
ในช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางค่ายโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ได้เปิดตัว iPhone 5G (เพิ่มเติมที่ : https://www.ais.th/iphone/ ) คือ iPhone 13 ออกมาอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะรุ่น iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อย เพราะราคาไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่สเปกที่มองเผิน ๆ อาจดูไม่ต่างกันมากนักแต่หากพิจารณาแบบเจาะลึกแล้วจะมีความแตกต่างกันมากอยู่พอสมควร ทำให้หลาย ๆ คนเกิดข้อสงสัยว่าควรเลือกซื้อเป็นรุ่นไหนดี เราจึงได้รวบรวมทั้งข้อมูลและโปรโมชั่นแบบจัดเต็มมาให้คุณในบทความนี้เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อรุ่นที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
ความแตกต่างของ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro
1.   สีสันที่มีให้เลือก
สำหรับรุ่นนี้จะมีสีใหม่ ๆ ให้เลือกทั้งคู่ โดย iPhone 13 จะมีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สตาร์ไลท์, มิดไนท์, น้ำเงิน, ชมพู (สีใหม่) และสีแดง ส่วน iPhone 13 Pro จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ เงิน, กราไฟต์, ทอง, เซียร์ร่าบลู (สีใหม่)
2.   จอภาพ
ทั้งคู่มีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้วเท่ากัน มีรอยบากบนหน้าจอเล็กกว่ารุ่นก่อน ๆ เหมือนกัน แต่จะต่างตรงที่รุ่น Pro มีหน้าจอแบบ Promotion สามารถปรับค่า Refresh Rate ได้สูงสุดอยู่ที่ 120 Hz รวมทั้งความสว่างสูงสุดของหน้าจอที่มากกว่า ทำให้คุณสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล สบายตา แม้จะเล่นมือถืออยู่กลางแจ้ง
3.   ชิปเดียวกัน แต่ความจุต่างกันมาก
ทั้ง 2 รุ่นนี้ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้ชิปประมวลผล A15 Bionic ที่มี CPU 6-core ซึ่งแบ่งเป็นคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ โดยชิปตัวนี้เป็นชิปที่เร็วแรงที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟน ส่วนในเรื่องความจุของรุ่น Pro จะมีให้เลือกเยอะมากกว่า โดยจะใช้ GPU แบบ 5-core และมีความจุให้เลือกสูงสุดอยู่ที่ 1T ในขณะที่ iPhone 13 จะใช้ GPU แบบ 4-core และมีความจุให้เลือกสูงสุดเพียงแค่ 512 GB เท่านั้น ทำให้ iPhone 13 Pro สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างจุใจมากกว่า
4.   กล้อง
หากมองจากภายนอกจะเห็นได้อย่างชัดเจนในเรื่องของจำนวนกล้องหลัง เพราะ iPhone 13 จะมีกล้องหลังทั้งหมด 2 ตัว คือ เลนส์ไวด์และเลนส์ Ultra Wide ที่ถูกดีไซน์มาให้อยู่ในแนวทแยง ส่วนในรุ่น Pro จะมีกล้องหลังอยู่ทั้งหมด 3 ตัว คือ เลนส์ไวด์, เลนส์ Ultra Wide และเลนส์ Telephoto ที่ถูกดีไซน์มาให้เหมือนกับทั้ง iPhone 13 Pro Max รวมถึงรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง iPhone 12 Pro & Pro Max
5.   ราคา
- iPhone 13 Mini ราคา 25,900 บาท (128 GB)/ 29,900 บาท (256 GB)/ 37,900 บาท (512 GB)
- iPhone 13 ราคา 29,900 บาท (128 GB)/ 33,900 บาท (256 GB)/ 41,900 บาท (512 GB)
- iPhone 13 Pro ราคา 38,900 บาท (128 GB)/ 42,900 บาท (256 GB)/ 50,900 บาท (512 GB)/ 58,900 บาท (1TB)
- iPhone 13 Pro Max ราคา 42,900 บาท (128 GB)/ 46,900 บาท (256 GB)/ 54,900 บาท (512 GB)/ 62,900 บาท (1TB)
จะเห็นได้ว่า iPhone 13 เครื่องเปล่า (เพิ่มเติมที่ : https://www.ais.th/iphone/ ) ราคาจะไม่ค่อยแตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ มากนัก ส่วน iPhone 13 Pro ราคาค่อนข้างกระโดดมากในความจุ 1T และราคาทั้งหมดนี้เป็นราคาเครื่องเปล่า แต่ถ้าคุณใช้โปรโมชั่น iPhone 13 ของค่ายมือถืออย่าง AIS คุณสามารถเลือกติดสัญญาได้ทั้งแบบ 12 เดือน หรือ 24 เดือน แล้วจะได้ส่วนลดค่าเครื่องลงไปอีกสูงสุดเกือบ 10,000 บาท โดยส่วนลดค่าเครื่องที่จะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับสัญญาที่คุณเลือก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการเปรียบเทียบข้อมูลของ iPhone 13 กับ iPhone 13 Pro แบบจัดเต็ม ซึ่งสเปกในรุ่น Pro ที่เหนือกว่า เช่น กล้อง ความจุ จอภาพ ฯลฯ ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้น แต่ถ้าคุณใช้โปรโมชั่น iPhone 13 ของเครือข่ายมือถืออย่าง AIS ที่มีให้ครอบคลุมทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน คุณก็จะได้ส่วนลดราคาตัวเครื่องที่ถูกลง แถมยังได้อินเทอร์เน็ตมาใช้ได้อย่างจุใจอีกด้วย

ที่มาข้อมูล
-   https://www.ais.th/apple/iphone-13-pro/
-   https://www.ais.th/apple/iphone-13/
-   https://www.apple.com/th/iphone/compare/?modelList=iphone13,iphone13pro

   ถ้าคุณต้องการความคุ้มค่าจากการรับแพ็คเกจหรือโปรโมชั่นสุดคุ้มของ iPhone รุ่น 13 แนะนำ AIS ผู้ให้บริการที่จัดเต็มโปรโมชั่น iPhone ของรุ่น 13 ในแต่ละสเปกที่ให้ความคุ้มค่ากับผู้ซื้ออย่างแน่นอน โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ คือ
1.โปรโมชั่น iPhone 13 (มีมาให้เลือก 5 สี คือ สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีดำ Midnight, สีขาวสตาร์ไลท์ และสีแดง Product  Red) มีโปรโมชั่นสำหรับแพ็กเกจอายุใช้งาน 12 เดือนขึ้นไป คือ
•   ขนาด 128GB ราคาเริ่มต้น 20,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 21,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499  บาท, ราคา 22,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท, ราคา 25,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 256GB ราคาเริ่มต้น 24,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 25,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499  บาท, ราคา 26,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 29,900 บาท แพ็กเกจต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 512GB ราคาเริ่มต้น 32,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 33,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499  บาท, ราคา 34,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 37,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
2. โปรโมชั่น iPhone 13 Pro ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 38,900 มี 4 สีให้เลือก คือ สีเซียร์ร่าบลู, สีเงิน, สีทอง และสีดำกราไฟต์ มาพร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ คือ
•   ขนาด 128GB ราคาเริ่มต้น 29,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 30,400 แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 31,900 แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 34,900 แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 256GB ราคาเริ่มต้น 33,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 34,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 35,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 38,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 512GB ราคาเริ่มต้น 41,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 42,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 43,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาทและราคา 46,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 1TB ราคาเริ่มต้น 49,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 50,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499  บาท, ราคา 51,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 54,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
3.โปรโมชั่นรุ่น 13 Pro Max มาพร้อมราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้น 42,900 บาท มี 4 สีให้เลือก คือ สีเซียร์ร่าบลู, สีเงิน, สีทอง และสีดำกราไฟต์ โดยมีโปรโมชั่นสัญญา 12 เดือนที่น่าสนใจ คือ
•   ขนาด 128GB ราคาเริ่มต้น 33,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 34,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 35,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 38,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 256GB ราคาเริ่มต้น 37,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 38,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 39,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 42,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 512GB ราคาเริ่มต้น 45,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 46,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 47,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 50,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 1TB ราคาเริ่มต้น 53,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 54,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499  บาท, ราคา 55,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 58,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
4. โปรโมชั่น iPhone 13 Mini จาก AIS มาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท แบบเครื่องเปล่า มี 5 สีให้เลือก คือ สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีดำ Midnight, สีขาวสตาร์ไลท์ และสีแดง Product Red โปรโมชั่นเครื่องติดแพ็กเกจ 12 เดือนขึ้นไป จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจ คือ
•   ขนาด 128GB ราคาเริ่มต้น 16,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 17,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 18,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 21,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 256GB ราคาเริ่มต้น 20,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 21,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 22,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 25,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
•   ขนาด 512GB ราคาเริ่มต้น 28,400 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท, ราคา 29,000 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท, ราคา 30,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 33,900 บาท แพ็กเกจขั้นต่ำ 699 บาท
โปรโมชั่น iPhone 13 ในทุกสเปกยังคงมีอีกหลายโปรโมชั่น โดยที่นำมาให้ข้อมูลนี้เป็นสัญญา 12 เดือนของลูกค้ารายเดือนเก่า โดย AIS ยังคงมีโปรโมชั่นสุดคุ้มของทั้งสมาชิกพิเศษ Serenade, โปรสัญญา 24 เดือนของลูกค้าเก่า, ผู้ใช้งานอายุ 3 เดือนขึ้นไปแบบไม่ติดสัญญาและโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือนหรือการเปิดเบอร์ใหม่ ที่ให้ส่วนลดสูงสุดถึง 18,000 บาท
ที่มาข้อมูล
-   https://specphone.com/web/compair-iphone-12-and-iphone-12-pro/311827
-   https://www.ais.th/apple/iphone-13-mini/
-   https://specphone.com/web/compare-spec-iphone-13-pro-vs-iphone-13/323180#h4

เหล่าคนรักกาแฟทราบดีว่ากาแฟสดช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับผู้ดื่มได้ดีแค่ไหน การจิบกาแฟสดรสชาติถูกใจช่วยสร้างอีกหนึ่งโมเมนต์ดี ๆ ของวันได้เลยทีเดียว แต่ด้วยข้อจำกัดในบางวัน บางสถานที่ และบางเวลาการค้นหากาแฟที่ถูกใจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
จะดีแค่ไหนหากเรามีเครื่องชงกาแฟสดไว้ที่บ้านหรือที่สำนักงาน แต่การชงกาแฟด้วยวิธียาก ๆ แบบบาริสต้าไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่าย ๆ รวมถึงราคาของเครื่องชงกาแฟที่มีมูลค่าสูงถึงหลักหมื่นหลักแสน การชงกาแฟรสเลิศด้วยตัวเองที่บ้านหรือสำนักงานจึงกลายเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเลิกคิด แต่หากได้รู้จักเครื่องกาแฟแคปซูลจาก Nespresso ซึ่งมาพร้อมวิธีใช้เครื่องชงกาแฟสุดง่าย ใช้เวลาน้อย และเป็นเจ้าของได้ในราคาหลักพัน เชื่อว่าหลายคนที่ล้มเลิกความคิดนี้ไปจะต้องหยิบความคิดนี้กลับมาปัดฝุ่นใหม่อย่างแน่นอน
แนะนำเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลจาก Nespresso
•   Essenza Mini เครื่องชงกาแฟขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ราคาสุดประหยัด เพียง 4,500 บาท เติมน้ำ 1 แท็งก์ สามารถชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (40 มล.) ได้ 15 แก้ว ลุงโก (110 มล.) ได้ 5 แก้ว หรือจะเลือกเครื่อง Essenza Mini Bundle สำหรับทำเมนูกาแฟนมได้
•   Inissia เครื่องชงขนาดใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งระดับ ราคาขยับขึ้นมาเป็น 5,500 บาท เติมน้ำ 1 แท็งก์ สามารถชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (40 มล.) ได้ 17 แก้ว ลุงโก (110 มล.) ได้ 6 แก้ว หรือจะเลือกเครื่อง Inissia Bundle สำหรับทำเมนูกาแฟนมได้เช่นเดียวกัน
•   Pixie เครื่องชงที่ตอบโจทย์ความทนทานและมีดีไซน์ที่สวยงาม มาพร้อมราคาเบา ๆ เพียง 6,500 บาท เติมน้ำ 1 แท็งก์ ชงกาแฟได้ปริมาณเท่ากับรุ่น Inissia และแน่นอนว่าหากต้องการทำเมนูกาแฟนมสามารถเลือกเครื่อง Pixie Bundle ได้
วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ Nespresso
นอกจากเครื่องชงกาแฟและมีน้ำสะอาดเต็มแท็งก์แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือแคปซูลกาแฟ ซึ่งแคปซูลกาแฟของ Nespresso มีให้เลือกมากกว่า 30 รสชาติด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น STOCKHOLM FORTISSIO LUNGO แคปซูลกาแฟที่ให้ความหอมมันและเข้มข้นจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าตามแบบฉบับของกาแฟจากโตเกียว เมื่อเลือกแคปซูลกาแฟและเมนูที่โปรดปรานได้แล้วเริ่มชงกาแฟด้วยเครื่องชงจาก Nespresso กันได้เลย
1.   เติมน้ำในแท็งก์แล้วเสียบปลั๊ก กดปุ่มเปิดเครื่อง รอสัญญาณไฟนิ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเครื่องพร้อมใช้งานเรียบร้อยแล้ว
2.   เปิดฝาเครื่องเพื่อใส่แคปซูลกาแฟลงไป วางถ้วยกาแฟในตำแหน่งที่เครื่องกำหนดไว้แล้วกดปุ่มให้เครื่องทำงาน
3.   รอเพียงไม่กี่นาทีกาแฟแก้วโปรดพร้อมเสิร์ฟได้ทันที แต่หากต้องการชงกาแฟเย็นเมื่อได้กาแฟจากเครื่องแล้วแนะนำให้รินน้ำเย็นลงไปผสมเล็กน้อยจากนั้นเทกาแฟใส่แก้วที่มีน้ำแข็งอยู่เต็ม เพียงเท่านี้จะได้ลิ้มรสกาแฟรสชาติกลมกล่อมที่ให้ความสดชื่นแล้ว
นวัตกรรมใหม่ ๆ ช่วยให้คนรักกาแฟได้มีโอกาสลิ้มรสกาแฟเมนูโปรดได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่สำนักงาน หากรู้วิธีใช้เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลจะได้จิบกาแฟในทุกเวลาที่ต้องการราวกับมีบาริสต้าส่วนตัวอยู่ที่บ้านหรือที่สำนักงาน ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องชงกาแฟนวัตกรรมใหม่ใช้ง่ายสุดสะดวกนี้ยังสามารถมอบเป็นของขวัญเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าหรือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพได้ดีอีกด้วย 

ที่มาข้อมูล
-   https://www.nespresso.com/th/th/machinelistblock
-   https://www.nespresso.com/th/th/aeroccino-accessories-collection
-   https://www.wongnai.com/news/nespresso-coffee-machine
-   https://www.sanook.com/home/23321/
-   https://www.nespresso.com/th/th/iced-coffee
-   https://www.nespresso.com/th/th/espresso-coffee
-   https://www.sanook.com/home/19177/

   มีโครงการบ้านเดี่ยว ขอนแก่นของแสนสิริไว้หลายโครงการ ซึ่งโครงการบ้านจัดสรรของค่ายแสนสิริที่ถือว่ามาแรงมากในจังหวัดขอนแก่นขณะนี้ ได้แก่

บุราสิริ บึงหนองโคตร เป็น โครงการบ้านเดี่ยว บรรยากาศรีสอร์ทริมทะเลสาบที่โดดเด่นด้วยความร่วมสมัยอย่างเรียบง่ายผสมผสานไปกับเอกลักษณ์ท้องถิ่น ท่ามกลางแมกไม้ใหญ่ให้บรรยากาศเหมือนการพักผ่อนในรีสอร์ททุกวัน บ้านเดี่ยว ขอนแก่น โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ใกล้กับสนามบินขอนแก่นและสถานีรถไฟขอนแก่น เป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น, ตลาดต้นตาลและสวนสุขภาพบึงหนองโคตร ก็อยู่ไม่ห่างจาก บ้านจัดสรร ขอนแก่น โครงการนี้ ทั้งยังมีสถานพยาบาลอยู่ใกล้ ๆ อีกหลายแห่งทั้ง รพ.กรุงเทพขอนแก่น และรพ.ขอนแก่นราม นอกจากทำเลศักยภาพแล้วต้องถือว่า บ้าน ขอนแก่น โครงการนี้ โดดเด่นในเรื่องการใช้นวัตกรรมทันสมัยเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะนวัตกรรมบ้านเย็น (Cooliving Designed Home) และนวัตกรรม Smart Home พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ทันสมัย ครบครันสำหรับการพักผ่อนตามสไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งอาคารคลับเฮ้าส์หรู, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนพักผ่อนส่วนกลาง สำหรับแบบ บ้าน เดี่ยว 2 ชั้นในโครงการนี้มี 2 สไตล์ให้เลือกด้วยขนาดพื้นที่ 149-170 ตารางเมตร ส่วนราคาเริ่มต้นของ บ้านเดี่ยว ขอนแก่น โครงการนี้อยู่ที่ 5.89 ล้านบาท

อณาสิริ มะลิวัลย์ เป็นโครงการ ทาวน์โฮม ขอนแก่น ที่มี โครงการบ้าน เดี่ยว และ โครงการทาวน์โฮม (townhome) รวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันด้วย โดยตั้งอยู่บน ถ.มะลิวัลย์ ใกล้กับสนามบินขอนแก่น, ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น และยังใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่นด้วย นอกจากทำเลที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังต้องถือว่าจุดเด่นที่สำคัญของ ทาวน์โฮม ขอนแก่น โครงการนี้อยู่ที่การออกแบบพื้นที่ภายในบ้านซึ่งทำได้อย่างดีพร้อมมีฟังก์ชันพิเศษเพื่อให้ความเย็นสบาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีสะท้อนแสงแดดที่ช่วยลดการสะสมของความร้อนระหว่างวัน, มีช่องแสง Skylight เพื่อเพิ่มความสว่างตรงจุดอับแสง รวมทั้งยังมีสิ่งแวดล้อมสังคมและ Facility ส่วนกลางที่ครบครัน ยิ่งไปกว่านั้น ทาวน์โฮม ขอนแก่น โครงการอณาสิริ ยังออกแบบโดยเน้นพื้นที่ห้องนอนให้โปร่งโล่ง เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ซึ่งทำให้เป็นจุดเด่นที่แตกต่างไปจากบ้านแบบ ทาวน์เฮ้าส์ ทั่วไป ที่สำคัญยังใช้เทคโนโลยีทันสมัยคือระบบ Home Automation ตามแบบฉบับของ บ้านใหม่ เพื่อให้ผู้พักอาศัยใน บ้านจัดสรร ขอนแก่น โครงการนี้ สามารถจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับบ้านได้ด้วยปลายนิ้ว สำหรับ บ้านแถวขอนแก่น โครงการอณาสิริแห่งนี้ มีแบบให้เลือกอย่างหลากหลาย ได้แก่

townhouse 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย ระหว่าง 93-133 ตารางเมตร
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย ระหว่าง 125-156 ตารางเมตร
บ้านแฝด 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย ระหว่าง 134 ตารางเมตร
สำหรับราคาของ บ้านจัดสรร ขอนแก่น โครงการอณาสิริ มะลิวัลย์แห่งนี้ อยู่ที่ 2.29-6 ล้านบาท

ค่ายแสนสิริ ยืนหนึ่งในเรื่องบ้านทันสมัยพร้อมนวัตกรรมเด่นและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งมีถึง 2 โครงการให้เลือกแบบนี้ ใครกำลังมองหาบ้านที่อยู่สบาย ทำเลดี ราคาคุ้มค่า ต้องไม่พลาดแวะชม 2 โครงการนี้ก่อนตัดสินใจหาบ้าน (เพิ่มเติม: https://udon108.com/index.php?topic=191982.0) และซื้อบ้าน

ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/singlehouse/burasiri-buengnongkot-khonkaen/th/
https://www.sansiri.com/singlehouse/anasiri-maliwan/th/

        ปัจจุบันมีความต้องการที่พักอาศัยในย่านชานเมืองกันมากขึ้น โดยเฉพาะในโซนที่เดินทางสะดวก ใกล้กับแหล่งอำนวยความสะดวก รวมถึงแหล่งไลฟ์สไตล์สำหรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่
   ย่านพระราม 2 เป็นโซนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี และยังเป็นโซนที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางออกสู่จังหวัดในภาคตะวันตกและภาคใต้ได้อย่างสะดวกอีกด้วย นั่นจึงทำให้มี โครงการบ้านจัดสรร เปิดตัวเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการ ซื้อบ้าน ในย่านพระราม 2 มากมายหลายโครงการ ทั้งที่เป็น โครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านทาวน์โฮมพร้อมอยู่

   ใครที่กำลังมองหา บ้าน พระราม 2 สไตล์โมเดิร์นบนทำเลศักยภาพ ขอแนะนำโครงการบ้านเดี่ยว น่าอยู่จากค่ายแสนสิริที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในขณะนี้  ได้แก่
บุราสิริ พระราม 2 
เป็นโครงการ บ้านเดี่ยว พระราม 2 ที่มาในสไตล์ บ้านหรู ให้บรรยากาศพักผ่อนแบบรีสอร์ท ใกล้กับจุดขึ้นลงทางพิเศษกาญจนาภิเษก เซ็นทรัล พระราม 2 โรงเรียนนานาชาติ BASIS International School Bangkok และยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนครธนอีกด้วย
 บ้าน โครงการ นี้มีจุดเด่นที่ฟังก์ชันพิเศษ “Sanctuary Space” แบบ Semi-Outdoor เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับใช้งานพื้นที่ภายในบ้านอย่างเป็นส่วนตัว หรือเปิดรับกับธรรมชาติร่มรื่นจากสวนในบ้าน
บ้านเดี่ยว พระราม 2  โครงการบุราสิริแห่งนี้ยังได้นำนวัตกรรมบ้านเย็นและเทคโนโลยีสำหรับควบคุมคุณภาพอากาศในบ้านมาช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้พักอาศัย ทั้งยังคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่พักอาศัยด้วยการเลือกใช้วัสดุปูพื้นแบบ Soft Floor เพื่อลดแรงกระแทกหากมีอุบัติเหตุพลัดตกหกล้มด้วย
นอกจากนี้ บ้านโครงการใหม่ 2565 ของค่ายแสนสิริโครงการนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโครงการได้จัดไว้ให้อย่างครบครัน ทั้งคลับเฮาส์หรู สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ Co-Working Space รองรับการทำงานของคนรุ่นใหม่ สวนส่วนกลางที่มาพร้อมสวนหินสำหรับการนวดเท้า ลู่วิ่งท่ามกลางธรรมชาติ และสนามเด็กเล่นเสริมพัฒนาการ
สำหรับสไตล์ของ บ้าน พระราม 2 โครงการบุราสิริ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีให้เลือก 2 สไตล์ ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน บนขนาดพื้นที่ใช้สอย 167 – 227 ตร.ม.  โดย บ้านเดี่ยว พระราม 2 โครงการนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 7.59 - 15 ล้านบาท

 ส่วนใครที่มอง หาบ้าน ในสไตล์ทาวน์เฮาส์หรือ บ้านทาวน์โฮม ในย่านนี้ ขอแนะนำ ทาวน์โฮม พระราม 2 จากค่ายแสนสิริ ได้แก่
สิริ เพลส เพชรเกษมสาย 4
ซึ่งอยู่ในซอยพุทธสาคร 3 ใกล้จุดตัดระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนเพชรเกษม ถือเป็นโซนพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง บริเวณรอบโครงการ ทาวน์โฮม พระราม 2 แห่งนี้ยังมีแหล่งจับจ่ายมากมาย ทั้งที่เป็นตลาดสด ตลาดนัด คอมมูนิตี้มอลล์ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า เช่น ตลาดภู่ยอดยิ่ง ตลาดนัดแสนสุข เดอะมอลล์ บางแค ซีคอน สแควร์ บางแค ทั้งยังมีสถาบันการศึกษาและสถานพยาบาลอยู่ใกล้ ๆ โครงการอีกด้วย เช่น มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ธนบุรี โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ และโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย

สำหรับ ทาวน์โฮมโครงการใหม่ 2565 แห่งนี้ถูกออกแบบให้เป็นบ้านทาวน์โฮม (เพิ่มเติม: https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_6882019) สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างจุใจ โดย บ้านใหม่พร้อมอยู่ ของแสนสิริแห่งนี้ได้ดีไซน์การใช้พื้นที่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ด้วยห้องอเนกประสงค์ที่อยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้อย่างหลากหลาย ทั้งยังให้บรรยากาศคล้ายกับการพักอาศัยในบ้านเดี่ยว นอกจากนี้ บ้าน พระราม 2 โครงการสิริเพลสแห่งนี้ยังมีจุดเด่นที่ห้องนอนใหญ่ซึ่งถูกออกแบบให้มีเพดานสูงโปร่งจึงทำให้อากาศถ่ายเทสะดวกและได้ความรู้สึกโล่งสบาย ทั้งยังมีช่องแสงธรรมชาติใต้บันไดให้แสงสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟฟ้าอีกด้วย
สิริ เพลส เพชรเกษมสาย 4 เป็น บ้านทาวน์เฮ้าส์  2 ชั้น มี 2 รูปแบบ ขนาด 2 และ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 1 – 2 คัน บนพื้นที่ใช้สอย 93 - 118 ตร.ม. โดย โครงการบ้านใหม่ 2565 โครงการนี้มีราคาอยู่ที่ 2.39 - 3.89 ล้านบาท และที่พิเศษสุดคือแสนสิริได้จัดโปรพิเศษให้กับผู้ที่สนใจซื้อ บ้านใหม่ ในโครงการนี้ด้วยการเสนอส่วนลดพิเศษสูงสุด 100,000 บาท ผ่อนเพียง 6,000 บาทต่อเดือน นาน 2 ปีอีกด้วย

ในโซนพระราม 2 ยังมีโครงการ บ้านจัดสรร และ ทาวน์โฮม พระราม 2 จากค่ายแสนสิริที่น่าสนใจอีกหลากหลายโครงการให้เลือก โดยสามารถดูรายละเอียดของโครงการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.sansiri.com

 ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/singlehouse/burasiri-rama2/th/
https://www.sansiri.com/townhome/siri-place-phetkasem-sai4/th

เปิดสูตรลับวิธีใช้เครื่องชงกาแฟแบบง่าย ๆ  แต่ได้จิบกาแฟรสเลิศ
เมื่อสังเกตจากจำนวนร้านกาแฟที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน อาจพูดได้ว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งกาแฟสด แต่เมื่อคนรักกาแฟต้องการจิบกาแฟรสเลิศในบ้านหรือที่ทำงาน เราจำเป็นต้องสั่งกาแฟมาจากร้านกาแฟเหล่านั้นเพียงอย่างเดียวหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่จำเป็น” เพราะหากคุณรู้วิธีใช้เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลการจิบกาแฟรสเลิศจะกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวคุณทันที เพราะเครื่องชงกาแฟจาก (เพิ่มเติมที่ : https://www.nespresso.com/th/th/order/machines ) Nespresso ถือเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อคนรักกาแฟอย่างแท้จริง การกดปุ่มเครื่องชงกาแฟเพียง 2 ปุ่ม ใช้เวลาน้อยกว่า 4 นาที ก็ได้จิบกาแฟสดรสดีกลิ่นหอมกรุ่นเหมือนกับมีบาริสต้าส่วนตัวที่บ้าน แค่เพียงรู้วิธีใช้เครื่องชงกาแฟซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและไม่ยุ่งยาก
วิธีใช้เครื่องชงกาแฟแคปซูลมีดังนี้
ขอยกตัวอย่างการใช้งานเครื่องชงกาแฟสด Nespresso รุ่นกะทัดรัด ราคาสุดประหยัด นั่นคือ Essenza Mini ซึ่งมี 4 สีให้เลือก ได้แก่ แดง เขียว ดำ ขาว เป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง 4,500 บาท
1.   เติมน้ำสะอาดลงในแท็งก์น้ำด้านหลังเครื่อง เช็ดมือให้แห้ง เสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มเปิดเครื่อง รอจนสัญลักษณ์ไฟหยุดนิ่งเป็นการแสดงสถานะพร้อมทำงาน
2.   เปิดฝาด้านบนเครื่องขึ้นเพื่อใส่แคปซูลกาแฟลงไป จากนั้นวางถ้วยกาแฟตามขนาดที่กำหนด เช่น หากต้องการชงกาแฟเอสเพรสโซ่ควรวางถ้วยกาแฟขนาด 40 มล. หรือหากต้องการชงกาแฟลุงโกควรใช้ถ้วยกาแฟขนาด 110 มล.
3.   กดปุ่มให้เครื่องทำงาน รอไม่กี่นาทีจะได้จิบกาแฟรสเลิศแล้ว
4.   ในกรณีต้องการดื่มกาแฟเย็น ยกตัวอย่างเช่น กาแฟอเมริกาโน่เย็นวิธีใช้เครื่องชงกาแฟเหมือนกับข้อ 1 - 3 แต่แนะนำให้เลือกใช้แคปซูลกาแฟ Kazaar หรือ Dharkan ลงไปแทน เมื่อได้กาแฟแล้วนำไปผสมน้ำเย็นเล็กน้อยจากนั้นรินลงในแก้วที่บรรจุน้ำแข็งต่อได้เลย เรียกความสดชื่นได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ
นอกจากวิธีใช้เครื่องชงกาแฟจะง่ายแบบสุด ๆ แล้ว เครื่องชงกาแฟแบบนี้ยังสามารถใช้ได้กับแคปซูลกาแฟจำนวนมากกว่า 30 รสชาติ ยิ่งได้จับคู่กับเครื่องทำฟองนม Aeroccino 3 ที่สามารถทำฟองนมแบบร้อนและแบบเย็นได้ในเวลาไม่กี่นาทีจะยิ่งช่วยให้การชงกาแฟสดด้วยตัวเองที่บ้านหรือที่สำนักงานกลายเป็นเรื่องสนุกในทุก ๆ วัน
อย่างไรก็ตามการเลือกเครื่องชงกาแฟควรเริ่มจากการกำหนดเมนูกาแฟที่ต้องการดื่มและปริมาณที่ต้องการชงต่อวันก่อน จากนั้นจึงเลือกเครื่องชงกาแฟที่สามารถชงกาแฟเมนูดังกล่าวได้ เช่น Essenza Mini เป็นรุ่นกะทัดรัดและราคาประหยัดสุดก็จริง แต่น้ำ 1 แท็งก์ สามารถใช้ชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (40มล.) ได้ 15 แก้ว และชงกาแฟลุงโก (110 มล.) ได้ 5 แก้ว ต่างกับ Inissia ที่น้ำ 1 แท็งก์ สามารถใช้ชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (40มล.) ได้มากถึง 17 แก้ว และใช้ชงกาแฟลุงโก (110 มล.) ได้ 6 แก้ว เมื่อเลือกเครื่องชงกาแฟได้แล้วก็ถึงเวลาดื่มด่ำกับเมนูกาแฟถ้วยโปรดกับแคปซูลกาแฟกว่า 30 แบบจาก Nespresso ซึ่งจะช่วยให้ทุกวันของคุณมีความกระปรี้กระเปร่าและรู้สึกสดชื่นกว่าที่เคย
ที่มาข้อมูล
-   https://www.nespresso.com/th/th/machinelistblock
-   https://www.nespresso.com/th/th/aeroccino-accessories-collection
-   https://www.wongnai.com/news/nespresso-coffee-machine
-   https://www.sanook.com/home/23321/
-   https://www.nespresso.com/th/th/iced-coffee
-   https://www.nespresso.com/th/th/espresso-coffee
-   https://www.sanook.com/home/19177/

บุราสิริ บึงหนองโคตร เป็น โครงการบ้านเดี่ยว บรรยากาศรีสอร์ทริมทะเลสาบที่โดดเด่นด้วยความร่วมสมัยอย่างเรียบง่ายผสมผสานไปกับเอกลักษณ์ท้องถิ่น ท่ามกลางแมกไม้ใหญ่ให้บรรยากาศเหมือนการพักผ่อนในรีสอร์ททุกวัน บ้านเดี่ยว ขอนแก่น โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ใกล้กับสนามบินขอนแก่นและสถานีรถไฟขอนแก่น เป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น, ตลาดต้นตาลและสวนสุขภาพบึงหนองโคตร ก็อยู่ไม่ห่างจาก บ้านจัดสรร ขอนแก่น โครงการนี้ ทั้งยังมีสถานพยาบาลอยู่ใกล้ ๆ อีกหลายแห่งทั้ง รพ.กรุงเทพขอนแก่น และรพ.ขอนแก่นราม นอกจากทำเลศักยภาพแล้วต้องถือว่า บ้าน ขอนแก่น โครงการนี้ โดดเด่นในเรื่องการใช้นวัตกรรมทันสมัยเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะนวัตกรรมบ้านเย็น (Cooliving Designed Home) และนวัตกรรม Smart Home พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ทันสมัย ครบครันสำหรับการพักผ่อนตามสไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งอาคารคลับเฮ้าส์หรู, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนพักผ่อนส่วนกลาง สำหรับแบบ บ้าน เดี่ยว 2 ชั้นในโครงการนี้มี 2 สไตล์ให้เลือกด้วยขนาดพื้นที่ 149-170 ตารางเมตร ส่วนราคาเริ่มต้นของ บ้านเดี่ยว ขอนแก่น โครงการนี้อยู่ที่ 5.89 ล้านบาท

อณาสิริ มะลิวัลย์ เป็นโครงการ ทาวน์โฮม ขอนแก่น ที่มี โครงการบ้าน เดี่ยว และ โครงการทาวน์โฮม (townhome) รวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันด้วย โดยตั้งอยู่บน ถ.มะลิวัลย์ ใกล้กับสนามบินขอนแก่น, ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น และยังใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่นด้วย นอกจากทำเลที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังต้องถือว่าจุดเด่นที่สำคัญของ ทาวน์โฮม ขอนแก่น โครงการนี้อยู่ที่การออกแบบพื้นที่ภายในบ้านซึ่งทำได้อย่างดีพร้อมมีฟังก์ชันพิเศษเพื่อให้ความเย็นสบาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีสะท้อนแสงแดดที่ช่วยลดการสะสมของความร้อนระหว่างวัน, มีช่องแสง Skylight เพื่อเพิ่มความสว่างตรงจุดอับแสง รวมทั้งยังมีสิ่งแวดล้อมสังคมและ Facility ส่วนกลางที่ครบครัน ยิ่งไปกว่านั้น ทาวน์โฮม ขอนแก่น โครงการอณาสิริ ยังออกแบบโดยเน้นพื้นที่ห้องนอนให้โปร่งโล่ง เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ซึ่งทำให้เป็นจุดเด่นที่แตกต่างไปจากบ้านแบบ ทาวน์เฮ้าส์ ทั่วไป ที่สำคัญยังใช้เทคโนโลยีทันสมัยคือระบบ Home Automation ตามแบบฉบับของ บ้านใหม่ เพื่อให้ผู้พักอาศัยใน บ้านจัดสรร ขอนแก่น โครงการนี้ สามารถจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับบ้านได้ด้วยปลายนิ้ว สำหรับ บ้าน ขอนแก่น โครงการอณาสิริแห่งนี้ มีแบบให้เลือกอย่างหลากหลาย ได้แก่

townhouse 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย ระหว่าง 93-133 ตารางเมตร
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย ระหว่าง 125-156 ตารางเมตร
บ้านแฝด 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย ระหว่าง 134 ตารางเมตร
สำหรับราคาของ บ้านจัดสรร ขอนแก่น โครงการอณาสิริ มะลิวัลย์แห่งนี้ อยู่ที่ 2.29-6 ล้านบาท

ค่ายแสนสิริ ยืนหนึ่งในเรื่องบ้านทันสมัยพร้อมนวัตกรรมเด่นและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งมีถึง 2 โครงการให้เลือกแบบนี้ ใครกำลังมองหาบ้านที่อยู่สบาย ทำเลดี ราคาคุ้มค่า ต้องไม่พลาดแวะชม 2 โครงการนี้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน (เพิ่มเติม: https://www.sansiri.com/thai/บ้านเดี่ยว)

ที่มาข้อมูล
https://www.sansiri.com/singlehouse/burasiri-buengnongkot-khonkaen/th/
https://www.sansiri.com/singlehouse/anasiri-maliwan/th/

4 ความเปลี่ยนแปลงของ iPhone 13 ที่คาดว่าจะดีกว่าเดิม
   การเปิดตัวของ iPhone 13 เมื่อไม่นานมานี้ ได้เสียงตอบรับจากผู้ที่รอคอยดีพอสมควร เพราะมาพร้อมความเปลี่ยนแปลงใหม่และฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกหลายรูปแบบ ดังนั้นลองมาดู 4 ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในรุ่น 13 ที่คาดว่าจะดีขึ้นกว่าเดิมและให้ความล้ำสมัยมากขึ้น ดังนี้
1.กล้องสุดล้ำ เพิ่มระดับของกล้องที่ให้ความละเอียดสูง 12 ล้านพิกเซลและรับแสงได้ดีกว่าเดิม พร้อมการเพิ่มเลนส์ Ultra Wild และกล้องเทเลโฟโต้มาในรุ่นของ iPhone 13 Pro และ Pro Max มีรูรับแสงที่ให้ขนาดแตกต่างกันตั้งแต่ ƒ/1.5, ƒ/1.8, ƒ/2.8 พร้อมมุมมองของภาพที่เพิ่มขึ้นเป็น 120 องศา
2.เพิ่มความแข็งแรงและสีใหม่ มีการใช้ Ceramic Shield เป็นกรอบใหม่ที่จะให้ความแข็งแกร่งมากกว่ากระจกในรุ่นเดิม ๆ พร้อมให้ความทนทานต่อการขูดขีดได้ดีขึ้น รอยบากที่เล็กลงและมีการเปลี่ยนจุดตั้งลำโพงใหม่ เพื่อไม่ทำให้รอยบากไม่รบกวนสายตา มีการเพิ่มสีใหม่ที่เด่นกว่าเดิม โดยที่ iPhone 13 Pro และ 13 Pro Max จะมีการเพิ่มสีเซียร์ร่าบลูที่เป็นสีฟ้าอ่อน พร้อมการตกแต่งที่เรียบหรูมากขึ้น ส่วนในรุ่น 13 mini และ 13 ทั่วไปจะเพิ่มเป็นสีสตาร์ไลท์และสีเซียร์ร่าบลู ที่จะให้ความสวยโดดเด่นไม่แพ้กัน
3.หน้าจอที่คมชัดกว่าเดิม โดยการใช้เป็นจอ OLED ในขนาด 120 Hz มีการใช้เทคโนโลยี Super Retina XDR ที่จะให้ความสว่างได้สูงสุดตั้งแต่ 1,000-1,200 นิต ใช้งานกลางแจ้งได้ดีขึ้น มีสีที่ได้มาตรฐานมากกว่าเดิมและช่วยในการสนับสนุนการแสดงผลหน้าจอในแบบ HDR10 ได้คมชัด จึงรองรับต่อทุก Content ที่คุณใช้งานได้ดีที่สุด ในรุ่นของ iPhone 13 Pro ราคากลาง ๆ จะถูกจัดหน้าจอมาเป็น Refresh Rate 120 Hz แบบสูงสุดที่จะให้ภาพเนียนและลื่นไหลมากกว่าในรุ่น 12 ทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่างโปรโมชั่น Adaptive Refresh Rate ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนแสงสีและทุกรายละเอียดตามการใช้งาน เพื่อทำให้เหมาะสมต่อพลังงานที่มีอยู่มากขึ้น
4.ชิปประมวลผลทรงพลัง ในรูปแบบของ A15 Bionic ถือว่ามีความทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว พร้อมการการันตีจากทางค่าย Apple ว่าเป็นชิปที่แรงและเร็วที่สุดในโลก ให้ความจุสูงสุดถึง 1TB ในรุ่นของ iPhone 13 Pro ราคากลางและรุ่น 13 Pro Max ราคาสูงที่สุด พร้อมให้การใช้งานในระบบ AI ที่จะมีความอัจฉริยะมากขึ้น การทำงานลื่นไหลดี ไร้คำว่าสะดุดกวนใจ โดยให้การประมวลผลได้มากกว่า 15.8 ล้านล้านต่อวินาทีเลยทีเดียว ส่วนการทำงานของ CPU จัดมาที่ 5-6 Core ทั้งยังมีระบบช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้นอีก 50% ส่วนทางด้านของ Graphics หรือ GPU จะอยู่ที่  4-5 Core และมีการบูทเพื่อให้ทำงานดีขึ้นได้ถึง 30-50 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นไม่ว่ากราฟิกจะมีการประมวลผลที่ซับซ้อนแค่ไหนก็ถือว่าเอาอยู่หมดทุกรูปแบบเลยทีเดียว
ความเปลี่ยนแปลงของรุ่น iPhone 13 จาก AIS ที่คาดว่าจะทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมทั้ง 4 ความเปลี่ยนแปลงนี้ เมื่อคุณได้สัมผัสด้วยตัวเองจะรู้ได้ทันทีว่ามีความแตกต่างจากในรุ่นก่อนมากพอสมควรอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าคุณสนใจจะจับจอง iPhone 13 และ iPhone 13 Mini ราคา (เพิ่มเติมที่ : https://www.ais.th/apple/iphone-13-mini/ ) พิเศษก่อนใคร สามารถติดตามรายละเอียดของโปรโมชั่นสุดคุ้ม พร้อมเข้าไปเลือกสีที่คุณชื่นชอบได้แล้วที่เว็บไซต์ AIS ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ที่มาข้อมูล
-   https://notebookspec.com/web/613027-iphone-13-summarize-5-things
-   https://droidsans.com/iphone-13-series-official-launch/
-   https://www.apple.com/th/iphone-13/?afid=p238%7CsgAlt5OwL-dc_mtid_20925t5544931_pcrid_545745262977_pgrid_128077863598_&cid=wwa-th-kwgo-iphone-slid----Announce-

กว่าจะได้รสชาติของ Milo ที่กลมกล่อมอร่อยติดใจคนทั่วโลก
รสชาติความอร่อยของไมโลที่เป็นเอกลักษณ์ครองใจคนทุกรุ่นทุกวัยนั้นไม่ได้มากันง่าย ๆ เหล่านักวิจัยของเนสท์เล่ได้คิดปรับปรุงสูตรโดยผ่านการทดสอบแบบ Blind Test กับผู้บริโภคและทีมนักวิจัยเอง ทำให้ได้มาซึ่งรสชาติที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์ยากที่จะหาแบรนด์ไหนมาเทียบเทียมได้  นอกจากนี้ไมโลยังได้ทำการปรุงสูตรให้รสชาติถูกปากคนแต่ละประเทศทำให้ไมโลแต่ละชาติมีรสชาติที่ต่างกันแต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือคุณภาพและคุณประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ ด้วยการดูแลและใส่ใจผู้บริโภคขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่ milo จะกลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกและมียอดขายที่ถล่มทลาย

สูตรต่าง ๆ ของ ไมโล 3 in 1
ไมโลสูตรปกติ มีกลิ่นหอมรสชาติอร่อยเข้มข้นเต็มไปด้วยคุณประโยชน์จากนม โกโก้และมอลต์สกัด ให้คุณค่าสารอาหารที่จำเป็นในทุกวัน ทั้งโปรตีนและแคลเซียมสูงพร้อมทั้งประโยชน์ของ Activ-Go กลุ่มของวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
ไมโล สูตรหวานน้อย ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพด้วยการลดน้ำตาลลงกว่า 30% แต่ยังคงรสชาติความอร่อยของไมโลอยู่เช่นเดิมมีปริมาณน้ำตาล ไขมันและโซเดียมผ่านเกณฑ์การรับรองตราสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice Logo) ให้พลังงานสูงถึง 100 กิโลแคลอรี โปรตีน 5,000 มิลลิกรัม แคลเซียมสูง 40% ของปริมาณที่แนะนำต่อวันและมี Activ-Go กลุ่มวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายส่งเสริมให้สุขภาพแข็งแรง

นมไมโลรถโรงเรียน สูตรไม่มีน้ำตาลทราย ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ดูแลสุขภาพด้วยไมโลสูตรไม่ผสมน้ำตาลทรายแต่รสชาติยังคงความกลมกล่อมอร่อยด้วยรสหวานจากธรรมชาติของมอลต์และนม   ผ่านการตรวจสอบแล้วว่ามีปริมาณน้ำตาล ไขมันและโซเดียมที่เหมาะสมได้รับตราสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice Logo) ให้พลังงานถึง 100 กิโลแคลอรี โปรตีนสูงถึง 5,000 มิลลิกรัม มีแคลเซียมสูงและมี Activ-Go กลุ่มวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย

   ไม่แปลกใจเลยที่รถนมไมโลจะเป็นแบรนด์เครื่องดื่มอันดับหนึ่งที่ครองใจคนทุกเพศทุกวัยเพราะแบรนด์ไมโลได้คิดและคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคที่สามารถดื่มได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เพื่อเสริมสร้างพลังงานที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในทุก ๆ วัน สนใจผลิตภัณฑ์ milo 3 in 1 สามารถติดตามโปรโมชั่นรถไมโลโรงเรียนได้ที่นี่ https://www.milo.co.th/เมนูไมโลและอาหารเช้า/เครื่องดื่มไมโล/ไมโลสูตรรถโรงเรียน


ที่มาข้อมูล
https://www.sanook.com/campus/1382705/
https://www.milo.co.th/our-products/milo-3in1

เผยสูตรชงกาแฟนมสุดกลมกล่อมที่ชงได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการใช้เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso
กาแฟเป็นเครื่องดื่มสากลของคนทั่วโลกด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และรสชาติกลมกล่อมเข้มข้นซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละเมนู สำหรับคนที่ชื่นชอบกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นมักจะเลือกดื่มกาแฟดำ ส่วนคนที่หลงใหลในความละมุนกลมกล่อมของกาแฟก็มักจะนิยมดื่มกาแฟนม การชงกาแฟนมให้ได้รสชาติถูกใจและมีสัมผัสของฟองนมที่นุ่มนวลไม่ใช่เรื่องยากเลยแค่มีเครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติติดบ้านไว้จะช่วยให้การทำกาแฟแต่ละครั้งแสนง่าย สะดวก และรสชาติได้มาตรฐานทุกครั้ง เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก Nespresso รุ่น Pixie & Aeroccino Bundle เป็นเครื่องชงกาแฟขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง ทำกาแฟนมได้สารพัดเมนูด้วยฟังก์ชันการใช้ง่ายแค่ 2 ปุ่ม มาพร้อมที่ตีฟองนมAeroccino 3
สูตรชงกาแฟนมที่อร่อยและง่ายอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อชงด้วยเครื่องกาแฟ  Nespresso รุ่น Pixie & Aeroccino Bundle
เมนูที่ 1 Intense cappuccino สูตรนี้ให้เนื้อครีมกาแฟที่มีความเข้มข้นและฟองนมหนา ๆ อร่อยลงตัวถูกใจคนที่ชอบคาปูชิโน่แน่นอน เริ่มจากเทนมเย็น (อุณหภูมิ 4C) ปริมาณ 60 มล. ลงในเครื่อง Aeroccino 3 เพื่อทำฟองนม เทฟองนมที่ได้ลงในถ้วยกาแฟ Cappuccino เตรียมไว้ จากนั้นนำกาแฟแคปซูลใส่ลงไปที่เครื่องชงกาแฟ Pixie แล้วกดกาแฟโดยเลือกฟังก์ชันการชง Espresso ตามลงไปในปริมาณ 25 มล. แนะนำให้ใช้กาแฟแคปซูล Nespresso  Arpeggio หรือ Scuro ที่ให้รสหนักแน่นและเนียนนุ่ม
เมนูที่ 2 Espresso Macchiato คำว่า Macchiato หรือมัคคิอาโต้เป็นภาษาอิตาลี หมายถึงรอยด่าง ดังนั้น Espresso Macchiato จึงหมายถึงกาแฟที่มีรอยด่าง หรือกาแฟที่ทำสัญลักษณ์ไว้ด้วยการหยอดฟองนม เมนูนี้จะมีความเข้มข้นของเอสเพรสโซ่เป็นหลักแทรกด้วยกลิ่นอายของนมแค่บางเบา 1 ถ้วยของ Espresso Macchiato ประกอบไปด้วยกาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต และฟองนมเล็กน้อย เริ่มจากเติมนม 20 มล.ในเครื่องตีฟองนม Aeroccino 3 เพื่อเตรียมฟองนมไว้ก่อน จากนั้นกดกาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต หรือ 40 ต่อด้วยการท็อปหรือตกแต่งด้วยฟองนมที่เตรียมไว้เพียงเล็กน้อย
เมนูที่ 3 Caffe Latte เป็นเมนูลาเต้สุดคลาสสิกที่มีการผสมผสานอย่างลงตัวของกาแฟ นม และฟองนม เริ่มจากชงกาแฟลุงโกปริมาณ 110 มล. ซึ่งเครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่น Pixie มีปุ่มให้เลือกฟังก์ชันการชงเมนู Lungo จึงใช้งานได้สะดวกมาก โดยให้ทำการปรับตะแกรงวางแก้วก่อนนำแก้วทรงสูงไปวางไว้ตรงช่องจ่ายกาแฟแล้วจึงค่อยกดให้เครื่องทำการชงกาแฟ จากนั้นเทนมร้อนลงด้านบนกาแฟแล้วแต่งหน้าด้วยฟองนมบาง ๆ ปิดท้ายเป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟทันที แนะนำให้ลองใช้กาแฟแคปซูล Nespresso  Vivalto Lungo หรือ Fortissio Lungo
ทั้ง 3 สูตรชงกาแฟนมง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้จาก Nespresso รุ่น Pixie & Aeroccino Bundle ทำให้การชงกาแฟที่บ้านเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัสเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคอกาแฟรุ่นใหม่ ทั้งยังสามารถเนรมิตสารพัดเมนูกาแฟที่ได้อรรถรสเหมือนมีบาริสต้าส่วนตัวมาชงกาแฟให้ดื่ม

ที่มาข้อมูล
-   https://www.nespresso.com/recipes/th/th/011CAF-caffe-latte.html
-   https://www.nespresso.com/th/th/machine-assistance#!/Pixie/instructions/coffee-preparation/guide
-   https://www.nespresso.com/recipes/th/th/19805ESP-espresso-macchiato.html
-   https://www.nespresso.com/recipes/th/th/28790INT-intense-cappuccino.html
-   https://thomasthailand.co/lifestyle/espresso-กาแฟเอสเพรสโซ/

ผู้ดื่มกาแฟเป็นประจำทราบดีว่ากาแฟสดเมนูโปรดช่วยปลุกความสดชื่นในแต่ละวันได้ดีแค่ไหน ด้วยเหตุนี้สำหรับหลาย ๆ คน กาแฟสดจึงกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เมื่อกาแฟกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันหลายคนเริ่มคิดอยากมีเครื่องชงกาแฟไว้ที่บ้านหรือสำนักงาน แต่ติดปัญหาตรงที่ไม่รู้วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ espresso ราคาหลักหมื่นเพราะมีขั้นตอนมาก วิธีแก้ไขปัญหาอย่างง่าย ๆ ของกรณีนี้คือเปลี่ยนจากการมองหาเครื่องชงกาแฟแบบเดิม ๆ มาเปิดใจให้กับเครื่องชงกาแฟแบบใช้แคปซูลกาแฟจาก Nespresso นั่นเอง
โดยมีวิธีใช้เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso ได้ง่าย ๆ ดังนี้
ขอยกตัวอย่างวิธีใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ (More Information : https://www.nespresso.com/th/th/order/machines ) ของรุ่น Essenza Mini รุ่น Inissia และรุ่น Pixie ซึ่งเป็น 3 รุ่นยอดนิยมที่มีขนาดกะทัดรัดและใช้งานง่ายด้วย 2 ปุ่มกด
1.   เติมน้ำสะอาดใส่แท็งก์ให้ถึงระดับที่กำหนดไว้
2.   เสียบปลั๊ก กดปุ่มเปิดเครื่องแล้วรอจนกว่าสัญญาณไฟนิ่ง ระหว่างนี้หาถ้วยกาแฟตามขนาดเมนูที่ต้องการชง เช่น เมนูเอสเพรสโซ่ใช้ถ้วยกาแฟขนาดมากกว่า 40 มล. และเมนูลุงโกใช้ถ้วยกาแฟขนาดมากกว่า 110 มล.
3.   ใส่แคปซูลกาแฟลงในช่องบรรจุ กดปุ่มให้เครื่องทำงาน สำหรับเมนูกาแฟร้อนเมื่อเครื่องทำงานเสร็จกาแฟพร้อมเสิร์ฟได้ทันที สำหรับเมนูกาแฟเย็นให้นำกาแฟที่ได้ผสมน้ำเย็นเล็กน้อยแล้วเทลงในแก้วทรงสูงที่ใส่น้ำแข็งไว้เต็ม เพียงแค่นี้จะได้ดื่มกาแฟเมนูโปรดด้วยการกดเพียง 2 ปุ่มเท่านั้น
สำหรับเมนูกาแฟนมสามารถใช้เครื่องทำฟองนมรุ่น Aeroccino 3 ได้ด้วยการกดปุ่มเดียว โดยรุ่นนี้สามารถทำฟองนมได้ทั้งสูตรร้อนและสูตรเย็น น้ำหนักเบาเพียง 0.7 กรัม และยังใช้ทำฟองนมได้มากถึง 120 มล. เลยทีเดียว
เครื่องชงกาแฟแคปซูลจาก Nespresso มีหลายรุ่นมาก ๆ การเลือกซื้อจึงควรเริ่มจากการกำหนดเมนูกาแฟสุดโปรดกับ ปริมาณการชงต่อวันให้ได้เสียก่อน เช่น สมาชิกในบ้านมีทั้งหมด 4 คน ดื่มกาแฟดำ 2 คน ดื่มกาแฟนม 2 คน ปริมาณการชงต่อวันอยู่ที่ 4 - 5 แก้ว เครื่องชงกาแฟรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้มีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น เช่น Nespresso Atelier, New Lattissima One และ Creatista Plus ช่วงราคาของทั้ง 3 รุ่น อยู่ระหว่างหลักพันถึงหลักหมื่น โดยจับคู่การใช้งานกับแคปซูลกาแฟจาก Nespresso ราคาเฉลี่ยประมาณ 22 บาท ต่อแคปซูล ซึ่งมีจำนวนสูตรให้เลือกมากกว่า 30 สูตรด้วยกัน จึงเชื่อว่าคนรักกาแฟจะสนุกกับการได้ลิ้มลองกาแฟสูตรใหม่ ๆ ไปพร้อมกับเครื่องชงกาแฟจาก Nespresso อย่างแน่นอน

ที่มาข้อมูล
-   https://www.nespresso.com/th/th/machinelistblock
-   https://www.nespresso.com/th/th/aeroccino-accessories-collection
-   https://www.wongnai.com/news/nespresso-coffee-machine
-   https://www.sanook.com/home/23321/
-   https://www.nespresso.com/th/th/iced-coffee
-   https://www.nespresso.com/th/th/espresso-coffee
-   https://www.sanook.com/home/19177/