ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ธนัส

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7
1
เมนูสดชื่น เลมอนดองน้ำผึ้ง Lemon Honey Preserve



สูตร : เลมอนดองน้ำผึ้ง Lemon Honey Preserve 1 กระปุก
           1. เลมอน 2 ลูก
           2. เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับขัดผิวเลมอน)
           3. Baking Soda (ผงฟู) 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับขัดผิวเลมอน)
           4. น้ำผึ้งดอกไม้ป่า 200 กรัม
           5. กระปุกเล็ก 1 (ฆ่าเชื้อลวกน้ำร้อนแล้ว)

วิธีทำ
           - ขัดผิวเลมอนกับเกลือให้ทั่วทั้งลูก ออกแรงขัดเล็กน้อย และแช่ในน้ำผสมเกลือต่อ 5 นาที เพื่อลดความขมจากเปลือก

           - ขัดผิวเลมอนกับผงฟูให้ทั่วทั้งลูก ออกแรงขัดเล็กน้อย และแช่ในน้ำผสมผงฟูต่อ 5 นาที เพื่อลดความขมจากเปลือก ล้างน้ำให้สะอาดอีกรอบ ใช้กระดาษซับให้เลมอนแห้ง

           - หั่นเลมอนเป็นแว่นหนาพอดีประมาณ 2 มิลลเมตร เอาเม็ดออก และเรียงใส่ในกระปุกที่ลวกน้ำร้อนแล้ว เทน้ำผึ้งที่เตรียมไว้ ให้ท่วมเลมอนที่เรียงในขวดโหล ปิดฝาให้แน่น แช่ตู้เย็นอุณหภูมิปกติ 1 วัน ก็สามารถนำมาทำเครื่องดื่มได้


https://suwanfarmphueng.com/articles/lemon-honey/

เคล็ดลับเมนูนี้ :
           - หากดองไว้ 4 วันขึ้นไป สามารถทานได้เลมอนทั้งชิ้น โดยไม่มีความขม
           - สูตรนี้แนะนำใช้กับน้ำผึ้งดอกไม้ป่า จะมีกลิ่นหอมละมุนมาก สนใจสั่งซื้อ น้ำผึ้งดอกไม้ป่าจากฟาร์มโดยตรง ได้ที่ https://suwanfarmphueng.com/shop/

2
วิธีเก็บน้ำผึ้งจากฟาร์มผึ้ง


การเก็บรังผึ้ง น้ำผึ้ง จากฟาร์มผึ้งนั้นจำเป็นต้องเรียนรู้ศึกษาให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและอันตรายจากพิษผึ้ง ซึ่งมีเหตุการณ์ผู้ที่เสียชีวิตเพราะมันอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากเขียนถึงวิธีการเก็บรังผึ้งจากฟาร์ม จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย


วิธีวิธีเก็บรังผึ้งจากฟาร์มผึ้ง
ในแต่ละฟาร์มผึ้งอาจจะมีวิธีการเก็บรังผึ้งหรือน้ำผึ้งที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่ที่ความชำนาญและความถนัดของผู้เก็บ แต่หากพูดถึงวิธีการพื้นฐานในการเก็บนั้นก็จะมีด้วยกัน 2 วิธี ดังต่อไปนี้


การเก็บน้ำผึ้งในรูปแบบเก่า
รูปแบบการเก็บน้ำผึ้งแบบเก่าจะทำเมื่อรังผึ้งถูกเลี้ยงไว้ได้ 3 เดือน โดยให้สังเกตว่ารวงผึ้งที่สร้างเอาไว้นั้นมีขนาดใหญ่พอให้เก็บแล้วหรือยังก่อน เมื่อปริมาณมากพอตามที่ต้องการแล้วก็ให้เริ่มทำการเก็บ

มาถึงจุดนี้การเก็บอาจจะมีขั้นแตกต่างกันตามสถานที่ผึ้งอาศัยอยู่ อย่างเช่นบางคนเลี้ยงผึ้งไว้ในคอน บางคนเลี้ยงผึ้งในโพรง หรือบางคนต้องการเก็บน้ำผึ้งจากรังผึ้งตามธรรมชาติ แต่ในกรณีการเลี้ยงผึ้ในรูปแบบเก่านี้จะเลี้ยงผึ้งในโพรงไม้ หรือกล่องไม้เท่านัเน

โดยเริ่มแรกให้ทำการใช้มีดตัดรวงผึ้งออก แต่อย่าให้หมดเหลือเอาไว้สัก 3-4 รวง ขึ้นอยู่ที่ขนาดของรวงผึ้งนั้นๆ แล้วเตรียมตะแกงกับถังเอาไว้ ต่อจากนั้นนำรวงผึ้งที่ได้มาสับอีกทีบนตะแกรง เพื่อทำให้น้ำผึ้งจากในรวงไหลลงถังเก็บ แล้วบ่อยทิ้งไว้สัก 3-4 วัน ส่วนของผงหรือฝุ่นจะลอยตัวขึ้นอยู่ด้านบนให้การเอาออก เมื่อเสร็จแล้วก็จะได้รับน้ำผึ้งบริสุทธิ์ที่เหมาะกับการนำไปรับประทานนั่นเอง

*ไม่ควรใช้มือบีบเค้นรวงผึ้งเพื่อรีดน้ำผึ้ง เพราะจะทำให้มีสิ่งเจือปนลงไป

การเก็บน้ำผึ้งในรูปแบบใหม่
การเก็บน้ำผึ้งรูปแบบใหม่จำเป็นต้องมีถังสกัด โดยเราจะเริ่มจากการยกรังผึ้งออกจากตอน แล้วทำการเขย่าผึ้งให้หลุดออกจากคอนให้หมดก่อนเสียก่อน แล้วจึงใช้มีดปาดส่วนของแผ่นไขผึ้งที่ปิดน้ำผึ้งอยู่ออกเสียก่อน ต่อจากนั้นนำไปใส่ในถังสลัดน้ำผึ้งแล้วก็จะได้เป็นน้ำผึ้งบริสุทธิ์ออกมา พร้อมสำหรับการนำไปใส่ขวดขายหรือรับประทานนั่นเอง
https://suwanfarmphueng.com/articles/collect-honey-from-farm/

3
น้ำผึ้งดอกลำไย น้ำผึ้งดอกไม้ป่า และ น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ต่างกันอย่างไร ?


น้ำผึ้ง เป็นอาหารหวานที่ผึ้งผลิตโดยใช้น้ำต้อยจากดอกไม้ น้ำผึ้งมักหมายถึงชนิดที่ผลิตโดยผึ้งน้ำหวานในสายพันธุ์ Apis เนื่องจาก เป็นผึ้งเก็บน้ำหวานให้คุณภาพสูง และสามารถเลี้ยงระบบกล่องได้ น้ำผึ้งมีประวัติการบริโภคของมนุษย์มายาวนาน และถูกใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีบทบาทในศาสนาและสัญลักษณ์นิยม รสชาติของน้ำผึ้งแตกต่างกันตามน้ำต้อยที่มา และมีน้ำผึ้งหลายชนิดและเกรดที่สามารถหาได้ แต่จะพูดถึงในบทความนี้นั้นจะมีน้ำผึ้งทั้งหมด 3 ชนิด ตามหัวข้อบทความ ส่วนจะมีความแตกต่างกันยังไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

น้ำผึ้งดอกลำไย น้ำผึ้งดอกไม้ป่า และน้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ ต่างกันอย่างไร ?
น้ำผึ้งทั้ง 3 ชนิดที่จะกล่าวถึงนี้นั้น จะมีชื่อเรียกที่ไม่เหมื่อนกันขึ้นอยู่กับชนิดของดอกไม้ที่ตัวผึ้งได้ไปทำการเก็บมา โดยจะมีจุดเด่นและความแตกต่างกันออกไปดังนี้
น้ำผึ้งดอกลำไย
มีสีออกน้ำตาลอ่อน โดดเด่นที่กลิ่นหอม มีรสหวานกว่าน้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ และตัวสีของน้ำผึ้งเข้มกว่า ทั้งตัวน้ำผึ้งจะไม่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิหากแช่ไว้ในตู้เย็น

น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่
มีสีเหลืองอำพันสวยงาม ทั้งตัวสีของน้ำผึ้งชนิดจะไม่เปลี่ยนตามชาวงเวลา มีรสหอมหวานกลมกล่อมพอดี ซึ่งน้ำผึ้งชนิดนี้จะตกผลึกหากเจออากาศเย็น หรือถูกนำไปแช่ใว้ในตู้เย็น

น้ำผึ้งดอกไม้ป่า
เป็นน้ำผึ้งที่จะทำการเก็บเกี่ยวในช่วงเดือน ธันวาคม ไปจนถึง มกราคม โดยช่วงเก็ฐน้ำผึ้งชนิดมาใหม่ๆนั้นจะมีสีเหลืองออกน้ำตาลอ่อน และจะมีสีเข้มขึ้นตามช่วงเวลาในการเก็บ นอกจากนี้จะตกผลึกหากเจออากาศเย็น หรือถูกนำไปแช่ใว้ในตู้เย็น
https://suwanfarmphueng.com/articles/longan-flower-honey-wild-flower-honey-and-honey/

4
น้ำผึ้ง ควรทานเท่าไหร่ถึงจะพอดี และโทษของการรับประทานน้ำผึ้งมากเกินไป


น้ำผึ้ง ถึงแม้จะมีสรรพคุณประโยชน์ต่างๆมากมาย แต่การรับประทานที่มากจนเกินไปนั้นก็อาจส่งผลกระทบในด้านร้ายได้ เพราะฉะนั้นทางสุวรรณฟาร์มผึ้งจึงมาบอกเล่าว่าควรรับประทานน้ำผึ้งเท่าไหร่จึงจะพอดี และได้รับประโยชน์สูงสุด จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย

น้ำผึ้ง ควรทานเท่าไหร่ถึงจะพอดี
ปริมาณที่เหมาะสมในการกินน้ำผึ้งต่อวันนั้นควรอยู่ที่ 3-5 ช้อนโต๊ะ ไม่ควรมากไปกว่านี้ต่อหนึ่งวัน โดยการกินนั้นก็ควรแบ่งแยกช่วงเวลาออกจากกัน คือ กินน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะในช่วงเช้าเพื่อช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และค่อยทานเพิ่มอีก 1 ช้อนโต๊ะตบท้ายในช่วงเวลาก่อนนอน เหตุที่ให้รับแนะนำให้รับประทานแค่ช่วงเช้า 2-3 ช้อนโต๊ะ กับช่วงก่อนนอน 1 ช้อนโต๊ะนั้น เพราะระหว่างวันท่านอาจจะได้รับประทานอาหารต่างๆที่ใช้น้ำผึ้งมาประกอบในอาหาร ซึ่งรวมกันออกมาแล้วก็จะได้ไม่เกิน 5-6 ช้อนโต๊ะต่อวัน

*น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะนั้น จะให้พลังงานถึง 60 แคลอรี่ ซึ่งเป็นการบริโภคที่พอดีกับความต้องการของร่างกายแล้ว ควรระวังในเรื่องการกินอาหารอื่นๆ ที่ให้แคลอรี่เพิ่มมากขึ้นสูงเกินไปเพื่อสุขภาพที่ดี

โทษของการทานน้ำผึ้งมากเกินไป คือ
แน่นอนการรับประทานอะไรก็ตามที่มากจนเกินไป ย่อมเกิดผลเสียได้ น้ำผึ้งเองก็เช่นกัน ซึ่งหากรับประทานในจำนวนมากก็จะทำให้เกิดโทษได้ ดังนี้
             - อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสียขึ้นได้ เนื่องจากตัวน้ำผึ้งมีน้ำตาลฟรุกโตสอยู่มาก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในการดูดซึมในลำไส้ หากรับประทานในจำนวนมาก
             - ตัวน้ำผึ้งไม่ควรให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทาน เพราะจะให้ไปเพิ่มน้ำตาลในเลือด
             - ส่งผลให้อ้วนขึ้น หากรับประทานเป็นจำนวนมากติดต่อกัน
https://suwanfarmphueng.com/articles/that-should-fit-and-the-penalty-for-traveling-too-much/

5
วิธีการทำ น้ำผึ้งมะนาวโซดา


หากพูดถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพนั้น หลายๆท่านคงคิดถึงน้ำผึ้งมะนาวโซดาเป็นแน่ ด้วยรสชาติที่อร่อย สดชื่น มีกลิ่นที่หอมหวาน รวมถึงยังช่วยล้างพิษในลำไส้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ดีต่อสุขภาพ โดยวิธีการทำก็แสนง่าย ดังต่อไปนี้

ส่วนผสม
           - น้ำผึ้ง
           - น้ำร้อน
           - น้ำมะนาวแท้
           - โซดา
           - น้ำแข็ง
วิธีทำ
           - ใส่น้ำผึ้งลงในแก้ว 2 ช้อนโต๊ะ
           - เติมน้ำร้อน 1 ช้อนโต๊ะ (เพื่อละลายน้ำผึ้ง)
           - คนให้เข้ากัน
           - เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
           - เติมน้ำแข็งให้เต็มแก้ว
           - ใส่โซดา 1/2 ขวด
           - ตกแต่งให้สวยงามด้วย มะนาวฝานเป็นแบบแว่น รวงผึ้งสดๆ 1 ชิ้นเล็ก
โดยสามารถดูวีดีโอการทำได้ด้านล่าง เท่านี้ก็จะได้เป็นน้ำผึ้งมะนาวโซดาแสนชื่นใจ
https://suwanfarmphueng.com/articles/how-to-make-honey-lemon-soda/

6
ประโยชน์เกสรผึ้ง ดีอย่างไรต่อสุขภาพ


เกสรผึ้ง เป็นเกสรตัวผู้ของพืช ที่มีลักษณะเป็นละอองเม็ดเล็ก ๆ เมื่อผึ้งงานเข้าไปคลุกเคล้าขณะดูด  น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ละอองเหล่านั้นก็จะติดตามตัวโดยผึ้งงานจะใช้ขาปัดเขี่ยรวมกันเป็นก้อนเล็ก ๆ ติดไว้ที่ปลายขาหลังทั้งสองข้าง แล้วนำกลับไปเก็บไว้ที่รังเพื่อใช้เป็นอาหาร นอกจากนั้นเกสรผึ้งยังเป็นแหล่ง คุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพของคนเราอีกด้วย

เกสรผึ้ง มีประโยชน์อย่างไรต่อสุขภาพ
เกสรผึ้ง (Bee Pollen) มีสารอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์มากมาย อาทิเช่น คาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโน ไขมัน เกลือแร่ น้ำ และวิตามินต่าง ๆ จำนวนมาก เกสรผึ้งถูกเก็บและนำไปตากในที่ร่มจนแห้งจะมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ ดังนี้
           1. เกสรผึ้งมีฤทธิ์ต่อการทำงานของแบคทีเรียและช่วยควบคุมแบคทีเรียในลำไส้
           2. การทานเกสรผึ้ง ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
           3. ช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ ภูมิแพ้อากาศและฝุ่นละออง
           4. สำหรับคนที่เป็นไซนัส การทานเกสรผึ้ง 1 ช้อนชาผสมกับน้ำอุ่น หรือ ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย ดื่มทุกวัน ๆ ละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ จะรู้สึกดีขึ้น
           5. เกสรผึ้ง ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เลือดไปเลี้ยงเซลล์ผิวหนังได้อย่างทั่วถึง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
           6. เกสรผึ้งยังเป็นสารช่วยบำรุงและเสริมสร้างบำรุงเส้นผมให้ดกดำและหงอกช้า ผมมีน้ำหนัก ไม่แห้ง ชี้ฟู
           7. การทานเกสรผึ้ง ช่วยบำรุงสมองและลดความตึงเครียด ช่วยควบคุมระบบประสาทให้อยู่ในสภาพปกติ
           8. สำหรับผู้ที่เลือดน้อยหรือเป็นโรคโลหิตจาง การทานเกสรผึ้งยังช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง
           9. สำหรับผู้ที่มีอาการทางจิต อยู่ในภาวะซึมเศร้า กลัดกลุ้ม หรือได้รับความกดดัน เกสรผึ้งมีสรรพคุณในการรักษาและบรรเทาอาการของโรค
           10. เกสรผึ้ง ยังถือเป็นสารฮอร์โมนธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นและบำรุงระบบสืบพันธุ์ทั้งชายและหญิง

ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ทำให้ผู้ที่มีบุตรยากอาจมีบุตรได้ เนื่องจากเกสรผึ้งมีสรรพคุณทำให้สตรีตกไข่ดีขึ้น และสร้างความแข็งแรงให้ตัวสเปิร์มและเพิ่มปริมาณตัวสเปิร์ม การทานเกสรผึ้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน และการทานเกสรผึ้งที่ให้ผลดีควรทานหลังอาหารหรือทานเกสรผึ้งร่วมกับน้ำผึ้ง ในระยะแรก หากสามารถปรับตัวได้แล้วก็สามารถทาน เกสรผึ้ง ก่อนอาหารได้ตามปกติ การเก็บเกสรผึ้งควรเก็บในอุณหภูมิปกติและปราศจากความชื้น ทางฟามร์ผึ้งของเรามีเกสรผึ้งขายขนาด 100 กรัม และเกสรผึ้งขายขนาด 1000 กรัมด้วยนะคะ
https://suwanfarmphueng.com/articles/benefit-of-bee-pollen/

7
เกสรผึ้ง คืออะไร


ปัจจุบันน้ำผึ้งแท้คุณภาพดีที่นิยมทานหรือนำมาใช้ประโยชน์ด้านดูแลสุขภาพและความงาม ได้แก่น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า เป็นน้ำผึ้งที่ได้จากป่าธรรมชาติและได้จากการเลี้ยงผึ้ง ไว้ตามสวนไม้ดอกและพืชผลต่าง ๆ เพื่อให้ได้น้ำหวานหรือน้ำผึ้งที่มีลักษณะตามต้องการ นอกจากนั้นการดูดกินน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ของผึ้ง ยังทำให้ได้เกสรผึ้งที่มีคุณประโยชน์มากมาย

เกสรผึ้ง คืออะไร
เกสรผึ้ง (Bee Pollen) คือ ละอองเรณูของดอกไม้ ลักษณะคล้ายฝุ่นแป้งที่เกิดและหลุดจากช่อเกสร ตัวผู้ของดอกไม้นานาชนิด ขณะที่ผึ้งงานเข้าไปดูดน้ำหวานและคลุกเคล้ากับอับเกสร ให้เกสรติดตามตัว และใช้ขาปัดเขี่ยรวมกันเป็นก้อนเล็ก ๆ ติดไว้ที่ปลายขาหลังทั้งสองข้างบริเวณอวัยวะที่เรียกว่า ตะกร้าเก็บเกสร จากนั้นผึ้งจะบินมายังรังเพื่อเก็บเกสรผึ้ง ไว้เป็นอาหาร

ประโยชน์ของเกสรผึ้ง
เกสรผึ้ง ถือเป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัย เพราะเป็นแหล่งรวมวิตามินจากธรรมชาติ อุดมด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและในเกสรผึ้งยังมีวิตามินมากกว่า 22 ชนิด แร่ธาตุ 16 ชนิด และเอนไซม์ 94 ชนิด ประโยชน์ของเกสรผึ้งช่วยในการบำรุงสมอง และระบบประสาท ช่วยในการเสริมสร้างพลังและปรับสมดุลให้กับร่างกาย วิธีการเก็บเกสรผึ้ง ปัจจุบันการเลี้ยงผึ้งนอกจากได้น้ำผึ้งคุณภาพดีตามต้องการแล้ว ส่วนต่าง ๆ ที่ได้จากการเลี้ยง เช่น เกสรผึ้ง ยังเป็นสุดยอดอาหารจากธรรมชาติที่ส่งผลดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน ทำให้ฟาร์มเลี้ยงผึ้งมีการเก็บและนำเกสรผึ้งไปทำให้แห้งโดยกรรมวิธีที่ไม่สูญเสียคุณค่าทางอาหาร โดยมีวิธีการเก็บ ดังนี้
           1. ใช้ตะแกรงสำหรับดักเกสร สอดไว้ตรงทางเข้าทางออกของรังผึ้งซึ่งผึ้งงานจะบินเข้าออกเป็นประจำ
           2. เลือกขนาดตะแกรงให้โตพอที่ตัวผึ้งลอดผ่านไปได้พอดี เมื่อขาหลังของผึ้งจะครูดกับตะแกรงทำให้เกสรที่ติดมากับขาผึ้งร่วงลงถาดรองรับพอดี
           3. จากนั้นผู้เลี้ยงจะเก็บเกสรผึ้งไปตากในที่ร่มที่มีลมโกรกประมาณ 2 – 3 วัน เมื่อแห้งดีแล้วให้เก็บใส่ภาชนะปิดฝาเพื่อป้องกันความชื้นและเก็บไปรับประทานได้นานถึง 2 ปี

การเลี้ยงผึ้งของแต่ละฟาร์ม นอกจากจะได้น้ำผึ้งตามต้องการแล้ว ส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ได้จากการเลี้ยงผึ้งและการคั้นน้ำผึ้ง เช่น ไขผึ้ง นมผึ้งสด รวงผึ้ง และเกสรผึ้ง ยังนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้หลากหลาย รวมถึงน้ำผึ้งสดที่มีประโยชน์ด้านสุขภาพและความงามและยังเป็นยาอายุวัฒนะทานแล้วบำรุงสุขภาพได้ดีอีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/bee-pollen/

8
10 ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ด้านสุขภาพและความงาม


เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เคยใช้ประโยชน์จากน้ำผึ้งในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลาย ๆ ด้านมาแล้ว ทั้งการนำมาเป็นส่วนประกอบในสมุนไพรเพื่อบำรุงสุขภาพ ผสมในเครื่องดื่มเพื่อให้ความหวานแทนน้ำตาล ดื่มน้ำผึ้งสดเพื่อใช้เป็นยาอุวัฒนะ การนำเกสรผึ้ง ไขผึ้ง นมผึ้งสด และรวงผึ้ง มาใช้ประโยชน์อื่น ๆ รวมทั้งนำน้ำผึ้งมาใช้ด้านสุขภาพและความงาม แต่อาจ ไม่ทราบว่าน้ำผึ้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามอย่างไร บทความนี้เรามีความรู้ดี ๆ มาแนะนำ

10 ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ด้านสุขภาพและความงาม
น้ำผึ้ง สารให้ความหวานที่เปรียบเสมือนผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตจากผึ้งงานโดยการดูดกินน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ จนทำให้ได้น้ำผึ้งจากดอกลำไย , ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า หรือจากพืชต่าง ๆ สรรพคุณของน้ำผึ้งนอกจากเป็นยาอายุวัฒนแล้ว ยังนำมาใช้ในด้านสุขภาพและความงาม เช่น อาหารเสริมหรือเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางและเวชสำอาง เนื่องจากมีประโยชน์ที่หลากหลาย ดังนี้
1. ปกป้องผิว ป้องกันการถูกทำลายจากรังสียูวี น้ำผึ้ง มีประสิทธิภาพในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะมีสารแอนติออกซิเดนท์ จึงมีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสียูวีซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย จึงมีการใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงและป้องกันผิวจากแสงแดด เพื่อช่วยยืดอายุการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยไม่มีอันตรายจากสารเคมีใด ๆ

2. อุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด คุณสมบัติที่โดดเด่นของน้ำผึ้ง คืออุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด เช่น วิตามินบี วิตามินซี มีฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และแร่ธาตุ ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบไหลเวียนของเลือด ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส การทานน้ำผึ้งสดดีต่อสุขภาพ เพราะมีคุณค่าทางอาหารช่วยเสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงโดยเฉพาะน้ำผึ้งจากดอกลำไย ที่ยอมรับกันว่าเป็นน้ำผึ้งที่ดีที่สุด

3. เป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ น้ำผึ้ง เป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ เพราะมีสรรพคุณในการเป็นตัวกักเก็บน้ำที่ให้ความชุ่มชื้นไว้กับผิวเป็นตัวต้านความระคายเคืองที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้น น้ำผึ้ง จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องสำอางหลากหลายชนิดที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว เพราะสามารถดึงและเก็บความชื้นไว้ได้ ทำให้ผิวหนังมีความอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ปกป้องและบำรุงผิวสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้ง

4. เสริมสร้างเซลล์ผิว ทำให้ผิวหนังแข็งแรง น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่นอกจากมีบทบาทสำคัญในการปกป้องและป้องกันผิวจากแสงแดดหรือรังสียูวีแล้ว ยังทำหน้าที่ในการเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ เนื่องจากผิวอาจมีภาวะแห้งกร้านจากสภาวะแวดล้อมภายนอก และปัญหาจากวัยที่เพิ่มมากขึ้นทำให้การผลัดเซลล์ผิวไม่สม่ำเสมอ ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งจึงนอกจากจะมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างเซลล์ผิว ทำให้ผิวหนังแข็งแรงแล้ว ยังไม่ทำให้เกิดอาการแพ้เพราะไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใด ๆ

5. ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านจุลินทรีย์ และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย โดยสารที่ชื่อว่า “ไฮโดรเจรเปอร์ออกไซด์” สารชนิดนี้กำจัดเชื้อโรคได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่มีการนำน้ำผึ้งที่มีคุณภาพ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ไปใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง และเวชสำอางต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการรักษาโรคผิวหนัง รวมถึงเรื่องความสวยความงามด้วย

6. ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม น้ำผึ้ง เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่นอกจากใช้บำรุงดูแลสุขภาพแล้ว ยังใช้ประโยชน์ด้านความสวยความงามตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น นำมาบำรุงเส้นผม เพื่อให้มีสภาพแข็งแรง เส้นผมมีน้ำหนักเป็นเงางาม ไม่แห้งเสีย และช่วยขจัดรังแคได้ โดยนำน้ำผึ้งผสมกับน้ำมันมะกอกแล้วใช้หมักผม ทำให้หนังศีรษะนุ่มชุ่มชื้น ช่วยขจัดรังแค ทำให้ผมนุ่มมีน้ำหนักและสวยเป็นเงางาม หรือ หมักผมด้วยน้ำผึ้งและไข่แดง เพื่อกระตุ้นการทำงานของรูขุมขนให้มีประสิทธิภาพ ช่วยให้เส้นผมยาวเร็วขึ้น

7. เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ในน้ำผึ้งมีส่วนประกอบของน้ำตาลฟรุกโทสและกลูโคส เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปสร้างพลังงานได้ทันที การทานน้ำผึ้งแทนน้ำตาลยังย่อยง่ายกว่า แต่ให้พลังงานมากกว่าน้ำตาล นอกจากนั้นน้ำผึ้งยังมีรสหวานกว่า ทำให้ใช้ในปริมาณที่น้อย สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักจึงนิยมใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล

8. น้ำผึ้งเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย การดื่มน้ำผึ้งทุกรูปแบบทั้งการดื่มน้ำผึ้งสดหรือผสมในเครื่องดื่มต่าง ๆ แทนน้ำตาลหรือน้ำหวาน ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย เช่น การผสมน้ำผึ้งจากดอกลำไยกับน้ำมะนาว หรือใช้น้ำผึ้งชงกาแฟแทนน้ำตาล ใช้ทาขนมปังแทนนม หรือใช้ปรุงอาหารแทนน้ำเชื่อม เมื่อร่างกายสดชื่นเป็นการบำรุงดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก ทำให้สวยสดใสไม่เกิดริ้วรอยก่อนวัย

9. น้ำผึ้งเป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติ น้ำผึ้งแท้ที่ดีและมีคณภาพ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า มีคุณค่าทางอาหารเป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง เสริมสร้างวิตามิน และแร่ธาตุที่ร่างกายขาดหายไป ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น เป็นยาอายุวัฒนะ เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศให้สมบูรณ์แข็งแรง และชะลอความชราของผู้สูงอายุช่วยให้แลดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ 10. ใช้เป็นสูตรส่วนผสมในสมุนไพรเพื่อบำรุงดูแลผิว น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ มีการนำมาใช้เป็นเป็นสูตรส่วนผสมในสมุนไพรเพื่อบำรุงดูแลผิวพรรณ มาตั้งแต่โบราณ ปัจจุบันในธุรกิจสปาหรือคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายก็นิยมใช้น้ำผึ้งคุณภาพดี เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไยดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า มาใช้เป็นสูตรส่วนผสมในสมุนไพรเพื่อบำรุงดูแลผิวหลากหลายสูตร ดังนี้
         - สูตรผิวหน้าเนียนใสด้วยน้ำผึ้ง ให้นำน้ำผึ้งจำนวน 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วนำมาพอกให้ทั่วผิวหน้าเว้นบริเวณรอบดวงตา แล้วนวดเบาๆ แล้วพอกทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดร่วงออกไปเผยผิวใหม่ที่เนียนใสแลดูอ่อนกว่าวัย
         - สูตรน้ำผึ้งหัวไช้เท้าป้องกันสิว เพียงนำน้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับเนื้อหัวไช้เท้าปั่นละเอียด 1 ถ้วย ปั่นให้ส่วนผสมละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นล้างทำความสะอาดผิวหน้า ซับหน้าให้แห้งนำส่วนผสมที่ปั่นไว้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก ทำอย่างสม่ำเสมอเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ช่วยป้องกันการเกิดสิวได้อย่างเห็นผล และยังช่วยบำรุงผิวหน้าให้นุ่มชุ่มชื้น เนื่องจากหัวไช้เท้าเป็นพืชที่อุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่มีประโยชน์ต่อผิว
         - สูตรน้ำผึ้งกระชับรูขุมขน เพียงนำน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับเนื้อแอปเปิลปั่นละเอียด โดยใช้แอปเปิล 1 ผล มาปอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาแกนกลางออก จากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียด เมื่อน้ำผึ้งกับเนื้อแอปเปิลผสมจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว นำมาทาให้ทั่วผิวหน้านวดเบาๆ ประมาณ 5 นาทีแล้วพอกทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับรูขุมขนด้วยการเช็ดผิวหน้าด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง สูตรนี้ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งช่วยกระชับรูขุมขนป้องกันการเกิดสิว และทำให้ผิวหน้าเนียนสวย

น้ำผึ้ง ถือเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลผิวจากธรรมชาติ ที่นอกจากมีประโยชน์ด้านความงามตามที่กล่าวมาแล้ว ปัจจุบันน้ำผึ้งยังมีบทบาทสำคัญและนิยมนำไปเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง เวชสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลผิวหลากหลายชนิด รวมทั้งการทานน้ำผึ้งเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ แต่ต้องพิจารณาเลือกน้ำผึ้งแท้หรือน้ำผึ้งจากดอกลำไยดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า ที่ไม่มีสารปลอมปนอื่นใด ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากฟาร์มเลี้ยงผึ้งโดยตรงหรือสั่งซื้อออนไลน์จากเว็บไซต์ของฟาร์มเลี้ยงผึ้งที่มีอยู่มากมาย
https://suwanfarmphueng.com/articles/10-benefit-of-honey/

9
5 ประโยชน์จากน้ำผึ้ง ดอกลำไย


น้ำผึ้ง เป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่มนุษย์รู้จักกันดี สมัยโบราณมีการนำน้ำผึ้งมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านบำรุงดูแลผิวพรรณ และการดูแลสุขภาพ โดยใช้เป็นส่วนประกอบในตำรายาแผนโบราณร่วมกับพืชสมุนไพร เพราะมีสรรพคุณทางยาเป็นยาอายุวัฒนะที่มีประโยชน์หลากหลาย ซึ่งคุณภาพของน้ำผึ้งจากดอกลำไย ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ดีที่สุด

5 ประโยชน์จากน้ำผึ้ง ดอกลำไย
กระบวนการผลิตน้ำผึ้ง ผึ้งงานจะทำหน้าที่ดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ชนิดต่าง ๆ แล้วเปลี่ยนน้ำหวานหรือน้ำเชื่อมจากดอกไม้ที่เรียกว่าน้ำต้อยให้เป็นน้ำผึ้ง ด้วยการขย้อนน้ำเชื่อมจากเกสรดอกไม้ที่ดูดไว้ออกมาเก็บไว้ในหลอดรวงน้ำผึ้งเพื่อเป็นแหล่งอาหารให้กับตัวอ่อนในรัง โดยน้ำผึ้งที่ได้จากเกสรดอกไม้แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ปัจจุบันมีการศึกษาและนิยมเลี้ยงผึ้งในสวนลำไยเพื่อให้ได้น้ำผึ้งจากดอกลำไย กันมากขึ้น เนื่องจากมีคุณประโยชน์และคุณสมบัติที่โดดเด่นชัดเจนกว่าน้ำผึ้งจากเกสรพืชหรือพันธุ์ไม้อื่น ๆ ดังนี้
1. กลิ่นหอมเฉพาะ รสหวาน และไม่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ
โดยทั่วไป น้ำผึ้งจะมีรสหวานตามธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะเป็นน้ำหวานจากเกสรดอกไม้นานาชนิดที่ผ่านกระบวนการผลิตจากผึ้งงานจนกลายเป็นสารให้ความหวานที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบมากถึง 80-85 % เช่น กลูโคส และฟรักโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่สามารถย่อยเป็นพลังงานให้กับร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แต่น้ำผึ้งจากดอกลำไย ที่เกิดจากการเลี้ยงผึ้งภายในสวนลำไยหรืออยู่ข้างๆ สวนลำไย รสหวานกว่าน้ำผึ้งเลี้ยงอื่น ๆ สีสวยออกน้ำตาลไม่เข้มมาก มีกลิ่นหอมของดอกลำไย และสีจะไม่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิทั้งการเก็บไว้ในตู้เย็นหรืออากาศเย็น จึงเป็นน้ำผึ้งที่นิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในตัวยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง และเป็นสูตรส่วนผสมในพืชสมุนไพรเพื่อบำรุงดูแลผิว

2. คุณประโยชน์ด้านความงาม
น้ำผึ้งที่ได้จากป่าธรรมชาติมีการนำมาใช้ประโยชน์ด้านดูแลสุขภาพและความงามมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น การนำน้ำผึ้งสดมาเป็นสูตรส่วนผสมในสมุนไพรไทยเพื่อนวดบำรุงผิวพรรณ บำรุงเส้นผม ปัจจุบันมีการนำน้ำผึ้งมาเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางหลากหลายประเภท ทำให้มีการศึกษาและค้นพบว่า น้ำผึ้งจากดอกลำไยเป็นน้ำผึ้งที่มีคุณภาพมากที่สุด เหมาะสำหรับนำไปใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพและความงาม เพราะมีสารประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เป็นตัวต้านความระคายเคืองและช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง

3. มีประโยชน์ด้านโภชนาการ
น้ำผึ้งเป็นแหล่งของสารอาหารคาร์โบไฮเดรต  มีน้ำตาลฟรุกโทส และกลูโคส ที่ผึ้งย่อยสลายจากน้ำตาลซูโคสในน้ำหวาน นอกจากเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปสร้างพลังงานได้ทันทีแล้ว  การทานน้ำผึ้งในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ผสมกับเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น ช่วยคลายความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียจากการตรากตรำทำงานหนัก จากการอดนอน และจากการเล่นกีฬา  หรือผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวดื่มเพื่อให้ชุ่มคอ ใช้ทาขนมปังเพื่อเพิ่มรสชาติ และใช้หมักอาหารเพื่อความกลมกล่อมทำให้อาหารรสชาติดียิ่งขึ้น

4. ประโยชน์ด้านสุขภาพและมีสรรพคุณทางยา
น้ำผึ้งจากแหล่งธรรมชาติทั่วไปจะได้จากพืชและเกสรดอกไม้หลากหลายชนิด ทำให้กลิ่น รส และสี แตกต่างกันไป นอกจากนั้นองค์ประกอบโครงสร้างของน้ำหวานที่ได้ก็อาจผิดแผกจากกันไปบ้าง จึงทำให้ไม่สามารถระบุน้ำผึ้งตามชนิดของพืชอาหารได้ ต่างจากน้ำผึ้งจากดอกลำไยที่มีกลิ่นหอมเฉพาะ สีสวย และรสหวานจากน้ำตาลฟรุกโทสและกลูโคส ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะพักฟื้น มีธาตุเหล็กมีสรรพคุณช่วยบำรุงและเลือด บำรุงสมอง ช่วยความจำ ทำให้นอนหลับ และยังเป็นยาอายุวัฒนะช่วยบำรุงกำลังได้ดีอีกด้วย

5. ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ
การเลี้ยงผึ้งหรือทำฟาร์มผึ้งบริเวณสวนลำไย นอกจากจะได้น้ำผึ้งจากดอกลำไย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาดเนื่องจากนำไปใช้ประโยน์ได้หลายๆด้าน เช่น ด้านความงาม ด้านอาหารหรือโภชนาการ เป็นอาหารเสริม และมีสรรพคุณทางยา ทำให้น้ำผึ้งจากดอกลำไยมีราคาแพง รวมทั้งส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น เกสรผึ้ง ไขผึ้ง นมผึ้งสด รวงผึ้ง มีราคาและขายได้เพราะนำไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน นอกจากนั้นการเลี้ยงผึ้งหรือทำฟาร์มผึ้งในสวนลำไย ยังช่วยทำการผสมเกสรดอกลำไยทำให้ต้นลำไยติดลูกได้มากยิ่งขึ้น การเลี้ยงผึ้งในสวนลำไยจึงเป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ ทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์หลายต่อและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

น้ำผึ้ง เป็นสารให้ความหวานและเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาตินอกจากมีคุณค่าและมีสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพและความงามแล้ว น้ำผึ้งจากดอกลำไยยังมีคุณลักษณะที่โดดเด่นและเป็นน้ำผึ้งที่คุณภาพ มีกลิ่นเฉพาะที่เพียงดมหรือชิมความหวานก็สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่าเป็นน้ำผึ้งแท้หรือเป็นน้ำผึ้งที่มีสิ่งปลอมปน แม้จะมีราคาแพงกว่าน้ำผึ้งทั่วไปแต่ก็ได้รับความนิยมและบรรจุในบรรจุภัณฑ์หลายขนาดให้เลือกซื้อ ปัจจุบันการหาซื้อน้ำผึ้งจากดอกลำไยทำได้ไม่ยาก นอกจากซื้อจากฟาร์มเลี้ยงผึ้งโดยตรง ยังสามารถค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและสั่งซื้อน้ำผึ้งดอกลำไยได้จากเว็บไซต์ของฟาร์มเลี้ยงผึ้งได้อีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งมีข้อดีเพราะเชื่อมั่นได้ว่าจะได้น้ำผึ้งแท้ที่มีคุณภาพจากฟาร์มเลี้ยงผึ้งโดยตรง
https://suwanfarmphueng.com/articles/benefit-of-longan-honey/

10
ความแตกต่างของน้ำผึ้ง และลักษณะของน้ำผึ้งที่ดี


น้ำผึ้ง หมายถึง น้ำหวานจากธรรมชาติที่ผึ้งงานเลือกดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้หรือจากพืชต่าง ๆ ในป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ป่า หรือพืชและดอกไม้เศรษฐกิจที่ปลูกไว้ ซึ่งอาจนำผึ้งเข้ามาเลี้ยงเพื่อให้ดูดกินน้ำหวาน ทำให้น้ำผึ้งที่ได้มีด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่น้ำผึ้งป่าและน้ำผึ้งเลี้ยง ความแตกต่างของน้ำผึ้งป่า น้ำผึ้งเลี้ยง และลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีควรเป็นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

ความแตกต่างของน้ำผึ้งแต่ละชนิด
ความแตกต่างของน้ำผึ้ง นอกจากมีความแตกต่างกันจากแหล่งที่ได้มาซึ่งได้แก่ น้ำผึ้งป่าและน้ำผึ้งเลี้ยง โดยน้ำผึ้งทั้ง 2 ชนิดอาจมีข้อดีข้อด้อยและคุณลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกันแล้ว ความแตกต่างของน้ำผึ้งหรือนมผึ้งสด ยังขึ้นอยู่กับชนิดของพืชอาหารที่ผึ้งงานไปดูดน้ำหวานมาเก็บสะสมไว้ในหลอดรวงผึ้ง ซึ่งปกติน้ำหวานที่ได้จากต่อมน้ำหวานของพืชแต่ละชนิด เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า จะมีกลิ่น รส และสี แตกต่างกันไปตามองค์ประกอบโครงสร้างของน้ำตาลจากพืชและดอกไม้แต่ละชนิด ทำให้น้ำผึ้งหรือนมผึ้งสดมีความแตกต่างกันจนสามารถระบุน้ำผึ้งตามชนิดของพืชอาหารได้ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย น้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่ หรือน้ำผึ้งจากดอกสาบเสื้อ ซึ่งน้ำผึ้งแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
1. ความแตกต่างในเรื่องของ รส กลิ่น และสี
ความแตกต่างในเรื่องของรส กลิ่น และสี ของนมผึ้งสด ขึ้นอยู่กับน้ำหวานจากเกสรดอกไม้หรือจากพืชแต่ละชนิดที่ผึ้งงานเก็บมา โดยเกสรของดอกไม้และพืชมีตั้งแต่สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลไหม้ ตัวอย่างเช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย จะมีสีเข้ม มีกลิ่นหอมและมีรสหวานกว่าน้ำผึ้งที่ได้จากดอกลิ้นจี่หรือดอกเงาะ

2. ความแตกต่างจากองค์ประกอบของน้ำตาล
เมื่อผึ้งงานเก็บน้ำหวานที่ได้จากเกสรดอกไม้และพืชลงสู่กระเพาะ ภายในจะมีเอนไซม์จากต่อมน้ำลายขับออกมาเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสและฟลุกโทสให้เป็นน้ำตาลแปรรูป ปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ผึ้งเริ่มบินกลับรัง เพราะในขณะที่ผึ้งกระพือปีกจะเกิดพลังงานความร้อนช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ ตลอดจนช่วยเผาผลาญลดความชื้นในน้ำหวานให้กลายเป็นน้ำผึ้งเร็วขึ้น และเมื่อผึ้งบินกลับรังจะคายน้ำหวานแปรรูปนี้ให้กับผึ้งงานประจำรวงผึ้ง เพื่อนำไปเก็บในหลอดรวงน้ำผึ้ง ซึ่งน้ำหวานแปรรูปนี้ยังไม่เป็นน้ำผึ้งที่สมบูรณ์ เนื่องจากยังมีความชื้นในน้ำหวานจำนวนมาก โดยขั้นตอนนี้ผึ้งงานจะช่วยกันกระพือปีกเพื่อให้มีการระเหยของน้ำหวานและทำให้ความชื้นลดลงอย่างต่อเนื่องจนได้น้ำผึ้งที่สมบูรณ์ ก่อนที่จะปิดหลอดรวงผึ้งเก็บไว้เป็นอาหารต่อไป

กระบวนการนี้หากทำการเก็บรวงผึ้งเร็ว น้ำหวานที่ได้ยังมีความชื้นและยังไม่เป็นน้ำผึ้งที่สมบูรณ์ ทำให้องค์ประกอบของน้ำตาล เช่น สัดส่วนของน้ำตาลกลูโคส และน้ำตาลฟลุกโทส ไม่เท่ากันซึ่งมีผลต่อความแตกต่างทางด้านกายภาพของน้ำผึ้ง เช่นทำให้เกิดการตกผลึก

การตกผลึกของน้ำผึ้ง เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของน้ำผึ้งที่ยังมีปริมาณความชื้นอยู่มาก ตัวอย่างเช่น น้ำผึ้งที่ได้จากการเลี้ยงผึ้งในสวนยางพาราเมื่อนำไปเก็บในตู้เย็นเป็นเวลานานสามารถตกผลึกได้หมด แตกต่างจากน้ำผึ้งที่ได้จากดอกลำไยหากเก็บในลักษณะเดียวกันจะไม่ตกผลึก

ส่วนประกอบและลักษณะของน้ำผึ้งที่ดี
         1. น้ำผึ้งที่ดีควรมีปริมาณความชื้นไม่เกินร้อยละ 21 จะทำให้ได้น้ำผึ้งที่มีรสหวานเข้มข้น สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เปลี่ยนสภาพ
         2. น้ำผึ้งที่ดีควรมีน้ำตาลกลูโคส และน้ำตาลฟลุกโทส ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก สามารถใช้น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานแทนแทนน้ำตาลได้ เพราะนอกจากมีความหวานมากกว่าร่างกายยังดูดซึมได้ช้า
         3. แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายและพบมากในน้ำผึ้งได้แก่ แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัสแมกนีเซียม โซเดียม สังกะสี เหล็ก แมงกานิส ทองแดง แร่ธาตุต่าง ๆแม้จะมีปริมาณไม่มากแต่ก็อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม การเติมน้ำผึ้งลงในอาหารแทนน้ำตาล จึงเป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหารและเพิ่มปริมาณแร่ธาตุที่จำเป็นแก่ร่างกายอีกด้วย
         4. ในน้ำผึ้งมีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 วิตามินซี และอื่น ๆ ซึ่งปริมาณวิตามินแต่ละชนิดที่มีอยู่ในน้ำผึ้งจะแตกต่างกันตามที่มาของน้ำผึ้ง เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า คุณสมบัติของวิตามินเหล่านี้เป็นส่วนที่ทำให้น้ำผึ้งชุ่มคอและเคลือบผิว
         5. ในน้ำผึ้งมีสารแขวนลอย โดยเมเลกุลของสารแขวนลอยจะไม่ตกตะกอนทำให้น้ำผึ้งที่เก็บไว้มีสารแขวนลอยให้เห็น ซึ่งสารแขวนลอยในน้ำผึ้งส่วนใหญ่เป็นเกสรดอกไม้
         6. น้ำผึ้งมีส่วนประกอบของสารอินฮิบิท มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อโรคของน้ำผึ้ง ทำให้มีการนำน้ำผึ้งมาใช้ในการรักษาแผลสด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และแผลติดเชื้อ
         7. ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีและมีคุณภาพ ไม่ควรมีน้ำเป็นส่วนผสมเกินกว่าร้อยละ 21 เพราะหากมีน้ำเจือปนมากกว่านั้น จะทำให้จุลินทรีย์สามารถเจริญเติบโตและทำลายคุณค่าของน้ำผึ้งได้ ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีควรมีความเข้มข้นและหนืด ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีส่วนผสมของน้ำหรือความชื้นไม่มาก
         8. สีของน้ำผึ้งควรเป็นสีเหลืองอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้มตามธรรมชาติของเกสรดอกไม้หรือพืช มีลักษณะใสไม่ขุ่น
         9. มีกลิ่นตามแหล่งที่ได้มาของน้ำหวาน โดยเฉพาะน้ำผึ้งเลี้ยงจะมีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งและดอกไม้ตามแหล่งที่ได้มาอย่างชัดเจน ปกติดอกไม้หรือพืชที่ใช้เลี้ยงผึ้งเพื่อผลิตน้ำหวานมีหลายชนิด ที่นิยมนมได้แก่  น้ำผึ้งจากดอกลำไย เพราะมีรสหอมหวานมากกว่าพรรณไม้ชนิดอื่น ๆ
         10. ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดี แม้จะเป็นน้ำผึ้งแท้ที่มีคุณภาพ ต้องปราศจากไขผึ้งหรือเศษตัวผึ้งและเศษวัสดุแขวนลอยอื่น ๆ ปะปนอยู่
         11. ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีจะต้องไม่มีกลิ่นบูดเปรี้ยว และไม่มีฟอง

พืชและเกสรดอกไม้ที่เป็นแหล่งอาหารของผึ้ง
น้ำหวานจากพืชและจากเกสรของดอกไม้ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของผึ้งและพืชอาหารที่ดียังได้จากพันธุ์ไม้หลายประเภท  เช่น ไม้ป่า ไม้ผล พืชไร่ พืชผัก พืชอาหารสัตว์ พืชคลุมดิน ตลอดจนวัชพืชต่าง ๆ โดยพืชบางชนิดให้น้ำหวานในปริมาณมากแม้จะเป็นดอกไม้เล็ก ๆ ในขณะที่พืชบางชนิดให้เกสรมาก เช่น
         1. พืชที่ให้ปริมาณน้ำหวานมากแต่เกสรน้อย ได้แก่ ดอกสาบเสื้อ ดอกลิ้นจี่ เงาะ มะกอกน้ำ และมันสำปะหลัง
         2. พืชที่ให้ปริมาณเกสรมากแต่ให้น้ำหวานน้อย ได้แก่ วัชพืช พืชตระกูลหญ้า ข้าวโพด หางนกยูงนนทรี ดอกโสน
         3. พืชที่ให้ทั้งปริมาณเกสรและปริมาณน้ำหวานอย่างสมดุล ได้แก่ ดอกลำไย ดอกหญ้า ตีนตุ๊กแกดอกงิ้ว และดอกทานตะวัน

ผลิตผลจากผึ้งที่นำไปใช้ประโยชน์
น้ำผึ้ง นอกจากเป็นผลิตผลจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านรวมทั้งยังมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะที่นำมาเป็นส่วนประกอบในพืชสมุนไพรเพื่อบำรุงดูแลสุขภาพมาแต่โบราณ ผลิตผลจากผึ้ง เช่น เกสรผึ้ง ไขผึ้ง นมผึ้งสด รวมทั้งรวงผึ้ง ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ดังนี้
         1. น้ำผึ้ง เป็นผลิตผลจากผึ้งงาน ที่นอกจากให้ความหวานนิยมทานน้ำผึ้งสดแล้ว ยังใช้ในอุตสาหกรรมยาทั้งแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณประเภทสมุนไพร เป็นส่วนประกอบในเวชสำอาง เครื่องสำอางต่าง ๆ น้ำผึ้งมีคุณค่าทางอาหารสูงใช้แทนน้ำตาลปรุงอาหารได้เกือบทุกชนิด ใช้เป็นส่วนประกอบในการทำขนมหวาน ขนมปัง ลูกกวาด และผสมเครื่องดื่ม เช่น น้ำมะนาว
         2. เกสรผึ้ง คือ ละอองเม็ดเล็ก ๆ คล้ายฝุ่นแป้งที่เกิดและหลุดจากช่อเกสรตัวผู้ของดอกไม้ เมื่อผึ้งงานเข้าไปดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ก็จะติดไว้ที่ปลายขาหลังทั้งสองข้างบริเวณอวัยวะที่เรียกว่า ตะกร้าเก็บเกสร และนำกลับมาเก็บยังรังเพื่อเป็นโปรตีนสำหรับใช้เลี้ยงตัวอ่อน เพราะเป็นแหล่งคุณค่าทางโภชนาการอย่างดี สรรพคุณของเกสรผึ้งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง กระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงเซลล์ได้อย่างทั่วถึง และยังให้ความชุ่มชื้นต่อผิวหนังที่แห้ง ทำให้มีการนำเกสรผึ้ง ไปเป็นส่วนผสมในในเครื่องสำอางต่าง ๆ เช่น ครีมล้างหน้า ครีมรองพื้น และครีมบำรุงผิว นอกจากนั้นยังเชื่อว่าเกสรผึ้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย จึงเป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งของผึ้งที่ได้รับความนิยมในวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
         3. ไขผึ้ง หากเป็นไขผึ้งแท้ต้องเป็นส่วนที่ได้มาจากรวงรังผึ้งเท่านั้น ผลิตออกมาจากต่อมผลิตไขผึ้ง ที่อยู่ที่ผิวด้านล่างส่วนท้องของผึ้ง ปัจจุบันไขผึ้งส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในการทำเทียน เนื่องจากมีคุณประโยชน์เพราะควันน้อยและมีกลิ่นหอม นอกจากนั้นยังใช้ผลิต กาว หมากฝรั่ง และดินสอสี รวมทั้งใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า น้ำมันทาผิว และลิปสติก
         4. นมผึ้งสด ผลิตโดยผึ้งงานที่มีอายุประมาณ 5-15 วัน ซึ่งผึ้งงานที่อยู่ในวัยนี้จะมีหน้าที่เลี้ยงดูตัวอ่อน นมผึ้งสดหรือรอยัลเยลลีจึงเป็นอาหารของผึ้งตัวอ่อนและผึ้งนางพญา มีลักษณะสีขาวคล้ายครีม หรือนมข้นหวาน ผึ้งงานจะนำรอยัลเยลลีที่ผลิตขึ้นมาไปเลี้ยงตัวอ่อนของผึ้งทุกวรรณะ ตั้งแต่แรกเกิดจนมีอายุครบ 3 วัน เฉพาะตัวอ่อนที่จะเจริญไปเป็นผึ้งนางพญาเท่านั้น

การศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ทางด้านชีวเคมีพบว่า ในรอยัลเยลลี มีวิตามินอยู่หลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 และวิตามินอื่น ๆ อีกหลากหลายชนิด ทำให้นมผึ้งสดมีราคาแพงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป และมีการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางต่าง ๆ มากมาย

         5. รวงผึ้ง หรือรังผึ้ง มีสารพรอพโพลิส ซึ่งเป็นสารสกัดจากรังผึ้งประกอบด้วยยางไม้และขึ้ผึ้งประมาณร้อยละ 50-55 มีลักษณะเหนียวข้นเป็นยาง ซึ่งได้มาจากยางของเปลือกไม้ที่ ผึ้งงานรวบรวมไว้ และนำมาผสมกับไขผึ้งเพื่อซ่อมแซมรัง อุดรอยรั่ว ตลอดจนรักษาความสะอาดและป้องกันการระบาดของเชื้อโรคในรังของผึ้ง ถือเป็นสารปฏิชีวนะที่ดีที่สุดตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา และยับยั้งการอักเสบได้ดี นิยมนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ต่าง ๆ เช่น สบู่ และยาสีฟัน เพื่อช่วยป้องกันและยับยั้งแบคทีเรีย

ปัจจุบันน้ำผึ้งเป็นผลผลิตจากผึ้งงานที่นำมาใช้ประโยชน์ในหลาย ๆด้าน ทั้งด้านสุขภาพและความงาม เพื่อให้ได้น้ำผึ้งที่มีคุณภาพตามความต้องการ จึงมีการเลี้ยงผึ้งโดยเฉพาะการเลี้ยงในสวนลำไยเพื่อให้ได้น้ำผึ้งจากดอกลำไย ที่เชื่อกันว่าเป็นน้ำผึ้งที่มีคุณภาพดีที่สุดและการเลี้ยงผึ้งยังสามารถนำผลิตผลจากผึ้ง เช่น เกสรผึ้ง ไขผึ้ง นมผึ้งสด และรวงผึ้งไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ ได้อีกมากมาย
https://suwanfarmphueng.com/articles/best-honey-bee/

11
น้ำผึ้งป่า น้ำผึ้งเลี้ยง แตกต่างกันอย่างไร


น้ำหวานที่ได้จากรวงผึ้ง เกิดจากผึ้งงานดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้นานาชนิดผ่านกระบวนการย่อยภายในลำตัวผึ้ง เมื่อผึ้งบินกลับมาถึงรังจะคายน้ำหวานที่ย่อยแล้วมาเก็บไว้ น้ำผึ้งที่ได้จะถูกทำให้ความชื้นลดลงจนอยู่ในระดับที่เข้มข้น จากนั้นผึ้งจะทำการปิดหลอดรวงผึ้งเพื่อเก็บน้ำหวานไว้เป็นอาหารสำรองในรัง ปัจจุบันน้ำผึ้งหรือนมผึ้งสดสามารถแยกตามลักษณะของผึ้งได้ 2 ชนิด ได้แก่ น้ำผึ้งป่า และน้ำผึ้งเลี้ยง

น้ำผึ้งป่า น้ำผึ้งเลี้ยง แตกต่างกันอย่างไร
น้ำผึ้ง ถือเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีคุณภาพ และยังเป็นสินค้าราคาแพงเพราะมีสรรพเป็นยาอายุวัฒนะ อีกทั้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและความสวยความงาม ซึ่งน้ำผึ้งป่าและน้ำผึ้งที่ได้จากการเลี้ยง  มีข้อดีแตกต่างกัน ดังนี้

น้ำผึ้งป่า
น้ำผึ้งป่า ได้จากรังผึ้งพื้นเมือง เช่น ผึ้งหลวง ผึ้งโพรง และผึ้งมิ้ม เป็นน้ำผึ้งที่ได้มาจากเกสรดอกไม้หลากหลายชนิด ข้อด้อยของน้ำผึ้งป่าก็คือไม่สามารถแยกชนิดของดอกไม้หรือพืชที่ผึ้งไปเก็บน้ำหวานมาได้ นิยมหารังผึ้งจากป่าในช่วงเดือน มีนาคม ถึง เดือนเมษายน ของทุกปี เพื่อให้ได้น้ำผึ้งที่มีความชื้นต่ำและมีรสหวานมาก การคั้นหรือบีบเพื่อแยกน้ำผึ้งออกจากรวงผึ้งอาจมีซากตัวผึ้งหรือซากตัวอ่อนผึ้งปะปนออกมาทำให้น้ำผึ้งปรกมีสิ่งเจือปน เป็นสาเหตุทำให้บูดเสียได้  นอกจากนั้นน้ำผึ้งป่ายังมีความชื้นสูง มีโอกาสตกผลึกได้ง่าย มีราคาแพงเพราะหายาก แต่มีข้อดีคือเป็นน้ำผึ้งแท้บริสุทธิ์ 100% จากธรรมชาติ

น้ำผึ้งเลี้ยง
น้ำผึ้งเลี้ยง เป็นการนำพันธุ์ผึ้งจากต่างประเทศ เช่น ยุโรป มาเลี้ยงโดยทั่วไปการเลี้ยงผึ้งแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ การเลี้ยงแบบปล่อยไว้ตามธรรมชาติ การเลี้ยงแบบกึ่งธรรมชาติ และการเลี้ยงในหีบมีคอนซึ่งแต่ละรูปแบบ มีวิธีการที่แตกต่างกัน ดังนี้
         1. การเลี้ยงแบบปล่อยไว้ตามธรรมยถึง เมื่อพบว่ามีผึ้งมาเกาะอาศัยในโพรงตามบริเวณต่าง ๆ  เมื่อสังเกตเห็นว่ามีน้ำผึ้งพอสมควรก็สามารถตัดกลีบรัง หรือตัดรวงผึ้งบางส่วน เอาน้ำหวานมาใช้ประโยชน์ได้ วิธีนี้ยังช่วยให้ได้น้ำหวานจากรวงผึ้งอย่างต่อเนื่อง
         2. การเลี้ยงแบบกึ่งธรรมชาติทำได้หลายรูปแบบ เช่น การทำรังเลี้ยงให้เพื่อเป็นที่อยู่ของผึ้ง อาจไม้กระดานมาต่อเป็นลังสี่เหลี่ยม ให้มีขนาดกว้าง ยาว สูง ตามสมควร ปิดหัวท้ายให้มิดชิด ด้านหน้าเจาะเป็นรูขนาดโตเท่าหัวแม่มือสัก 1-2 รู พอผึ้งเข้าออกได้ การหาผึ้งมาเลี้ยงในรังเลี้ยงแบบกึ่งธรรมชาตินี้ อาจหาไขผึ้งบริสุทธิ์มาทาด้านในหีบ แล้วนำไปตั้งล่อไว้ในที่ที่เราเห็นว่าผึ้งน่าจะมาทำรังอาศัยอยู่ หรือนำผึ้งพันธุ์ที่ต้องการเลี้ยงไปปล่อยไว้ในรังที่ทำและมีการทาไขผึ้งเอาไว้
         3. การเลี้ยงในหีบมีคอน เป็นวิธีการเลี้ยงสมัยใหม่ที่นิยมกันมาก โดยหีบที่ใช้เลี้ยงผึ้งมีลักษณะเป็นหีบทึบ ด้านหน้ามีรูเข้าออกของผึ้งอยู่ส่วนล่าง ด้านบนทำเป็นฝาปิดเปิดได้ ข้างในหีบทางด้านหน้าและด้านหลังใช้ไม้ระแนงตียึดให้ต่ำลงมาจากขอบหีบ เพื่อเป็นคานให้สามารถวางคอนได้ในภายหลัง ซึ่งการเลี้ยงในหีบมีคอน เป็นการดัดแปลงจากสภาพความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของผึ้งนั่นเอง

น้ำผึ้งหรือนมผึ้งสด ที่ได้จากการเลี้ยง โดยเฉพาะการเลี้ยงในสวนไม้ดอกชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือเลี้ยงในสวนลำใย ก็จะทำให้ได้น้ำผึ้งจากดอกลำไยที่มีลักษณะหรือกลิ่นเฉพาะ ข้อดีของน้ำผึ้งเลี้ยง ได้แก่ ผู้เลี้ยงสามารถเลือกกลิ่นของน้ำผึ้งได้ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า ควบคุมความชื้นได้ง่าย หาซื้อง่าย และมีราคาถูกกว่าน้ำผึ้งป่า แต่มีข้อด้อย คือมักมีสิ่งเจือปนเนื่องจากผู้เลี้ยงบางรายต้องการลดต้นทุน เช่น ใส่น้ำเชื่อม เป็นต้น 

วิธีเลือกและลักษณะของน้ำผึ้งที่ดี
         1. น้ำผึ้งที่ดีต้องมีความข้นและหนืด ซึ่งบ่งบอกว่ามีน้ำหรือมีความชื้นน้อย
         2. น้ำผึ้งที่ดีต้องมีสีตามธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่สีเหลืองอ่อนถึงสีน้ำตาล มีลักษณะใส ไม่ขุ่นทึบ
         3. น้ำผึ้งที่ดีต้องไม่มีฟองอากาศ มีสีน้ำตาลอ่อนใส เมื่อทดลองเท หรือหยดใส่แก้วน้ำผึ้งจะหนืดและไหลช้า
         4. น้ำผึ้งที่ดีต้องไม่มีกลิ่นไหม้หรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยว บ่งบอกถึงการปลอมปนหรือมีส่วนผสมของน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลเคี่ยว
         5. มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งและดอกไม้ตามแหล่งที่ได้มา เช่น การเลี้ยงในสวนลำไย ก็จะทำให้ได้น้ำผึ้งจากดอกลำไย เป็นต้น
         6. สะอาดปราศจากไขผึ้ง เศษตัวผึ้งหรือตัวอ่อนของผึ้งติดมา
         7. น้ำผึ้งที่ดีต้องไม่มีรสขมหรือรสของน้ำตาล และน้ำเชื่อมที่ปลอมปนมา
         8. น้ำผึ้งที่ดีต้องไม่แยกชั้น และต้องเป็นเนื้อเดียวกัน
น้ำผึ้งป่าและน้ำผึ้งเลี้ยง แม้จะมีข้อดีและข้อด้อยที่แตกต่างกัน แต่นำไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน เช่น นำไปเป็นส่วนผสมในตัวยา เพื่อเพิ่มความคงตัวและมีรสหวานทำให้ยานั้นรับประทานง่าย นอกจากนั้น น้ำผึ้งยังเป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย และใช้เป็นยาอายุวัฒนะมาแต่โบราณ การทานน้ำผึ้งหรือนมผึ้งสด นอกจากเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ น้ำผึ้งยังมีสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ คือสามารถดึงหรือเก็บความชื้นไว้ได้ จึงถูกนำไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ความงามเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/wild-honey/

12
ปัญหาคาใจ “น้ำผึ้งตกผลึก” เป็นของแท้หรือของปลอม


น้ำผึ้ง เป็นผลผลิตของผึ้งที่นอกจากให้ความหวาน ยังมีสรรพคุณทางยาที่เชื่อกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะจากธรรมชาติ ทั้ง เกสรผึ้ง ไขผึ้ง นมผึ้งสด และรวงผึ้งหรือรังผึ้ง ล้วนมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามทั้งสิ้น ไม่ว่าจะทานสด นำไปนวดหน้าเพื่อบำรุงดูแลผิว หรือใช้เป็นสูตรส่วนผสมในเวชสำอางและยาแผนโบราณ จากคุณสมบัติและสรรพคุณเหล่านี้ทำให้น้ำผึ้งแท้ๆมีราคาแพง จนทำให้มีการผลิตน้ำผึ้งปลอมออกมาขาย

น้ำผึ้งปลอม คืออะไรน้ำผึ้งปลอม หมายถึง
น้ำผึ้งแท้ที่มีการปลอมปนโดยการเคี่ยวน้ำตาลผสมปนเข้าไปในน้ำผึ้งเพื่อให้ได้ปริมาณมากขึ้น หรือเป็นน้ำผึ้งที่มีการเติมน้ำตาลหรือเกสรเทียมเพิ่มเข้าไปเพื่อให้มีได้ปริมาณมาก ๆ และมีความคล้ายน้ำผึ้งแท้ที่มาจากธรรมชาติมากที่สุด โดยทั่วไปน้ำผึ้งจากธรรมชาติและได้จากการเลี้ยง เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า สีจะอ่อนใสเป็นสีเดียวกลมกลืนทั้งหมดไม่แยกชั้น สำหรับวิธีดูหรือสังเกตน้ำผึ้งแท้ด้วยตาเปล่า อาจดูได้จากการตกกตะกอนหากเป็นน้ำผึ้งที่มีการปลอมปนตะกอนจะเป็นสีเข้มแตกต่างจากสีของน้ำผึ้งหรือส่วนที่เป็นของเหลวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการตกตะกอนจะเป็นการแยกเอาของแข็งซึ่งอยู่ในรูปของสารแขวนลอยออกจากของเหลว และเมื่อน้ำผึ้งมีการตกผลึกอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นน้ำผึ้งปลอมได้

การตกผลึกของน้ำผึ้ง คืออะไร
โดยทั่วไปน้ำผึ้งแท้ จะเป็นน้ำผึ้งที่ได้จากป่าธรรมชาติและน้ำผึ้งที่ได้จากการเลี้ยง ทำให้น้ำผึ้งที่ได้มีความแตกต่างกัน เช่น น้ำผึ้งป่าอาจได้จากเกสรของดอกไม้หลากหลายชนิด ขณะที่น้ำผึ้งเลี้ยงอาจได้จากดอกไม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย เนื่องจากมีการเลี้ยงหรือเคลื่อนย้ายรังผึ้งเข้าไปตามระยะเวลาการบานของดอกลำใย ทำให้น้ำผึ้งแท้ที่ได้จากป่าและน้ำผึ้งเลี้ยงมีลักษณะและคุณสมบัติแตกต่างกันโดยเฉพาะน้ำผึ้งที่ได้จากดอกไม้ป่า หากเก็บในตู้เย็นจะมีโอกาสตกผลึกได้มากกว่าน้ำผึ้งเลี้ยงและอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นน้ำผึ้งปลอม การตกผลึกเป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของน้ำผึ้ง มีสาเหตุมาจากปริมาณความชื้นในน้ำผึ้งที่ได้จากดอกไม้แต่ละแหล่งและแต่ละชนิดจะแตกต่างกันรวมถึงวิธีการเก็บรักษา เช่น หากเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำจะชักนำให้เกิดการตกผลึกได้ ซึ่งการตกผลึกก็คือการที่น้ำตาลกลูโคสที่มีอยู่ในน้ำผึ้งเกิดการตกตะกอนแยกตัวจากน้ำผึ้ง ดังนั้นน้ำผึ้งที่มีการตกผลึกจึงไม่ใช่ของปลอมทั้งหมด และสามารถสังเกตได้จากลักษณะผลึกของน้ำผึ้งแท้ที่จะเล็กละเอียด ฟูนุ่ม เมื่อนำมาหยดลงบนนิ้วแล้วใช้นิ้วประกบและคลึงจะละลายง่าย ส่วนผลึกของน้ำผึ้งปลอมจะละลายได้ยาก ลักษณะของผลึกจะหยามและเกาะตัวกันแน่น

คุณสมบัติของน้ำผึ้งตกผลึก แตกต่างจากน้ำผึ้งแท้ทั่วไปหรือไม่
น้ำผึ้งแท้ที่ตกผลึกสามารถรับประทานได้ตามปกติ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้เช่นเดียวกับน้ำผึ้งแท้ทั่วไป หากไม่ต้องการทานหรือนำไปใช้ในลักษณะตกผลึก สามารถทำให้กลับสู่สภาพเหลวได้โดยการนำไปอุ่นในน้ำร้อนที่อุณหภูมิไม่เกิน 60 องศาเซลเซียส  ในส่วนของการเก็บรักษา ไม่ควรเก็บไว้นานหากเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิปกติน้ำผึ้งแท้ที่ตกผลึกอายุการเก็บรักษาจะลดลง  หากเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ เช่น เก็บไว้ในตู้เย็นจะช่วยให้เก็บไว้ได้นาน

วิธีตรวจสอบน้ำผึ้งแท้แบบง่าย ๆ
ด้วยคุณสมบัติของน้ำผึ้งที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายกหลาย รวมทั้ง    สรรพคุณทางยาที่เชื่อกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ประกอบกับน้ำผึ้งแท้ที่ได้จากป่าธรรมชาติและน้ำผึ้งที่ได้จากการเลี้ยง เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไยดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า มีราคาแพง ทำให้มีการปลอมปนหรือผลิตน้ำผึ้งปลอมออกมาจำหน่าย และลักษณะยังคล้ายกันจนแยกแทบไม่ออกหากไม่มีความรู้เกี่ยวกับน้ำผึ้งมาบ้าง สำหรับวิธีตรวจสอบน้ำผึ้งแท้แบบง่าย ๆ เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว เช่น
          1. ทดสอบโดยนำน้ำผึ้งที่ต้องการทดสอบ หยดลงในถ้วยที่ใส่น้ำเย็นไว้ หากน้ำผึ้งที่หลดลงไป ละลายไปกับน้ำทันทีแสดงว่าเป็นน้ำผึ้งปลอม หากเป็นน้ำผึ้งแท้เมื่อหยดลงไปในน้ำจะม้วนเป็นขดซ้อนกันเรื่อย ๆ
          2. ทดสอบโดยหยดน้ำผึ้งลงบนนิ้ว หากน้ำผึ้งขดจับตัวกันอยู่บนปลายนิ้ว แสดงว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ หากเป็นน้ำผึ้งปลอมจะกระจายไปทั่วนิ้ว
          3. ทดสอบโดยการเขย่าขวดน้ำผึ้ง เพื่อดูฟองอากาศและการแยกชั้น หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะมีฟองอากาศใหญ่ ลอยตัวเร็วไม่เห็นการแยกชั้นของน้ำผึ้ง ส่วนน้ำผึ้งปลอมจะมีฟองอากาศมาก ลอยตัวช้า มองเห็นการแยกตัวเป็นชั้น
          4. ทดสอบโดยการหยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษทิชชู เพื่อตรวจดูการซึมผ่าน หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะซึมผ่านกระดาษทิชชูช้ามาก ต่างจากน้ำผึ้งปลอมจะซึมผ่านเร็วหรือทำให้กระดาษทิชชูขาดทะลุ เพราะมีปริมาณของน้ำเจือปนมาก
          5. ทดสอบโดยการเอาหัวไม้ขีดไฟแตะน้ำผึ้งให้ติดปลายไม้ขีดไฟนิดหน่อย จากนั้นจุดไม้ขีดไฟ หากเป็นน้ำผึ้งแท้ ไม้ขีดจะติดไฟและจะเผาน้ำผึ้งไปด้วย ในขณะที่น้ำผึ้งปลอมหรือน้ำผึ้งที่มีการปลอมปนจะจุดไฟไม่ติด

ทราบกันแล้วว่า น้ำผึ้งที่ตกผลึกไม่ใช้น้ำผึ้งปลอม แต่เพื่อความมั่นใจในในเลือกซื้อน้ำผึ้ง วิธีตรวจสอบน้ำผึ้งแท้แบบง่าย ๆ ทั้ง 5 ข้อที่นำมาแนะนำคงเป็นประโยชน์และช่วยให้เลือกซื้อหรือใช้ประโยชน์จากน้ำผึ้งหรือนมผึ้งสดได้อย่างมั่นใจ
https://suwanfarmphueng.com/articles/crystal-honey/

13
สังคมของผึ้งและหน้าที่ของผึ้งงาน (The Worker)


ผึ้ง เป็นแมลงที่นอกจากอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่แล้ว สังคมของผึ้งยังแบ่งวรรณะและแบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจน เช่น ผึ้งนางพญา มีหน้าที่ควบคุมความเป็นอยู่ของประชากรภายในรวงผึ้งหรือรังผึ้ง

ทำหน้าที่วางไข่ เพื่อสร้างประชากรในรังให้เพิ่มขึ้น สำหรับผึ้งตัวผู้หน้าที่สำคัญคือการผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์เพียงครั้งเดียวก็จะตายทันที ส่วนผึ้งงานเป็นประชากรผึ้งที่มีบทบาทสำคัญในการหาน้ำหวานเพื่อให้ได้นมผึ้งสดหรือน้ำผึ้ง
 
หน้าที่ของผึ้งงาน (The Worker)
ผึ้งงาน เป็นแรงงานที่ปฏิบัติภารกิจเกือบทุกอย่างในรัง ตั้งแต่การสร้างหลอดรวงผึ่ง เพื่อเป็นที่วางไข่ให้นางพญา ทำหน้าที่หาอาหาร และสร้างนมผึ้งสด ซึ่งผึ้งงานจะมีอวัยวะพิเศษทำให้สามารถปฏิบัติงานสำคัญ ๆ ภายในรังไข่ มีต่อมไขผึ้ง มีตะกร้อเก็บเกสร และต่อมกลิ่น หน้าที่ของผึ้งงานจะเปลี่ยนไปตามช่วงอายุ อายุของตัวเต็มวัยที่เริ่มมีบทบาทหน้าที่ ได้แก่
           - ผึ้งงานช่วงอายุ 3 วัน หลังจากผึ้งงานออกจากดักแด้ ใน 3 วันแรก ต่อมต่าง ๆ ยังไม่เริ่มพัฒนา หน้าที่ของผึ้งวัยนี้ได้แก่การทำความสะอาดรัง
           - ผึ้งงานช่วงอายุ 3 – 11 วัน ช่วงวัยนี้ต่อมพี่เลี้ยงจะถูกพัฒนาผึ่งงานจะเริ่มทำหน้าที่ให้อาหารตัวอ่อนที่อยู่ในรวงผึ้ง
           - ผึ้งงานช่วงอายุ 12 – 17 วัน เป็นช่วงที่ต่อมผลิตไขผึ้งถูกพัฒนา ผึ้งงานในช่วงวัยนี้จึงมีหน้าที่สร้างและซ่อมแซมรังโดยการใช้ไขผึ้งที่ผลิตได้ ผลิตได้ในการสร้างรัง
           - ผึ้งงานช่วงอายุ 18 – 21 วัน เป็นช่วงโตเต็มวัยและมีความแข็งแรงต่อมพิษจะเริ่มทำงาน ผึ้งที่อยู่ในช่วงวัยนี้จึงคอยทำหน้าที่ปกป้องรวงผึ้งหรือป้องกันรัง
           - ผึ้งงานช่วงอายุ 22 – ตาย ผึ้งที่อยู่ในช่วงวัยนี้ต่อมน้ำลาย และต่อมกลิ่นเริ่มพัฒนา ผึ้งงานวัยนี้จะมีหน้าที่หาอาหาร ยางไม้ น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ และน้ำ เพื่อเป็นอาหารในแก่นางพญาที่อยู่ในรวงผึ้ง

สังคมและการทำงานของผึ้งงาน
โดยทั่วไปผึ้งงานจะแบ่งหน้ากันทำงานอยู่ภายในรังและนอกรัง งานหลักของผึ้งงานที่อยู่ภายในหลังได้แก่ การสร้างรวงและเลี้ยงตัวอ่อน ส่วนผึ้งงานที่อยู่ภายนอกรังจะทำหน้าที่หาอาหารและส่วนหนึ่งจะทำหน้าคอยปกป้องรัง โดยบินวนเวียนอยู่บริเวณปากทางเข้ารวงผึ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผึ้งจากรังอื่นหรือศัตรูผึ้งเข้ามาขโมยน้ำหวานในรัง การขโมยน้ำหวานเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นได้เสมอในสังคมของผึ้ง แต่ผึ้งงานที่ทำหน้าที่ปกป้องรังก็จะรับรู้ได้โดยกลิ่นของผึ้งขโมยจะผิดแผกไป และลักษณะการบินจะบินวนเวียนอยู่หน้ารัง เมื่อจับผึ้งขโมยได้ก็จะเข้าทำการต่อสู่กัน โดยใช้ทั้งกรามและเหล็กไนเป็นอาวุธ ส่วนมากผลของการต่อสู้มักจะตายทั้งสองฝ่าย

ภาษาของผึ้งงานที่ใช้สื่อสารกัน
หน้าที่สำคัญของผึ่งงานที่ทำหน้าที่อยู่นอกรัง ได้แก่การหาอาหารและหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ เมื่อผึ้งงานตัวใดตัวหนึ่งบินไปพบแหล่งอาหาร ภาษาหรือพฤติกรรมที่ใช้สื่อสารหรือแจ้งให้บรรดาผึ้งงานตัวอื่น ๆ ได้รับรู้ก็คือ เมื่อนำอาหารที่ได้บินกลับมายังรัง จะบอกทิศทางแหล่งอาหารที่ได้ให้กับผึ้งงานที่อยู่ในรังด้วยการเต้นรำเป็นจังหวะ ผึ้งที่เห็นพฤติกรรมนี้จะมารุมตอมเพื่อชิมอาหาร หากรสชาติอาหารเป็นที่ถูกใจ ผึ้งเหล่านั้นจะพากันบินไปยังแหล่งอาหารตามทิศทางที่ได้บอกไว้ทันที

การเต้นรำบอกแหล่งอาหารของผึ้งงานมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ การเต้นรำแบบวงกลมและการเต้นรำแบบส่ายท้อง ซึ่งทั้ง 2 แบบ เป็นการสื่อสารหรือเป็นภาษาของผึ้งที่มีความหมาย ดังนี้
- การเต้นรำแบบวงกลม
การเต้นรำแบบวงกลมของผึ้งงาน เป็นการบอกตำแหน่งหรือแหล่งอาหารในระยะใกล้  ที่อยู่ห่างออกไปไม่เกิน 100 เมตร ผึ้งงานที่พบพบแหล่งอาหารจะกลับมาเต้นตามจุดต่าง ๆ ทั่วรัง เพื่อบอกเพื่อนตัวอื่น ๆ หากแหล่งอาหารที่พบอุดมสมบูรณ์มาก ผึ้งงานที่เป็นนักสำรวจจะเต้นรุนแรงและเร็ว เป็นการกระตุ้นให้บรรดาผึ้งงานบินออกจากรวงผึ้งหรือรังไปยังแหล่งอาหารอย่างรวดเร็ว

- การเต้นแบบส่ายท้องของผึ้งงาน
จะมีลักษณะการเต้นแบบท้องจะส่ายไปมา แล้วหมุนวนเป็นรูปเลข 8 เพื่อบอกแหล่งอาหารที่อยู่ไกลจากรังมากกว่ากว่า 100 เมตร การเต้นบอกทิศทางระหว่างแหล่งอาหาร ที่ตั้งของรัง และดวงอาทิตย์ ผึ้งงานที่ออกไปพบแหล่งอาหารจะเต้นในลักษณะนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ความรุนแรงของการเต้นเป็นสิ่งบ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหาร ส่วนจำนวนรอบของการเต้น จะบอกระยะทางของแหล่งอาหาร

ผึ้ง เป็นแมลงสังคมที่มีการแบ่งวรรณะเพื่อทำหน้าที่ของตนเองอย่างชัดเจน และหวงแหนเผ่าพันธุ์ผึ้งทุกตัวโดยเฉพาะผึ้งงาน จะทำหน้าที่ปกป้องรังหรือรวงผึ้ง สร้างรัง และหาอาหารจากเกสรดอกไม้ เริ่มตั้งแต่ออกจากดักแด้เป็นผึ้งตัวเต็มวัย พฤติกรรมของผึ้งจะหวงแหนเผ่าพันธุ์เมื่อมีศัตรูมารุกราน จะจู่โจมและต่อสู้จนตายในหน้าที่ทุกตัว ผึ้งที่นำมาเลี้ยงแบบปล่อยในสวนพืชผลไม้ นอกจากให้ผลผลิตเป็นน้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า ตามต้องการแล้ว การเลี้ยงผึ้งยังก่อให้เกิดการอนุรักษ์ช่วยขยายพันธุ์ไม้ในธรรมชาติ และทำให้ต้นไม้ติดผลเพิ่มมากขึ้น
https://suwanfarmphueng.com/articles/social-of-honey-bee/

14
รู้จักชนิดของผึ้ง และประชากรของผึ้ง


น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวาน ที่เราทราบกันดีว่าได้มาจากการทำหน้าที่ของผึ้งงานแต่ละชนิด นำน้ำผึ้งหรือน้ำหวานจากเกสรดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า หรือน้ำหวานจากพืชชนิดอื่น ๆ ไปเก็บสะสมไว้ในรังผึ้ง ซึ่งนอกจากน้ำผึ้งที่ได้จะมีรสชาติ ความหอมหวาน และสีที่แตกต่างกันจากชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งนำมาแล้ว น้ำหวานที่ได้จากผึ้งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันด้วย

ผึ้งมีกี่ชนิด
ชนิดของผึ้งที่พบในประเทศไทย จากข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตร พบว่ามีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ ผึ้งหลวง ผึ้งมิ้ม ผึ้งม้าม ผึ้งโพรง และ ผึ้งพันธุ์ ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะรวมถึงคุณภาพของน้ำผึ้งที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. ผึ้งหลวง(Apis dorsata) ผึ้งหลวงเป็นผึ้งพื้นเมืองชนิดหนึ่งของไทยและประเทศอื่น ๆ ทางคาบสมุทรอินเดียและเอเชียอาคเนย์ มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาผึ้งทั้ง 5 ชนิด แข็งแรงมากและเป็นผึ้งที่มีนิสัยดุร้ายเมื่อถูกรบกวน พึ่งหลวงจะสร้างรังขนาดใหญ่อยู่ตามที่สูงๆ รวงผึ้งมีลักษณะเป็นรวงเดียวห้อยอยู่ตามหน้าผา ตามภูเขา โขดหิน ตามชะง่อนผา ตามต้นไม้ใหญ่ มุมตึก หรือชายคาบ้าน ผึ้งหลวงเป็นผึ้งที่แข็งแรงมาก ทำให้บินหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ได้ไกล ๆ และหากินเก่ง บางครั้งอาจพบรวงผึ้งขนาดใหญ่มีความกว้างมากกว่า 1 เมตร นํ้าผึ้งชนิดนี้มีคุณภาพเข้มข้น รสหวาน คุณภาพดีกว่าน้ำผึ้งชนิดอื่น แต่เนื่องจากเป็นผึ้งที่มีความดุร้ายจึงไม่นิยมเลี้ยง
2. ผึ้งมิ้ม (Apis florae F.) ผึ้งมิ้ม หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผึ้งแมลงวัน เนื่องจากพฤติกรรมชอบตอมขนมหวาน และตัวโตเท่าแมลงวัน จัดว่าเป็นผึ้งที่มีขนาดเล็กที่สุด ไม่ดุร้าย ขนาดรังไม่ใหญ่มากนักและมีน้ำผึ้งน้อยเนื่องจากหาน้ำหวานไม่เก่ง มักพบทำรังตามกิ่งไม้ พุ่มไม้เตี้ยๆ หรือกอไผ่ แต่น้ำหวานที่ได้รสหวานแหลมเชื่อกันว่ามีสรรพคุณทางยาสูงกว่าน้ำผึ้งชนิดอื่น  ผึ้งชนิดนี้ไม่นิยมเลี้ยงเนื่องจากชอบอพยพและมีการย้ายรังบ่อย ๆ
3. ผึ้งโพรง (Apis cerana F.) ผึ้งโพรง เป็นผึ้งขนาดกลางตัวใหญ่กว่าผึ้งมิ้มแต่เล็กกว่าผึ้งหลวง ผึ้งชนิดนี้ในธรรมชาติ จะทำรังด้วยการสร้างรวงผึ้งซ้อนกันเป็นหลืบ ๆ อยู่ในโพรงไม้ หรือโพรงหินที่มีปากทางเข้าค่อนข้างเล็ก แต่ภายในมีที่กว้างพอให้ผึ้งสร้างรวงได้ เป็นชนิดที่นิยมนำมาเลี้ยงและได้ผลดีหากเลี้ยงตามสวนมะพร้าว สวนลิ้นจี่ สวนลำไย หรือสวนผลไม้ต่าง ๆ  สามารถผลิตน้ำผึ้งได้ประมาณ 30-50 กิโลกรัม/รัง/ปี
4. ผึ้งม้าม (Apis andreniformis) ผึ้งม้าม เป็นผึ้งที่มีขนาดเล็กเท่ากับผึ้งมิ้ม ขนาดรัง และนิสัยการสร้างรัง การหาอาหาร ไม่แตกต่างไปจากผึ้งมิ้ม แต่จะแตกต่างเฉพาะลักษณะเหล็กไน เส้นปีก และอวัยวะสืบพันธุ์ของผึ้งตัวผู้ ซึ่งจะแยกแยะได้ยากมาก
5. ผึ้งพันธุ์ (Apis mellifera F.) เป็นผึ้งพื้นเมืองของทวีปแอฟริกาและยุโรป มีลำตัวใหญ่รองลงมาจากผึ้งหลวง และใหญ่กว่าผึ้งโพรง ผึ้งชนิดนี้นิยมเลี้ยงมากที่สุด ถูกนำเข้ามาเลี้ยงเพื่อผลิตน้ำผึ้งโดยเฉพาะ พันธุ์ที่นิยมเลี้ยงได้แก่ ผึ้งพันธุ์อิตาเลี่ยน ผึ้งพันธุ์คาร์นิโอลาน ผึ้งพันธุ์คอเคเซี่ยน และผึ้งพันธุ์ดำ 

ประชากรของผึ้ง
ผึ้ง เป็นสัตว์ปีกหรือแมลงที่มีสังคม (Social insect) และแบ่งหน้าที่การทำงานแตกต่างกันไปตามวรรณะของผึ้ง โดยประชากรของผึ้งแบ่งตามวรรณะ ดังนี้
1. ผึ้งนางพญา (Queen) ผึ้งนางพญา เป็นผึ้งตัวใหญ่ อายุขัยของผึ้งนางพญามากกว่า 1 ปี มีบางตัวอายุขัยอาจมากถึง 7 ปี และใน 1 รังจะมีผึ้งนางพญา 1 ตัวเท่านั้น ทำหน้าที่ผสมพันธุ์ วางไข่ และควบคุมประชากรผึ้งวรรณะอื่นด้วยสารเคมีที่เรียกว่าฟีโรโมนส์ไปทั่วรัง เพื่อควบคุมสมาชิกหรือประชากรผึ้งภายในรังให้เป็นไปอย่างเป็นระบบระเบียบ โดยผึ้งนางพญาจะอาศัยอยู่ภายในรัง ไม่ออกหาอาหารแต่จะถูกห้อมล้อมด้วยผึ้งงานคอยดูแลป้อนอาหารและนำของเสียจากนางพญาไปทิ้ง
2. ผึ้งตัวผู้ (Drone) ผึ้งตัวผู้ เป็นประชากรผึ้งที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น อายุขัยประมาณ 4-6 สัปดาห์ เป็นผึ้งไม่มีเหล็กไน มีลิ้นสั้นสำหรับเลียรับอาหารจากผึ้งงาน ไม่ออกหาอาหารหรือออกหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ป่าและจะทำหน้าที่เพียงอย่างเดียว คือ คอยผสมพันธุ์กับผึ้งนางพญา พฤติกรรมผสมพันธุ์ ในวันที่อุณหภูมิเหมาะสม ผึ้งตัวผู้จะผสมพันธุ์กับผึ้งนางพญา หลังจากผสมพันธุ์ผึ้งตัวผู้จะตกตาย โดยยังค้างอวัยวะสืบพันธุ์ติดอยู่กับผึ้งนางพญา หากหมดฤดูผสมพันธุ์ ถ้าผึ้งตัวผู้ตัวใดไม่ได้ผสมพันธุ์ก็จะถูกไล่ออกจากรังหรือผึ้งงานไม่ป้อนอาหารและตายในที่สุด
3. ผึ้งงาน (Worker) ผึ้งงาน เป็นผึ้งเพศเมียที่เป็นหมัน หรือเกิดจากไข่ที่ได้รับการผสมจากผึ้งตัวผู้ แต่เป็นเพศเมียที่ไม่สมบูรณ์เพศเนื่องจากรังไข่ฝ่อ มีอายุขัยประมาณ 6-8 สัปดาห์ เป็นผึ้งที่มีขนาดเล็กที่สุดใน 3 วรรณะมีหน้าที่ออกหาอาหาร หาน้ำหวานจากธรรมชาติหรือจากการเลี้ยง เช่น จากเกสรดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า ทำหน้าที่สร้างรังหรือรวงผึ้งจากไขที่ผลิตจากต่อม คอยเลียทำความสะอาดนางพญาและรัง ทำหน้าที่ป้อนอาหารให้แก่ผึ้งนางพญา และผึ้งตัวผู้ ปัจจุบันน้ำหวานหรือผลผลิตที่ได้จากผึ้ง เช่น เกสรผึ้ง ไขผึ้ง นมผึ้งสด รวงผึ้ง ล้วนเป็นเป็นประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพและความงาม รวมไปถึงการเลี้ยงผึ้งที่นอกจากเป็นการสร้างรายได้จากการขายน้ำผึ้ง ยังช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากผึ้งเป็นแมลงที่ช่วยผสมเกสรของพืชได้ดีที่สุด
https://suwanfarmphueng.com/articles/kind-of-honey-bee/

15
สรรพคุณของน้ำผึ้ง กับประโยชน์ทางการแพทย์


น้ำผึ้ง สารอาหารหรือน้ำหวานจากธรรมชาติ ที่ได้จากเกสรดอกไม้ป่าหรือได้จากเกสรดอกไม้นานาพันธุ์ รวมทั้งน้ำผึ้งที่ได้จากการเลี้ยงในสวนลำไยแบบปล่อยธรรมชาติ ก็จะทำให้ได้น้ำผึ้งจากดอกลำไย ซึ่ง น้ำผึ้งแท้น้ำ 100% ดูได้จากสินค้าในสุวรรณฟาร์มผึ้ง โดยน้ำผึ้งที่ได้จากแต่ละแหล่งจะมีแร่ธาตุและความสมบูรณ์ของสารอาหารที่แตกต่างกัน และตามหลักการแพทย์แผนไทยน้ำผึ้งยังใช้เป็นส่วนประกอบในยาแผนโบราณหลายชนิด

สรรพคุณของน้ำผึ้ง กับประโยชน์ทางการแพทย์
น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวาน ที่มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการนำไปเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง เวชสำอาง และยารักษาโรค สรรพคุณของน้ำผึ้งยอมรับกันว่าเป็น “ยาอายุวัฒนะ” และมีการนำน้ำผึ้งที่ได้จากธรรมชาติ และน้ำผึ้งที่ได้จากการเลี้ยง เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ไปใช้
ประโยชน์ทางการแพทย์ ดังนี้
          - การรักษาแผล ด้วยคุณสมบัติของน้ำผึ้งที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จะทำหน้าที่ช่วยยับยั้ง การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียช่วยรักษาแผล สมานแผล ลดอาการอักเสบ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
          - แก้อาการนอนไม่หลับ เนื่องจากน้ำผึ้งมีสรรพคุณเป็นยาระงับประสาทอ่อนๆ โดยความหวานของน้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการง่วงและช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น
          - บำรุงดูแลสุขภาพ สรรพคุณของน้ำผึ้งช่วยรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ลดกรดในกระเพาะอาหารโดยน้ำผึ้งที่เก็บจากรังใหม่ๆ จะมีสรรพคุณเป็นยาระบายช่วยแก้อาการท้องผูก ส่วนน้ำผึ้งที่รเก็บไว้นานเกิน 1 ปีขึ้นไป จะช่วยแก้อาการท้องเสีย
          - สรรพคุณที่ระบุไว้ในตำราอาหารและยาของจีน น้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยลดความแห้งของปอด ทำให้ชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะ ไอเรื้อรัง ในตำราจีนยังระบุอีกว่า อาจใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ ได้
          - บำรุงดูแลผิว มีผลงานการวิจัยพบว่าน้ำผึ้งบริสุทธิ์จากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำไย ดอกสาบเสื้อ และดอกไม้ป่า มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย “ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์” ซึ่งสารชนิดนี้กำจัดเชื้อโรคได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ จึงนิยมใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมเวชสำอางเพื่อใช้ดูแลผิวพรรณ เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ได้แก่ สบู่ หรือเจลล้างหน้า รวมไปถึง ครีมพอกหน้า  ครีมขัดหน้า และอื่น ๆ

น้ำผึ้ง นอกจากมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ทางการแพทย์นำไปเป็นส่วนประกอบในตัวยา เวชสำอาง เครื่องสำอาง และอาหารเสริมต่าง ๆ แล้ว น้ำผึ้งจากธรรมชาติ หรือ นมผึ้งสด ยังสามารถนำมานวดผิวหน้า หรือใช้เป็นสูตรส่วนผสมในพืชสมุนไพร เพื่อใช้บำรุงดูแลผิวพรรณได้หลากหลายสูตร
https://suwanfarmphueng.com/articles/medication-benefits-of-honey/

16
น้ำผึ้งดอกสาบเสือ คือ ? มีวิธีรับประทานและคุณประโยชน์อะไรบ้าง


น้ำผึ้ง เป็นสารให้ความหวานชนิดแรกๆที่มนุษย์ค้นพบจากธรรมชาติ โดยเป็นสิ่งที่พบเจอก่อนน้ำตาลเสียอีก นอกจากนั้นน้ำผึ้งยังมีสรรพคุณทางยา และความงามต่างๆอีกมากที่ถูกนำมาแปรรูปและพัฒนามาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ตัวน้ำผึ้งยังมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งที่จะกล่าวถึงในวันนี้นั้นจะเป็นของตัวน้ำผึ้งดอกสาบเสือที่หลายๆท่านอาจจะโปรดปรานเป็นอย่างดีว่าจะมีส่วนประกอบ และวิธีการรับประทานเช่นไร


น้ำผึ้งดอกสาบเสือ คือ ?
น้ำผึ้งดอกสาบเสือ คือ น้ำผึ้งที่ได้มาตากน้ำหวานของดอกสาบเสือ โดยตัวดอกสาบเสือนั้นถือเป็นพืชสมุนไพรของทางภาคเหนือในประเทศไทย โดยจุดเริ่มต้นมาจากการที่ผึ้งเก็บน้ำหวานมาจากดอกสาบเสือและใช้เอนไซม์ภายในตัวผึ้งช่วยย่อยน้ำหวาน และนำมาบ่มเพื่อเก็บรักษาไว้ภายในรังผึ้ง นี่จึงช่วยให้ดอกสาบเสือนั้นมีสีเหลืองทอง และจะมีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา แถมยังมีกลิ่นหอมหวานเล็กน้อย ปัจจุบันนิยมนำมาใช้เพื่อบริโภค หรือนำไปใช้เป็นสารให้ความหวานผสมเข้ากับอาหารและเครื่องดื่มชนิดต่างๆ

วิธีรับประทาน
น้ำผึ้งดอกสาบเสือ จากทางสุวรรณฟาร์มผึ้งสามารถรับประทานสดๆได้ทันที โดยปริมาณที่แนะนำคือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อครั้ง ซึ่งสามารถรับประทานเป็นประจำได้ นอกเหนือจากนั้นก็นิยมนำไปทาลงบนขนมปัง หรือสามารถเติมลงไปในเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เช่น เติมลงในชา กาแฟ นอกจากนี้ก็ยังนำไปผสมเข้ากับอาหารชนิดต่างๆเพื่อใช้ในการปรุงอาหารได้

คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
         - พลังงาน 1,272 kJ (304 kcal) คาร์โบไฮเดรต 82.4 g น้ำตาล 82.12 g ใยอาหาร 0.2 g ไขมัน 0 g โปรตีน 0.3 g
         - วิตามิน ไรโบเฟลวิน(บี2) 0.038 mg ไนอาซิน(บี3) 0.121 mg กรดแพนโทเทนิก(บี5) 0.068 mg วิตามินบี6 0.024 m โฟเลต(บี9) 2 mg วิตามินซี 0.5 mg
         - แร่ธาตุ แคลเซียม 6 mg เหล็ก 0.42 mg แมกนีเซียม 2 mg ฟอสฟอรัส 4 mg โพแทสเซียม 52 mg โซเดียม 4 mg สังกะสี 0.22 mg
         - องค์ประกอบอื่น น้ำ 17.10 g
 
คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งดอกสาบเสือ
         - เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ ช่วยให้ร่างกายสดชื่นและกระปรี่กระเปร่า
         - รับประทานก่อนนอน จะช่วยให้หลับสบายมากขึ้น
         - ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสียและยังช่วยส่งเสริมให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ
         - มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นมากขึ้น
         - ช่วยลดอาการไอและระคายเคืองคอได้
https://suwanfarmphueng.com/articles/sesbania-flower-honey-is/

17
น้ำผึ้งดอกลำไย คือ ? และคุณประโยชน์ของน้ำผึ้งแท้จากดอกลำไย


ท่านอาจจะรู้จักน้ำผึ้งและรับประทานน้ำผึ้งเป็นประจำอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน แต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าตัวน้ำผึ้งเองก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกรับประทานกัน โดยที่จะขอพูดถึงวันคือน้ำผึ้งดอกลำไยที่หลายๆท่านอาจจะคุ้นเคยกันดีและถูกพบเห็นได้มากตามท้องตลาดทั่วๆไป

น้ำผึ้งดอกลำไย คือ ?
น้ำผึ้งดอกลำไย เป็นน้ำผึ้งที่ทำมาจากเกสรดอกลำไย ซึ่งจะมีทั้งสีน้ำตาล เหลืองธรรมชาติ โดยเริ่มจากการที่เมื่อผึ้งงานเก็บน้ำหวานจากดอกลำไยลงสู่กระเพาะน้ำหวาน และเมื่อดูดเสร็จจะกลับมาคายน้ำหวานที่รัง ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของผึ้งงานประจำรัง ผึ้งงานประจำรังจะนำน้ำหวานนี้ไปเก็บไว้ในหลอดรวงน้ำผึ้ง ก่อนที่จะช่วยกันกระพือปีกใส่ให้เกิดการะระเหายของน้ำหวานจนได้เป็นน้ำผึ้งดอกลำไยที่สมบูรณ์

น้ำผึ้งดอกลำไยมีรสหอมหวาน สามารถรับประทานสดๆได้ ทั้งยังถูกนิยมนำไปแปรรูปได้อย่างหลากหลายรูปแบบ โดยตัวของน้ำผึ้งดอกลำไยจะมีสารอาหารมากมาย โดยมีคุณค่าทางโภชนาการดังต่อไปนี้

คุณค่าโดยประมาณทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
          - พลังงาน 1,272 kJ (304 kcal) คาร์โบไฮเดรต 82.4 g น้ำตาล 82.12 g ใยอาหาร 0.2 g ไขมัน 0 g โปรตีน 0.3 g
          - วิตามิน ไรโบเฟลวิน(บี2) 0.038 mg ไนอาซิน(บี3) 0.121 mg กรดแพนโทเทนิก(บี5) 0.068 mg วิตามินบี6 0.024 mg โฟเลต(บี9) 2 mg วิตามินซี 0.5 mg
          - แร่ธาตุ แคลเซียม 6 mg เหล็ก 0.42 mg แมกนีเซียม 2 mg ฟอสฟอรัส 4 mg โพแทสเซียม 52 mg โซเดียม 4 mg สังกะสี 0.22 mg
          - องค์ประกอบอื่น น้ำ 17.10 g

คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งแท้จากดอกลำไย
ประโยชน์ของน้ำผึ้งดอกลำไยมีหลากหลาย โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้
          1. คุณประโยชน์ด้านอาหาร โดยการนำน้ำผึ้งดอกลำไยไปใช้เพื่อเป็นส่วนผสมเข้ากับอาหารชนิดต่างๆ เพื่อเพิ่มความหอม รสหวาน ทั้งตัวน้ำผึ้งยังเต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค แถมยังช่วยให้พลังงานแก่ร่างกายมนุษย์ได้อีกด้วย
          2. คุณประโยชน์ด้านเครื่องสำอาง โดยการนำน้ำผึ้งดอกลำไยไปใช้เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์รักษาความงามจากธรรมชาติ ซึ่งตัวน้ำผึ้งดอกลำไยนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ทั้งยังทำให้ร่างกายสดชื่นและกระปรี่กระเปร่ามากยิ่งขึ้น
          3. คุณประโยชน์ด้านยา ประโยชน์ด้านนี้หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบ โดยน้ำผึ้งดอกลำไยมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตจากแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยสมานแผลสด กำจัดเชื้อโรค แถมยังบำรุงไตและลำไส้ให้แข็งแรง รวมถึงลดความร้อนในร่างกาย ขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย

ส่วนประกอบของน้ำผึ้งดอกลำไย
น้ำผึ้ง เป็นวัสดุทางธรรมชาติชนิดแรกๆที่ให้ความหวาน และเป็นที่รู้จักหรือใช้งานก่อนน้ำตาลก้อนเสียอีก โดยในตัวของน้ำผึ้งมีน้ำตาลมากถึง 80% ซึ่งจะประกอบไปด้วยน้ำตาลหลากหลายชนิด เช่น กลูโคส ฟรัทโทสเป็นต้น และแน่นอนนอกจากน้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำผึ้งแล้ว ยังมีแร่ธาตุ หรือวิตามินต่างๆมากมายในอยู่ในตัวน้ำผึ้ง ถึงแม้จะมีในปริมาณน้อยนิดแต่ก็ช่วยให้ประโยชน์ต่อผู้บริโภคได้
https://suwanfarmphueng.com/articles/longan-flower-honey-is/

18
เกสรผึ้ง คืออะไร และมีสรรพคุณอะไรบ้าง


น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ นั้นคงเป็นสิ่งที่หลายๆท่านต่างชื่นชอบและนิยมรับประทานกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ที่จะมาพูดถึงในวันนี้นั้นเป็นเรื่องของ เกสรผึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครหลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าสามารถนำมาเพื่อรับประทานหรือใช้สำหรับการแปรรูปอื่นๆได้อีกด้วย

เกสรผึ้ง คือ ?
เกสรผึ้ง (Bee Pollen) คือ ละอองเรณูที่เกิดจากเกสรตัวผู้ของดอกไม้ มีลักษณะคล้ายละอองเม็ดเล็กๆ เหมื่อนฝุ่นแป้ง ซึ่งมีวิธีการในการเก็บโดยผึ้งงานจะนำเกสรติดไว้ที่ปลายขาหลังทั้งสองข้างบริเวณอวัยวะที่เรียกว่า ตะกร้าเก็บเกสร แล้วจึงนำกลับมาเก็บไว้ในรัง เพื่อใช้เป็นอาหารให้สำหรับประชากรในรัง โดยเฉพาะใช้เป็นอาหารให้กับตัวอ่อนผึ้ง เกสรของผึ้งนั้น จะมีสีที่หลากหลายตามชนิดของดอกไม้ ซึ่งเมื่อดอกไม้ยังสดก็จะเป็นสีหนึง และเมื่อช่วงดอกไม้เหี่ยวก็จะเป็นอีกสีหนึ่ง มีตั้งแต่ สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาล ไปจนถึงสีดำเป็นต้น นอกจากนี้เกสรของผึ้งยังมีประโยชน์อีกมากมาย โดยสามารถนำมาใช้นำมาทำเป็นยา และสมุนไพรต่างๆ ทั้งยังมีคุณสมบัตินการบำบัด และช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลได้ดี อีกด้วย

ส่วนประกอบของเกสรผึ้ง
ส่วนประกอบของเกสรผึ้ง อุดมไปด้วยธาตุอาหารและประโยชน์ต่างๆมากมาย ดังนี้
         - คาร์โบไฮเดรต 60 %
         - โปรตีน 20 %
         - ไขมัน 7 %
         - น้ำ 7 %
         - เกลือแร่ 6 %

ประโยชน์และวิธีการนำไปใช้
เกสรน้ำผึ้ง ถูกนิยมนำไปแปรรูปได้หลายรูปแบบ เช่น ในรูปเม็ด แคปซูล ทั้งยังสามารถทานได้แบบสดๆ หรือจะนำมาทำให้แห้งเพื่อรักษาอายุของเกสรผึ้งนานอย่างยาวนาน โดยหากพูดถึงประโยชน์ของเกสรน้ำผึ้ง คงแบ่งออกได้เป็น 3 ด้าน ดังนี้'

1.ใช้เป็นยาบำรุง
เกสรผึ้ง มีส่วนประสมหลายอย่างที่มีประโยชน์ตัวเองเพราะฉะนั้นสามารถรับประทานเพื่อบำรุงด้านต่างๆ ดังนี้
          - ช่วยคลายความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนเพลีย
          - ทำให้มีความทรงจำและสมาธิดีขึ้น
          - บำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
          - เพิ่มภูมิต้านทาน
          - ช่วยการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง (เหมาะสำหรับผู้ที่มีโลหิตน้อยหรือโลหิตจาง)
          - บำรุงเส้นผมให้ดกดำและหงอกช้า
          - บำรุงจิตใจสำหรับผู้ที่มีอาการทางจิต ได้รับความกดดันจากความชราหรือซึมเศร้า กลัดกลุ้ม คิดมาก

2.ใช้รับประทาน
เกสรผึ้ง สามารถใช้รับประทานสดๆ ได้ทันที โดยตัวเกสรนั้นถือได้ว่าเป็นอาหารที่ย่อยสลายง่าย และมีส่วนประสมต่างๆที่มีประโยชน์ เหมาะแก่การรับประทานเพื่อดำรงชีวิต และช่วยฟื้นฟูสมดุลของร่างให้สดชื่น กะปรี้กะเปร่า

3.ใช้เป็นสมุนไพร
สมุนไพรทีไ่ด้รับจากเกสรน้ำผึ้ง ช่วยบำบัดและรักษาโลกต่างๆได้ ดังนี้
          - ภูมิแพ้ (แพ้อากาศและฝุ่นละออง)
          - ไมเกรน
          - โพรงจมูกอักเสบหรือไซนัส
          - ความดันโลหิตสูง
          - ไข้หวัดใหญ่
          - รอบเดือนในสตรีไม่ปกติหรือปวดรอบเดือน
          - หืดหอบ
          - ชะลอการตกกระของผิวหนัง
          - ต่อมลูกหมากอักเสบ
          - ปวดแสบปวดร้อนอันเนื่องจากแผลพุพอง
          - ปวดข้อ ปวดกระดูก
          - นอนไม่หลับ
 
อันตรายจากเกสรผึ้งและข้อห้าม
แม้ว่าเกสรผึ้งนั้นจะมีประโยชน์ต่างๆมากมาย แต่ทุกอย่างล้วนมีข้อดีและข้อเสีย ตัวของเกสรผึ้งก็เช่นกัน เหตุเพราะผู้ที่ป่วยเป็นโรคบางชนิด ไม่ควรรับประทานเกสรผึ้งเข้าไป เช่น ผู้ที่แพ้ผลิตภัณฑ์จากผึ้งไม่ควรรับประทานและผู้ที่แพ้ละอองเกสรดอกไม้ไม่ควรรับประทาน เนื่องจากเกสรของผึ้งนั้นไม่ได้เกิดตัวผึ้ง แต่ได้มาจากเกสรตัวผู้ของดอกไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้จึงไม่ควรทาน

ขนาดที่ควรรับประทาน
เกสรผึ้ง สามารถทานได้แบบสดๆ แต่ก็ไม่ควรรับประทานจนมากเกินไป โดยปริมาณที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่ที่แต่ละบุคคล แต่ที่มีนายแพทย์บางท่านแนะนำให้รับประทานปริมาณ 500 มิลลิกรัม 2 ถึง 3 ครั้งต่อวัน หากเป็นแคปซูลแนะนำให้รับประทาน 3-6 เม็ดต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายได้สารอาหารและประโยชน์ต่างๆจากเกสรผึ้ง อย่างครบถ้วน 
https://suwanfarmphueng.com/articles/what-is-kaset-bee/

19
น้ำผึ้งมะนาว เมนูยอดฮิต กับสรรพคุณที่มากมาย


น้ำผึ้งมะนาว เมนูยอดนิยมที่ทุกท่านต่างต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยรสชาติหอมหวาน ถูกปาก รวมไปถึงคุณประโยชน์ต่างๆของตัวน้ำผึ้งมะนาวนี้ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่ในอดีต ยันปัจจุบัน ส่วนสรรพคุณและวิธีการทำอย่างไรนั้นไปดูกันเลย
https://suwanfarmphueng.com/articles/honey-lemon-a-popular-menu/

สรรพคุณ น้ำผึ้งมะนาว
สรรพคุณ ของนำผึ้งมะนาวมีมากมายโดยถูกแบ่งออกได้ ดังนี้
1.แก้อาการไอ
อาการไอ เกิดขึ้นได้กับทุกผู้ ทุกคน ซึ่งหลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการรักษาการไอนั้นสามารถใช้น้ำผึ้งมะนาวช่วยบรรเทาได้ โดยตัวของน้ำผึ้งนั้นจะเข้าไปช่วยทำให้ลำคอชุ่มชื้น และยังมีสรรพคุณช่วยแก้อาการหวัดได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากท่านเกิดอาการไอขึ้นเมื่อไหร่แนะนำให้ดื้มน้ำผึ้งมะนาวทุกครั้ง

2.แก้อาการเจ็บ
การเจ็บคอที่เป็นเหตุมาจากการไอ หรือปัจจัยอื่นๆ ก็สามารถใช้น้ำผึ้งมะนาวช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บและยังช่วยให้หายจากอาการเจ็บคอได้ไวยิ่งขึ้น เหตุเพราะตัวน้ำผึ้งมะนาวนั้นมีทั้งวิตามินซี กรดซิตริก และยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสได้ นี่จึงเป็นเหตุให้หากท่านดื้มน้ำผึ้งมะนาวตอนมีอาการเจ็บคือ จะช่วยทำให้บรรเทาอาการเจ็บคือ และทำให้ลำคอมีความชุ่มชื้นอีกด้วย

3.ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
ตัวของน้ำผึ้งมะนาวนั้นสามารถช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ได้ รวมทั้งยังสามารถช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ได้อีกด้ว นี่จึงเป็นเหตุให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น หากท่านได้ดื่มน้ำผึ้งมะนาวอย่างสม่ำเสมอ

4. แก้ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ตัวมะนาวนั้นมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไสัได้ ถือว่าเป็นยาระบายอ่อนๆ เลยก็ว่าได้ รวมทั้งที่ได้กล่าวมาข้างต้นในเรื่องของน้ำผึ้งมะนาวนั้นช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารได้ดี ซึ่งมันจะช่วยทำให้เกิดอาการท้องผูก ท้องอืดได้ยาก และหากต้องการใช้น้ำผึ้งมะนาวเพื่อระบายท้อง ควรดื่มในช่วงเช้าตื่นนอน และก่อนนอนของทุกวัน

5. ป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
น้ำผึ้งมะนาว ยังสามารถช่วยป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ ซึ่งภาวะของโรคนี้จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากตัวของท่อปัสสาวะผู้หญิงนั้นมีขนาดสั้นกว่า รวมทั้งอยู่ใกล้กับทวารหนัก โอกาสติดเชื้อแบคทีเรียจากทวารหนักจึงมีมากกว่าเพศชาย แต่เราสามารถใช้น้ำผึ้งมะนาวเพื่อช่วยป้องกันโรคนี้ได้ ด้วยความสามารถของมะนาวในเการใช้เพื่อเป็นสมุนไพรที่มีโพแทสเซียมสูง ทั้งยังเป็นสารรชีวเคมีตัวนี้ก็มีฤทธิ์ช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะออกไปได้ แถมน้ำผึ้งยังมีสรรพคุณที่ทำหน้าที่เป็นยาปฏิชีวนะ ที่จะทำหน้าที่กำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อาจหลงเข้ามาในร่างกายเราได้อีกด้วย

6. ช่วยปลุกความสดชื่นให้ร่างกาย
ด้วยตัวของน้ำผึ้งมะนาว มีรสชาติที่หอมหวานและรสเปรี๊ยวซึ่งหากดื่มในตอนเช้าจะทำให้รู้สึกสดชื่น รวมทั้งตัวของน้ำผึ้งมีฟรุกโตสและกลูโคสที่มาจากธรรมชาติแท้ๆ ร่างกายจะทำการดูดซึมได้ง่าย ทำให้ร่างกายที่อ่อนล้าทำให้กระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงรสชาติความเปรี๊ยวของมะนาวก็เติมเต็มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

วิธีทำน้ำผึ้งผสมมะนาว
น้ำผึ้งมะนาวสามารถทำได้ด้วยตัวเองและมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากนัก โดยมีขั้นตอนทั้งหมดดังนี้
ส่วนผสม
        - น้ำอุ่น 200 มิลลิลิตร
        - มะนาว ครึ่งลูก
        - น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ
        - เกลือ
        - น้ำแข็ง
วิธีทำ
        1. เริ่มแรกจากการคั้นมะนาวใส่แก้วแยกไว้ก่อน จากนั้นให้เริ่มใส่น้ำผึ้งแล้วคนให้เข้ากัน
        2. ใส่น้ำอุ่นลงเพิ่มเข้าไปในแก้ว ใสเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติเล็กน้อย
        3. เตรียมแก้วใบใหม่และใส่น้ำแข็งไว้ หลังจากนั้นเทน้ำผึ้งมะนาวที่ผสมไว้ตั้งแต่แรกลงไป เป็นอันเสร็จ

ตอนนี้เราก็สามารถทำน้ำผึ้งมะนาวได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ รวมทั้งรู้ถึงสรรพคุณในการดื่มไปแล้ว แต่นอกเหนือจากประโยชน์ที่กล่าวไปข้างต้นน้ำผึ้งยังมีคุณประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย สามารถอ่านสรรพคุณของน้ำผึ้งต่ออีกได้ที่ https://suwanfarmphueng.com/articles/benefits-of-honey/

20
สีของน้ำผึ้ง เป็นอย่างไร?


น้ำผึ้งแท้ เป็นน้ำผึ้งที่เกิดจากมาจากตัวผึ้งโดยไม่มีสิ่งอื่นเจือปน โดยวิธีการพิสูจน์ว่าน้ำผึ้งนั้นแท้ไหมมีอยู่หลากหลายวิธี ซึ่งหากสนใจสามารถอ่านได้ที่ บทความ วิธีตรวจสอบ น้ำผึงแท้ และ เหตุใดน้ำผึ้งจึงไม่มีวันหมดอายุ ? ส่วนท่านที่ทราบถึงวิธีการตรวจสอบน้ำผึ้งแท้อยู่แล้ว หรือผู้ที่ทานน้ำผึ้งเป็นประจำคงเกิดความสงสัยในด้านของสีน้ำผึ้ง ที่มีความแตกต่างกันออกไป บางชนิดก็มีสีน้ำตาลอ่อน บางชนิดเป็นสีน้ำตาลเข้ม และยังมีบางชนิดเป็นสีใสก็ยังมี โดยสาเหตุความต่างของสีน้ำผึ้งนั้นจะเกิดไปมาจากอะไรนั้น หาคำตอบได้ที่บทความด้านล่างนี้

สีของน้ำผึ้ง เป็นอย่างไร?
สีของน้ำผึ้งนั้นเกิดมาจากการที่เมื่อผึ้งไปเก็บน้ำหวานจากดอกไม้มา จะมีอนุเกสรของดอกไม้ติดมากับตัวของน้ำผึ้งด้วย ทำให้ตัวน้ำผึ้งเป็นสีนั้น และยังมีอีกปัจจัยหนึงที่สำคัญสำหรับการเปลี่ยนของสีน้ำผึ้งคือระยะเวลา โดยน้ำผึ้งที่เก็บไว้นานนั้นจะมีสีเข้มขึ้นจนเป็นสีดำ และหากยิ่งเก็บในพื้นที่ร้อนจัดนัก จะยิ่งทำให้ตัวสีของน้ำผึ้งดำเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากตัวความร้อนและแสงแดดนั้นจะเป็นตัวเร่งให้ปฏิกิริยานี้เกิดเร็วขึ้น ด้วยเหตุน้ำควรเก็บน้ำผึ้งไว้ในที่มืดและเย็น แต่ไม่ต้องถึงขั้นใส่ตู้เย็น นอกจากสีของน้ำผึ้งกล่าวมานั้น ยังมีน้ำผึ้งอีกหลากหลายที่ท่านอาจพบเห็นได้ ทั้งสีแดง สีเขียวไปจนกระทั่งสีรุ้งก็เคยมี โดยหลักของสีแปลกๆเหล่านี้ เกิดขึ้นมาจากการที่ผึ้งได้ไปกินน้ำหวานแต่งกลิ่นสีต่างๆ ตามชุมชนมานั่นเอง


ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีนั้นควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
          - มีความข้นและหนืดของตัวน้ำผึ้ง จะแสดงให้เห็นว่าตัวน้ำที่ผสมอยู่ในน้ำผึ้งนั้นมีน้อย ทำให้น้ำผึ้งมีความข้นสูง รวมไปถึงคุณภาพของน้ำผึ้งอีกด้วย
          - มีสีของตัวน้ำผึ้งเป็นสีธรรมชาติ โดยสีของน้ำผึ้งที่มาจากธรรมชาตินั้นจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน ถึงน้ำตาลใส ไม่ขุ่นทึบ
          - ตัวน้ำผึ้งมีกลิ่นหอมของดอกไม้ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำใย และน้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่ เป็นต้น
          - น้ำผึ้งต้องปราศจาก กาก ไขผึ้ง หรือเศษของตัวผึ้งปะปนอยู่ในน้ำผึ้ง
          - น้ำผึ้งต้องไม่มีกลิ่นเหม็น บูดเปรี๊ยว และไม่มีฟอง
          - ตัวของน้ำผึ้งต้องไม่ได้รับการใส่สารปรุงแต่งสี กลิ่น รสชาติใดๆลงไปในตัวน้ำผึ้ง
หากตัวของน้ำผึ้งมีลักษณะผ่านตามที่กล่าวไว้ด้านบน นั่นก็แสดงได้เลยว่าน้ำผึ้งนั้นมีคุณภาพสูงอย่างแน่นอน
https://suwanfarmphueng.com/articles/how-is-the-color-of-honey/

21
7 ประโยชน์ทางการแพทย์ จาก น้ำผึ้งแท้


น้ำผึ้งแท้ ที่ผลิตมาจากผึ้งนั้นถูกค้นพบและนำมารับประทานมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ถูกนำมาใช้เพื่อปรุงอาหาร แปรรูปขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย เนื่องจากตัวน้ำผึ้งน้ำมีรสชาติที่หอมหวาน ทั้งยังมีประโยชน์ต่างๆในทางการแพทย์อีกด้วย โดยที่จะพูดถึงวันนี้นั้น จะเป็นประโยชน์ในเรื่องของโรคต่างๆที่น้ำผึ้งเข้ามาช่วยรักษาโดยงานวิจัยรองรับ แต่บางวิธีการก็ยังไม่ได้การันตีว่าสามารถใช้ได้จริง หรือมีผลลัพธ์ที่ดีจริงอย่างในงานวิจัย เพราะฉะนั้นหากท่านป่วยเป็นโรคใดก็ตามทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์โดยตรงถึงวิธีแก้ไขปัญหาของโรคที่ท่านเป็ฯ ส่วนในด้านของน้ำผึ้งที่มีบทบาทช่วยการรักษาโรคต่างๆนั้นจะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

7 ประโยชน์ทางการแพทย์ ของ น้ำผึ้งแท้
น้ำผึ้งแท้ ที่ถูกนำมาใช้สอยในทางการแพทย์นั้น จะถูกนำไปใช้กับหลายๆโรค ดังนี้
1.อาการไอ ของเด็กๆ
อาการไอของเด็กอายุ 2 -18 ปั ที่เกิดจากหลายๆปัจจัย ทั้งฝุ่น ละออง ติดเชื้อโรค ซึงไม่ว่าสาเหตุจะเกิดจากปัจจัยใด ก็สามารถใช้น้ำผึ้งเพื่อลดอาการไอได้ เพียงแค้รับประทานน้ำผึ้งแท้ก่อนนอน โดยได้เคยมีการวิจัยยสำรวจประสิทธิภาพของการใช้น้ำผึ้งเปรียบเทียบกับการใช้ยาแก้ไอเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) กับเด็กอายุ 2-18 ปีจำนวน 105 คน การทดลองแบ่งออกเป็น 2 วันติดต่อกัน วันแรกคือเมื่อมีอาการแสดงซึ่งจะไม่มีการใช้ยาใดๆ และวันที่ 2 ที่จะให้รับประทานน้ำผึ้งหรือยาแก้ไอรสน้ำผึ้งก่อนนอน ผลออกมาปรากฏว่าผู้ปกครองของเด็กให้คะแนนความพึงพอใจต่อการใช้น้ำผึ้งมากที่สุด โดยได้บอกว่าน้ำผึ้งช่วยลดอาการไอตอนกลางคืน และยังช่วยให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

2.แผลไหม้
แผลไหม้ ที่ได้รับจากอุบัติเหตุด้านต่างๆจนเกิดให้เป็นแผล สามารถใช้น้ำผึ้งในการช่วยรักษาแลได้ โดยมีงานวิจัยหนึ่งที่ชี้ถึงประโยชน์ข้อนี้ของน้ำผึ้งก็คือ การทดสอบประสิทธิภาพในการรักษาแผลไหม้ของผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งเปรียบเทียบกับยาซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน (Silver Sulfadiazene) ในคนไข้ที่มีแผลไหม้ระดับที่ 1 และระดับที่ 2 จำนวน 108 ราย ผลปรากฏว่าน้ำผึ้งเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน แล้วนั้นผ้าพันแผลที่จุ่มน้ำผึ้งช่วยให้แผลปลอดเชื้อได้มากกว่า เพิ่มการสมานของแผลได้ดี ทั้งยังสามารถช่วยลดในเรื่องของการเกิดแผลเป็นนูนได้อีกด้วย
โดยจากการศึกษาข้อมูลจากงานวิจัยทั้งหลายที่สนับสนุนว่าน้ำผึ้งที่เก็บจากพื้นที่ต่างๆนั้น มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาทั้งแผลไหม้ แผลที่ผิวหนัง แผลกระเพาะอาหาร แผลเรื้อรัง และแผลทั่วไปอื่นๆ ด้วยเหตุที่ว่าคุณสมบัติของตัวน้ำผึ้งนั้นสามารถใช้ในการสมานแพ้ได้ดี ทั้งยังช่วยในกระบวนการกระตุ้นการเติบโตของเนื้อเยื่อ และยังช่วยลดการก่อตัวของแผลเป็น โดยให้เหตุผลว่าว่าตัวน้ำผึ้งนั้นสามารถช่วยลดระดับของสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) รวมทั้งเพิ่มสารไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ได้ ซึ่งทั้ง 2 สารนี้ ต่างมีบทบาทสำคัญในกระบวนการรักษาแผล ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงไม่แปลกเลยที่จะน้ำผึ้งมาเพื่อช่วยรักแผลไหม้ตามบริเวณต่างๆ

3.เยื่อบุช่องปากอักเสบจากการฉายรังสี
โรคเยื่อบุช่องปากอักเสบ ที่เกิดจากการฉายรังสีนั้นสามารถใช้น้ำผึ้งเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดได้ โดยได้มีงานวิจัยหนึ่งกล่าวไว้ว่า การบริโภคน้ำผึ้ง 20 มิลลิลิตร ต่อวัน หรือการใช้ผ้าก๊อชชุบน้ำผึ้งแล้วนำมาแปะไว้บริเวณแผล จะสามารถช่วยลดอาการเยื่อบุช่องปากอักเสบได้ดี ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ได้นำนักศึกษาจำนวน 28 ราย มาทาน้ำผึ้ง 15 มิลลิลิตรหลังจากการรับการรักษาด้วยรังสีบำบัดทุก 5 ครั้ง ช่วยให้ผลดีต่อผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอที่มีอาการเยื่อบุช่องปากอักเสบได้เช่นกัน
*แต่ถึงแม้ว่าจะมีการวิจัยจากหลายๆกลุ่ม ก็ควรที่จะอ้างอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีในปัจจุบัน ซึ่งในเรื่องนี้นั้นยะงมีความน่าเชื่อถือที่ต่ำว่าจะได้ผลจริงไหม ทำให้ยังไม่ได้เกิดการแนะนำหรือถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง เพราะฉะนั้นการรักษาที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

4.การผ่าตัดรักษาตา
ช่วงเวลาที่ได้รับการผ่าตัดรักษานั้น มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อภายในลูกตาหลังการรับผ่าตัดได้ แต่ตัวของน้ำผึ้งนั้นสามารถใช้เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ถึงแม้การติดเชื้อนี้จะเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักแต่ก็ร้ายแรงมาก ซึ่งได้มีงานวิจัยหนึง ได้นำคนไข้ทั้งหมด 101 คน มาแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้หยอดน้ำตาเทียมที่เป็นสารละลายจากน้ำผึ้ง และอีกกลุ่มหนึงให้ยาหยอดตาออฟลอกซาซิน (Ofloxacin) โดยให้ทำการหยอดตาก่อนรับการผ่าตัดทุกครั้ง วันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 7 วันก่อนผ่าตัด และหลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วหยอดต่อเป็นเวลา 5 วัน โดยได้ผลลัพธ์ว่าเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นไม่ต่างกันมากนัก จึงอาจทำให้เชื่อได้น้ำผึ้งสามารถนำมาป้องกันการติดเชื้อในดวงตาได้ แต่ท้ายสุดแล้วก็ยังเป็ฯเรื่องต้องศึกษาเพิ่มเติมกันต่อไป เพื่อความปลอดภัยของคนไข้และประโยชน์สูงสุดในการรักษา

5.อาการท้องเสีย
อาการท้องเสีย สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย โดยเหตุที่น้ำผึ้งสามารถช่วยรักษาอาการโรคนี้ได้นั้นเกิดจากการมีงานวิจัยบางงานที่ชี้ให้เห็นถึงคุณประโยชน์ในการรับประทานน้ำผึ้งเพื่อรักษาอาการท้องเสียในทารกและเด็กเล็ก รวมทั้งสามารถใช้ทดแทนน้ำตาลในสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ได้ ซึ่งผลการวิจัยนี้ยังแนะนำว่าน้ำผึ้งสามารถช่วยลดระยะเวลาของอาการท้องเสียที่เกิดขึ้นจากแบคทีเรียได้ รวมทั้งยังยังสามารถใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลในภาวะสูญเสียน้ำได้อีกด้วย แต่ก็ยังมีงานวิจัยอีกหลายๆงานวิจัยที่ชี้ว่าน้ำผึ้งนั้นไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆต่อผู้เป็นโรคท้องเสียเช่นกัน เพราะฉะนั้นว่าไม่ว่าท่านจะป่วยเป็นโรคอะไรควรปรึกษาแพทเพื่อความถูกต้อง และช่วยรักษาอาการของโรคนั้นๆได้มีประสิทธิภาพสูงสุด

6.อาการคัน
อาการคัน เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ใครหลายๆคนรำคาญ โดยไม่รู้ว่าน้ำผึ้งนั้นมีประสิทธิภาพการรักษาอาการคันได้เป็นอย่าง เนื่องจากมีการศึกษาว่าตัวของน้ำผึ้งนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถรักษาอาการคัน หรือระคายเคืองต่างๆของผิวหนังได้ดีกว่ายาทาแก้คันอย่างซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ที่ถูกใช้อยู่ในปัจจุบัน ข้อมูลการศึกษานี้มาจากงานวิจัยที่มีให้ร่วมทดลองจำนวน 31 คน โดยผู้ร่วมทดลองนี้ล้วนเป็นผู้มีอาการคัน ระคายเคืองตามผัวหนัง ข้อพับต่างๆ แล้วจึงนำผู้ร่วมการทดลองแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งใช้การรักษาปกติด้วยขี้ผึ้งซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) และอีกกลุ่มหนึงใช้ครีมน้ำผึ้งในการรักษา โดยให้ใช้ทาลงบนพื้นที่ระคายเคืองหรือคันวันละ 2 ครั้ง นานถึง 21 วัน ผลลัพธ์ออกมาว่าผู่ร่วมการทดลองมีอาการดีขึ้น แทบไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งบางคนที่ร่วมทดสอบก็มีความรู้สึกว่าน้ำผึ้งช่วยรักษาอาการคันได้ดีกว่า แต่ถึงแม้จะได้รับการรับประกันอยากจากทดลองนี้แต่ก็ยังไม่มีการนำน้ำผึ้งมาใช้ และยังคงต้องรอการพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์ปัจจุบันก่อน

7.เหงือกอักเสบ
โรคเหงือกอักเสบ ได้มีงานวิจัยว่าการรับประทานน้ำผึ้งชนิดเคี้ยววันละ 3 ครั้ง นาน 21 วัน ช่วยลดคราบหินปูน และการมีเลือดออกที่เหงือกได้ดี โดยการวิจัยครั้งนี้ได้มีผู้ร่วมทดลองจำนวน 30 คน โดยได้มีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งได้รับการรักษาด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาลที่ไม่พบผลการเปลี่ยนแปลงต่อสุขภาพเหงือกและฟัน และอีกกลุ่มได้รับการรักจากน้ำผึ้งชนิดเคี้ยว ซึ่งกลุ่มนี้มีผลออกมาว่าสามารถช่วยลดอาการเลือดออกที่เหงือก และลดคราบหินปูนได้จริง แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่ได้รับประกันในด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำให้ยังไม่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันในปัจจุบันได้
https://suwanfarmphueng.com/articles/7-medical-benefits-from-genuine-honey/

22
วิธีดูน้ำผึ้งแท้ ดูอย่างไร และวิธีตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือปลอม


วิธีดูน้ำผึ้งแท้ ดูอย่างไร และวิธีตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือปลอม เพื่อเป็นประโยชน์และการเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ที่มีคุณภาพ สำหรับผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันน้ำผึ้งแท้เป็นของที่หายากและขั้นตอนการเก็บและผลิตค่อนข้างใช้เวลา จึงทำให้มีการนำวัตถุดิบมาผสมกับน้ำผึ้งเพื่อให้ได้ปริมาณเยอะและลักษณะเหมือนน้ำผึ้งแท้ เราจึงต้องมีวิธีการตรวจสอบน้ำผึ้งแท้ด้วยตัวเองกันครับ

วิธีดูน้ำผึ้งแท้ โดยมี 6 วิธี ดังนี้
1. ตรวจสอบด้วยการดูที่ฉลาก
วิธีแรก สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเพียงแค่ดูข้างกล่องหรือผลิตภัณฑ์ แล้วให้สังเกตว่ามีการระบุถึงการเพิ่มสสารต่างๆ ลงไปในนั้นไหม หากมีให้ตีความได้เลยว่าน้ำผึ้งขวดนั้นไม่ใช่น้ำผึ้งแท้ 100%
2. ตรวจสอบด้วยการดม การดมกลิ่น ถือเป็นวิธีตรวจสอบอีกอย่างที่ทำได้ง่าย แต่ต้องมีความรู้หรือความคุ้นเคยกับกลิ่นของน้ำผึ้งซักเล็กน้อย เพราะน้ำผึ้งแท้นั้นจะมีกลิ่นหอมหวาน ของน้ำดอกไม้ผสมอยู๋ในตัวกลิ่น ซึ่งสามารถได้กลิ่นที่ชัดเจน แต่หากเป็นน้ำผึ้งปลอม หรือน้ำผึ้งผสมจะได้กลิ่นที่เจือจาง ไปจนกระทั่งไม่ได้กลิ่นเลย
3. ตรวจสอบด้วยการชิม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ทันทีและง่าย โดยให้รับประทานน้ำผึ้งหลังจากเวลาที่ท่านอ่อนเพลีย ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ และรอให้เวลาผ่านไปประมาณ 20 – 30 นาที หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะรู้สึดสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ต่างกันกับน้ำผึ้งปลอม ที่จะไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยหรือหากเคยทานน้ำผึ้งแท้ และพอจำรสชาติของมันได้ดีนั้น เพียงแค่ชิมก็อาจทำให้รู้ทันทีว่าน้ำผึ้งแท้หรือปลอม เนื่องจากน้ำผึ้งแท้นั้นจะมีรสชาติของกลิ่นดอกไม้ผสมอยู่ ต่างกับน้ำผึ้งปลอมที่มีเพียงรสชาติหวานเท่านั้นเอง
4. ตรวจสอบด้วยการใช้ไฟ โดยวิธีหลังจากนี้จะเริ่มเป็นการตรวจสอบโดยใช้วัสดุ อุปกรณต่างๆมาช่วย ซึ่งวิธีการตรวจสอบโดยใช้ไฟนี้ ให้นำเอาไม้ขีดไฟมาลองจุ่มลงไปในน้ำผึ้ง และเอามาขีดกับข้างกล่อง ให้สังเกตว่าติดไฟหรือเปล่า หากติดไฟแสดงว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ แต่หากไม่ติดไฟ หรือหนักไปจนถึงไม้ขีดเปื่อยยุ่ย แสดงว่าเป็นน้ำผึ้งปลอมแน่นอน
5. ตรวจสอบด้วยกระดาษทิชชู่ เริ่มจากให้นำน้ำผึ้งที่ต้องการตรวจสอบ มาหยดลงบนกระทิชชู่ และเริ่มสังเกตว่าน้ำผึ้งที่หยดไปนั้นซึมผ่านกระดาษทิชชู่ไหม หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะยังคงรูปไว้อยู๋บนผิวของทิชชู่ แต่หากเป็นน้ำผึ้งปลอมจะซึมลงกระดาษทิชชู่ทันที
6. ตรวจสอบด้วยการเขย่า เป็นวิธีที่ใช้ทดสอบกับน้ำผึ้งที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นขวด ซึ่งวิธีการก็ง่ายเริ่มจากการจับขวดให้แน่นแล้วเขย่าแรงๆ และให้สังเกตดูว่าน้ำผึ้งในขวดเป็นอย่างไร หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะมีความหนืด เหนียว และจะทำให้เกิดฟองอากาศขนาดใหญ่ขึ้น แต่หากเป็นน้ำผึ้งปลอมจะเกิดฟองอากาศขนาดเล็ก และยังเกิดรอยแยกชั้นของน้ำตาลกับน้ำผึ้ง ซึ่งหากสังเกตดีๆจะทำให้เราสามารถแยกน้ำผึ้งแท้กับน้ำผึ้งหลอมได้


ลักษณะน้ำผึ้งแท้ มีวิธีดูยังไง
          - น้ำผึ้งแท้ที่ดี สังเกตจากภายนอกจะมีลักษณะข้นหนืด ลองกลับขวดไปมาจะเห็นว่าน้ำผึ้งมีความข้นหนืดและไหลตัวช้า
          - หากมีโอกาสได้ลองชิมก่อนซื้อ รสชาติน้ำผึ้งแท้ที่ดีจะหอมหวานกลิ่นเกสรดอกไม้ ไม่มีรสขมและเปรี้ยว
          - การเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ควรเลือกซื้อกับฟาร์มผึ้ง/บริษัทที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรองอย.,กรมปศุสัตว์,ผลคุณภาพน้ำผึ้งจากLaboratory หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม
          - ไม่ควรเลือกซื้อน้ำผึ้งมีการตกผลึกที่ก้นขวดและสีเข้มเกินไป(เนื่องจากน้ำผึ้งแท้เมื่อเก็บไว้นานจะมีสีเข้มขึ้นตามธรรมชาติ)

ลักษณะน้ำผึ้งปลอม มีวิธีดูยังไง
          - เมื่อเก็บน้ำผึ้งไปสักระยะ จะเกิดการแยกชั้น(ยกเว้นน้ำผึ้งผสมแบะแซ)
          - น้ำผึ้งปลอมเมื่อนำไปแช่ในตู้เย็น จะเกิดการตกผลึกที่มีลักษณะเกร็ดแผ่นสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ
          - รสชาติน้ำผึ้งปลอม จะไม่หอมกลิ่นเกสรดอกไม้แต่จะมีรสชาติหวานเหมือนทานน้ำตาลอย่างเดียวและเมื่อทานผ่านไป 15-20 นาที หากไม่รู้สึกร่างกายกระปรี้กระเปร่าหรือสดชื่น ให้ฟันธงได้เลยว่าเป็นน้ำผึ้งปลอม เพราะน้ำผึ้งแท้เมื่อทานแล้วจะช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย เนื่องจากน้ำผึ้งแท้เป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้ทันที
          - น้ำผึ้งผสมแบะแซ รสชาติกลิ่นน้ำผึ้งธรรมชาติจะจางลง ทำให้ดูออกยาก ปัจจุบันมีการนำแบะแซมาผสมกับน้ำผึ้ง เพราะมีลักษณะสี กลิ่นและรสชาติคล้ายน้ำผึ้งมาก หากเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ควรเลือกซื้อจากแหล่งน่าเชื่อถือจะดีที่สุด บางคนยังไม่ทราบว่า แบะแซคืออะไร แบะแซ คือ น้ำเชื่อมกลูโคส หรือ กลูโคสไซรัป (Glucose syrup) เป็นสารให้ความหวานชนิดหนึ่ง (Sweetener) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยโมเลกุลของแป้งให้เล็กลง (Starch hydrolysis) นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเบเกอรี่

คำถามที่พบบ่อย
1. น้ำผึ้งแท้มดไม่ขึ้นจริงไหม

ตอบ : ไม่เป็นความจริง และยังคงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ ในความเป็นจริงธรรมชาติของมดตอมแทบทุกอย่างที่เป็นของหวาน และสาเหตุบางครั้งมดไม่ตอมน้ำผึ้งเพราะดอกไม้บางชนิดอาจมีความเป็นกรดบางประเภทสูงหรือกลิ่นดอกไม้บางชนิดที่แรงทำให้มดไม่ตอมนั้นเอง

2. น้ำผึ้งขึ้นราได้ไหม
ตอบ : ไม่เป็นความจริง น้ำผึ้งที่ดีและได้มาตรฐานจะไม่เกิดการขึ้นรา เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการยับยั้งจุลินทรีย์ต่างๆและมีความเข้มข้นสูงมาก หากขึ้นราจริงอาจมีสาเหตุมาจากการปนเปื้อนจากที่อื่น เช่น ใช้ช้อนตักที่ไม่สะอาด,มีน้ำผสมลงไปหรือเปิดฝาทิ้งไว้ เป็นต้น

3. น้ำผึ้งแท้ ไม่มีวันหมดอายุจริงหรือไม่
ตอบ : เป็นความจริง หรือที่ไม่เป็นความจริงเกิดจากการเสื่อมเสียหรือเน่าเสียนั้นเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้
จากการเปลี่ยนแปลงทางเคมี (สารเคมีทำปฎิกิริยากันเอง) และทางชีวภาพ (เน่าบูดเพราะจุลชีพ แบคทีเรีย มีเอนไซม์เข้ามาเกี่ยวข้อง)
ซึ่งกระบวน 2 อย่างนี้ จะไม่มีทางเกิดขึ้นกับน้ำผึ้งแท้ เหตุเพราะตัวน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลและความเป็นกรดสูง จนทำให้แบคทีเรีย และยีสต์ไม่สามารถเติบโตได้ นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมน้ำผึ้งถึงไม่เน่าเสีย คำแนะนำคือควรสั่งน้ำผึ้งทานในปริมาณที่พอเหมาะ อายุของน้ำผึ้งจริงควรเก็บไม่เกิน 2 ปี

4. น้ำผึ้งแท้ เมื่อแช่ตู้เย็นจะตกผลึกจริงหรือไม่
ตอบ : เมื่อนำน้ำผึ้งแช่ตู้เย็นทั้งน้ำผึ้งและน้ำผึ้งปลอมสามารถตกผลึกได้ทั้งสองอย่าง แต่ตกผลึกลักษณะที่แตกต่างกัน จุดสังเกตุหากเป็นน้ำผึ้งแท้เมื่อตกผลึกจะมีลักษณะเหมือนเม็ดทรายเล็กๆ ละเอียดและดูอ่อนนุ่ม
สรุปแล้ว วิธีดูน้ำผึ้งแท้ ดูอย่างไร วิธีตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือปลอมและการตรวจสอบด้วยตัวเองเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ความแม่นยำและได้ผลดีที่สุดคือการนำเข้าห้องทดลอง หรือให้เลือกซื้อน้ำผึ้งจากฟาร์ม/บริษัทที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรองที่ได้มาตรฐาน ทางสุวรรณฟาร์มผึ้งที่เป็นเกษตรกรเลี้ยงผึ้ง เรียนรู้เรื่องผึ้ง ผ่านประสบการณ์มากมาย และเข้าใจเรื่องผึ้งอย่างท่องแท้ ทำให้เราได้ผลผลิตจากผึ้งที่มีคุณภาพมากที่สุด ส่งเข้าคัดสรรกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวลำพู ได้รับสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับ 5 ดาว และมีอย.รับรองมาตราฐาน ขอเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค นอกจากรับประกันว่าผู้บริโภคจะได้น้ำผึ้งแท้ 100% แล้วยังรับประกันความอร่อยของน้ำผึ้งแท้อีกด้วยครับ
https://suwanfarmphueng.com/articles/howto-check-real-honey/

23
6 สูตรน้ำผึ้ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ


น้ำผึ้ง นอกจากจะนิยมนำไปรับประทานสดๆ หรือนำไปเพิ่มความหวานให้แก่อาหาร และเครื่องดื่มแล้วนั้น น้ำผึ้งยังสามารถนำมาใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นและยังสามารถช่วยพลัดเซลผิวได้ดีอีกด้วยและนี้เป็นเหตุผลที่ผมจะขอเสนอ 6 สูตร ใช้น้ำผึ้งเพื่อบำรุงผิวพรรณ ให้ดูชุ่มชื้น กระจ่างใส ทั้งยังสามารถลดริ้วรอยต่างๆได้ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
6 สูตรน้ำผึ้ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ
น้ำผึ้ง เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ถูกใช้เพื่อความงามมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นที่นิยมใช้มาจนถึงปัจจุบัน เนื่องด้วยคุณสมบัติและประโญชน์นั้นมีมากมาย แต่ที่ขอพูดในบทความนี้คงเป็นเรื่องของการดูแลผิวพรรณ ซึ่งน้ำผึ้งที่จะนำมาใช้นั้นควรเป็นน้ำผึ้งแท้ที่ไม่ได้รับการผสมต่างๆ โดยวิธีที่นิยมนำมาใช้บำรุงผิวพรรณนั้นจะนำน้ำผึ้งไปผสมกับสิ่งต่างๆก่อนนำมาใช้งาน ส่วนสูตรน้ำผึ้งที่จะพูดถึงจะมีทั้งหมด 6 สูตร ดังนี้
1.สูตรน้ำผึ้ง ขัดผิวกาย
ช่วยในเรื่องของการพลัดเซลผิวที่หมองคล้ำ และช่วยให้ผิวเนียนขึ้นในทันทีหลังจากทำเสร็จ ทั้งยังส่งผลให้ผิลเนียนนุ่มน่าสัมผัส เรียกได้ว่าเป็นสูตรหน้าเนียนที่สาวๆควรทำ
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
    - นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
    - น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ
    1. นำน้ำผึงมาผสม ส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยอย่าให้น้ำตาลละลาย เพราตัวน้ำตาลเป็นส่วนสำคัญในการขัดผิว
    2. หลังจากผสมให้เสร็จแล้ว ให้นำมาพอกตามร่างกายที่ต้องการ ทั้งบนใบหน้าและผิวกายต่างๆ เช่น แขน ขา หรือคอ
    3. ในระหว่างที่พอกตามจุดต่างๆเสร็จแล้ว ให้ทำการนวดเบาๆตามส่วนที่พอกไปด้วย เพื่อให้เกิดการขจัดเซลผิวเก่าที่ตายแล้ว
    4. สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาด และนำผ้าสะอาดเช็ตน้ำออกอย่างเบาๆเป็นอันเสรฺจสิ้น แค่นี้ผิวกายของท่านก็จะเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว
*หากเป็นคนผิวแห้งอาจเติมน้ำมันมะกอกลงไปสัก 2 ช้อนชา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

2.สูตรน้ำผึ้ง นวดผิวกาย
ผิวกายที่เนียนนุ่ม เป็นสิ่งที่หลายๆท่านต้องการ เพราะจะช่วยให้ผู้ได้สัมผัส รู้สึกถึงความดูและเอาใจใส่ ทั้งยังชวนให้จับต้องอย่างยิ่ง นี่จึงเป็นอีกสูตรที่เหมาะสมสำหรับสาวๆที่ต้องการให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ชวนหลงใหลอย่างยิ่ง
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
    - น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
    - นมสด 1 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
    1. ผสมน้ำผึ้ง เข้ากับส่วนประกอบต่างๆ
    2. ทาส่วนผสมที่ได้มา ลงบนผิวให้ทั่วตามที่ต้องการ
    3. จากนั้นจึงค่อย เริ่มนวดอย่างช้าจนผิวน้ำที่ทาลงไปนั้นซึมเข้าสู่ผิว
    4. หลังจากนวดจนทั่วแล้วนั้น ให้ปล่อยทิ้งไว้ต่อซัก 15 – 30 นาที
    5. สุดท้ายชำรล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากทำเป็นประจำ จะชวยให้ผิวนุ่มเนียน ชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

3.สูตรน้ำผึ้ง บำรุงผิวแห้งกร้าน
โดยปกติแล้วลักษณะของคนที่มีผิวแห้ง จะมีลักษณะผิวที่แตกออก ซึ่งทำให้ไม่น่ามองและลดทอนความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าต่างๆ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะสูตรบำรุงผิวที่ขอแนะนำนี้จะช่วยดึงความมั่นใจ และผิวพรรณที่ชุ่มชื้นของท่านกลับมา
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
    - นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
    - น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
    - กล้วยหอมบด 1 ถ้อย
ขั้นตอนการทำ
    1. ผสมน้ำผึ้ง เข้ากับส่วนประกอบต่างๆ
    2. กวนส่วนผสมต่างๆให้เข้ากัน จนออกมาเป็นเนื้อครีมสีเดียวกัน
    3. ทาเนื้อครีมที่ได้มาให้ทั่วผิวกาย และนวดเบาๆไปด้วย
    4. หลังจากทำการนวดเสร็จแล้ว ให้ทิ้งไว้ 15 – 30 นาที
    5. สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จ หากทำเป็นประจำจะช่วยลดผิวที่หยาบกร้านได้

4.สูตรน้ำผึ้ง ลบริ้วรอย
ริ้วรอย เป็นตัวปัญหาที่หลายๆท่านต้องเจอกัน ไม่ว่าริ้วรอยจะเกิดมาจากอายุที่สูงขึ้น หรือเกิดจากการไม่ได้ดูแลผิวหน้าที่ดีพอ จนทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรก็ตาม ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากท่านนำสูตรน้ำผึ้งนี้ไปใช้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ริ้วรอยต่างนั้นลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง ครึ่งถ้วย
    - ยอดตำลึง ครึ่งถ้วย
    - น้ำมันหอมระเหย (ช่วยลดกลิ่นเหม็นเขียว ของตำลึง)
ขั้นตอนการทำ
    1. เริ่มจากนำยอดตำลึงมาล้างให้สะอาด
    2. หลังจากได้ยอดตำลึงที่สะอาดแล้วนั้น นำไปปั่นรวมกับน้ำผึ้งให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน มีลักษณะเป็นสีเขียว ข้นทั่วทั้งครีม
    3. หยดน้ำมันหอมระเหยลงไปเพื่อดับกลิ่นเหม็นเขียว
    4. นำครีมมาพอกลงทั่วผิวหน้า แล้วนวดเบาๆ
    5. หลังจากนั้นให้ทิ้งไว้สัก 15 – 30 นาที
    6. สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จสิ้น

5.สูตรน้ำผึ้ง ดูแลผิวหลังโดนแดด
ปัญหาแดดแรงในประเทศเรา ที่หลายๆท่านเจออาจทำให้เกิดอาการผิวแห้ง และไหม้จากการถูกเผาได้ หลายๆท่านจึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดดต่างๆก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง ซึ่งนั่นอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการรับมือแสงแดดนัก นี่จึงเป็นอีกสูตรหนึงที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่โดนแดดมาให้กลับมานุ่มเนียน ชุ่มชื้นอีกครั้ง
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ
    - นมสด 1 ลิตร
    - น้ำในอ่าง ตามอุณภูมิห้อง
ขั้นตอนการทำ
    1. ผสมน้ำผึ้ง และนมลงไปในอ่างอาบน้ำ
    2. หลังจากผสมเสร็จ ให้ลงไปแช่ในน้ำที่เตรียมไว้ สัก 20 – 30 นาที
    3. ระหว่างที่แช่อยู่ ให้นวดผิวเบาๆ ทั่วทั้งตัว
    4. ออกจากอ่างมาล้างตัวด้วยน้ำสะอาดอีกทีเป็นอันเสร็จ

6.สูตรน้ำผึ้ง พอกหน้า เพิ่มความกระจ่างใส
สูตรสุดท้ายนี้ ขอแนะนำสูตรน้ำผึ้งที่มีคุณสมบัติในการช่วยคึนความสดใสให้ใบหน้า และช่วยลดการหย่อนยานของผิว ทั้งยังทำให้หน้าตึงเนียน น่าสัมผัส ชวนหลงใหล เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สาวๆหลายท่านต้องการ ส่วนจะมีส่วนประกอบ และวิธีอย่างไรนั้นไปดูกันเลย
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
    - น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
    - ฟักทองสุก ครึ่งถ้วย
    - ว่านหางจระเข้ 1 ใบ
ขั้นตอนการทำ
    1. นำฟักทองไปบด หรือปั่นให้ละเอียด
    2. ผสมน้ำผึ้งเข้ากับส่วนประกอบต่างๆ
    3. พอกส่วนผสมต่างๆที่ได้มาทั่วใบหน้า และลำคอ
    4. หลังจากพอกเสร็จ จะเกิดรู้สึกอุ่นที่ใบหน้า ให้เริ่มทำการนวดเบาๆทั่วใบหน้าและลำคอ
    5. หากนวดใบหน้าทั่วแล้ว ปล่อยต่อไว้สัก 15 – 30 นาที
    6. สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จ

6 สูตรน้ำผึ้ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ


สรรพคุณน้ำผึ้ง ต่อผิวพรรณ
น้ำผึ้ง ประกอบไปด้วยน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก ทั้งน้ำตาลกลูโคส และฟรุคโตส แต่นอกจากน้ำตาลแล้วนั้นน้ำผึ้งยังประกอบไปด้วยสารประกอบต่าง เช่นสารแอนติออกซิเดนท์ (Antioxidant) หรือที่เรียกว่าสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังมีวิตามินชนิดอื่นๆอยู่อีกด้วย โดยผมขอแบ่งสรรพคุณของน้ำผึ้งต่อผิวพรรณ ออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้
1.น้ำผึ้ง ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณ
จะสังเกตได้ว่าน้ำผึ้งถูกนำไปใช้ผสมเข้ากับผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นต่างๆ เช่น คลีนซิ่ง แชมพู คอนดิชันเนอร์เป็นต้น เหตุเพราะน้ำผึ้งที่มาจากธรรมชาติ ไร้การเจือปนนั้นมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัย เพิ่มความเนียนนุ่มน่าสมัผัส ทั้งยังไม่ระคายเคืองผิวหนังอีกด้วย

2.น้ำผึ้ง ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดด
เหตุที่ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้นั้น เพราะในตัวน้ำผึ้งนั้นมีสารที่เรียกว่า สารแอนตี้ออกซิแดนต์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างที่กล่าวใว้ข้างต้น (Antioxidant) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้สามารถป้องกันผิวจากแสงแดดได้แล้วนั้น ยังสามารถช่วยในการผลัดเซลส์ผิว หรือสร้างเซลส์ผิวหนังใหม่ได้

3.น้ำผึ้ง สามารถยับยั้งแบคทีเรียต่างๆได้
น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติที่พิเศษอีกอย่างคือ เป็นสารที่สามารถต่อต้านจุลินทรีย์ และช่วยหยุดยังการเจริญเติบโตของแบคทีเรียต่างๆได้ เหตุเพราะความข้นของน้ำผึ้งสูง และมีปริมาณน้ำที่ต่ำ ซึ่งทำให้เบคทีเรียไม่สามารถรับไนโตรเจนที่เป็นปัจจัยหลักในการเจริญเติมโตได้ จึงสามารถใช้น้ำผึงเพื่อไปยับยั้งการอักเสบของสิว ลอรอยแผลเป้นต่างได้อีกด้วย

นอกจากนี้หากอยากทราบถึง ส่วนประกอบต่างของน้ำผึ้ง สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ น้ำผึ้ง คือ ? มีประโยชน์ และส่วนประกอบอะไรบ้าง
https://suwanfarmphueng.com/articles/6-honey-recipes-to-help-nourish-the-skin/

24
น้ำผึ้ง คือ? มีประโยชน์ และส่วนประกอบอะไรบ้าง


น้ำผึ้ง เป็นสิ่งที่ทุกท่านต่างรู้จักกัน หรือบางท่านอาจจะนิยมนำมาใช้ทานอยู๋บ่อยๆ ด้วยรสชาติที่หวานหอม ทั้งยังมีคุณสมบัติอื่นๆมากมาย แน่นอนด้วยคุณสมบัติมากมายเหล่านี้ ท่านอาจจะสงสัยวาน้ำผึ้งมีที่มาอย่างไร และทำไมถึงเป็นนิยมอย่างมาก ทั้งยังมีข้อควรระวังเช่นไรบทความนี้มีคำตอบให้อย่างแน่นอน จะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปดูกันเลย

น้ำผึ้ง คือ?
น้ำผึ้ง คือ น้ำหวานที่ได้มาจากรังผึ้ง โดยเริ่มมาจากผึ้งงานได้บินออกไปดูดน้ำหวานจากดอกไม้ และเมื่อดูดเสร็จจะกลับมาคายน้ำหวานที่รัง ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของผึ้งงานประจำรัง ซึ่งจะทำการรับน้ำหวานต่อด้วยวิธีการใช้ปากต่อปาก แต่น้ำผึ้งส่วนนี้ยังไม่เป็นน้ำผึ้งที่สบบูรณ์ เพราะยังคงมีความชื้นและน้ำในตัวของน้ำหวานมากถึงร้อย 30 เพราะฉะนั้นต่อมาหลังจากรับน้ำหวานเสร็จ ผึ้งงานประจำรังจะนำน้ำหวานนี้ไปเก็บไว้ในหลอดรวงน้ำผึ้ง ก่อนที่จะช่วยกันกระพือปีกใส่ให้เกิดการะระเหายของน้ำหวานจนได้เป็นน้ำผึ้งที่สมบูรณ์

หรือ หากให้อธิบายง่ายๆ น้ำผึ้งก็คือผลผลิตของน้ำหวานจากดอกไม้โดยตัวผึ้งได้นำมาเก็บสะสมไว้ ซึ่งปกติแล้วน้ำผึ้งจะมีกลิ่น รส สี ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิดของพืชที่ไปเก็บมาเช่น ดอกส้ม ดอกลำไย และดอกลิ้นจี่ โดยในตัวน้ำผึ้งยังมีส่วนผสมของน้ำตาล และสารประกอบอื่นๆ ทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย นี่จึงเป็นเหตุให้น้ำผึ้งถูกนิยมนำมาใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหาร และเครื่องดื่มมากมาย

น้ำผึ้ง คือ? มีประโยชน์ และส่วนประกอบอะไรบ้าง

ส่วนประกอบของน้ำผึ้ง
น้ำผึ้ง เป็นวัสดุทางธรรมชาติชนิดแรกๆที่ให้ความหวาน และเป็นที่รู้จักหรือใช้งานก่อนน้ำตาลก้อนเสียอีก โดยในตัวของน้ำผึ้งมีน้ำตาลมากถึง 80% ซึ่งจะประกอบไปด้วยน้ำตาลหลากหลายชนิด เช่น กลูโคส ฟรัทโทสเป็นต้น และแน่นอนนอกจากน้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำผึ้งแล้ว ยังมีแร่ธาตุ หรือวิตามินต่างๆมากมายในอยู่ในตัวน้ำผึ้ง ถึงแม้จะมีในปริมาณน้อยนิดแต่ก็ช่วยให้ประโยชน์ต่อผู้บริโภคได้ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นดูได้จากตารางด้านล่างนี้เลย
ส่วนประกอบ  จำนวน  หน่วย
- พลังงาน   304 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต  82.4  กรัม
- น้ำตาล  82.12  กรัม
- เส้นใย    0.2  กรัม
- ไขมัน  0 กรัม
- โปรตีน  0.3  กรัม
- น้ำ  17.10  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 1   0.038  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3   0.121  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 5   0.068  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6   0.024  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 9    2  ไมโครกรัม
- วิตามินซี    0.5  มิลลิกรัม
- ธาตุแคลเซียม   6   มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก  0.42  มิลลิกรัม
- ธาตุแมกนีเซียม  2  มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส  4  มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม   52 มิลลิกรัม
- ธาตุโซเดียม  4   มิลลิกรัม
- ธาตุสังกะสี   0.22  มิลลิกรัม

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง
แน่นอนหากพูดถึงประโยชน์ของน้ำผึ้งแล้ว หลายๆท่านคงคิดถึงการช่วยให้ความหวานแก่อาหาร และเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่นอกเหนือจากนี้น้ำผึ้งยังถูกนำมาใช้ได้อีกหลากหลายด้าน เช่น นำไปปรุงยา นำไปมาสก์หน้าเป็นต้น เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าประโยชน์ของน้ำผึ้งมีหลากหลาย ผมจึงขอแบ่งเป็น 3 ข้อ ดังนี้
1.ช่วยให้รสหวาน แก่อาหารหรือเครื่องดื่ม
อย่างแรกขอเริ่มที่เรื่องการให้รสหวานของน้ำผึ้ง ที่นิยมใช้กันเป็นหลักเลยก็ว่าได้ เพราะในตัวน้ำผึ้งนั้นมีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นหลัก ทั้งกลูโคส และฟรัทโทส นอกจากนี้น้ำผึ้งที่ได้จากธรรมชาติยังมีส่วนผสมอื่นๆที่มีประโยขน์ต่อร่างกายมากมาย บวกเข้ากับรสชาติความหวานหอมจากธรรมชาติ นี่จึงเป็นเหตุให้มีรสชาติหวานที่น้ำตาลชนิดอื่นๆสู้ไม่ได้ และเรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของตัวน้ำผึ้งเลยก็ว่าได้

2.นำมาใช้เป็นยา หรือส่วนประกอบของยา
เดิมที น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางยาอยู่แล้ว โดยตัวน้ำผึ้งมีความสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆได้ เหตุเพราะน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง และมีการเจือปนของน้ำน้อย ซึ่งความเข้มข้นนี้เป็นเหตุให้ช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียใช้ในการเจริญเติบโตได้ นอกจากนี้ตัวน้ำผึ้งยังมีความสามารถเป็นกรดสูง ทั้งยังมีโปรตีนที่ต่ำ จึงทำให้แบคทีเรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต นี่ถือเป็นเหตุว่าหากเรานำน้ำผึ้งมาทาที่บาดแผล จะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี แถมยังไม่เกิดอาการอักเสบของแผลอีกด้วย
นอกเหนือจากการฆ่าเชื่อแบคทีเรีย หรือช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคแล้วนั้น น้ำผึ้งยังถูกนำไปใช้เป็นยาชนิดต่างๆ เพื่อช่วยแก้โรคให้แก่ผู้ป่วยอีกมากมายเช่น บรรเทาอาการไอ ลดกรดในกระเพาะ ระงับประสาท โรคนอนไม่หลับเป็นต้น

3.ช่วยส่งเสริมด้านความงาม
นอกจากในเรื่องของการนำน้ำผึ้งไปทำเป็นตัวยา หรือให้ความหวานแก่อาหารชนิดต่างๆแล้วนั้น การนำน้ำผึ้งมาช่วยในเรื่องของความงามก็เป็นอีกสิ่งที่ถูกหยิบมาใช้ เพราะนอกจากคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรียต่างๆแล้วนั้น ตัวของน้ำผึ้งยังมีสารที่ให้เกิดความชุ่มชื้นช่วยทำให้ผิวพรรณอ่อนนุ่ม และมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยป้องกันผิวจากการโดนทำลายของรังสียูวี และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้อีกด้วย

4.นำไปแจกจ่ายเป็นของชำร่วย
น้ำผึ้ง นอกจากจะนิยมนำไปทานเล่น หรือนำไปทำเป็นยาต่างๆแล้วนั้น นี่ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกนำมาใช้งาน และนิยมอย่างมาก คือการนำน้ำผึ้งมาแจกจ่ายเป็นของชำร่วยตามงานแต่งต่างๆซึ่งเหตุผลที่นิยมนำน้ำผึ้งมาแจกจ่ายเป็นของชำร่วยนั้น เพราะตัวน้ำผึ้งมีความหมายถึงการอวยพรให้ชีวิตคู่มีแต่ความหอมหวาน ทั้งยังมีราคาที่ไม่แพง แถมยังสามารถนำไปรับประทานหรือเก็บไว้ได้นานอีกด้วย

ข้อควรระวังในการใช้น้ำผึ้ง
ถึงแม้น้ำผึ้งจะมีประโยชน์ต่างๆ มากมาย แต่แน่นอนทุกอย่างย่อมมีผลเสีย และยิ่งหากท่านเป็นกลุ่มคนที่มีอาการแพ้ หรือมีโรคประจำตัวบางชนิดอยู่นั้น หากทานน้ำผึ้งไปแล้วอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย หรืออาการแพ้ขึ้นได้
โดยข้อควรระวังในการกินน้ำผึ้งทั้งหมดจะมี ดังนี้
         - ห้ามให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทาน
         - ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ รับประทาน
         - ไม่ควรผสมลงบนน้ำที่เดือด หรือไม่เกินให้ 40-50 องศา
         - ห้ามรับประทานน้ำผึ้งมากเกิน 10 ช้อนชา
         - คนที่แพ้น้ำผึ้ง และเกสรน้ำผึ้งไม่ควรทาน
https://suwanfarmphueng.com/articles/what-are-the-benefits-of-honey-and-ingredients/

25
องค์ประกอบของน้ำผึ้ง


ทุกคนคงทราบกันดีว่าการดื่ม น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ เป็นประจำนั้นจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ ช่วยป้องกันโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ทั้งยังช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายอีกด้วย การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นการดื่มน้ำผึ้งจึงเป็นทางเลือกสุขภาพของคนที่ดูแลตัวเองเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ บทความนี้เราจะพาท่านมาศึกษาองค์ประกอบของน้ำผึ้งว่าเหตุใดถึงดีต่อสุขภาพของเรามากมายขนาดนี้ ทำไมเราถึงควรดื่มน้ำผึ้ง มาดูกันเลยว่าองค์ประกอบของมันมีอะไรบ้าง
 
น้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพ
แม้ว่าเราจะรู้กันว่าการทานน้ำตาลหรือใส่น้ำตาลลงในอาหารมากเกินไปไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพมากนัก แต่ทราบหรือไม่ว่าการดื่มน้ำผึ้งได้รับการยกเว้น เพราะไม่ได้ส่งผลเสียใดๆต่อสุขภาพของเรา โดยน้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลฟรุกโตสเป็นส่วนใหญ่ที่ดีต่อสุขภาพมากๆ ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดได้ทันที และมีข้อดีคือน้ำตาลประเภทนี้ไม่ได้ไปสะสมเป็นไขมัน ทำให้ทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนอย่างแน่นอน ดังนั้นการทานน้ำผึ้งเราจะได้รับน้ำตาลฟรุกโตสที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ไม่ได้ทำให้เราอ้วนขึ้นแต่อย่างใด
 
น้ำผึ้งประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้เราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในน้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการกำจัดของเสียในหลอดเลือด ช่วยให้ระบบเลือดของเราทำงานได้อย่างเป็นปกติ ดีต่อโรคหัวใจและระบบสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย น้ำผึ้งจะดีต่อผู้ป่วยโรคหัวใจอีกด้วย ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคให้กับคนที่มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจ แนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยให้ระบบโลหิตในร่างกายทำงานอย่างดีที่สุด
 
แหล่งของวิตามินนานาชนิด
น้ำผึ้งมีส่วนประกอบจากวิตามินบี วิตามินอีจากธรรมชาติ โดยวิตามินบีที่ได้จากธรรมชาติจะช่วยให้กระบวนการทำงานของระบบประสาทและสมองในคนเรา โดยยังช่วยลดความตึงเครียดจากการทำงานได้อีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเราดื่มน้ำผึ้งแล้วรู้สึกว่าผ่อนคลายจากความเครียดสะสมในการทำงาน เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหนักหรือทำงานที่ต้องเจอกับความเครียดสูง ควรดื่มน้ำผึ้งเพื่อผ่อนคลายความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ทั้งวิตามินอีในน้ำผึ้งช่วยในการต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ป้องกันการเกิดออกซิเดชัน ป้องกันการเกิดมะเร็ง ดังนั้นเราจึงควรได้รับวิตามินอีอย่างสม่ำเสมอ โดยทางเลือกธรรมชาติที่ดีนั่นก็คือการรับวิตามินอีจากน้ำผึ้ง ซึ่งหากเราดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวัน อาหารเสริมราคาแพงก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เพราะเราได้รับสารอาหารที่ดีเข้าสู่ร่างกายอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว
 
แหล่งของแร่ธาตุนานาชนิด
น้ำผึ้งจัดว่าเป็นอาหารที่เป็นแหล่งของแร่ธาตุมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนิเซียม เหล็ก และแร่ธาตุชนิดอื่นๆปะปนกันไป โดยแร่ธาตุที่หลากหลายช่วยให้ระบบของร่างกายทำงานได้ดี โดยเฉพาะธาตุเหล็กที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้อย่างมากในการบำรุงเม็ดเลือด มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี การทานน้ำผึ้งอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราไม่ขาดแร่ธาตุเหล่านี้ ไม่เป็นโรคเม็ดเลือดจาง หากใครที่รู้สึกว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเม็ดเลือดจาง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดและอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอในการสร้างเม็ดเลือด ขอแนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งเพื่อเสริมอาหารในการสร้างเม็ดเลือด
 
จากองค์ประกอบของน้ำผึ้งธรรมชาติเบื้องต้น เราได้เห็นสารอาหารที่หลากหลายที่จะช่วยบำรุงร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี โดยองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เราอาจขาดไปในมื้ออาหารหลัก ดังนั้นถือได้ว่าเป็นการทดแทนสารอาหารที่เราอาจพลาดไป นอกจากนี้เรายังสามารถนำน้ำผึ้งมาใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆได้อีกด้วย เช่น การใช้เพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับความเครียด ใช้รักษาอาการท้องร่วง รวมทั้งฆ่าเชื้อในกระแสเลือดได้อีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/องค์ประกอบของน้ำผึ้ง/

26
น้ำผึ้งแท้แก้อาการท้องร่วง


คนที่มีอาการท้องร่วงคงทราบดีถึงความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของโรคนี้ เมื่อเป็นแล้วสิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือถ้าเราไม่สามารถรักษาให้หายได้รวดเร็วในเวลาสั้นๆ เราอาจต้องใช้เวลารักษาเยียวยานานถึง 7 วันเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาสู้กับเชื้อได้ เนื่องจากเมื่อเชื้อเริ่มก่อนตัวขึ้นโดยที่เราปล่อยละเลย ก็จะทำให้เกิดการสะสมและก่อตัวของเชื้อจนไม่สามารถรักษาให้หายจากโรคท้องร่วงได้ง่ายๆ อาการของโรคท้องร่วงเป็นอาการที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและสารอาหารไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ขาดสารอาหารมาเลี้ยงร่างกาย จึงเกิดภาวะช็อกหมดสติได้ตลอดเวลา ถ้าเริ่มแน่ใจว่าเรามีอาการของโรคท้องร่วงแล้ว สิ่งแรกที่ต้องหยิบขึ้นมากินก็คือ น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ มีตั้งแต่ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ สามารถใช้เพื่อฆ่าเชื้อไปก่อนเลย เนื่องจากโรคท้องร่วงในระยะแรกนั้นมักมีอาการไม่รุนแรง ยังไม่มีการก่อตัวอย่างเชื้อเยอะมาก การดื่มน้ำผึ้งจะช่วยยับยั้งเชื้อไว้ได้ทันเวลา

สารฆ่าเชื้อแบคทีเรียในน้ำผึ้ง
การที่น้ำผึ้งสามารถนำมารักษาโรคท้องร่วงได้นั้น เนื่องจากประกอบด้วยสารฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียและเชื้อโรคชนิดอื่นๆที่อาจเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วงได้ ดังนั้นการหยิบน้ำผึ้งขึ้นมาดื่มเพื่อรักษาโรคท้องร่วงจึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางในการรักษาโรคท้องร่วงให้อาการของเราทุเลาลง โดยจากงานวิจัยต่างๆพบว่าผู้ที่ดื่มน้ำผึ้งเพื่อรักษาโรคท้องร่วงนั้นมีแนวโน้มที่จะหายจากโรคได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำผึ้งเลย นั่นหมายความว่าการดื่มน้ำผึ้งเข้าไปในร่างกาย จะทำให้ลำไส้ของเราได้รับการฆ่าเชื้อ เชื้อโรคไม่สามารถอาศัยอยู่ในร่างกายได้ ดังนั้นผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการของโรคท้องเสียอย่าลืมที่จะดื่มน้ำผึ้งตั้งแต่วันที่รู้สึกว่าอาการนั้นเริ่มมาแล้ว แล้วให้ดื่มติดต่อกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะมั่นใจว่าหายจากอาการท้องเสีย

แหล่งของสารอาหารที่สำคัญ
คนที่เป็นโรคท้องร่วงหรือท้องเสียติดต่อกันหลายวัน คงทราบดีว่าไม่สามารถรับประทานอาหารได้ดีเท่าคนปกตินัก เพราะกระเพาะอาหารและลำไส้ต่างก็ทำงานผันผวนไปหมด ทำให้เบื่อและไม่อยากรับประทานอาหาร ดังนั้นคนที่เจอกับอาการเช่นนี้จะต้องได้รับเกลือแร่เสริมและหาแหล่งอาหารมาเสริมให้ร่างกายได้รับสารอาหารอยู่บ้าง ซึ่งน้ำผึ้งเป็นแหล่งพลังงานที่ดีมากๆที่แนะนำให้ดื่มเมื่อเราเบื่ออาหาร เพราะน้ำผึ้งเป็นยาเจริญอาหารชั้นดี ที่ไม่เพียงประกอบด้วยน้ำตาลเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารประเภทวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังนั้นการที่เรารับประทานอาหารยากเมื่อมีอาการท้องเสีย สามารถรับสารอาหารจากการดื่มน้ำผึ้งเข้าไปทดแทนได้เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอยู่ตลอด แม้เราจะไม่สามารถรับประทานข้าวหรืออาหารมื้อหลักได้

วิธีใช้น้ำผึ้งสำหรับคนท้องเสียติดต่อกันหลายวัน
สิ่งที่คนท้องเสียหรือมีอาการท้องร่วงติดต่อกันหลาย ทราบกันไหมว่าร่างกายของเราจะต้องเสียน้ำไปตลอดเวลาและเสียสารอาหารไปกับการขับถ่ายเกือบทั้งหมด ร่างกายแทบไม่สามารถใช้สารอาหารที่ได้จากอาหารที่เรารับประทานได้เลย ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือการดื่มน้ำสม่ำเสมอ และต้องมีการได้รับอาหารที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที ไม่ใช่อาหารที่ต้องผ่านกระบวนการย่อยหลายขั้นตอนจนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นน้ำผึ้งเป็นแหล่งของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายของเราสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยใดๆ เหมาะอย่างยิ่งสำคัญคนท้องเสียที่ต้องได้รับการเสริมอาหาร ซึ่งวิตามินและแร่ธาตุในน้ำผึ้งจะเข้ามาทดแทนสารอาหารที่เราเสียไป ดังนั้นสิ่งที่เราต้องมีหลักๆเมื่อเกิดอาการท้องร่วงนั่นก็คือน้ำและน้ำผึ้งเพื่อให้ร่างกายของเราได้รับน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตามเมื่อเรารู้ตัวว่ามีอาการท้องร่วงนั้น เมื่อเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเกิดอาการดังกล่าวติดต่อกันนานเกินไป ก็อาจทำให้เกิดภาวะช็อกและเป็นอันตรายได้ตลอดเวลา เราจึงต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์เพื่อให้หมอดูอาการร่วมด้วย เพราะภาวะท้องเสียนั้นแม้จะสามารถเยียวยาโดยการทานน้ำผึ้งเพื่อให้อาการดีขึ้นได้ ยังต้องมีการฆ่าเชื้อด้วยวิธีทางการแพทย์ด้วย เพราะโรคดังกล่าวอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
https://suwanfarmphueng.com/articles/honey-for-cure-diarrhea/

27
รวมวิธีนำน้ำผึ้งมาใช้ภายนอก


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ล้วนเป็นทั้งอาหารและยาดีให้เราสามารถนำไปใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ซึ่งสารให้ความหวานชนิดนี้มีประโยชน์อย่างมากในการนำมาใช้รักษาโรคต่างๆ ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายๆครอบครัวได้ซื้อน้ำผึ้งเก็บไว้เพื่อใช้ยามจำเป็นและดื่มกินเพื่อสุขภาพที่ดีของคนในครอบครัว แน่นอนว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้นนอกจากจะช่วยให้สุขภาพเราดีแล้ว เรายังสามารถใช้ภายนอกให้เกิดประโยชน์ได้อีกด้วย สำหรับบทความนี้เราได้รวบรวมการนำน้ำผึ้งไปใช้ภายนอกมาดูกันเลยว่าใช้อย่างไรได้บ้าง

การนำน้ำผึ้งมารักษาการติดเชื้อรา
ร่างกายตามผิวหนังของเราสามารถเกิดโรคเรื้อรัง เป็นโรคผิวหนังที่เกิดเชื้อราได้ถ้าเราไม่ได้ดูแลรักษาความสะอาดให้ดี แต่หากเราติดโรคเชื้อรามาแล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราจะต้องรีบหาทางรักษาเพราะถ้าเราปล่อยเอาไว้ อาการเชื้อราจะติดเชื้อลุกลามไปยังผิวหนังของเราและเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจไม่สามารถหายได้ด้วยการรักษาเข้าแพทย์ผิวหนัง แต่หากบ้านของเรามีน้ำผึ้งเก็บไว้ เราก็สามารถรักษาได้แต่เนิ่นๆโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพราะอาการขั้นแรกไม่ได้รุนแรง การใช้น้ำผึ้งทาตรงบริเวณที่ติดเชื้อรานั้นจะช่วยระงับการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี เพราะในน้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารต้านเชื้อแบคทีเรียและสารต้านเชื้อรา ดังนั้นการติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังระยะแรกๆจะสามารถรักษาให้หายได้อย่างรวดเร็วโดยการใช้น้ำผึ้งจากธรรมชาติทาลงบนแผล

การนำน้ำผึ้งมาใช้ในการรักษาบาดแผลบนร่างกาย
นอกจากเราจะเอามารักษาอาการติดเชื้อราบนผิวหนังให้หายดีได้แล้ว เรายังสามารถใช้น้ำผึ้งมารักษาแผลสดของเราได้อีกด้วย เนื่องจากน้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยสมานแผล ทำให้แผลสดหายเร็วยิ่งขึ้น โดยการทำงานของน้ำผึ้งเมื่อเรานำไปทาบนแผลสดคือจะเข้าไปฆ่าเชื้อโรคที่เข้ามาตอมบาดแผลสดของเรา เนื่องจากแผลสดโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีเชื้อโรคมาเกาะอาศัยเพราะเป็นแหล่งอาหารชั้นดีสำหรับเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ หากเราไม่ได้รักษาให้หาย เชื้อโรคเหล่านั้นจะรวมตัวกันก่อตัวบนแผลของเรา ทำให้เกิดหนองบนแผลได้ในที่สุด ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการรักษาบาดแผลนั่นก็คือการหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อโรคมาเกาะตามแผลตั้งแต่ต้นด้วยการทาน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติเพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยให้ทาเพิ่มเรื่อยๆทุกวันจนกว่าแผลของเราจะเริ่มแห้งลง น้ำผึ้งไม่เพียงจะช่วยให้แผลของเรามีเชื้อโรคมาก่อตัวเท่านั้น แต่น้ำผึ้งยังช่วยสมานแผลของเราให้หายเร็วขึ้น และลดโอกาสการเกิดแผลเป็นได้เป็นอย่างดี

การใช้น้ำผึ้งพอกหน้า
ไม่เพียงนำมาใช้เป็นตัวยาทางธรรมชาติเท่านั้น แต่น้ำผึ้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในด้านความงามอีกด้วย โดยการนำน้ำผึ้งมาพอกหน้าจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าของเรายิ่งขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินไปซื้อเครื่องสำอางราคาแพง เนื่องจากน้ำผึ้งจัดเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้า ช่วยป้องกันการเกิดรอยตีนกา รอยเหยี่ยวย่นบนใบหน้าของเราได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดสิวอีกด้วย เพราะน้ำผึ้งจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวบนใบหน้าของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่เพียงการใช้น้ำผึ้งสดในการพอกหน้าแบบเพียวๆจะให้ผลดีเท่านั้น แต่เรายังสามารถผสมน้ำผึ้งเข้ากับส่วนผสมอื่นๆเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย อาทิเช่น การผสมน้ำผึ้งกับขมิ้นเพื่อช่วยในการลบเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า ผสมน้ำผึ้งกับผงอบเชยเพื่อช่วยในการรักษาสิวซึ่งสูตรนี้ได้ผลมากๆ

น้ำผึ้งไม่เพียงแต่สามารถนำมาใช้ภายนอกให้ได้ผลดีเท่านั้น การใช้น้ำผึ้งในการรักษาโรคยังเป็นที่นิยมกันมายาวนานตั้งแต่ในอดีต เพราะนอกจากเราจะนำมาฆ่าเชื้อโรคตามผิวหนังได้แล้ว ยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่กระแสเลือดได้อีกด้วย สำหรับครอบครัวใดมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนการปรุงอาหารด้วยน้ำตาล เพราะการดื่มน้ำผึ้งแต่พอเหมาะในแต่ละวันไม่ได้ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นและยังช่วยรักษาโดยปรับลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเทคนิคในการใช้วัตถุปรุงอาหารที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพของเรา
https://suwanfarmphueng.com/articles/รวมวิธีนำน้ำผึ้งมาใช้ภ/

28
บำบัดโรคไมเกรนด้วยน้ำผึ้ง


อย่างที่เราทราบกันดีว่า น้ำผึ้ง นั้นดีต่อสุขภาพของเราหลายประการมากๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น โดยทั่วไปมีหลายคนที่รักสุขภาพก็จะดื่มกินน้ำผึ้งเพื่อเติมสารอาหารให้กับร่างกายกันอยู่แล้ว เนื่องจากน้ำผึ้งเป็นแหล่งของสารอาหารชั้นดีจากธรรมชาติ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องไปหาซื้ออาหารเสริมที่ใช้สารอาหารสังเคราะห์ในการผลิต เพราะไม่ได้มีอะไรการันตีได้ว่าสารอาหารสังเคราะห์จะดีกับร่างกายของเราจริง แต่สารอาหารจากธรรมชาติแน่นอนว่านอกจากจะไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายของเราได้นำสารอาหารไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นในเมื่อเราสามารถหาซื้อน้ำผึ้งซึ่งเป็นแหล่งของสารอาหารชั้นดีสำหรับสุขภาพของเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมเข้าไปในร่างกาย

ปัจจุบันเราสามารถใช้น้ำผึ้งธรรมชาติมาบำบัดโรคไมเกรนได้แล้ว ซึ่งช่วยให้ลดยาหมอลง ทำให้โรคไมเกรนมีอาการทุเลาลงโดยที่เราไม่ต้องพึ่งพายาหมอมากเกินไปจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ นั่นคนที่ป่วยเป็นไมเกรนจึงขอแนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งแท้เป็นประจำเพื่อช่วยทุเลาอาการของโรคโดยที่ไม่ต้องไปพึ่งพายาหมอที่ทำลายสุขภาพของเรา โดยทั่วไปแล้วเราก็ทราบกันดีใช่ไหมว่าการใช้ยาหมอนั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่การรักษาที่ถูกวิธี แต่การทานยาเหล่านั้นเป็นเพียงการให้สารเคมีกับร่างกาย ช่วยให้ร่างกายลดความเจ็บปวดไปเท่านั้นเอง หรือเป็นการรับยาแก้อาการปวดเมื่อมีอาการ ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายของเราหายจากโรคได้จริงๆเลย ดังนั้นการรักษาที่ถูกวิธีควรเป็นวิธีการบำบัดด้วยธรรมชาติ ไม่ใช่การใช้ยาเพื่อแก้อาการปวดเป็นครั้งคราว หากจะเน้นใช้ยาแก้ปวดไปตลอดเราก็ไม่มีวันหายจากไมเกรน

ปริมาณน้ำผึ้งที่เหมาะสมสำหรับการดื่มเพื่อรักษาโรคไมเกรนมักจะอยู่ที่ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน ก็เพียงพอที่จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายของเราดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี น้ำผึ้งประกอบด้วยวิตามินบีที่ช่วยลดความเครียด และน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวจากน้ำผึ้งที่สามารถดูดซึมเข้าเส้นเลือดได้อย่างรวดเร็วก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เราอารมณ์ดีอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะใช้น้ำผึ้งในการรักษาโรคไมเกรนเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ย่อมคุ้มค่า เพราะไม่ใช่เพียงเพื่อดื่มในการรักษาอาการปวดทรมานชั่วคราว แต่การดื่มน้ำผึ้งรักษาไมเกรนจะช่วยให้เราเห็นผลในระยะยาว ช่วยให้เห็นอาการที่ทุเลาลงไปเรื่อยๆ ไม่เพียงต่อการใช้ในการรักษาโรคไมเกรนเท่านั้นที่จะเห็นผลได้ดี แต่ยังใช้ในการรักษาโรคเบาหวานและโรคหัวใจได้อีกด้วย เนื่องจากการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำติดต่อกันทุกวันได้มีงานวิจัยตีพิมพ์มายืนยันแล้วว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้นดีต่อสุขภาพ ไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น แถมยังช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดีอีกด้วย ดังนั้นผู้ดื่มน้ำผึ้งเพื่อรักษาไมเกรนจะได้ผลพลอยได้อีกหลายประการไม่ว่าจะเป็นการป้องกันโรคหัวใจ ทั้งช่วยป้องกันโรคเบาหวานไปพร้อมๆกัน ถือว่าเป็นแหล่งพลังงานบริสุทธิ์ที่หาได้ง่าย

ทางเลือกอื่นๆในการรักษาโรคไมเกรนให้หายได้ หากท่านไม่สามารถหาทานน้ำผึ้งธรรมชาติได้ก็ยังมีทางเลือกที่ดีจากธรรมชาติที่จะช่วยรักษาโรคไมเกรนได้เช่นกัน การทานผักผลไม้จากธรรมชาติ รวมทั้งการทานปลาเนื้อมันเพื่อเสริมไขมันดีจากปลา การทานกาแฟและธัญพืชยังช่วยในการบำบัดรักษาไมเกรนเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากเราไม่สามารถหาดื่มน้ำผึ้งจากธรรมชาติได้ ก็อย่าลืมใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินเป็นหลัก เพราะนอกจากความเครียดแล้ว อาหารการกินนั้นสำคัญมากๆที่จะช่วยให้เราหายจากความเจ็บปวดทรมานของโรคนี้ได้

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยโรคไมเกรนหลายคนที่มีอาการปวดหัวข้างเดียวมักไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและทำการรักษากับโรงพยาบาลหรือคลินิกหมอ จึงไม่สามารถทราบได้ว่าเราควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใดบ้างที่ไม่ดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยโรคนี้ โดยทั่วไปอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงนั่นก็คืออาหารประเภททอดหรืออาหารมันๆที่มีส่วนประกอบของน้ำมันมากเกินไป นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงเครื่องปรุงอาหารที่มีผงชูรส ผลไม้จำพวกส้ม นมและช็อกโกเล็ตเพื่อไม่ให้อาการกำเริบขึ้นได้ง่าย พยายามออกไปออกกำลังกายในที่สาธารณะและหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตในสถานการณ์ที่เคร่งเครียดเกินไป
https://suwanfarmphueng.com/articles/บำบัดโรคไมเกรนด้วยน้ำผ/

29
แนะนำทำแฟรนไชส์จากสูตรเครื่องดื่มน้ำผึ้ง


ทุกคนทราบดีว่าสูตรอาหารที่ทำให้ติดปากและชวนชิมได้นั้น เชฟคนดังมักใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพดี โดยวัตถุปรุงแต่งอาหารที่มีคุณภาพดีและได้รับความนิยมมากนั่นก็คือ น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ก็ต่างเป็นที่นิยมทั้งนั้น เนื่องจากเป็นแหล่งของความหวานธรรมชาติที่มีรสชาติหวานกลมกล่อมชวนรับประทาน ช่วยให้ผู้บริโภคติดปากกับอาหารที่ปรุงเสร็จ ทำให้ผู้บริโภคย่อมกลับมาซื้ออาหารจากร้านนั้นอย่างแน่นอน ดังนั้นสำหรับบทความนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังคิดว่าอยากเปิดร้านอาหารหรือแฟรนไชส์เครื่องดื่มจากน้ำผึ้งแท้ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีไปยังผู้บริโภค เป็นการใส่ใจทั้งสุขภาพและรสชาติอาหารให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งดีๆจากการซื้อเครื่องดื่มของเรา

แฟรนไชส์เครื่องดื่มสมุนไพร
สำหรับแฟรนไชส์แรกที่เราอยากแนะนำท่านนั่นก็คือการทำแฟรนไชส์สมุนไพร ซึ่งโดยปกติแล้วการทำแฟรนไชส์สมุนไพรนั้นจะเน้นกลุ่มเป้าหมายหรือคนที่จะมาซื้อน้ำสมุนไพรของเราเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพเป็นหลัก ดังนั้นวัตถุดิบในการปรุงอาหารควรเป็นวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพของเราด้วย ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนการใช้น้ำตาลเพื่อปรุงเครื่องดื่ม เนื่องจากเครื่องดื่มที่ปรุงด้วยน้ำผึ้งนั้นมีผลดีต่อสุขภาพไม่เป็นผลเสียเหมือนกับการใช้น้ำตาลในการปรุง หากเราทำแบบนี้เราจะได้ผู้บริโภคที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคที่รักสุขภาพส่วนใหญ่นั้นมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการเลือกวัตถุดิบการปรุงอาหารอยู่แล้ว เรามักได้ยินเวลาสั่งเครื่องดื่ม ผู้บริโภคหลายท่านเลือกสั่งเครื่องดื่มโดยการบอกว่าขอหวานน้อย เพราะทราบว่าการชงเครื่องดื่มที่มีรสหวานด้วยน้ำตาลไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพเท่าไหร่นัก แต่การที่เราได้รับความหวานที่มาจากน้ำผึ้งแท้นั้นนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังได้รสชาติหวานอร่อยกว่าปกติอีกด้วย ดังนั้นเครื่องดื่มสมุนไพรที่อยากได้กลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลเพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ

แฟรนไชส์เครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว
รู้หรือไม่ว่าแค่เรารู้สูตรการทำน้ำผึ้งผสมมะนาวนั้นก็สามารถเปิดร้านขายเครื่องดื่มได้เช่นกัน และมันไม่ใช่เป็นแค่เทรนด์ใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามาได้รับความนิยม แต่ผู้บริโภคมองเห็นประโยชน์ของน้ำผึ้งผสมมะนาวอย่างแท้จริง หลายคนมักมีปัญหากับเสมหะในลำคอ มีอาการเจ็บคอ พูดไม่ชัด บางคนยิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บคอ ทางแก้ที่คนส่วนใหญ่รู้จักนั่นก็คือการดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว เพราะจะช่วยแก้อาการเจ็บคอได้ดีมากๆ ช่วยละลายเสมหะ ทำให้เสียงใสขึ้น จากยิ่งพูดยิ่งเจ็บคอก็จะสามารถพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ยุ่งวุ่นวายกับชีวิต มีงานพันตัว ไม่สามารถชงน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวได้ด้วยตัวเอง การที่เราทำแฟรนไชส์ร้านเครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวจะช่วยให้เราได้กลุ่มลูกค้าที่เร่งรีบและมีกำลังซื้อ มีโอกาสที่การขายน้ำผึ้งผสมมะนาวจะไปได้ดีเพราะคนทำงานจะต้องดื่มกันเยอะมากเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการใช้ชีวิต พวกเขาจะมานั่งพูดเสียงติดๆขัดๆกันก็คงไม่ได้ ต้องแก้ปัญหากันมาก่อน เหตุผลที่น้ำผึ้งผสมมะนาวช่วยแก้อาการเจ็บคอได้ดี และยังใช้ละลายเสมหะได้เพราะว่าในน้ำผึ้งมีสารต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยให้เชื้อแบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดี พร้อมทั้งน้ำมะนาวเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เสมหะในลำคอของเราละลายออกมา ไม่ติดคอ เหมาะสำหรับคนที่มีเสมหะเหนียวก็สามารถใช้น้ำมะนาวรักษาได้ ดังนั้นสูตรน้ำผึ้งมะนาว จึงเป็นสูตรที่ได้ผลดีมากๆ

นอกจากนี้เรายังสามารถประยุกต์ใช้สูตรเครื่องดื่มเพิ่มเติมเพื่อนำมาจำหน่ายได้อีกด้วย อาทิเช่น สูตรชาเขียวน้ำผึ้งที่ได้รับความนิยมมาสักพัก เนื่องจากชาเขียวถือเป็นแหล่งของกาแฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระนานาชนิด การดื่มชาเขียวไม่เพียงทำให้หายง่วงเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพ ช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย แต่การดื่มชาเขียวผสมน้ำตาลนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภค เพราะจะไปเร่งให้ผิวพรรณเสื่อมโทรมและแก่ได้เร็วขึ้น ดังนั้นทางเลือกสุขภาพที่ดีที่สุดก็คือการใช้น้ำผึ้งมาใส่ในเครื่องดื่มแทนการใช้น้ำตาล เพราะน้ำผึ้งไม่มีผลเสียใดๆต่อสุขภาพของเราเลย
https://suwanfarmphueng.com/articles/แนะนำทำแฟรนไชส์จากสูตร/

30
น้ำผึ้งแท้ ยาดีประจำบ้าน


หลายครอบครัวได้เลือกดูแลคนในบ้านด้วยการหายามาไว้ในบ้าน โดยเฉพาะยาสามัญประจำบ้านต่างๆ ซึ่งหากเราไม่ได้พกยาสามัญเอาไว้ใช้ภายในบ้าน ในยามเจ็บป่วยฉุกเฉินก็ไม่สามารถหายาที่ไหนได้และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่อย่างไรก็ตามการใช้ยาหมอนั้นไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่ทุกคนคิด เพราะยาหมอที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนั้นมีผลต่อระบบในร่างกายของเรา โดยเฉพาะตับ เมื่อเราทานยา ตับจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากเป็นอวัยวะที่ใช้กรองข้อเสียภายในร่างกายของเรา การทานยาจะไปสะสมอยู่ในตับของเรา และยังมีผลต่อไตอีกด้วย เมื่อเราทานยาเข้าไป สุดท้ายแล้วยาทุกอย่างจะไปจบที่ไตและทำให้ไตของเราทำงานหนักเกินไป ดังนั้นขอแนะนำการนำ น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ มาใช้เพื่อดูแลสุขภาพของคนในบ้านทดแทนกรณีต่างๆที่ต้องใช้ยา เพื่อลดการทำงานของตับไตของเรา สำหรับบทความนี้ท่านจะได้ทราบว่าการใช้น้ำผึ้งสามารถดูแลสุขภาพด้านใดของเราได้บ้าง

น้ำผึ้งกับการแก้ไอ
หลายคนที่ป่วยและมีโอกาสไออยู่บ่อยครั้งจึงต้องทานยาหมอเพื่อแก้อาการไอให้ผ่านพ้นไปได้ แม้จะเป็นอาการที่ดูไม่น่ากังวลนัก แต่การไอทำให้เราทรมาน อวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือน คนที่ไม่เป็นอาการนี้ก็ไม่ทราบ เมื่อเราไอหนักขึ้นก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเมื่อไอ เนื่องจากระบบภายในของร่างกายได้รับการกระทบกระเทือนมากขึ้นเรื่อยๆ การใช้ยาแก้ไอก็ไม่ได้เป็นผลดีมากนัก เนื่องจากยาแก้ไอโดยทั่วไปจะทำให้ไตของเราทำงานหนัก เพราะประกอบด้วยตัวยาที่ไตจะต้องขับออกจากร่างกาย ดังนั้นทางที่ดีในการรักษาอาการไอคือลองใช้น้ำผึ้งธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะมารักษาอาการไอของเรา เพียงเท่านี้เราก็หายจากอาการไอได้อย่างปลอดภัยแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปซื้อยาแก้ไอที่ไม่ปลอดภัยต่อไตของเรา

น้ำผึ้งกับการรักษาโรคกระเพาะอาหาร
โรคกระเพาะอาหารเป็นโรคที่หลายคนเป็นบ่อยมาก การเกิดแผลในกระเพาะอาหารนั้นเกิดได้ง่าย หากเรารับประทานอาหารที่มีส่วนไปกระตุ้นให้เกิดการทำงานของกระเพาะผิดปกติ จึงต้องมียารักษาแผลกระเพาะเอาไว้ประจำบ้าน แต่ทราบหรือไม่ว่าการใช้น้ำผึ้งสามารถรักษาโรคกระเพาะอาหารได้เช่นกัน โดยการดื่มน้ำผึ้งจะช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารของเราได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น แม้เราจะเจ็บทรมานมานานก็หายได้ ทั้งยังดีกว่ายาหมอตรงที่มีความปลอดภัยสูงอีกด้วย ดังนั้นถ้าปวดท้องหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ขอแนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งเพียงวันละ 1 ช้อนโต๊ะ ก็จะช่วยให้แผลในกระเพาะอาหารของเราสมานกันและหายเร็วขึ้น ทำให้ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานอีกต่อไป

น้ำผึ้งกับการแก้โรคนอนไม่หลับ
สำหรับใครที่อ่านบทความนี้แล้วเป็นโรคนอนไม่หลับอยู่ ท่านไม่จำเป็นต้องไปพึ่งพายานอนหลับอีกต่อไปแล้ว เพราะน้ำผึ้งสามารถเป็นยานอนหลับจากธรรมชาติได้อีกด้วย เพียงดื่มน้ำผึ้งสัก 1 ถึง 2 ช้อนชาก่อนการเข้านอน 15 นาที เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราหลับได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการดื่มน้ำผึ้งช่วยให้ระบบฮอร์โมนต่างๆในร่างกายเหมาะแก่การพักผ่อน ช่วยส่งเสริมให้เรารู้สึกง่วงและหลับสบายตลอดทั้งคืนโดยที่ไม่สะดุ้งตื่นระหว่างคืน แถมไม่ฝันร้ายอีกด้วย

การใช้รักษาแผล
น้ำผึ้งไม่ได้ดีเฉพาะการนำไปใช้ภายในหรือการดื่มกินเพียงเท่านั้น แต่เรายังสามารถนำน้ำผึ้งมารักษาภายนอกได้อีกด้วย หากเรามีบาดแผลหรือได้รับความบาดเจ็บมีแผลถลอกจากภายนอกก็สามารถใช้น้ำผึ้งทาแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรคและเร่งให้เกิดการสมานแผลได้อีกด้วย ช่วยให้แผลหายอย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น ไม่เพียงเท่านั้น แผลน้ำร้อนลวกหรือแผลไฟไหม้ก็สามารถใช้น้ำผึ้งทาได้ทันทีเพื่อให้ความชุ่มชื้นและลดโอกาสการเกิดแผลเป็นได้เยอะมาก ดังนั้นการมีน้ำผึ้งไว้ในบ้านสามารถเอามารักษาบาดแผลได้แทนการใช้แอลกอฮอล์ได้เลย ไม่เพียงเท่านี้เรายังเอาน้ำผึ้งมาแก้อาการเป็นลมได้อีกด้วย เพราะน้ำผึ้งจะเปลี่ยนไปสู่พลังงานให้ร่างกายน้ำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้หายจากอาการหน้ามืดเป็นลมได้รวดเร็วมาก จึงถือว่าเป็นยาดีและปลอดภัยต่อร่างกายที่มีใช้มาตั้งแต่อดีต
https://suwanfarmphueng.com/articles/น้ำผึ้งแท้-ยาดีประจำบ้า/

31
ข้อดีของการใช้น้ำผึ้งทำอาหาร


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ นั้นถือว่าเป็นอาหารจากธรรมชาติที่ให้คุณค่าของสารอาหารเต็มเปี่ยม ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลากหลายชนิด ไม่เพียงแต่เป็นอาหารเท่านั้น แต่น้ำผึ้งยังเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่จะช่วยให้เรานำไปปรุงอาหารได้อร่อยถูกปากได้อีกด้วย เนื่องด้วยรสชาติของน้ำผึ้งมีความหอมหวานชวนรับประทานมากๆ อาหารที่ทำด้วยน้ำผึ้งจะมีรสชาติที่แตกต่างจากอาหารทั่วไป เรารู้สึกได้ถึงรสชาติที่หวานกลมกล่อม ยิ่งทำยิ่งอร่อย สำหรับร้านค้าที่ทำอาหารขาย ลองใช้น้ำผึ้งเป็นวัตถุดิบแทนน้ำตาล ยิ่งลูกค้าของเราทานอาหารของเราเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้รสชาติติดปาก ถูกอกถูกใจ ทำให้อาหารของเราขายดีอยู่เรื่อยๆ ลูกค้าคนเดิมๆก็จะเข้ามาอุดหนุน แถมบอกต่อเป็นปากต่อปากแบบแน่นอน

ช่วยสร้างรสชาติที่กลมกล่อม
ความหอมหวานจากน้ำผึ้งเมื่อผสมอยู่ในอาหารจะไม่ทำให้อาหารมีรสชาติหวานเลี่ยนเหมือนกับการเติมน้ำตาลลงไปในอาหาร แต่จะให้รสชาติในลักษณะหวานกลมกล่อมชวนรับประทานอย่างมาก ดังนั้นนี่จะเป็นเหตุผลสำคัญที่ร้านอาหารหรือภัตตาคารหรูๆเลือกใช้น้ำผึ้งแทนวัตถุดิบในการปรุงอาหารให้หอมอร่อยถูกใจ เพื่อให้รสชาติที่ได้เป็นรสหวานกลมกล่อมชวนรับประทาน ดังนั้นถ้าอยากให้อาหารที่เราปรุงมีรสชาติสุดพรีเมี่ยม มีความหวานกลมกล่อมกว่าอาหารปกติ ความลับมันอยู่ที่การใช้น้ำผึ้งในการปรุงอาหารนั่นเอง

ปลอดภัยต่อระดับน้ำตาลในเลือด
สิ่งที่น่ากังวลเกี่ยวกับการทำอาหารนั่นก็คือปริมาณน้ำตาลในอาหารบางชนิดที่มีมากเกินไป โดยทั่วไปการเดิมน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้อาหารของเรามีองค์ประกอบของน้ำตาลที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การที่น้ำตาลในเลือดสูงจะเป็นสาเหตุของโรคหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ดังนั้นทางที่ดีคือให้เราเลิกใช้น้ำตาลในการปรุงอาหาร แต่หันมาใช้น้ำผึ้งแทน เนื่องจากการใช้น้ำผึ้งนั้นไม่ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคหัวใจมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงค่อนข้างปลอดภัยต่อการนำไปใช้มากๆ มีการวิจัยอย่างยาวนานเกี่ยวกับการน้ำผึ้งมาใช้ทดแทนน้ำตาลหรือสารให้ความหวานอื่นๆ พบว่าน้ำผึ้งไม่ได้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยสูงขึ้นเหมือนกับน้ำตาล นอกจากนี้การดื่มน้ำผึ้งยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย โดยจากผลการวัดคนที่ได้รับน้ำผึ้ง พบว่าไม่ไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แถมยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอีกด้วย ทั้งที่น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานที่ประกอบด้วยน้ำตาลและพลังงานสูง ด้วยเหตุนี้เราจึงชั่งใจได้ว่าการทำอาหารที่ปรุงด้วยน้ำผึ้งจะมีความปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

ไม่เป็นสาเหตุของฟันผุ
เราต่างก็ทราบกันดีกว่าสาเหตุหลักของฟันผุนั้นมาจากการทานอาหาร ยิ่งอาหารที่มีรสหวานก็ยิ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการหมักหมมของแบคทีเรียชนิดต่างๆในช่องปาก ทำให้ฟันของเราผุอย่างรวดเร็วและเกิดฟันเสียได้ง่าย แต่ทราบกันหรือไม่ว่าการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวัน แม้น้ำผึ้งจะเป็นสารให้ความหวานอีกแบบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฟันของเราผุ เนื่องจากน้ำผึ้งไม่เหมือนน้ำตาลทั่วไปที่เป็นอาหารสำคัญให้แบคทีเรียเจริญเติบโต แต่น้ำผึ้งยังประกอบไปด้วยสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นอีกด้วย ทำให้แบคทีเรียในช่องปากที่เป็นสาเหตุของโรคฟันผุไม่สามารถใช้ชีวิตหรือเจริญเติบโตขึ้นได้

ใช้ปริมาณน้อยก็หวานได้
อีกข้อที่การปรุงอาหารควรใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลนั่นก็คือน้ำผึ้งเป็นวัตถุดิบที่มีค่าความหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไปมาก การใช้ประกอบอาหารทดแทนน้ำตาลทั่วไปเราไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณมากเกินไป ซึ่งใช้ในอัตราส่วนที่น้อยกว่าน้ำตาลทั่วไปด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ต้องกังวลมากว่าน้ำผึ้งนั้นจะทำให้อาหารจานหลักของเรามีต้นทุนที่สูงขึ้นมากนัก เนื่องจากเราใช้ในปริมาณไม่มาก จึงไม่ได้ทำให้เราต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อวัตถุมาปรุงอาหาร แต่อย่างไรก็ตามการปรุงอาหารด้วยน้ำผึ้ง แม้จะทำให้เราได้อาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงนั่นก็คือน้ำผึ้งที่เราได้มานั้นเป็นของแท้หรือของปลอม เนื่องจากยังมีการพบน้ำผึ้งปลอมที่ใช้น้ำตาลมาเป็นวัตถุดิบหลักร่วมกับการใช้สารเคมีต่างๆ ซึ่งน้ำผึ้งปลอมไม่ได้ดีต่อสุขภาพมากนัก ดังนั้นทางที่ดีในการซื้อคือให้สั่งจากฟาร์ม
https://suwanfarmphueng.com/articles/ข้อดีของการใช้น้ำผึ้งท/

32
สูตรรักษาริ้วรอยร่องลึกด้วยน้ำผึ้ง


การ ดื่มน้ำผึ้งแท้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ เป็นประจำนั้นทุกคนรู้ว่ามีผลดีต่อสุขภาพมากแค่ไหน เพราะน้ำผึ้งมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายประเภท ช่วยบำรุงให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ยังเป็นแหล่งของพลังงานที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีผลเสียใดๆต่อสุขภาพของเรา การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี เพราะน้ำผึ้งประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ แต่ไม่เพียงการดื่มน้ำผึ้งจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีเพียงเท่านั้น แต่เราก็สามารถนำน้ำผึ้งมาใช้ดูแลสุขภาพภายนอกของเราได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในการรักษาแผล การใช้ด้านความงาม หรือแม้จะเป็นการนำมาผสมเป็นสูตรดูแลใบหน้า ช่วยรักษาริ้วรอยร่องลึกได้อีกด้วย

ปัญหาริ้วรอยร่องลึก
ปัญหาหลักที่คุณผู้หญิงต้องพบเจอเมื่ออายุมากขึ้นนั่นก็คือปัญหาเกี่ยวกับการเกิดริ้วรอยร่องลึก ซึ่งเป็นมากขึ้นเรื่อยๆหากเราไม่เข้ารับการรักษาหรือหาวิธีการดูแลผิวอย่างถูกวิธี ซึ่งท่านทราบหรือไม่ว่าเราสามารถใช้น้ำผึ้งในการรักษาริ้วรอยร่องลึกได้อีกด้วย โดยไม่ต้องเข้ารับการศัลยกรรมใดๆ และไม่ต้องพึ่งพาครีมบำรุงราคาแพงๆราคาหลักหมื่นก็สามารถช่วยเยียวยาร่องลึกของเราในราคาไม่แพงได้เช่นกัน ขอเพียงเราลองศึกษาสูตรจากบทความต่อไปนี้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์

สูตรน้ำผึ้งบริสุทธิ์
เราทราบกันดีว่าน้ำผึ้งนั้นมีคุณสมบัติในการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวของเราได้เป็นอย่างดี เนื่องจากน้ำผึ้งช่วยไปทดแทนน้ำเลี้ยงผิว ทำให้ผิวของเราได้รับความชุ่มชื้น ลดการเกิดรอยเหยี่ยวย่นบนใบหน้า เมื่อใบหน้าของเราโดยมลพิษสิ่งแวดล้อม มักทำให้ผิวแห้งตึงและเกิดร่องลึกขึ้นได้ ดังนั้นหากท่านไม่สามารถหาส่วนผสมพิเศษใดๆที่สามารถนำมาบำรุงผิวหน้าและรักษาริ้วรอยได้ ขอแนะนำให้ใช้สูตรการรักษาริ้วรอยร่องลึกด้วยน้ำผึ้งแท้บริสุทธิ์ โดยนำมาพอกหน้าหรือทาหน้าบำรุงผิวทุกคืนก่อนนอน พยายามทาหลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้ารู้สึกไม่ชอบความเหนียมของมัน อาจรอสัก 10 ถึง 20 นาทีแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดก็ได้ หรือหากพอทนกับความหนืดของน้ำผึ้งได้ ท่านก็สามารถทาได้นาน โดยอาจจะทิ้งเอาไว้ข้ามคืน พอตื่นเช้ามาก็ค่อยมาเช็ดล้างหรืออาบน้ำทีเดียวเลยก็ได้เช่นกัน เพราะต่อให้เราทิ้งไว้นานก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่ดีใดๆกับผิวของเรา เนื่องจากน้ำผึ้งมาจากธรรมชาติ ไม่ได้สังเคราะห์มาจากสารเคมีเหมือนเครื่องสำอางประเภทอื่น

สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว
อย่าเพิ่งสับสนกันว่านี่จะเป็นสูตรเครื่องดื่มนะ แต่เราสามารถใช้สูตรน้ำผึ้งมาผสมกับมะนาวเพื่อใช้ภายนอกบำรุงผิวได้เช่นกัน เนื่องจากด้วยการที่น้ำผึ้งมีหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวของเราอยู่แล้ว ดังนั้นการใช้มะนาวผสมกับน้ำผึ้งจะให้ผลดียิ่งขึ้น โดยการใช้น้ำมะนาวจะเป็นตัวที่มีกรดสูง ช่วยกระตุ้นให้ผิวหน้าของเราสร้างคอลลาเจนและเริ่มการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ให้เราสามารถเผยผิวกระจ่างใส เหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอยร่องลึกก็สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการนี้ สูตรนั่นก็คือให้เราใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมะนาวเพียง 1 ลูก แล้วนำมาพอกหน้าก่อนนอนทุกวัน โดยทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด นอกจากผิวของเราจะได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มเปี่ยมจากน้ำผึ้งแล้ว ยังได้รับการกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังอีกด้วย ทำให้ผิวที่มีแนวโน้มที่จะเหยี่ยวย่นลงไปอีก ได้รับการฟื้นฟูและมีการกระตุ้นให้ผิวดูเด็กขึ้น ช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นเมื่อทำเป็นประจำ แต่อย่างไรก็ตามสูตรนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ชีวิตออกแบบ เพราะอาจทำให้ผิวบาง อ่อนไหวต่อแสงแดดได้ง่าย

สูตรน้ำผึ้งผสมขมิ้น
ไม่ว่าขมิ้นเหลืองหรือขมิ้นสดก็สามารถนำมาบดเพื่อผสมกับน้ำผึ้งได้ โดยใช้ขมิ้นบด 1 ใน 2 ส่วนของน้ำผึ้ง นำขมิ้นที่บดแล้วมาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันและพอกหน้าได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยฟื้นฟูผิวของเราได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยลบเลือนจุดด่างดำและริ้วรอยได้อีกด้วย เพราะขมิ้นไปกระตุ้นให้เกิดการกระจายตัวของเม็ดสีผิวได้ดี
https://suwanfarmphueng.com/articles/สูตรรักษาริ้วรอยร่องลึ/

33
เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำผึ้งแท้


การดื่ม น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ นอกจากจะให้ความหวานอร่อยชวนดื่มแล้วยังเป็นการเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายของเราอีกด้วย เนื่องจากน้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่จะสามารถได้รับการดูดซึมเข้าสู่ระบบเลือดได้ทันที น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติถือเป็นแหล่งอาหารชั้นดีเพราะได้มาจากธรรมชาติ โดยผ่านกระบวนการผลิตจากตัวผึ้งที่ดูดน้ำหวานจากดอกไม้ธรรมชาติมารวมกันในรังผึ้ง โดยตัวผึ้งจะเก็บรวบรวมน้ำหวานที่ได้มาไว้ในรังเป็นระยะเวลานาน เพื่อเก็บรวบรวมให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปใช้ในช่วงฤดูที่ไม่สามารถหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ได้ ด้วยแหล่งที่มาจากเกสรดอกไม้ทำให้น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติจึงเป็นแหล่งของสารอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย ถือได้ว่าเป็นความหวานที่เปี่ยมด้วยคุณค่าของสารอาหาร การดื่มน้ำผึ้งแท้จึงเป็นทางเลือกในการเสริมอาหารให้กับร่างกาย ป้องกันการขาดสารอาหารได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

การดื่มน้ำผึ้งแท้เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายอย่างไร
ด้วยส่วนประกอบหลักของน้ำผึ้งแท้ที่เราสามารถซื้อมารับประทานได้นั้น โดยทั่วไปมันประกอบไปด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ให้ร่างกายดูดซึมเข้าไปใช้ได้รวดเร็วมาก โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยหลายขั้นตอนเหมือนน้ำตาลประเภทอื่น ทำให้ได้รับความนิยมในการนำมาดื่มเพื่อช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมารวดเร็ว ช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าวันนี้เราจะทำงานหนักหรือเจอความเหน็ดเหนื่อยมากมายแค่ไหน ลองดื่มน้ำผึ้งแท้สักช้อนเพื่อเติมพลังกลับคืนให้กับร่างกาย เพียงเท่านี้ร่างกายของเราก็จะรู้สึกสดชื่นและสามารถลุกขึ้นมาทำงานได้อีกครั้ง เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำงานอย่างมาก เพราะช่วยให้หายเหนื่อยและทำงานต่อไปได้ทันทีโดยไม่ต้องพักนานเกินไปให้เสียเวลา นอกจากช่วยลดความเหน็ดเหนื่อยและเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายแล้ว น้ำผึ้งแท้ยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย สำหรับใครที่ต้องเจอกับความตึงเครียดในการทำงาน หรือทำงานที่ต้องเจอกับความกดดันสูง ขอแนะนำให้พักเบรกด้วยการดื่มน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติสักช้อน เพราะน้ำผึ้งแท้นั้นประกอบไปด้วยวิตามินบีที่มีประโยชน์สำหรับระบบประสาทและสมอง ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายความเครียดได้ดีและลดความเครียดลงได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ทำงานใช้สมองคือจะต้องมีวิธีบำบัดความเครียดเพื่อให้สามารถคิดงานต่อไปได้ การได้รับน้ำผึ้งจากธรรมชาติเป็นแหล่งของวิตามินบีที่มาจากธรรมชาติจริงๆ ไม่ใช่วิตามินบีที่ผ่านการสังเคราะห์จากอาหารเสริม จึงเป็นการลดความเครียดจากธรรมชาติที่ปลอดภัยจากผลข้างเคียงและสามารถดื่มน้ำผึ้งติดต่อกันได้เป็นประจำไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดโรคแทรกซ้อน เพราะการใช้น้ำผึ้งเป็นวิธีการที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เนื่องจากไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นมากเกินไป

การดูดซึมสารอาหารสู่ร่างกาย
อย่างที่ทราบกันว่าน้ำผึ้งประกอบด้วยสารอาหารที่สามารถดูดซึมสู่ร่างกายได้ง่ายและรวดเร็ว จึงถือว่านำมาใช้เป็นยาเพิ่มความสดชื่นได้ เนื่องจากช่วยให้รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันเมื่อดื่มเข้าไปสู่ร่างกาย ซึ่งในน้ำผึ้งนอกจากจะมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่เข้าสู่ระบบเลือดได้เร็วแล้ว น้ำผึ้งยังประกอบด้วยวิตามินที่ร่างกายดูดซึมได้รวดเร็วเช่นกัน นี่เป็นสาเหตุที่น้ำผึ้งช่วยให้เราได้ผ่อนคลายความเครียดได้เร็วแม้ดื่มเข้าไปไม่นาน การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจึงดีต่อคนทำงานที่ต้องการฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างรวดเร็ว นอกจากน้ำผึ้งจะดูดซึมเข้าร่างกายได้รวดเร็วแล้ว รู้หรือไม่ว่าน้ำผึ้งยังไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพหรือเป็นสาเหตุของโรคใดๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ป่วยโรคหัวใจที่หมอสั่งห้ามทานหวานก็สามารถดื่มน้ำผึ้งได้ ช่วยให้ปลอดภัยต่อโรคมากๆ เนื่องจากการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำไม่ได้ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยจึงมั่นใจได้ว่าการดื่มน้ำผึ้งจะไม่ได้เข้าไปกระตุ้นให้เกิดอาการกำเริบของโรคขึ้นได้ ซึ่งการดื่มน้ำผึ้งนอกจากจะไม่ทำให้เกิดอาการกำเริบของโรคแล้ว ยังเป็นวิธีที่ดีในการรักษาโรคดังกล่าวได้อีกด้วย เนื่องจากมีการวิจัยยืนยันว่าน้ำผึ้งช่วยรักษาโรคหัวใจและโรคเบาหวานอีกด้วย อย่างไรก็ตามขอให้ท่านเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ พยายามสั่งจากฟาร์มผึ้งโดยตรงเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้ของแท้ ไม่ใช่ของหลอกขาย
https://suwanfarmphueng.com/articles/เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำ/

34
อาหารเสริมผู้สูงอายุ น้ำผึ้งแท้รักษาสารพัดโรค


คนที่มีอายุมากขึ้นคงทราบดีว่ายิ่งเรามีอายุเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะทรุดโทรมลงไปทุกวัน และสุขภาพของเราก็จะย่ำแย่ลงไปด้วยหากเราไม่ได้ดูแลสุขภาพของเราให้ดี เมื่ออายุเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญที่เราจะต้องทราบนั่นก็คือการรับประทานอาหาร เนื่องจากการทานอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรามีร่างกายแข็งแรงปลอดโรค หรือร่างกายทรุดโทรมอย่างรวดเร็วเพราะรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ร่างกายขาดสารอาหารสำคัญไปเลี้ยงส่วนต่างๆก็ร่างกาย ตอนวัยรุ่นนั้นมักมองไม่เห็นปัญหานี้ชัดเจนมากนัก เนื่องร่างกายของเราไม่ได้ทรุดโทรมไปอย่างรวดเร็ว แต่การที่เราอายุมากขึ้นหรือคนในครอบครัวเข้าสู่วัยสูงอายุ เราจะเห็นปัญหาสุขภาพต่างๆที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนั้นทางที่ดีในการดูแลสุขภาพคือต้องให้ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่เสมอ ผู้สูงอายุจะต้องได้รับอาหารเสริมที่ดีต่อสุขภาพ เพราะสารอาหารจากอาหารมื้อหลักไม่เพียงพอ ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถทานอาหารได้หลากหลาย จึงทำให้ร่างกายยิ่งขาดอาหารไปอีก

น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ถือว่าเป็นอาหารเสริมที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ เพราะไม่มีผลข้างเคียงในด้านลบต่อสุขภาพของคนที่อายุมากขึ้น น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นวิตามินหลากหลายชนิด อาทิเช่น วิตามินอี วิตามินบี รวมทั้งแร่ธาตุจากธรรมชาติที่ใช้ในการบำรุงร่างกายไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แคลเซียมและธาตุอาหารอย่างอื่นๆ ดังนั้นการที่จะให้ผู้สูงอายุได้รับอาหารเสริมเหล่านี้จะช่วยให้บำรุงร่างกายให้แข็งแรงขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยทดแทนสารอาหารที่ขาดไป เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถทานอาหารได้หลากหลายประเภท แนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งแทนเพื่อช่วยเติมเต็มสารอาหารที่ขาดไปในแต่ละวัน ดังนั้นถ้าท่านไม่อยากไปซื้ออาหารเสริมให้กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในครอบครัว แนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนเพื่อเสริมอาหารให้กับผู้ใหญ่ในบ้านของเรา เพียงเท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินไปซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีราคาแพงแล้ว

ทำไมการดื่มน้ำผึ้งจึงเป็นการเสริมอาหารที่ดี
การดื่มน้ำผึ้งนั้นเหมาะสำหรับผู้สูงอายุมาก เพราะเป็นการเสริมอาหารที่ดี เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นการให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารจากธรรมชาติ ซึ่งไม่เป็นแหล่งอาหารที่มีการปรุงแต่ง ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพต่อผู้สูงอายุ มีการวิจัยเกี่ยวกับน้ำผึ้งแท้ที่ได้มาจากธรรมชาติ พบว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้นไม่ได้ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นแต่อย่างใด ทั้งที่จริงแล้วน้ำผึ้งนั้นเป็นแหล่งให้ความหวานและให้พลังงานที่สูงมาก แต่งานวิจัยหลายงานกลับการันตีกันว่าน้ำผึ้งไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของเราเลย นับเป็นสิ่งล้ำค่าที่ประเทศไทยสามารถหาได้ เราเป็นคนไทยสามารถซื้อน้ำผึ้งได้ในราคาถูกกว่าประเทศอื่น เพราะประเทศไทยมีแหล่งที่สามารถหาน้ำผึ้งได้และยังเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยทำรังของตัวผึ้ง ทำให้ได้น้ำผึ้งที่มีราคาถูกกว่าการไปซื้อจากประเทศอื่น

ดื่มน้ำผึ้งอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่
เป็นคำถามที่มีการตั้งแง่ในทางลบกับการดื่มน้ำผึ้งมาเป็นเวลานานว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้นมีผลเสียต่อสุขภาพมากน้อยเพียงใด แต่เราก็ยังไม่สามารถยืนยันหรือหาคำตอบจากงานวิจัยใดๆได้เลยว่าการดื่มน้ำผึ้งจะทำให้สุขภาพของเราไม่ดีแต่อย่างใด มีแต่งานวิจัยที่ค้นพบเพียงผลลัพธ์และคุณประโยชน์มากมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความหวานของน้ำผึ้ง จึงสรุปได้ว่าการดื่มน้ำผึ้งไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ไม่ว่าอย่างไรการดื่มน้ำผึ้งยังเป็นการรับพลังงานเข้าสู่ร่างกาย เราจึงดื่มแต่พอเหมาะ ไม่ควรเกินวันละ 10 ช้อนชา เพื่อไม่ให้ร่างกายของเราได้รับพลังงานเข้ามามากเกินไป

ผู้สูงอายุควรดื่มน้ำผึ้งปริมาณเท่าไหร่
ผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพ หรือครอบครัวใดที่มีผู้สูงอายุอยู่นั้น ทางที่ดีในการดื่มน้ำผึ้งให้ปลอดภัยและได้คุณประโยชน์ เพียงให้เราดื่มไม่เกินวันละ 2 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้ร่างกายไม่เป็นการรับพลังงานเข้ามามากเกินไป และเป็นการรับสารอาหารเข้าสู่ร่างกายอย่างเพียงพอในแต่ละวัน เพียงเท่านี้เราก็ได้ให้สารอาหารเสริมจากธรรมชาติจากผู้สูงอายุแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปซื้อของราคาแพงเลย
https://suwanfarmphueng.com/articles/อาหารเสริมผู้สูงอายุ-น้/

35
สูตรชงเครื่องดื่มด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ


น้ำผึ้งธรรมชาติ มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ก็ตามเราไม่เพียงแต่สามารถดื่มน้ำผึ้งเพื่อดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารและชงเครื่องดื่มเพื่อให้เครื่องดื่มของเราดีต่อสุขภาพได้อีกด้วย โดยการดื่มน้ำผึ้งแท้นั้นทุกคนทราบกันดีว่าจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานที่บริสุทธิ์เนื่องจากไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในกระแสเลือดหรือมีการกระตุ้นให้เกิดการสะสมเป็นชั้นไขมันเหมือนกับการทานเครื่องดื่มหรือขนมหวานจากน้ำตาลปกติ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เราได้เห็นร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มที่ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้บริโภค เลือกที่จะช่วยน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติมาปรุงอาหารเพื่อให้ผู้บริโภคของพวกเขามีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากโรค ดังนั้นร้านเครื่องดื่มหรือร้านอาหารใดที่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี น้ำผึ้งจากธรรมชาติ จึงเป็นร้านที่น่าอุดหนุนอย่างมาก เพราะเราจะมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย สำหรับบทความนี้เราจะนำสูตรเด็ดในการชงเครื่องดื่มจากน้ำผึ้งธรรมชาติมาฝากกัน เพื่อให้ร้านค้าขายเครื่องดื่มนำไปใช้ประโยชน์ หรือท่านสามารถนำไปชงได้ด้วยตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีของคนในครอบครัว

สูตรน้ำผึ้งผสมดอกอัญชัน
สูตรนี้มาสามารถนำมาทำน้ำดอกอัญชันที่ใช้สารให้ความหวานจากน้ำผึ้งแท้ธรรมชาติ โดยใช้ดอกอัญชัน 15 ถึง 20 ดอกสำหรับน้ำปริมาณ 500 มิลลิลิตร จากนั้นให้เติมน้ำผึ้งแท้ 2 ช้อนโต๊ะ โดยนำไปคั้นให้เข้ากันและนำมาดื่มกินเพื่อสุขภาพได้เลย น้ำดอกอัญชันนั้นมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยบำรุงรากฟันให้แข็งแรง ทั้งยังนำมารักษาอาการปวดฟันได้อีกด้วย ประโยชน์ของน้ำอัญชันยังช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ทั้งยังบำรุงสายตาของเรา ช่วยในเรื่องของการมองเห็นได้เป็นอย่างดี ทำให้สุขภาพดวงตาของเราแข็งแรงไปด้วย รวมไปถึงการดื่มน้ำดอกอัญชันยังทำให้ระบบหายใจของเราเป็นปกติไม่ติดขัด ทำให้ได้รับความนิยมในการนำมารักษาโรคระบบทางเดินหายใจ

สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว
คนที่เป็นหวัดบ่อยๆหรือมีเสมหะเหนียวๆในลำคออยู่เสมอคงรู้จักสูตรน้ำผึ้งผสมมะนาวกันเป็นอย่างดี โดยสูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการละลายเสมหะในลำคอ หรือต้องการแก้อาการเจ็บคอก็สามารถลองใช้สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาวดูได้ เนื่องจากเสมหะในลำคอมักเกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียเป็นเวลานาน ทำให้เสมหะของเราเหนียวข้นขึ้นเรื่อยๆ และไม่สามารถหายใจได้สะดวก แถมยังไม่สามารถพูดได้ชัด บางคนก็จะมีอาการเจ็บคอแถมมาด้วย ทางที่ดีในการรักษาก็คือการดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวลงไป โดยสูตรทำง่ายมาก เพียงใช้มะนาว 1 ลูก ผสมกับน้ำผึ้ง 3 ช้อนชาในน้ำ 200 มิลลิลิตร เพียงเท่านี้เราก็จะได้น้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวที่ช่วยขับเสมหะออกจากร่างกายและแก้อาการเจ็บคอให้เราแล้ว สูตรนี้ยังถือว่าเป็นสูตรที่ใช้กันมายาวนาน เพราะได้ผลจริง ทำให้อาการเจ็บคอหายได้รวดเร็ว เนื่องจากสารยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในน้ำผึ้งมักทำงานได้ดีมากๆ ทำให้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำคอ และน้ำมะนาวมีฤทธิ์ในการละลายเสมหะทำให้ร่างกายขับเสมหะได้อย่างรวดเร็ว

สูตรน้ำผึ้งผสมน้ำมะม่วง
รู้หรือไม่ว่าน้ำมะม่วงสูตรเด็ดที่หลายร้านใช้นั้น จะใช้น้ำผึ้งผสมลงไปแทนน้ำตาลเพื่อให้น้ำมะม่วงมีรสชาติหอมหวานของกลิ่นดอกไม้ชวนรับประทาน การดื่มน้ำมะม่วงที่มาจากการผสมน้ำผึ้งแท้ ช่วยให้เราได้ลิ้มรสความเป็นธรรมชาติ ดื่มน้ำมะม่วงรสชาติหอมหวาน ซึ่งสูตรการทำง่ายมาก เพียงเตรียมมะม่วง 1 ลูก มาปอกเปลือกและนำไปปั่นเป็นน้ำออกมา จากนั้นใส่น้ำผึ้ง3 ช้อนชาเพื่อเพิ่มความหอมหวานให้กับมะม่วงของเรา การดื่มมะม่วงนั้นนอกจากจะได้ลิ้มรสความหอมหวานแสนอร่อยแล้ว ยังถือว่าเป็นยาระบายขับลมชั้นดีอีกด้วย ดังนั้นถ้าท่านท้องผูกเป็นเวลานานหรือเริ่มมีอาการท้องไส้ไม่ดี ขอแนะนำให้แก้ด้วยการดื่มน้ำมะม่วงจากน้ำผึ้งแท้เพื่อล้างลำไส้ได้เลย

นอกจากจะมีการคิดสูตรน้ำผึ้งมาผสมในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ดีแล้ว ปัจจุบันการใช้น้ำผึ้งยังเป็นที่นิยมในการทำอาหารอีกด้วย เพราะเมื่อใช้น้ำผึ้งประกอบอาหารมักจะได้อาหารที่มีรสชาติหอมหวานน่าทานมากๆ แถมยังไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/สูตรชงเครื่องดื่มด้วยน/

36
ประโยชน์ของการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ


มีหลายคนที่ทราบดีว่าการใช้ น้ำผึ้งธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ มาดื่มกินน้ำเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการนำมารักษาโรคความดันโลหิตสูง การนำมารักษาโรคเบาหวาน การใช้ในการรักษาโรคหัวใจ ช่วยในเรื่องของความจำได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ทุกบ้านจึงควรมีน้ำผึ้งเอาไว้เป็นยาประจำบ้านเพื่อนำมารักษาโรคนานาชนิดและช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยให้เรามีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น แต่น้ำผึ้งไม่ได้นำมาใช้แค่ภายในแล้วเกิดประโยชน์เท่านั้น เราสามาารถใช้น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติในการดูแลผิวพรรณภายนอกหรือใช้ในด้านความงามได้อีกด้วย การใช้น้ำผึ้งแท้เพื่อความงามนั้นมีการใช้มานับพันปีแล้ว ตั้งแต่วัฒนธรรมอียิปต์โบราณที่หญิงสาวชาวอียิปต์สมัยก่อนที่อยากสวยใส ได้ใช้น้ำผึ้งเพื่อดูแลสุขภาพผิวหน้าและผิวกายของตน เพื่อให้ผิวอ่อนโยนน่าสัมผัส เป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม หญิงสาวใดพอกผิวกายน้ำผึ้งธรรมชาติก็จะทำให้ได้ผิวที่ผ่องใส สามารถเผยผิวสุขภาพดีให้คนชายหนุ่มที่ตนต้องการ แต่มาถึงยุคนี้เราก็ยังมีการใช้น้ำผึ้งในการดูแลผิวพรรณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในการพอกหน้ารักษาสิว การใช้เพิ่มความชุ่มชื้น รวมไปถึงการชะลอวัยให้ผิวของเรา เพราะน้ำผึ้งช่วยลดรอยเหยี่ยวย่นและรอยตีนกาได้

ประโยชน์ในการรักษาสิว
น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติเป็นยาดีที่ประกอบไปด้วยสารต้านจุลชีพหรือสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียนั่นเอง หากเราใช้น้ำผึ้งแท้พอกหน้าและดูแลผิวหน้าจะทำให้เราไม่เป็นสิว ซึ่งการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งเป็นประจำจะทำให้แบคทีเรียชนิดต่างๆไม่สามารถเติบโตได้บนใบหน้าของเรา ทำให้ใบหน้าของเราสะอาดปลอดเชื้อ ดังนั้นในคนที่เป็นสิวอยู่แล้ว เมื่อใช้น้ำผึ้งมาพอกหน้าสม่ำเสมอ แบคทีเรียจะค่อยๆตายและไม่สามารถเจริญเติบโตได้ จนกระทั่งสิวหายในที่สุด สำหรับคนที่ไม่เคยเป็นสิว หากใช้น้ำผึ้งพอกหน้า จะช่วยให้ป้องกันการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายในอนาคต จะเห็นได้ว่าเราไม่ต้องไปซื้อยารักษาสิวราคาแพงหรือเข้าคลินิกเสียเป็นหมื่นก็สามารถหายารักษาจากธรรมชาติได้แล้ว หากเราดูแลผิวของเราด้วยน้ำผึ้งแท้เป็นประจำทุกวัน ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเป็นสิว

ประโยชน์ในการให้ความชุ่มชื้น
น้ำผึ้งแท้นั้นนอกจากจะรักษาสิวได้ผลดีแล้วยังสามารถนำมาใช้ในการให้ความชุ่มชื้นกับผิวของเราได้อีกอีกด้วย เนื้องจากใบหน้าของเรานั้นมีการผลิตน้ำเลี้ยงผิวขึ้นมาตามปกติอยู่แล้ว เมื่อไหร่ที่เราล้างหน้าด้วยสารเคมีหรือโฟมล้างหน้าชนิดต่างๆ ก็ทำให้น้ำเลี้ยงผิวที่ร่างกายสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติถูกกำจัดไป และไม่สามารถเลี้ยงผิวหน้าได้เพียงพอ อาจเกิดปัญหาสุขภาพผิวตามมาทีหลังได้ รวมทั้งอาจทำให้เราดูแก่ก่อนวัย การใช้น้ำผึ้งจึงสามารถเอามาทดแทนน้ำเลี้ยงผิวของเราได้เป็นอย่างดี โดยพอกหน้าหลังอาบน้ำเสร็จก็สามารถทดแทนน้ำเลี้ยงผิวที่เสียไประหว่างการทำความสะอาดผิวได้แล้ว การใช้น้ำผึ้งนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เยอะมาก เราแค่ใช้บางๆ แล้วพอกหน้าก่อนนอน โดยไม่จำเป็นต้องล้างออก หรือหากใครรู้สึกว่ามันเหนียวไม่สบายตัวก็อาจล้างออกเบาๆก็ได้

ประโยชน์ในการรักษารอยเหยี่ยวย่นบนใบหน้า
เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายไม่สามารถสร้างน้ำเลี้ยงผิวและคอลลาเจนมาเยียวยาผิวหน้าและผิวกายของเราได้อย่างเพียงพอ แต่เราทุกคนก็รู้ดีว่าผิวกายนั้นสามารถดูแลได้ง่ายกว่ามาก เพราะโลชั่นสำหรับใช้กับผิวกายไม่ได้หายากและมักไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ด้วย แต่สำหรับผิวหน้านั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะหาผลิตภัณฑ์ดีๆมาช่วยป้องกันปัญหานี้ ขอแนะนำน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติมาช่วยในการรักษา เนื่องจากน้ำผึ้งแท้นั้นที่คุณสมบัติในการเข้ามาทดแทนน้ำเลี้ยงผิวของเรา โดยการทาน้ำผึ้งแท้บางๆก่อนเข้านอนจะช่วยทดแทนการที่ร่างกายของเราสร้างน้ำเลี้ยงและคอลลาเจนมาเยียวยาผิวไม่เพียงพอ ทำให้ผิวของเราได้รับความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น จึงลดโอกาสที่จะมีผิวเหยี่ยวย่นขึ้นมาได้ นอกจากนี้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งเรายังสามารถผสมกับสูตรอื่นๆได้อีกด้วย อาทิเช่นการผสมด้วยผงอบเชยเพื่อรักษาสิว หรือผสมกับขมิ้นเพื่อบำรุงผิวกระจ่างใสก็ได้เช่นกัน
https://suwanfarmphueng.com/articles/ประโยชน์ของการพอกหน้าด/

37
อันตรายจากการดื่มน้ำผึ้งปลอม


หลายคนทราบดีว่าการดื่มน้ำผึ้งแท้นั้นเป็นผลดีต่อสุขภาพของเรามาก เพราะ น้ำผึ้งแท้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติประกอบด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นแหล่งของวิตามินบี วิตามินอี แหล่งของแร่ธาตุนานาชนิด อาทิเช่น สังกะสี โพแทสเซียม แมกนิเซียม ซึ่งทำให้เกิดความนิยมดื่มน้ำผึ้งแท้กันมากขึ้นเพราะช่วยให้เราได้รับสารอาหารจากธรรมชาติที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อร่างกายของเรา แต่หลายคนที่ดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวันอาจไม่เคยทราบกันมาก่อนว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้น เราอาจจะซื้อน้ำผึ้งที่ขาดมาตรฐานหรือคุณภาพมาดื่มก็เป็นไปได้ เพราะมีทั้งคนที่ดื่มน้ำผึ้งแล้วสุขภาพดีขึ้นและดื่มแล้วสุขภาพย่ำแย่ลง หลายท่านก็คงทราบกันไปแล้วว่าน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาตินั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง แต่อาจยังไม่ทราบว่าน้ำผึ้งปลอมมีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร บทความนี้ท่านจะได้เรียนรู้ผลเสียของการดื่มน้ำผึ้งปลอมที่ทำให้สุขภาพของเราแย่ลง ท่านผู้อ่านควรศึกษาว่าเพื่อจะได้ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มน้ำผึ้งปลอมเข้าสู่ร่างกาย

อันตรายต่อระดับน้ำตาลในเลือด
การดื่มน้ำผึ้งแท้นั้น หลายคนทราบดีว่าจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราต่ำลง คนดื่มน้ำผึ้งแท้จะมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากโรคเบาหวาน แม้จะเป็นแหล่งของสารอาหารที่ให้พลังงานสูงและมีรสชาติหอมหวานกว่าแหล่งให้ความหวานทั่วไปมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นผลดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องการแหล่งให้ความหวานที่ปลอดภัยอีกด้วย แต่หลายคนที่หลงไปซื้อน้ำผึ้งของปลอมมา รู้หรือไม่ว่าไม่ได้มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ การดื่มน้ำผึ้งปลอมจะเป็นการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ยิ่งคนที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว เมื่อดื่มน้ำผึ้งปลอมเข้าไปนอกจากจะไม่ได้ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว แต่ยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพและยังทำให้อาการกำเริบได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นการดื่มน้ำผึ้งปลอมมีอันตรายไม่น้อย ท่านควรซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่ไว้ใจได้

อันตรายต่อโรคหัวใจ
การดื่มน้ำผึ้งแท้อาจจะดีต่อสุขภาพ แต่การดื่มน้ำผึ้งปลอมไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพของเรามากนัก โดยเฉพาะสุขภาพของหัวใจที่ต้องสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย การได้รับน้ำตาลปริมาณมากที่ไม่ได้เป็นน้ำตาลจากน้ำผึ้งแท้ ก็ทำให้หัวใจของเราทำงานหนัก เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป จะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตเกิดปัญหา และหัวใจของเราจะต้องทำงานหนักขึ้น อาจทำให้เป็นโรคหัวใจหรือคนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วก็สามารถมีอาการกำเริบขึ้นได้ แต่การดื่มน้ำผึ้งแท้ไม่ได้มีผลต่อการทำให้เกิดโรคหัวใจ เพราะน้ำผึ้งแท้มีสารบำรุงเม็ดเลือดชนิดต่างๆ ทำให้หัวใจของเรามีสุขภาพที่ดี คนที่เป็นโรคหัวใจถ้าได้ดื่มน้ำผึ้งแท้จะทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น เพราะระบบไหลเวียนโลหิตภายในร่างกายทำงานดี

สารเคมีที่ใช้ในการทำน้ำผึ้งปลอม
ไม่เพียงน้ำตาลที่ไม่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่น้ำผึ้งปลอมประกอบด้วยสารเคมีที่ไม่ดีต่อสุขภาพเยอะมาก โดยมีการใส่สารเพิ่มเข้ามาเพื่อทำให้น้ำผึ้งดูหนืดมากขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับผู้ซื้อ สารเคมีดังกล่าวเข้าไปทำลายสุขภาพของผู้บริโภคหลายประการมาก โดยเฉพาะตับของเราที่ต้องกรองของเสียจากสารเคมีเหล่านี้ หรือสารเคมีเหล่านี้ไปตกค้างอยู่ในตับจนเกิดภาวะโรคแทรกซ้อนอีกมาก ทั้งยังทำให้เกิดโรคไตได้ด้วย เมื่อไตของเราต้องกรองสารเคมีเหล่านี้เช่นกัน คนที่ผลิตน้ำผึ้งปลอมมาขายนั้นขาดจรรยาบรรณการเป็นพ่อค้าแม่ค้าอย่างมาก เพราะใส่สารเคมีอันตรายลงไปหลายชนิด โดยไม่ได้สนใจว่าผู้ซื้อจะนำไปดื่มแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ เมื่อดื่มเป็นระยะเวลานานจะเกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย ไม่สามารถขับออกได้ สารพิษเหล่านั้นทำให้เกิดโรคเรื้อรังเป็นโรคมะเร็งหรือเนื้องอกขึ้นมาได้ ทางที่ดีที่เราสามารถดื่มน้ำผึ้งแท้ได้อย่างปลอดภัยคือการเลือกฟาร์มผึ้งที่ได้มาตรฐานและซื้อจากฟาร์มโดยตรงหรือซื้อจากผู้จำหน่ายที่มีการตรวจคุณภาพสินค้าหรือมีเกณฑ์ในการวัดคุณภาพที่มีขั้นตอนรู้ได้ว่าสินค้าใดเป็นของแท้หรือของปลอม
https://suwanfarmphueng.com/articles/อันตรายจากการดื่มน้ำผึ-2/

38
เกร็ดความรู้ วิธีสังเกตน้ำผึ้งแท้หรือปลอม


อีกปัญหาที่ใครหลายคนประสบคือการซื้อ น้ำผึ้งแท้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ มาแล้วนั้นไม่รู้ว่าน้ำผึ้งนั้นเป็นน้ำผึ้งแท้หรือน้ำผึ้งปลอมที่มีคนปลอมเพื่อขายในราคาแพงขึ้น ซึ่งเราจะต้องมีความรู้ตรงนี้เอาไว้เพื่อสังเกตุว่าอันไหนคือน้ำผึ้งของแท้ อันไหนคือน้ำผึ้งของปลอม หากเราไม่มีความรู้ในการสังเกตุ แน่นอนว่าเราอาจโดนหลอกขายน้ำผึ้งปลอมก็ได้ เพราะการดื่มน้ำผึ้งปลอมนั้นไม่แต่ไม่ได้มีผลดีต่อสุขภาพของเรา แต่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราด้วย

สีของน้ำผึ้ง
วิธีแรกในการสังเกตุน้ำผึ้งแท้หรือปลอมนั้น โดยทั่วไปจะดูที่สีก่อนเป็นอันดับแรก โดยให้เราดูว่าสีนั้นเป็นสีอะไร น้ำผึ้งแท้ที่มาจากธรรมชาติ จะมีสีเหลืองอ่อนๆ หรืออาจจะพบว่าเป็นสีน้ำตาลใส โดยไม่พบน้ำผึ้งสีเข้ม โดยทั่วไปเราอาจพบน้ำผึ้งปลอมได้ง่าย ซึ่งลักษณะสีของน้ำผึ้งปลอมจะมีสีเข้ม ดูไม่ใสสะอาดเหมือนน้ำผึ้งแท้ ราวกับเป็นน้ำผึ้งที่เคี่ยวมา ดังนั้นยิ่งสีของน้ำผึ้งหมองเท่าไหร่ ยิ่งต้องสังเกตุให้ดี เพราะเราอาจได้น้ำผึ้งปลอมมาดื่มกินก็เป็นได้ ดังนั้นการสังเกตุโดยหลักๆว่าเป็นน้ำผึ้งแท้หรือน้ำผึ้งปลอมนั่นก็คือสีน้ำผึ้งต้องเป็นสีอ่อนหรือสีใสๆ เมื่อไหร่ที่เราเจอน้ำผึ้งสีเข้ม ก็อาจเป็นน้ำผึ้งที่ไม่น่าไว้วางใจนัก แต่อย่างไรก็ตาม น้ำผึ้งจากบางแหล่งในธรรมชาติก็อาจมีสีเข้มด้วย ดังนั้นการดูสีอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย

กลิ่นของน้ำผึ้ง
อีกอย่างที่เราสังเกตุได้ไม่ยากก่อนที่จะดื่มกินน้ำผึ้งเข้าสู่ร่างกายนั่นก็คือกลิ่นของมัน กลิ่นสังเกตุได้ไม่ยาก น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติมักมีกลิ่นหอมหวานจากดอกไม้ ไม่ได้มีเพียงกลิ่นน้ำตาลเท่านั้น ซึ่งเอกลักษณ์สำคัญของน้ำผึ้งคือประกอบด้วยวิตามินอี ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็นหื่น ดังนั้นถ้าท่านดมน้ำผึ้งแล้วได้กลิ่นบูดๆ นั่นหมายความว่าไม่ใช่กลิ่นน้ำผึ้งแท้แล้ว ให้หลีกเลี่ยงให้ไกลเลย เพราะเรารู้แล้วว่าน้ำผึ้งแท้มีวิตามินอีที่จะช่วยไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นขึ้นมาได้

ทดสอบจากความหนืด
น้ำผึ้งแท้แม้เราจะทำหกตกลงบนพื้นไว้นาน ก็ไม่ได้ทำความมีความหนืดเพิ่มขึ้น ดังนั้นเราสามารถใช้คุณสมบัติตรงนี้ของน้ำผึ้งมาทดสอบความหนืดได้ว่าเป็นน้ำผึ้งแท้หรือไม่ โดยนำน้ำผึ้งที่ซื้อมาถูๆบนเวณผิวหนัง ถ้ามัดหนืดขึ้นเรื่อยๆนั่นแสดงว่าไม่ใช่น้ำผึ้งแท้แล้ว นอกจากการทดสอบเบื้องต้นตามที่บอกแล้ว การนำน้ำผึ้งแท้ไปแช่ตู้เย็นยังเป็นอีกวิธีที่เราสามารถสังเกตุการเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย ซึ่งน้ำผึ้งที่เรานำไปแช่ตู้เย็นนั้น หากเป็นน้ำผึ้งแท้ แน่นอนว่าย่อมไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น แม้จะแช่เป็นเวลานานก็ยังสีสวยสดใสอยู่เสมอ แต่เมื่อไหร่ที่เราสังเกตุได้ว่าน้ำผึ้งที่เราไปแช่ตู้เย็นเกิดมีการแบ่งชั้นหรือแยกเป็นส่วนๆ นั้นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเราไว้ใจน้ำผึ้งขวดนั้นไม่ได้แล้ว เพราะอาจเป็นน้ำผึ้งปลอม หรือมีส่วนผสมของน้ำตาลที่เคี่ยวเองโดยไม่ได้มาจากแหล่งน้ำผึ้งธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีสุขภาพของผู้ดื่มกินอย่างแน่นอน

นอกจากนี้เรายังต้องหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผึ้งที่ไม่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติ หรือน้ำผึ้งปลอมที่มีการผลิตโดยใช้น้ำตาลมาเคี่ยว เพราะนอกจากน้ำผึ้งปลอมเหล่านี้นั้นนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้สุขภาพของเราแข็งแรงได้จริงแล้ว ยังส่งผลให้เรามีสุขภาพที่ย่ำแย่ลงกว่าเดิมอีกด้วย เพราะน้ำผึ้งปลอมมีผลไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดจนเกิดอันตราย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานจะได้รับอันตรายมาก นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคหัวใจที่เราน้ำผึ้งปลอมเป็นเวลานานเกินไปก็อาจทำให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือด อาการของโรคหัวใจกำเริบได้เช่นกัน หากท่านพบว่าน้ำผึ้งที่ซื้อมานั้นมีสัญญาณบางอย่างที่บอกว่าไม่ใช่น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ ทางที่ดีคือควรนำไปทิ้งเลย แม้หลายคนบอกว่าจะเอาไว้ประกอบอาหาร ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะน้ำผึ้งดังกล่าวผ่านกรรมวิธีที่มาการใส่สารบางอย่าง ช่วยเพิ่มความหนืด จึงเป็นแหล่งของสารเคมีอันตรายที่ทำให้สุขภาพของเราย่ำแย่ลง
https://suwanfarmphueng.com/articles/เกร็ดความรู้-วิธีสังเกต/

39
ดื่มน้ำผึ้งแท้ หวานอร่อยแต่ปลอดภัย


การดื่มเครื่องดื่มหรือการรับประทานอาหารรสชาติหวานนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ได้รับการแนะนำทางการแพทย์ตั้งแต่อดีตกาล คนโบราณก็ทราบดีว่าการทานหวานไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อสุขภาพของเรามากนัก จึงได้เกิดคำพังเพยที่ว่าหวานเป็นลมขมเป็นยา เป็นคำพังเพยที่พอจะบอกคนยุคปัจจุบันได้ว่าการทานหวานไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและงานวิจัยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆกลับพบว่า การดื่มน้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ เป็นประจำไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหรือเป็นอันตรายใดๆต่อสุขภาพของเราเลย และที่สำคัญการดื่มน้ำผึ้งยังไม่เป็นสาเหตุที่ทำให้ฟังผุด้วย ทั้งที่คนที่มีปัญหาเรื่องเหงือกและฟันหมอมักสั่งให้งดทานหวาน แต่น้ำผึ้งกลับประกอบด้วยสารยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงทำให้แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักของการก่อให้เกิดฟันผุไม่สามารถเจริญเติบโตได้เมื่อดื่มน้ำผึ้งเข้าไป แต่การดื่มน้ำผึ้งเพื่อรักษาฟันผุนั้น ยังไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ เพราะยังไม่มีงานวิจัยที่ออกมาการันตีแน่ชัดว่าสามารถป้องกันฟันผุได้จริง

ความปลอดภัยต่อโรคเบาหวาน
คนที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงให้ไกลจากของหวานเลย เพราะเป็นแหล่งของแป้งและน้ำตาลที่จะมาเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ร่างกายไม่สามารถรับมือกับระดับน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นได้เร็ว ทั้งอาจไปทำลายเนื้อเยื่ออื่นๆ อาทิเช่น ทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาอีกด้วย และยังเกิดการสะสมของน้ำตาลที่กลายมาเป็นไขมัน ซึ่งคนที่เป็นโรคเบาหวานนั้นกลับสามารถดื่มน้ำผึ้งได้อย่างปลอดภัย แม้น้ำผึ้งจะเป็นแหล่งของความหวานและให้พลังงานในอัตราที่สูง แต่ด้วยองค์ประกอบจากนักตาลฟรุกโตสที่เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวให้ความหวานอร่อยกว่าน้ำตาลปกติ แต่ไม่ได้ทำให้คนดื่มอ้วนขึ้น ไม่มีการสะสมเป็นไขมันในร่างกาย แต่ยังช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญพลังงานทำได้ดีขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญคือการดื่มน้ำผึ้งเป็นระยะเวลานานแม้จะเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานเองก็ดีต่อสุขภาพไม่น้อย เพราะมีผลงานการวิจัยมายืนยันแล้วว่าผู้ป่วยที่ดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวันในปริมาณที่เหมาะสมกลับไม่ได้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จากการวิจัยพบว่าปัจจุบันที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับการดื่มน้ำผึ้งเลย แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ได้รับน้ำผึ้งอย่างสม่ำเสมอทุกๆวัน เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อลองตรวจวัดน้ำตาลในเลือด กลับพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงอย่างน่าอัศจรรย์ จนเป็นข้อสงสัยจากทางการแพทย์ว่าตกลงแล้วน้ำผึ้งนั้นเป็นอันตรายหรือเปล่า เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่ให้ปริมาณน้ำตาลสูงมาก โดยไม่ได้ทำให้น้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่กลับลดลงด้วยซ้ำ

ความปลอดภัยต่อโรคฟันผุ
คนที่ฟันผุหลายคนอาจจะไม่สามารถทานอาหารหวานอร่อยได้ เพราะอาหารเหล่านั้นประกอบด้วยน้ำตาลที่เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ แต่ทราบไหมว่าหากใช้น้ำผึ้งมาปรุงอาหารแทนการใช้น้ำตาล รับรองได้เลยว่าจะได้อาหารที่ปลอดภัยมากกว่าโดยไม่ต้องกังวล เพราะน้ำผึ้งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฟันผุได้ แถมน้ำผึ้งจะมีสารยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักของฟันผุ ทำให้ลดอาการฟันผุได้อีกด้วย สำหรับท่านที่อยากทานอาหารหวานมันอร่อยๆ แต่ฟันผุอยู่ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนการปรุงอาหารด้วยน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมได้เลย

ความปลอดภัยต่อหลอดเลือดและหัวใจ
การทานหวานมากๆนั้น ทุกคนทราบดีว่าไม่เป็นมิตรต่อระบบไหลเวียนเลือดแน่นอน เพราะเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ร่างกายก็ไม่สามารถนำน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นไปใช้ได้ทันเวลา จึงเป็นอันตรายต่อระบบไหลเวียนโลหิตและมีผลต่อหัวใจอีกด้วย แต่การดื่มน้ำผึ้งไม่ได้ทำให้ระบบโลหิตมีปัญหา และยิ่งไปกว่านั้นการดื่มน้ำผึ้งยังช่วยให้หลอดเลือดสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น เพราะประกอบด้วยสารต้นอนุมูลอิสระที่ดีต่อหลอดเลือดและหัวใจมากๆ ดังนั้นการทานหวานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพหัวใจของเราอย่างแท้จริง นั่นก็คือความหวานที่มาจากการใช้น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ แม้จะมีราคาที่สูงกว่าการใช้น้ำตาลไปบ้าง แต่ผู้บริโภคสมัยใหม่ทราบดีว่าสุขภาพต้องการก่อน จึงเลือกน้ำผึ้งมาปรุงอาหารกันมากขึ้น
https://suwanfarmphueng.com/articles/ดื่มน้ำผึ้งแท้-หวานอร่อ/

40
ประโยชน์ของอาหารที่ปรุงด้วยน้ำผึ้ง


การปรุงอาหารด้วยน้ำตาลนั้นเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะน้ำตาลมีราคาถูก สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ช่วยประหยัดต้นทุนในการปรุงอาหารได้มาก แต่สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจก็ทราบกันดีว่าน้ำตาลไม่ใช่แหล่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากนัก เนื่องจากการทานน้ำตาลมากเกินไปจะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้อาการของโรคกำเริบและหนักขึ้นไปอีก ในยุคนี้จึงมีการหาวิธีอื่นมาทดแทนการใช้น้ำตาลมาปรุงอาหาร โดยทั่วไปจึงมีการลดน้ำตาลลงและใช้สารให้ความหวานทดแทนการใช้น้ำตาล แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับพบว่าการใช้สารให้ความร้อนแทนน้ำตาลนั้นไม่ได้ดีต่อสุขภาพของเราเท่าไหร่นัก เพราะยิ่งทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเยอะ ร่างกายก็ยิ่งเข้าใจว่าได้รับพลังงานจากน้ำตาลแล้ว แต่กลับได้มาเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอสักที ทำให้กระตุ้นให้เกิดความอยากน้ำตาลมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายเราต้องกลับมาทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลหนักกว่าเดิมอีก ดังนั้นจึงขอแนะนำให้เอาน้ำผึ้งมาปรุงอาหารแทนน้ำตาลและสารให้ความหวาน เพราะมีการวิจัยมาอย่างยาวนานว่าน้ำผึ้งเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่มีผลหรือไม่เป็นต้นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น จึงขอแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ป่วยโรคหัวใจ รวมไปถึงคนที่รักสุขภาพทั้งหลาย ให้ลองใช้น้ำผึ้งมาปรุงอาหารแทนน้ำตาล

ใช้น้อยแต่หวาน
น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ มีข้อดีที่เด่นชัดกว่าน้ำตาลนั้นก็คือมีรสชาติที่หวานอร่อยมากแม้จะใช้ในปริมาณน้อย น้ำผึ้งโดยทั่วไปมีระดับความหวานมากกว่าน้ำตาลมากถึงเท่าตัวเลยทีเดียว ดังนั้นทำให้เราใช้น้ำผึ้งในปริมาณที่น้อยกว่าในการปรุงอาหาร จึงหมดห่วงเรื่องราคาและปริมาณการใช้ไปเลย ไม่ทำให้เราต้องจ่ายแพงเกินไปแน่นอน เพราะใช้ในปริมาณที่น้อยกว่ามาก แม้เราจะรู้กันว่าน้ำผึ้งให้พลังงานสูงกว่าน้ำตาล แต่เราก็หมดความกังวลไปได้เพราะเราไม่ได้ใช้ในปริมาณที่เยอะมากเหมือนกับการใช้น้ำตาล จึงปลอดภัยกว่าอย่างแน่นอน น้ำผึ้งจึงเหมาะมากสำหรับคนที่รักสุขภาพ อยากดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ

ไม่มีผลกระทบต่อโรคเบาหวาน
งานวิจัยหลายงานยืนยันว่าน้ำผึ้งนอกจากจะไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ยังไม่ทำให้มีผลกระทบต่อโรคเบาหวานอีกด้วย คนที่เป็นโรคเบาหวานจึงสบายใจได้สำหรับเรื่องนี้ เนื่องจากน้ำผึ้งมีองค์ประกอบหลักเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ซึ่งน้ำตาลประเภทนี้จะดีต่อสุขภาพของเรา เพราะไม่ทำให้เกิดการสะสมเป็นชั้นไขมันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นถ้าใครมีคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวานอยู่นั้น ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งทดแทนการใช้น้ำตาลในการปรุงอาหารได้เลยเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเป็นทางเลือกสุขภาพที่ดีอีกทาง

ดีต่อโรคหัวใจ
น้ำผึ้งประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มาช่วยในระบบไหลเวียนเลือดได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้จะช่วยขับสิ่งสกปรกในเส้นเลือด ช่วยให้ระบบโลหิตทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ส่งผลให้ไม่เกิดโรคหัวใจได้ง่ายและดีต่อผู้ป่วยโรคหัวใจอีกด้วย ครอบครัวใดที่มีคนเป็นโรคหัวใจ นอกจากจะทำอาหารด้วยน้ำผึ้งจะปลอดภัยและดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยให้อารมณ์ดีคลายเครียดอีกด้วย เนื่องจากองค์ประกอบอีกอย่างของน้ำผึ้งนั่นก็คือวิตามินบีจากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยในกระบวนการทำงานของระบบประสาทรวมทั้งช่วยบำรุงสมองให้ความจำเป็นดี ช่วยให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน การดื่มน้ำผึ้งจึงได้ผลดีมากสำหรับคนที่มีความเครียดและเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว รวมไปถึงคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงก็สามารถดื่มน้ำผึ้งเพื่อดูแลสุขภาพได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำผึ้งนั้นดีต่อระบบหมุนเวียนเลือดมากๆ

นอกจากน้ำผึ้งจะดีและมีประโยชน์กว่าการใช้น้ำตาลทำอาหารแล้ว น้ำผึ้งยังประกอบด้วยสารอาหารสำคัญในการบำรุงร่างกายของเราอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุสังกะสี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัสและแคลเซียม สารอาหารเหล่านี้เป็นแร่ธาตุจำเป็นที่เราควรได้รับในแต่ละวัน ถ้าเราไม่แน่ใจว่าแต่ละวันเราได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอครบถ้วนหรือไม่ ขอแนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งเสริมเข้าไปได้เลย เพราะจะช่วยเสริมอาหารและให้วิตามินที่ร่างกายอาจได้รับอย่างไม่เพียงพอ
https://suwanfarmphueng.com/articles/ประโยชน์ของอาหารที่ปรุ/

41
สูตรรักษาแผลเป็นด้วยวิธีธรรมชาติด้วยน้ำผึ้งแท้


น้ำผึ้งแท้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ เป็นยาดีที่ประเทศไทยของเรามี เพราะด้วยสภาพอากาศของเมืองไทยเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของผึ้งมากๆ ทำให้ผึ้งทำรังและมีน้ำผึ้งให้เก็บเกี่ยวทุกปี ทั้งยังสามารถเก็บเกี่ยวใส่ขวดปิดให้มิดชิดไว้ได้ ทำให้สามารถเก็บน้ำผึ้งเอาไว้เอาไว้ใช้ได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ต้องกลัวว่ามันจะเสีย เพราะน้ำผึ้งประกอบด้วยวิตามินอีในตัวมันเอง เป็นวิตามินที่เข้ามาช่วยไม่ให้วัตถุเน่าเสียได้ง่ายและป้องการกลิ่นเหม็นได้อีกด้วย เราไม่เพียงสามารถนำน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติมาใช้รับประทานเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพได้เท่านั้น แต่เรายังสามารถนำมาใช้กับภายนอกร่างกายได้อีกด้วย สำหรับบทความนี้เราได้รวบรวมการใช้น้ำผึ้งภายนอก โดยเฉพาะสูตรการรักษาแผลเป็นด้วยน้ำผึ้งจากธรรมชาติมาให้ท่านแล้ว มาดูกันเลยว่าเราสามารถนำน้ำผึ้งมารักษาแผลได้อย่างไรบ้าง

1.ใช้น้ำผึ้งบริสุทธิ์
ถ้าเราไม่อยากใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ การใช้น้ำผึ้งบริสุทธิ์สามารถนำมาใช้รักษาแผลเป็นได้ดีเช่นกัน โดยให้เรานำน้ำผึ้งมาป้ายแผลสดได้ทันทีที่เกิดอุบัติเหตุหรือบาดแผลตามร่างกาย โดยไม่ต้องล้างออก อาจจะล้างออกตอนอาบน้ำทีเดียวก็ได้ จะเป็นการฆ่าเชื้อโรคให้แผลของเราได้เป็นอย่างดี น้ำผึ้งประกอบด้วยสารอาหารประเภทแร่ธาตุสังกะสีที่เป็นสารอาหารสำคัญในการใช้รักษาแผลเป็น ซึ่งเมื่อเรานำน้ำผึ้งมาป้ายแผล สังกะสีในน้ำผึ้งจะทำงานด้วยการเร่งให้เกิดการสมานแผลรวดเร็วขึ้น ช่วยให้แผลหายเร็ว ทั้งสารยับยั้งแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำผึ้งเข้าไปป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบของแผลขึ้นได้ นอกจากนี้เรายังสามารถดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำในช่วงที่ร่างกายเกิดแผลเพื่อกระตุ้นให้แผลหายเร็วขึ้นและไม่กลายเป็นแผลเป็นขึ้นในอนาคต ถือว่าเป็นวิธีที่ดี แม้เราจะไม่ได้มีสมุนไพรชนิดอื่นๆมาผสมเข้าด้วยกันก็สามารถนำมาใช้รักษาแผลได้ผลดีเช่นกัน

2.ผสมน้ำผึ้งเข้ากับผงขมิ้น
สำหรับคนที่อยากให้แผลหายรวดเร็วขึ้นขอแนะนำให้ใช้ขมิ้นผสมกับน้ำผึ้ง โดยใช้ผงขมิ้นที่หาซื้อได้ตามร้านสินค้าการเกษตร แต่หากไม่สามารถหาซื้อผงขมิ้นได้ ก็สามารถซื้อขมิ้นสดจากร้านขายของชำมาบดผสมกับน้ำผึ้งก็ได้ โดยบดให้เข้ากันพอประมาณเท่านั้นก็สามารถนำมาใช้ได้ผลดีแล้ว อย่างที่เราทราบว่าน้ำผึ้งนั้นดีต่อการสมานแผลอยู่แล้ว ช่วยให้แผลของเราหายเร็วขึ้น ทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อโรค ยับยั้งแบคทีเรียได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้นการใช้น้ำผึ้งผสมกับผงขมิ้นจะช่วยให้เห็นผลชัดเจนมากในการรักษาแผล โดยสามารถใช้ป้ายแผลสดได้ทันที หรือหากแผลของเรามีบริเวณกว้าง เช่นแผลถลอก เราก็สามารถที่จะใช้ป้ายรอบๆแผลก็ได้ เนื่องจากขมิ้นมีคุณสมบัติช่วยลบเลือนจุดด่างดำและรอยแผลเป็น มีผลทำให้ผิวเรียบเนียนอยู่แล้ว จึงเข้ามากระตุ้นให้เม็ดสีกระจายตัวได้ดี ทำให้เห็นผลดีมากในการรักษาและป้องกันการเกิดแผลเป็นได้ในอนาคต

3.น้ำผึ้งผสมว่านหางจระเข้
ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ผสมกับน้ำผึ้งแท้ที่ได้จากธรรมชาติแล้วนำมารักษาแผลได้หลายประเภท อาทิเช่น แผลถลอก แผลพุพอง แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดแผลเป็นได้เยอะมาก ช่วยให้แผลสมานกันดีขึ้น ซึ่งเป็นการฆ่าเชื้อโรคป้องกันการเกิดหนองได้ดี และเร่งให้เซลล์ต่างๆทำงานเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวของเราที่โดนน้ำร้อนลวกหรือโดนของร้อนมาสามารถสมานกันได้อย่างรวดเร็วและหายได้ในเวลาไม่นาน โดยปกติแล้วคนทั่วไปก็ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ในการรักษาแผลที่โดนของร้อนมาอยู่แล้ว ยิ่งนำมาผสมกับน้ำผึ้งเพื่อช่วยรักษาแผลยิ่งเห็นผลมากขึ้นเพราะจะทำให้เกิดตัวยาใหม่ที่ทำงานเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับคนที่เกิดแผลเป็นหรือเพิ่งจะผ่านของร้อนมา ต้องทำใจไว้ล่วงหน้าอย่างหนึ่งในการรักษาแผลคือแผลเป็นนั้นมักรักษาไม่หายเมื่อเวลาผ่านไปนาน โดยมากเราควรรักษาให้หายภายใน 3 ถึง 6 เดือน หรืออย่างช้าที่สุดคือไม่เกิน 1 ปี จะต้องรักษาให้หายให้ได้ แต่อย่างไรก็ตามหากเราได้ปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยมานานแล้ว อาจต้องใช้วิธีทางการแพทย์ในการเข้ามาช่วยรักษาอาทิเช่น การใช้หนังเทียมหรือการทำเลเซอร์กระจายเม็ดสี
https://suwanfarmphueng.com/articles/สูตรรักษาแผลเป็นด้วยวิ/

42
วิธีปรุงยาสมุนไพรด้วยน้ำผึ้ง


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆมาช้านาน ไม่ใช่เพราะมาจากผลวิจัยหรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่คนในอดีตตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็ใช้น้ำผึ้งในการดูแลและรักษาโรคกันมานานแล้ว เนื่องจากน้ำผึ้งมีสรรพคุณทางยาในการรักษาโรคได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดัน โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด โรคหัวใจและโรคอื่นๆ การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจึงช่วยป้องกันโรคร้ายต่างๆเหล่านี้ได้ และยังจัดได้ว่าน้ำผึ้งนั้นเป็นยาอายุวัฒนะชั้นดีที่จะช่วยให้ผู้ดื่มกินเป็นประจำมีอายุยืนยาว มีร่างกายแข็งแรง เหมาะสำหรับการดูแลสุขภาพมากๆ นอกจากนี้เรายังสามารถนำน้ำผึ้งมาปรุงร่วมกับยาสมุนไพร โดยนำมาปรุงยาเพื่อรักษาโรคต่างๆให้ได้ผลยิ่งขึ้น ทั้งยังลดการใช้น้ำตาลในการทำอาหาร เพราะว่าน้ำตาลถือว่าเป็นสารให้ความหวานที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่น้ำผึ้งแม้จะมีองค์ประกอบหลักไม่ต่างจากน้ำตาลแต่ก็ดีต่อสุขภาพและให้พลังงานที่ร่างกายไม่สะสมจนเกิดโรคอ้วนได้

สูตรน้ำผึ้งกับน้ำใบบัวบก
หลายคนทราบดีว่าการดื่มน้ำใบบัวบกมีผลดีต่อผิวพรรณของเรามากๆ ช่วยให้ผิวพรรณของเราเต่งตึงกระจ่างใส ลดรอยเหยี่ยวย่อน รอยตีนกา เพราะน้ำใบบัวบกมีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวของเราเต่งตึงอิ่มน้ำมากๆ ช่วยลดอาการฟกช้ำตามร่างกายเพราะกระตุ้นให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดี การดื่มน้ำใบบัวบกจึงได้ผลดีมากในการรักษาโรค การดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำใบบัวบกจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้น สูตรนี้จะช่วยให้ระบบเลือดของเราทำงานได้ดี ช่วยกำจัดของเสียในหลอดเลือด ดีต่อสุขภาพหัวใจมากๆ กระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนโลหิตและร่างกายสามารถนำพลังงานต่างๆไปกระจายให้ทั่วทุกอวัยวะได้รวดเร็ว ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ช่วยแก้อาการเป็นลมหรืออาการหน้ามืดได้ดีมาก และยังช่วยให้ผิวเต่งตึงกระจ่างใสอย่างไม่น่าเชื่อ

สูตรน้ำผึ้งร่วมกับน้ำมะระขี้นก
หากบ้านใครไม่มีมะระขี้นกก็ให้หาซื้อมะระจีนมาใช้แทนกันได้ โดยมะระขี้นกนั้นมีสรรพคุณในการลดน้ำตาลในเลือดได้ดีอยู่แล้ว แต่มีพ่อค้าแม่ค้าหัวใสหลายคนได้นำน้ำตาลเติมลงไปในเครื่องดื่มสมุนไพร ทำให้ได้รสชาติติดใจผู้บริโภค ขายดิบขายดีมากขึ้น แต่การใช้น้ำตาลเติมลงไปในสูตรเครื่องดื่มสมุนไพรไม่ได้ส่งผลดีต่อผู้บริโภคเลย จากการที่ต้องการดื่มเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด อาจเป็นการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นด้วยซ้ำ ทางแก้ที่ดีในการทำให้รสชาติหวานอร่อยอย่างปลอดภัย ให้เลือกใช้น้ำผึ้งแทนการใช้น้ำตาล เพราะน้ำผึ้งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ง่าย จึงไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ และไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเราจะได้น้ำมะระที่ดีต่อสุขภาพและปลอดภัยจากสารเจือปนอีกด้วย

น้ำใบเตย
น้ำใบเตยจัดว่าเป็นน้ำสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมน่าทานมากๆ ช่วยให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนดี ส่งเสริมสุขภาพ ช่วยบำรุงสายตา ทำให้เกิดการตื่นตัวของเซลล์ประสาท สมองจึงทำงานได้ดีเมื่อเราดื่มน้ำใบเตย เราสามารถใช้น้ำผึ้ง 2 ช้อนชาผสมกับน้ำใบเตย 1 แก้ว เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำใบเคยที่หอมหวานน่ารับประทานมาดื่มกินอย่างปลอดภัยแล้ว ซึ่งการดื่มน้ำใบเตยเป็นประจำช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกจากร่างกาย กระตุ้นให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรใช้น้ำตาล เพราะต้องใช้ปริมาณมากจึงอันตรายต่อสุขภาพของเรา แนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ดื่มกินทั้งคุณและคนในครอบครัวของคุณ

น้ำกระเจี๊ยบ
ทุกคนต่างก็รู้จักน้ำกระเจี๊ยบเป็นอย่างดีว่าเป็นน้ำสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวหวานน่ารับประทานเอามากๆ แต่หารู้ไม่ว่าในความหวานที่อยู่ในน้ำกระเจี๊ยบนั้นไม่ได้ปลอดภัยต่อสุขภาพ เพราะน้ำกระเจี๊ยบแท้ต้องมีรสเปรี้ยวจัดและไม่สามารถทำให้อร่อยถูกลิ้นคนไทยได้ ผู้ผลิตหรือแม่ค้าพ่อค้าที่จำหน่ายน้ำกระเจี๊ยบจึงใช้วิธีการแอบใส่น้ำตาลเข้าไปมากๆเพื่อเพิ่มรสชาติอันน่ารับประทานให้กับมัน ซึ่งจะต้องให้น้ำตาลมากกว่าสมุนไพรชนิดอื่นเพราะต้องการดับรสชาติเปรี้ยวฝาด ดังนั้นทางเลือกที่ถูกต้องที่จะดื่มน้ำกระเจี๊ยบได้อย่างปลอดภัย เราจะต้องใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล
https://suwanfarmphueng.com/articles/วิธีปรุงยาสมุนไพรด้วยน/

43
สูตรพอกหน้ารักษาสิวด้วยน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ


สำหรับใครที่เป็นสิวคงทราบดีว่าเราไม่สามารถรักษาได้หายได้ง่ายๆ เพราะสิวมาจากผิวที่มีปัญหา โดยปัญหาหลักๆหรือต้นเหตุของมันเลยก็คือการหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้าของเรา ต่อให้ระบบฮอร์โมนในร่างกายของเรามีปัญหา เราก็ไม่เป็นสิวถ้าใบหน้าของเราสะอาด ผิวบนใบหน้าไม่มีปัญหาและไม่มีการหมักหมมของเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นทางที่ดีในการรักษาสิวอย่างถูกวิธีคือการดูแลสุขภาพผิวหน้า อย่าปล่อยให้สภาพผิวของเราเกิดปัญหา ต้องมีการบำรุงผิวอยู่เสมอ อย่าใช้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตัน เพราะจะทำให้แบคทีเรียมาอาศัยอยู่ได้ โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีความมัน เชื้อโรคและเแบคทีเรียชอบอาศัยอยู่ในใบหน้าที่มีความมันมากๆ และเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเมื่อหน้าของเราใช้เครื่องสำอางที่มีน้ำมัน เราควรหาวิธีกำจัดเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้าของเราอยู่เสมอ อาจใช้โฟมล้างหน้าที่มีมาตรฐาน อย่าลืมล้างหน้าก่อนนอน อย่าปล่อยให้ใบหน้ามีการอุดตันเด็ดขาด ทางที่ดีคือเลิกใช้เครื่องสำอางไปเลยก็ได้ สำหรับเทคนิคที่เราอยากแนะนำเป็นอีกวิธีในการฆ่าเชื้อโรคและสมานผิวของเราให้สมบูรณ์แข็งแรงนั่นก็คือการใช้ น้ำผึ้งในการดูแลรักษาผิว ของเราแทนโฟมล้างหน้าที่เราใช้ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำ โดยการดูแลผิวหน้าสามารถใช้สูตรน้ำผึ้งที่ได้รับความนิยมได้หลายสูตร มาดูกันเลยว่าสูตรรักษาสิวมีอะไรบ้าง

สูตรน้ำผึ้งผสมผงอบเชย
สูตรนี้เป็นอีกสูตรที่เราสามารถนำมาใช้ในการรักษาสิวได้ผลดี นั่นก็คือการนำน้ำผึ้งมาผสมกับผงอบเชย โดยผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน และนำมาพอกใบหน้าของเราได้เลย ข้อดีของผงอบเชยคือมีคุณสมบัติสำคัญในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และในน้ำผึ้งก็ประกอบด้วยสารต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอีกด้วย ทำให้การใช้น้ำผึ้งผสานกับผงอบเชยจึงได้ผลดีมากในการรักษาสิว โดยทั่วไปเราสามารถใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะร่วมกับผงอบเชยเพียง 1 ช้อนชาแล้วนำมาพอกหน้าของเราได้เลย โดยใช้ระยะเวลาในการพอกหน้า 10 นาทีขึ้นไปหรือเราสามารถพอกหน้าทิ้งไว้ได้นานทั้งคืนเลยค่อยล้างออกตอนเช้าทีเดียวก็ได้ ซึ่งสูตรนี้ไม่มีผลข้างเคียงใดๆกับใบหน้า สามารถพอกได้สม่ำเสมอเพราะไม่ไปเร่งการผลัดเซลล์ผิว

สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งมะนาว
ลองใช้มะนาวสักครึ่งลูกผสมกับน้ำผึ้งจำนวน 1 ช้อนโต๊ะ แล้วพอกให้ทั่วใบหน้า โดยทั่วไปนอกจากเราจะเป็นสิวจากการที่มีระบบฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลแล้ว อาจจะมาจากสาเหตุของการอุดตันของเซลล์ผิวเก่าที่อยู่บนใบหน้าของเราก็ได้ ซึ่งเราควรกระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าๆนั้นหลุดลอกออกมาบ้างเพื่อให้ไม่เกิดการอุดตันมากเกินไป ดังนั้นสูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งมะนาวคือสูตรที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์เก่า ทำให้ผิวหน้าของเราเกิดการผลัดเซลล์ผิวมากขึ้นลดการอุดตัน ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของผิวที่เกิดสิวได้ง่าย เราสามารถสังเกตุได้ว่าใบหน้าของเรานั้นเกิดการอุดตันมากน้อยเพียงใด เพียงสังเกตุความหมองคล้ำบนใบหน้า ถ้าเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มมีความหมองคล้ำนั่นแสดงว่าเซลล์เก่าๆที่ตายไปแล้วไม่ได้หลุดลอกออกไป อาจทำให้เกิดการอุดตันเป็นสิวได้ง่าย เราจึงต้องแก้ด้วยการพอกหน้าด้วยสูตรน้ำผึ้งมะนาวจะช่วยให้เซลล์เหล่านั้นหลุดลอกออกมา ช่วยให้เราได้เผยผิวหน้าขาวกระจ่างใสออกมา

สูตรน้ำผึ้งกับขมิ้นสด
เราสามารถนำขมิ้นสดไม่ว่าจะเป็นขมิ้นเหลืองหรือขมิ้นชัน เมื่อนำไปบดได้น้ำของมันออกมา ให้เรานำไปผสมกับน้ำผึ้งแท้เพื่อใช้ในการรักษาสิวได้อีกด้วย โดยใช้ในอัตราส่วนที่เท่าๆกับน้ำผึ้งได้เลย เมื่อผสมกันอย่างลงตัวให้เรานำมาพอกหน้าอย่างน้อย 20 นาที จะสังเกตุได้ว่าสิวของเราจะเริ่มยุบไปเรื่อยๆ สิวอักเสบก็จะแห้งลงไป มักเห็นผลชัดเจนที่สุดเมื่อใช้ติดต่อกัน 3 วันขึ้นไป มีหลายคนที่หายเป็นสิวจากการใช้ขมิ้นพอกหน้า แต่แน่นอนว่าขมิ้นไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นที่ดีต่อผิวของเราเท่าไหร่นัก การน้ำผึ้งมาผสมจึงทำให้ผิวของเราได้รับความชุ่มชื้นมากขึ้น
https://suwanfarmphueng.com/articles/สูตรพอกหน้ารักษาสิวด้ว/

44
วิธีใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ถือว่าเป็นแหล่งให้ความหวานที่มีประสิทธิภาพมากและให้ความหวานได้มากกว่าน้ำตาลทั่วไปที่มีจำหน่ายในท้องตลาดเสียอีก เนื่องจากน้ำผึ้งนั้นประกอบด้วยน้ำตาลฟรุกโตส ซึ่งน้ำตาลประเภทนี้ถือว่าเป็นน้ำตาลที่ให้ความหวานมากที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำตาลชนิดอื่นๆ ทำให้อาหารออกมามีรสชาติหวานน่ารับประทาน แม้จะใช้น้ำผึ้งน้อยกว่าปริมาณน้ำตาลก็ยังได้รสชาติที่หวานอร่อยน่าทานมากๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ร้านอาหารระดับภัตตาคารหรูจะเปลี่ยนการใช้สารให้ความหวานแบบเดิมที่ใช้น้ำตาลมาเป็นน้ำผึ้งกันหมด เพราะรสชาติของน้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานที่ลิ้นสัมผัสได้รวดเร็วและสร้างความรู้สึกหวานมันติดปากมากๆ ทำให้ได้อาหารที่มีรสชาติดีโดยไม่ต้องพึ่งพ่อครัวเก่งๆหรือเชฟดังๆก็ได้

การนำมาผึ้งมาใช้แทนน้ำตาล
โดยทั่วไปเราสามารถปรุงอาหารให้มีรสชาติหวานมันได้ด้วยการนำน้ำตาลมาปรุงเพิ่มในอาหาร แต่หากเราอยากให้รสชาติของอาหารหวานมันติดปากมากกว่าเดิม ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งมาปรุงอาหารจะช่วยให้อาหารของเราอร่อยขึ้นมาได้อีกขั้นหนึ่ง โดยการใส่น้ำผึ้งนั้น เราสามารถใส่ได้น้อยกว่าน้ำตาลถึงสองเท่าก็ได้อาหารที่มีระดับความหวานเท่าๆกันแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องใส่น้ำผึ้งในปริมาณมาก เพราะน้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลฟรุกโตส เป็นน้ำตาลที่มีความหวานที่สุดในบรรดาน้ำตาลชนิดต่างๆอยู่แล้ว การนำน้ำผึ้งมาประกอบอาหารจึงไม่จำเป็นจะต้องใส่ในปริมาณเยอะ ก็สามารถให้ความหวานแทนน้ำตาลได้เช่นกัน ทำให้การใช้น้ำผึ้งในการทำอาหารไม่ได้ทำให้ต้นทุนในการปรุงอาหารนั้นมีราคาที่สูงขึ้น

ข้อดีของการนำน้ำผึ้งมาใช้แทนน้ำตาล
นอกจากรสชาติที่หอมหวานเพิ่มขึ้นในอาหารที่ปรุงด้วยน้ำผึ้ง ยังเป็นแหล่งของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย การใช้น้ำผึ้งปรุงอาหารจะทำให้เราได้คุณค่าทางอาหารเพิ่มขึ้น เป็นการเสริมวิตามินและแร่ธาตุลงไปในอาหาร ช่วยให้บำรุงร่างกายให้แข็งแรง โดยน้ำผึ้งประกอบด้วยวิตามินบีที่ช่วยบำรุงสมอง กระตุ้นความจำ มีวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน ช่วยกระตุ้นไม่ให้เกิดอุดตันของเส้นเลือด ป้องการเส้นเลือดแตก เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้ดี การใช้น้ำผึ้งแท้มาปรุงอาหารยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย เนื่องจากผู้ป่วยโรคเบาหวานถูกหมอสั่งงดไม่ให้ทานน้ำตาลหรืออาหารที่มีแป้งมากเกินไป ดังนั้นการใช้น้ำผึ้งแท้มาทดแทนความหวานจากน้ำตาลจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งเพราะน้ำผึ้งไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยสูงขึ้น จึงมีความปลอดภัยในการนำมาใช้ประกอบอาหาร

สูตรอาหารที่เหมาะสำหรับการใช้น้ำผึ้งในการปรุง
แท้จริงแล้วเราสามารถใช้น้ำผึ้งปรุงอาหารได้ทุกประเภทที่ใช้น้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว เราจึงสามารถใช้น้ำผึ้งมาปรุงอาหารแทนน้ำตาลได้เลย ไม่ว่าจะเป็นแกงเลียง ต้มยำ เมนูผัดแกงทอด หรือจะเป็นลักษณะของการทำเครื่องดื่มก็จะช่วยให้ได้เครื่องดื่มรสชาติหวานอร่อยมากขึ้น สามารถใช้น้ำผึ้งในการทำขนมหวานได้รสชาติที่ดีอีกด้วย สำหรับร้านค้าที่ขายอาหารอยู่แล้วสามารถใช้น้ำผึ้งเป็นสูตรลับในการปรุงอาหารให้อร่อยได้เลย เพราะการใช้น้ำผึ้งจะทำให้อาหารหอมหวานติดปากมาๆ ลูกค้าหรือผู้บริโภคที่ได้ลองชิมอาหารที่ทำจากน้ำผึ้งนั้นจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างได้ทันทีว่ารสชาติอาหารมาจากวัตถุดิบค่อนข้างดีมีคุณภาพ ไม่ใช่วัตถุดิบคุณภาพต่ำแน่นอน โอกาสที่ลูกค้าจะติดใจกับอาหารจากร้านเราจึงมีสูงมาก รับรองได้ว่าลูกค้าจะต้องไปบอกต่อและกลับมาใช้บริการอีกในอนาคต

เทคนิคทำเครื่องดื่มหวานเย็นด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ
หากใครที่ชอบทำความดื่มกินเองก็คงทราบดีว่าเราจะต้องใส่น้ำผึ้งลงไปมากๆเพื่อให้เครื่องดื่มของเราหวานอร่อยน่ารับประทาน ซึ่งการที่ใส่น้ำตาลเป็นปริมาณมากๆในเครื่องดื่มไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของเราแน่นอน ดังนั้นเราควรใช้น้ำผึ้งมาทดแทนการทำเครื่องดื่มเพื่อผลที่ดีต่อสุขภาพของเราและคนในครอบครัว ซึ่งหากเราใช้น้ำตาล 4 ช้อนชาต่อเครื่องดื่ม 1 แก้ว เราเพียงใช้น้ำผึ้งมาแทนได้ด้วยปริมาณเพียง 2 ช้อนชาเท่านั้นเอา จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำผึ้งที่มาแทนน้ำตาลนั้นน้อยลงไปอีกเท่าตัว
https://suwanfarmphueng.com/articles/วิธีใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตา/

45
วิธีปรุงอาหารด้วยน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ


น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ นั้นนอกจากจะมีรสชาติหวานอร่อยถูกปากกว่าน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมทั่วๆไปแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในการปรุงอาหารให้มีรสชาติอร่อยได้อีกด้วย โดยน้ำผึ้งแท้เป็นแหล่งของความหวานที่มีการใช้ปรุงอาหารมาตั้งแต่โบราณ เนื่องจากในอดีตไม่มีโรงงานหรือกระบวนการในการผลิตน้ำตาล ดังนั้นในการปรุงอาหารที่มีรสชาติหวาน จึงต้องใช้น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ ทำให้คนในอดีตหรือคนในยุคโบราณมีสุขภาพที่ดี มีอายุยืนยาว เพราะการใช้น้ำผึ้งในการปรุงอาหารนั้นให้คุณค่าสารอาหารมากมาย น้ำผึ้งประกอบด้วยสารอาหารประเภทวิตามินและแร่ธาตุมากมายช่วยบำรุงร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง ทำให้สุขภาพดีไม่ขาดสารอาหารและเป็นการเสริมอาหารไปในตัว น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติเป็นแหล่งของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ซึ่งถือว่าเป็นน้ำตาลที่มีโครงสร้างที่ไม่สะสมเป็นไขมันในร่างกาย ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ผู้ดื่มน้ำผึ้งไม่ต้องกลัวเรื่องอ้วน การบริโภคน้ำผึ้งจึงค่อนข้างปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากๆ

เมนูทอด
แม้จะเป็นเมนูที่มองว่าสามารถนำน้ำผึ้งมาปรุงอาหารได้ยาก แต่สำหรับเมนูนี้หากเรานำน้ำผึ้งมาปรุงอาหาร ก็ให้เริ่มจากนำเนื้อหรือวัตถุที่ต้องการทำอาหารมาคลุกเคล้ากับน้ำผึ้งและหมักไว้ก่อนเริ่มการทอดเลย เพื่อจะทำให้เนื้อนุ่มน่ารับประทานมากขึ้น เรายังสามารถนำน้ำผึ้งมาผสมกับเครื่องปรุงอื่นๆเพื่อนำมาเป็นสูตรที่ใช้หมักเนื้อต่างๆได้ดี เพราะยิ่งหมักนานก็ยิ่งได้เนื้อที่นุ่มอร่อยน่ารับประทานมากขึ้น บางคนนำเครื่องปรุงที่ทำจากน้ำผึ้งมาหมักเนื้อแช่ตู้เย็นข้ามคืนและนำมาทอดก็ยิ่งได้รสชาติที่ถึงรสน้ำผึ้งมากขึ้น ได้ความหวานจากธรรมชาติ เพิ่มความหอมหวานชวนชิมเข้าไปอีก

เมนูผัด
หากต้องการนำน้ำผึ้งมาปรุงอาหารในเมนูผัด ท่านสามารถใช้ได้ในขณะที่กำลังปรุงอาหาร โดยเมื่อเราใส่วัตถุดิบอาหารครบถ้วนแล้ว เราก็เริ่มผัดไปสักพัก จากนั้นสามารถใส่เครื่องปรุงต่างๆ อาทิเช่น เกลือ น้ำปลา พริกไทย และตามด้วยน้ำผึ้งได้เลย โดยให้ใส่น้ำผึ้งหลังสุดเพราะจะทำให้อาหารยังคงรสชาติน้ำผึ้งไวได้มากที่สุด ทำให้รสชาติหวานอร่อยจากน้ำผึ้งไม่เลือนหาย ยังคงความหวานเอาไว้ ทำให้อร่อยและน่ารับประทานอย่างมาก

เมนูแกง
ทราบกันไหมว่ารสชาติของน้ำผึ้งนั้นทำให้เรารู้สึกได้ถึงความอร่อยติดปากมากๆ มันจะดีมากถ้าเรานำน้ำผึ้งมาใช้กับเมนูแกง โดยใส่น้ำผึงลงไปในขั้นตอนสุดท้ายของการแกงต่างๆ อาทิเช่น แกงฮังเล จะทำให้น้ำแกงฮังเลของเราอร่อย หวานมันติดปากกว่าเดิมมากๆ หรือจะเป็นแกงอื่นๆก็รับรองได้ว่าจะมีรสชาติอร่อยน่าทานได้เช่นกัน เราสามารถใส่น้ำผึ้ง 2 ถึง 3 ช้อนชาในแกงที่ใช้น้ำครึ่งลิตร เพียงเท่านี้ก็ได้แกงที่มีเอกลักษณ์ ได้รสชาติพรีเมียมแล้ว

ขนมหวาน
นอกจากแกงและอาหารประเภทต่างๆแล้ว การทำอาหารที่ได้ผลดีมากที่จะทำให้ได้รสชาติของน้ำผึ้งแท้มากที่สุดก็คือการใช้น้ำผึ้งในการทำขนม เพราะขนมนั้นโดยปกติเราก็ใช้น้ำตาลในการปรุงทีละมากๆอยู่แล้ว การใช้น้ำผึ้งจะทำให้ได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้นไปอีก

เมนูเครื่องดื่ม
ไม่เพียงอาหารจานหลักเท่านั้นที่สามารถใช้น้ำผึ้งมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร แต่เมนูเครื่องดื่มก็ใช้น้ำผึ้งเป็นวัตถุดิบหลักมาปรุงให้อร่อยและน่าทานได้ยิ่งขึ้น สูตรลับของการทำเครื่องดื่มที่หลายคนไม่รู้นั่นก็คือการใช้น้ำเชื่อมมาปรุงให้รสชาติหวานมันถึงใจ แต่ถ้าเราอยากได้เครื่องดื่มที่หวานถูกใจเหนือชั้นกว่าการใช้น้ำเชื่อมมาเป็นวัตถุปรุงอาหาร เราสามารถใช้น้ำผึ้งมาแทนส่วนผสมอื่นๆได้ ไม่จำเป็นต้องว่าจะต้องใช้น้ำตาลหรือน้ำเชื่อมเสมอไป ร้านใดใช้น้ำผึ้งมาเป็นสารให้ความหวานจะช่วยให้ลูกค้าติดใจ เมื่อดื่มน้ำร้านนั้นเป็นประจำจะรู้สึกติดปากอย่างมาก ต้องกลับมาซื้ออย่างแน่นอน การใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลและน้ำเชื่อมยังดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคอีกด้วย ไม่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจและโรคเบาหวาน เพราะน้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจและโรคเบาหวานอีกด้วย ช่วยให้ผู้ดื่มมีสุขภาพแข็งแรง เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันไปในตัว นอกจากนี้เมนูเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในการนำน้ำผึ้งมาใช้เป็นส่วนประกอบนั่นก็คือเมนูน้ำผึ้งมะนาว เพราะช่วยละลายเสมหะ เพราะช่วยแก้ไอได้อีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/วิธีปรุงอาหารด้วยน้ำผึ/

46
วิธีบำรุงผิวกระจ่างใสด้วยน้ำผึ้งแท้


ทราบกันหรือไม่ว่าเราสามารถใช้ น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ที่มีขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อต่างๆมาใช้ในการบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นได้ ซึ่งหลายคนเปลืองเงินเปลืองทองไปกับการซื้อเครื่องสำอางแพงๆ หรือครีมบำรุงผิวราคาหลักพันหลักหมื่น โดยมองข้ามน้ำผึ้งที่ได้จากธรรมชาติ สามารถนำมาใช้บำรุงผิวพรรณของเราได้ผลดีไม่ต่างกัน น้ำผึ้งจัดว่าเป็นอาหารผิวชั้นดีที่มีราคาถูก เพียงคนทั่วไปมองว่ามันไม่ได้อยู่ในรูปที่สามารถใช้งานง่าย หรือการนำน้ำผึ้งมาใช้บำรุงผิวพรรณนั้นอาจไม่ได้ผลเพราะไร้คำบรรยายที่บอกให้ใช้ในการบำรุงบนใบหน้าหรือผิวส่วนต่างๆของร่างกาย แต่ในความเป็นจริงน้ำผึ้งประกอบด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพผิวและความงามของเรามากๆ โดยร่างกายสามารถดูดซึมเข้าไปใช้งานได้ไม่ยาก และไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพแม้เราจะใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานก็ตาม

ใช้น้ำผึ้งแท้แทนสารให้ความชุ่มชื้นผิว
น้ำผึ้งแท้มีคุณสมบัติสำคัญในการให้ความชุ่มชื้นของผิวของเราได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในชีวิตประจำวัน เรามีการใช้เครื่องสำอางและโฟมล้างหน้าที่ไปทำลายระดับความชุ่มชื้นของผิวของเราได้เยอะมาก ทำให้น้ำเลี้ยงผิวที่ร่างกายสร้างขึ้นมานั้นไม่เพียงพอ บางคนยังต้องทำงานออกแดดมีเหงื่อไหลออกมา ยิ่งทำให้ผิวเหยี่ยวย่นได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ดังนั้นการจะมองหาวิธีทดแทนความชุ่มชื้นและน้ำเลี้ยงผิวที่เสียไปในแต่ละวัน ควรเป็นวิธีแบบธรรมชาติจึงจะดีที่สุดและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านั่นก็คือการใช้น้ำผึ้งในการบำรุงผิวพรรณแทนการใช้เครื่องสำอางที่ให้ความชุ่มชื้น ข้อดีของการใช้น้ำผึ้งแทนเครื่องสำอางที่ให้ความชุ่มชื้นตามท้องตลาดนั่นก็คือไม่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และน้ำผึ้งยังมีสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ทำให้คนที่ใช้น้ำผึ้งแทนเครื่องสำอางให้ความชุ่มชื้นไม่เป็นสิวขึ้นมาเพิ่มอีกด้วย ในขณะที่เครื่องสำอางบำรุงผิวอื่นๆอาจทำให้เกิดการอุดตันของผิวและเกิดสิวได้ง่ายกว่า เนื่องจากเป็นการใช้สารเคมีเป็นวัตถุดิบในการผลิต

ใช้น้ำผึ้งแท้บำรุงผิวด้วยสูตรขมิ้นชัน
เราสามารถนำขมิ้นชันที่ดีต่อผิวมาบดให้ละเอียด สามารถบดด้วยครกหรือเครื่องปั่นน้ำผลไม้ก็ได้ จากนั้นนำมาผสมกับน้ำผึ้งแท้เพื่อนำมาพอกผิวหน้า เป็นการบำรุงผิวให้กระจ่างใสมากขึ้น เนื่องจากขมิ้นชันแต่เดิมนั้นเป็นสมุนไพรที่ใช้ในการบำรุงผิวมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งการใช้สูตรบำรุงผิวจากขมิ้นชันร่วมกับน้ำผึ้งนั้นได้ผลลัพธ์ที่ดีในการความกระจ่างใสมากๆ เพราะไม่เพียงแต่ทำให้ผิวของเราได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำผึ้งเพียงเท่านั้น แต่รอยแผลเป็นต่างๆก็จะค่อยๆจางลงด้วย เป็นการบำรุงที่กระตุ้นให้รอยแผลจากสิวจางลง ทำให้จุดด่างดำเลือนหายไปเรื่อยๆ เมื่อใช้เป็นระยะเวลานานในการพอกหน้าเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้ใบหน้าของเราขาวกระจ่างใสจนคนรอบข้างทักได้เลยว่าไปทำอะไรมา การบำรุงผิวด้วยวิธีนี้สามารถทำได้บ่อยครั้งตามที่เราต้องการ โดยสูตรในการผสมสามารถใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะผสมกับขมิ้นชันบดละเอียดครึ่งช้อนหรือพอประมาณเพื่อนำมาพอกหน้าก่อนนอนวันละ 10 นาที สามารถพอกหน้าได้ทั้งคืน ตื่นมาก็ค่อยล้างออกก็ได้เพราะการพอกหน้าด้วยสูตรนี้ไม่ได้ทำให้ผิวหน้าถูกรบกวนมากเกินไป คุณสมบัติของน้ำผึ้งช่วยให้ผิวได้รับการเติมเต็มจากน้ำเลี้ยงที่ขาดหายไป ขมิ้นชันช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส หน้าใสดูเรียบเนียน

นอกจากนี้เรายังสามารถใช้น้ำผึ้งในการขัดลอกผิวเพื่อเผยผิวหน้าขาวกระจ่างใสได้อีกด้วย ด้วยการนำน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำตาล โดยใช้น้ำตาล 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะเพื่อนำมาขัดผิวหน้าเป็นเวลา 5 นาที อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็ทำให้เซลล์ผิวที่ตายไปแล้วหลุดออกมา กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเซลล์ผิวใหม่มาทดแทน ทำให้ได้มีโอกาสที่จะเผยใบหน้าอันขาวกระจ่างใสออกมา ไม่เพียงแต่สูตรน้ำผึ้งน้ำตาลเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้สูตรอื่นๆได้ด้วย อาทิเช่น สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาวเล็กน้อย หรือจะเป็นสูตรที่ผสมกับผงอบเชยก็สามารถนำมาพอกหน้าบำรุงผิวได้ผลดีเช่นกัน
https://suwanfarmphueng.com/articles/วิธีบำรุงผิวกระจ่างใสด/

47
อันตรายจากการดื่มน้ำผึ้งมากเกินไป


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ นั้นแม้จะเป็นแหล่งสารอาหารที่มีสรรพคุณและสารอาหารมากมาย แต่เราก็ต้องทานแต่พอเหมาะเพราะการทานน้ำผึ้งมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน เรามักจะทราบดีว่าการดื่มหรือทานน้ำผึ้งเป็นประจำสามารถช่วยรักษาโรคหัวใจ ช่วยฆ่าเชื้อในกระแสเลือด บำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี แม้แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่จะต้องงดแป้งและน้ำตาลก็กลับมีอาการดีขึ้นเมื่อดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำ เพราะน้ำผึ้งแม้จะมีน้ำตาลสูงแต่กลับช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ระบบคอเลสเตอรอลและไขมันลดลงเมื่อดื่มติดต่อกันเป็นระยะยาว การดื่มน้ำผึ้งจึงเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เห็นผลได้ในระยะยาว ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรค ช่วยให้ผู้ดื่มมีสุขภาพที่ดีตลอดทั้งปี แม้จะต้องเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนหรือป่วยเป็นไข้หวัดเป็นประจำ น้ำผึ้งก็สามารถนำมาใช้บรรเทาอาการไข้หวัดได้อย่างยอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตามก็มีผู้ที่นิยมชมชอบการดื่มน้ำผึ้งเป็นชีวิตจิตใจ จึงดื่มน้ำผึ้งเพื่อความเอร็ดอร่อยและดื่มในประมาณที่เยอะมากๆ ซึ่งการดื่มน้ำผึ้งในปริมาณที่มากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้หากเราไม่ควบคุมให้ดี โดยทั่วไปเราสามารถทานน้ำผึ้งได้วันละ 6 ช้อนชา จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากธรรมชาติ ได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆเข้าสู่ร่างกาย แต่การดื่มน้ำผึ้งมากถึง 10 ช้อนชาต่อวันจะทำให้ร่างกายของเราไม่สามารถนำพลังงานทั้งหมดจากน้ำผึ้งไปใช้ได้ทันและการดื่มในปริมาณที่มากขนาดนี้ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแน่นอน ดังนั้นอย่าดื่มเกินวันละ 10 ช้อนชา เพราะแม้น้ำผึ้งจะช่วยให้สุขภาพของเราแข็งแรงขึ้น แต่ก็ยังเป็นแหล่งของพลังงานที่ให้ระดับแคลอรี่ที่สูงมากๆเช่นกัน

อันตรายจากน้ำผึ้งในการใช้เลี้ยงเด็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบ
พ่อแม่หลายคนที่ดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำเพื่อดูแลสุขภาพ ก็มักจะหวังดีกับลูกน้อยจึงนำน้ำผึ้งไปป้อนให้ลูกดื่มเป็นประจำทุกวันเพราะมีความหวังว่าลูกจะเติบโตอย่างแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี ไม่เป็นหวัดตามความเชื่อโบราณ แต่หารู้ไม่ว่าน้ำผึ้งแม้จะเป็นแหล่งอาหารที่ดีต่อก็ไม่ได้ปลอดภัยต่อเด็กเล็กเช่นนี้ เพราะเด็กทารกนั้นมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำกว่าผู้ใหญ่ สามารถติดโรคหรือติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ในน้ำผึ้งยังมีแบคทีเรียบางชนิดที่มากับเกสรดอกไม้ ทำให้เกิดโรคโบทูลิซึ่มในเด็กได้และการรักษาก็ค่อนข้างยาก เพราะเด็กไม่สามารถพูดหรือบอกอาการได้ดีเท่ากับผู้ใหญ่ ดังนั้นเราสามารถดื่มน้ำผึ้งเพื่อดูแลสุขภาพของตัวเราเองได้ แต่ไม่ควรให้เด็กดื่มเพราะอาจทำให้เป็นโรคได้

น้ำผึ้งนำมาซึ่งอาการท้องอืด
การทานน้ำผึ้งมากเกินไปหรือทานพร้อมๆกับอาหารมื้อหลัก อาจทำให้มีผลเสียต่อการดูดซึมสารอาหารของลำไส้ ทำให้ลำไส้ของเราทำงานผิดปกติ ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารจากการทานข้าวมื้อหลักได้ดีเท่าไหร่นัก จนเกิดอาการท้องอืด อาหารย่อยยาก และร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ช้าลง เพราะได้พลังงานจากน้ำผึ้งเข้าไปในปริมาณสูง ดังนั้นน้ำผึ้งไม่ควรนำมาทานพร้อมกับอาหาร ควรให้อาหารย่อยเสร็จก่อนถึงควรจะทานน้ำผึ้งตามไปถึงจะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ

น้ำผึ้งไม่ได้ดีต่อผู้ป่วยที่แพ้เกสรดอกไม้
ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่แพ้เกสรดอกไม้ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลจากการทานน้ำผึ้งเพราะไม่ดีต่อผู้ป่วยกลุ่มนี้แน่นอน แม้น้ำผึ้งจะได้รับการยอมรับว่าสามารถนำมารักษาโรคภูมิแพ้ ทำให้สุขภาพดีกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนคนทั่วไปได้ แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ป่วยที่แพ้เกสรดอกไม้ เพราะการทานน้ำผึ้งสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจทำให้เกิดอาการกำเริบ มีอาการภูมิแพ้หนักขึ้นและอาจถึงขั้นมีอาการหนักเฉียบพลันต้องนำส่งโรงพยาบาลได้ คนที่แพ้เกสรดอกไม้โดยทั่วไปจะรู้ตัวดีว่าตนกำลังมีอาการแพ้ จึงไม่ควรดื่มน้ำผึ้งเข้าไป โดยเฉพาะน้ำผึ้งป่าที่มาจากเกสรดอกไม้หลากหลายชนิด ร่างกายไม่มีทางรับมือได้ทันอย่างแน่นอน ซึ่งบทความนี้เราได้บรรยายให้ท่านเห็นอันตรายจากน้ำผึ้งไปแล้ว หากต้องการบริโภคให้ปลอดภัยจากอันตรายหเหล่านี้ ขอให้แน่ใจว่าในแต่ละวันท่านได้บริโภคน้ำผึ้งไม่เกิน 10 ช้อนชาถึงจะดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
https://suwanfarmphueng.com/articles/อันตรายจากการดื่มน้ำผึ/

48
ประโยชน์ของน้ำผึ้งแท้ ดื่มแล้วอ้วนหรือไม่


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เนื่องจากสภาพแวดล้อมเมืองไทยเอื้อต่อการเติบโตและการอยู่อาศัยของผึ้ง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาหารชั้นดี มีดอกไม้นานาชนิดที่ผึ้งสามารถดูดดื่มเป็นอาหารและนำน้ำหวานกลับไปเลี้ยงตัวอ่อนที่รังของมันได้ ทำให้ในประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถทำรังผึ้งได้ทุกจังหวัด ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหนเกษตรกรก็มีโอกาสทำเกษตรฟาร์มผึ้งสร้างรายได้ไม่ยาก เราคนไทยจึงโชคดีกว่าประเทศอื่นๆ เพราะสามารถผลิตน้ำผึ้งกันได้เองในประเทศไม่ต้องสั่งซื้อจากประเทศอื่นๆ จึงได้น้ำผึ้งที่มีราคาถูกกว่ามาก ซึ่งการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก น้ำผึ้งไม่ได้ใช้กันเพียงตามบ้านเรือนเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการนำน้ำผึ้งมาสู่กระบวนการวิจัยทางการแพทย์เพื่อหาสรรพคุณที่เป็นไปได้มารักษาโรคที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ ทำให้น้ำผึ้งถือว่าเป็นยาดีทางธรรมชาติที่จะช่วยให้เราสุขภาพแบบไม่น่าเชื่อ

ดื่มน้ำผึ้งแท้แล้วอ้วนหรือไม่
เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะการดื่มน้ำผึ้งแท้นั้นทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลที่เป็นพลังงานค่อนข้างสูง ในน้ำผึ้งมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำตาลโดยส่วนใหญ่ทำให้เป็นอาหารที่จัดว่าให้พลังงานที่สูงมาก แต่การดื่มน้ำผึ้งแท้นั้นไม่ได้ทำให้เราอ้วนขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากน้ำตาลที่เป็นงองค์ประกอบหลักของน้ำผึ้งนั้นเป็นน้ำตาลประเภทที่มีโมเลกุลเดี่ยว ซึ่งน้ำตาลประเภทนี้มีข้อดีคือไม่ไปสะสมเป็นไขมันและทำให้เราอ้วนขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นคุณสาวๆที่อยากดูแลตัวเองหรือใครที่ลดความอ้วนอยู่สบายใจได้เลยว่าจะสามารถดื่มน้ำผึ้งได้อย่างปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ต้องกลัวว่าจะไปสะสมเป็นไขมัน ซึ่งสาเหตุของการอ้วนมาจากการรับประทานอาหารประเภทอื่น โดยทั่วไปอาจเป็นอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูงเกินไปหรืออาหารที่มีปริมาณไขมันและคอเลสเตอรอลที่สูงเกินไป ดังนั้นถ้าอยากลดความอ้วนขึ้นมาจริงๆ ขอแนะนำให้ไปเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่เป็นสาเหตุโดยตรงของโรคอ้วนจะดีกว่า

ประโยชน์ของน้ำผึ้งแท้
น้ำผึ้งแท้เป็นแหล่งของสารอาหารมากมาย สามารถเป็นยาประจำบ้านใช้ในการรักษาโรคได้หลากหลาย และสามารถใช้บรรเทาอาการของโรคต่างๆได้ในยามฉุกเฉิน หากคุณเองคือคนหนึ่งที่เป็นโรคกระเพาะอาหารและปวดท้องบ่อยเนื่องจากปัญหาจากกรดในกระเพาะ บางรายกระเพาะอาหารเป็นแผลอักเสบอยู่ด้านในไม่สามารถหาวิธีรักษาที่ถูกได้ ขอแนะนำให้ใช้วิธีการดื่มน้ำผึ้งแทนการใช้ยาหมอ เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคกระเพาะได้เป็นอย่างดี สามารถช่วยในการสมานแผลที่เกิดขึ้นจากกรดเกิน และยังถือว่าเป็นยาจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูงมากเมื่อเทียบกับยาหมอ น้ำผึ้งยังช่วยฆ่าเชื้อต่างๆในระบบทางเดินเลือด และเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือดในร่างกาย เนื่องจากเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยลดของเสียในระบบทางเดินเลือด นั่นหมายความว่าน้ำผึ้งยังดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยโรคหัวใจอีกด้วย

น้ำผึ้งยังจัดว่าเป็นยาที่ดีสามารถใช้ภายนอกร่างกายได้อีกด้วย ไม่เพียงการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงปลอดโรคเท่านั้น แต่หากเราเกิดแผลภายนอกร่างกายสามารถใช้น้ำผึ้งแทนยารักษาแผลได้เลย เพราะมีคุณสมบัติในการรักษาแผล ช่วยให้แผลของเราหายเร็วขึ้น และการใช้น้ำผึ้งแทนยารักษาแผลยังช่วยลดอาการปวดแสบระหว่างทายาอีกด้วย นอกจากจะฆ่าเชื้อได้แล้วยังสามารถใช้ได้ง่ายไม่ปวดแสบเหมือนยาหมอที่ประกอบด้วยตัวยาทางเคมีทำให้ผู้ใช้ระคายเคืองและปวดแสบได้ ในการใช้ภายนอกนั้นไม่เพียงนำมารักษาแผลแล้วเห็นผลเท่านั้น แต่น้ำผึ้งยังดีต่อคนที่ดูแลผิวอีกด้วย น้ำผึ้งจัดว่าเป็นสารให้ความชุ่มชื้นชั้นดีที่สามารถใช้บำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะน้ำผึ้งสามารถเข้าไปทดแทนน้ำเลี้ยงผิวที่ขาดไปในการใช้ชีวิตประจำวัน ผิวของเราเหยี่ยวย่นลงได้อย่างรวดเร็วหากร่างกายไม่สามารถผลิตน้ำเลี้ยงผิวอย่างเพียงพอ ดังนั้นการใช้น้ำผึ้งพอกหน้าก่อนนอนเป็นประจำหรือสามารถพอกทิ้งไว้ทั้งคืนก็จะช่วยให้ทดแทนน้ำเลี้ยงผิวที่ขาดหายไป ทำให้ผิวไม่แก่เกิดรอยเหยี่ยวย่นได้ง่าย สามารถใช้แทนเครื่องสำอางแพงๆได้เลย
https://suwanfarmphueng.com/articles/ประโยชน์ของน้ำผึ้งแท้-ด/

49
รวมงานวิจัยเกี่ยวกับน้ำผึ้งแท้


ประเทศไทยเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับ น้ำผึ้ง มากขึ้น เพราะประโยชน์ของอาหารประเภทนี้ได้รับการยอมรับมาตั้งแต่โบราณ และยังพบว่าในน้ำผึ้งประกอบด้วยสารอาหารต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี วิตามินอี แร่ธาตุสังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมและสารอาหารอื่นๆที่จำเป็นต่อร่างกาย แม้ใครจะมองว่าน้ำผึ้งเป็นแหล่งอาหารที่ให้พลังงานสูงเกินไป แต่ความเป็นจริงน้ำผึ้งแทบไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเลย หากเราทานน้ำผึ้งอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เหมาะสมก็ย่อมได้รับประโยชน์จากมันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายหรือโทษใดๆเลย ทำให้หลายๆครอบครัวมีน้ำผึ้งพกไว้ประจำบ้าน สามารถเอาไว้ดื่มเพื่อดูแลสุขภาพและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทั้งยังเป็นยาเสริมอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ การใช้น้ำผึ้งแทนยาหรืออาหารเสริมแทบไม่พบผลข้างเคียงใดๆ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติทั้งหมดที่ไม่ได้ผ่านการสังเคราะห์หรือดัดแปลงใดๆเลย ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ดื่มกิน

งานวิจัยในการใช้รักษาแผลไฟไหม้
จากการศึกษาในการแบ่งกลุ่มผู้ใช้น้ำผึ้งและยารักษาแผลจากโรงพยาบาลจำนวน 108 เพื่อติดตามดูผลลัพธ์ของทั้งสองฝั่ง โดยแบ่งครึ่งๆ พบว่าผู้ที่ใช้น้ำผึ้งนั้นนั้นสามารถรักษาแผลได้หายเร็วกว่าการใช้ยาจากโรงพยาบาล ทั้งยังช่วยรักษาแผลเป็น ช่วยสมานแผลได้เป็นอย่างดี น้ำผึ้งยังประกอบด้วยคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคบนแผล เนื่องจากเมื่อเราเกิดแผลขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือมักมีเชื้อโรคมากัดกินที่แผลโดยที่เรามองไม่เห็นและไม่รู้ตัว ดังนั้นการใช้น้ำผึ้งชุบสำลีเพื่อมาแต้มแผลจึงพบว่าช่วยสมานแผลและฆ่าเชื้อโรคแทนยาฆ่าเชื้อจากโรงพยาบาลได้ดีกว่ามาก ดังนั้นการพกน้ำผึ้งเอาไว้ใช้ที่บ้านสามารถให้คุณประโยชน์ที่หลากหลาย นอกจากเอาไว้ดื่มกินแก้อาการโรคต่างๆได้แล้ว ยังสามารถเอามาใช้ภายนอกได้ผลดีอีกด้วย ทำให้แผลของเรามีโอกาสหายเร็วขึ้น และการใช้น้ำผึ้งก็ยังถือว่าเป็นการใช้แทนยาได้อย่างปลอดภัยเพราะไร้ผลข้างเคียง

งานวิจัยในการใช้รักษาโรคเบาหวาน
มีงานวิจัยงานหนึ่งที่แบ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็น 2 กลุ่ม โดยทั้งหมดมี 48 คน ในการทดลองจะมีการแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มละ 24 คน เพื่อทดลองให้มีการดื่มน้ำผึ้งติดต่อกัน 2 เดือน โดยมี 1 กลุ่มที่ได้รับน้ำผึ้งอย่างต่อเนื่องทุกวัน ในขณะที่อีกกลุ่มจะไม่มีการให้ดื่มน้ำผึ้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2 เดือนกลับพบปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ดื่มน้ำผึ้งติดต่อกัน 2 เดือนกลับมาระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ไม่เพียงเท่านี้แต่พบว่าสามารถลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ดีกว่าผู้ป่วยอีกกลุ่มอีกด้วย ทั้งที่น้ำผึ้งเป็นแหล่งอาหารที่ให้พลังงานที่สูงและประกอบด้วยน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ แต่กลับทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงขึ้นมาได้อีกครั้ง

น้ำผึ้งกับการรักษาอาการไอ
งานวิจัยเด็กไม่เกิน 2 ขวบทั้ง 105 คน มีการแบ่งเด็กเป็น 2 กลุ่มเพื่อติดตามผล โดยกลุ่มแรกจะให้ยาแก้ไอรสน้ำผึ้งเป็นประจำเพื่อแก้ไอในเด็กอายุไม่เกิน 2 ขวบ โดยอีกกลุ่มจะให้น้ำผึ้งแทนยาแก้ไอ เมื่อเวลาผ่านไปกลับพบว่าเด็กที่ได้รับน้ำผึ้งแทนการใช้ยาแก้ไอกลับสามารถรักษาอาการไอได้ดีกว่า ช่วยให้อาการไอหายและไม่ต้องให้ยาติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องใช้ยาติดต่อกันนานเกินไป พ่อแม่ของเด็กกลุ่มที่ได้รับน้ำผึ้งต่างก็โหวตพร้อมกันว่าการใช้น้ำผึ้งแทนยาแก้ไอให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าอย่างแน่นอน

งานวิจัยไข้ละอองฟาง
ในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้คงทราบดีว่าท่านต้องประสบกับโรคไข้ละอองฟาง ซึ่งมีงานวิจัยยืนยันแล้วว่าน้ำผึ้งเป็นผลดีกว่าโรคไข้ละอองฟางมากๆ โดยการวิจัยจะเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยทั้งหมด 40 คน ซึ่งพบว่าผู้ป่วยที่สามารถบรรเทาอาการของโรคได้ดีเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับน้ำผึ้งติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน ทำให้มั่นใจได้เลยว่าน้ำผึ้งสามารถใช้แทนยาในการรักษาโรคไข้ละอองฟางได้จริงในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ จากการศึกษาหลายงานวิจัย น้ำผึ้งเหมาะแก่การนำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคมากๆและยังปลอดภัยต่อสุขภาพอีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/รวมงานวิจัยเกี่ยวกับน้/

50
โรคที่สามารถรักษาได้ด้วยน้ำผึ้งแท้


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ยังเป็นแหล่งของสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลายคนไม่ทราบว่าการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำช่วยให้เราปลอดภัยจากหลายโรคและช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ขาดไปในแต่ละวันได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากน้ำผึ้งแท้ที่ได้จากธรรมชาติย่อมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะเป็นน้ำผึ้งที่ตัวผึ้งไปเก็บมาจากเกสรดอกไม้ ทำให้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความสมบูรณ์เหมาะแก่การดูแลสุขภาพอย่างมาก คนในยุคนี้ไม่รู้ว่าประเทศไทยของเราเป็นแหล่งส่งออกน้ำผึ้ง เราสามารถผลิตน้ำผึ้งภายในประเทศได้เอง ทำให้หาซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าต่างประเทศ ทำให้เรามีโอกาสที่จะซื้อน้ำผึ้งมารับประทานเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะให้สารอาหารแก่ร่างกายของเราได้ครบถ้วนโดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมใดๆที่ต้องซื้อมาจากต่างประเทศ ด้วยโอกาสที่ดีเช่นนี้เราจึงต้องมีการเรียนรู้สรรพคุณของน้ำผึ้งกันให้มากขึ้น เพื่อนำมาใช้ในการดื่มกินรักษาโรคและป้องกันการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นได้ในอนาคต

น้ำผึ้งกับโรคเบาหวาน
แม้ว่าเราจะทราบกันดีว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นควรหลีกให้ไกลจากการรับประทานอาหารรสชาติหวานที่ประกอบด้วยแป้งและน้ำตาล อาหารเหล่านี้ไม่ดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานมากๆ ผู้ป่วยจะต้องรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ เพราะเมื่อน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นจะไม่สามารถลดระดับลงมาเป็นปกติได้ง่ายเหมือนคนทั่วไป เพราะระบบของร่างกายในการนำน้ำตาลมาแปลงเป็นพลังงานนั้นค่อนข้างมีความบกพร่อง ไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ดี แม้จะต้องงดทานของหวานหลากหลายชนิด แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถดื่มน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย หากดื่มน้ำผึ้งแท้ในระดับที่เหมาะสมไม่มากเกินไป จะปลอดภัยจากการได้รับน้ำผึ้งเข้าสู่ร่างกาย เพราะน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวจากน้ำผึ้งแท้นั้นไม่ค่อยมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับน้ำผึ้งเข้าไปไม่มีอาการใดๆที่บ่งบอกว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น แต่การดื่มน้ำผึ้งเข้าไปในร่างกายยังช่วยให้ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดลงอีกด้วย นอกจากนี้น้ำผึ้งแท้นั้นยังเป็นแหล่งให้ความหวานที่มากกว่าน้ำตาลปกติถึง 2 เท่า แม้จะให้พลังงานเท่าๆกัน แต่น้ำผึ้งแท้กลับให้ความหวานได้มากกว่าน้ำตาลปกติทั่วไป เราจึงควรนำน้ำผึ้งแท้มาปรุงและใช้ในสูตรอาหารทดแทนการปรุงอาหารที่ใช้น้ำตาลอ้อย เพราะน้ำตาลอ้อยที่ขายทั่วไปไม่ได้ดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน และทำให้สุขภาพย่ำแย่อีกด้วย

น้ำผึ้งแท้กับผู้ป่วยโรคหัวใจ
เราต่างก็ทราบดีว่าโรคหัวใจถือเป็นโรคร้ายแรงอันดับต้นๆของประเทศไทยที่พรากชีวิตของคนไปจำนวนมากในแต่ละปี ดังนั้นหากเรามีคนในบ้านเป็นโรคนี้ก็ต้องช่วยกันดูแลและถนอมจิตใจกันให้มากที่สุด รวมทั้งต้องดูแลในด้านสุขภาพ การออกกำลังกายและอาหารการกินด้วย ไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจต้องรับประทานอาหารรสชาติหวานจัด เค็มจัด หรืออาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูงมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันเส้นเลือด เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้แบบที่คนในบ้านไม่ทันตั้งตัว การดื่มน้ำผึ้งแม้จะมีรสชาติที่หวาน แต่น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารที่ช่วยกำจัดของเสียในระบบเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระทำให้ระบบโลหิตและเส้นเลือดแข็งแรงดี ช่วยส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยได้เยอะมาก หากดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้อาการของโรคค่อยๆดีขึ้นเพราะน้ำผึ้งช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ทั้งยังช่วยลดความตึงเครียดจากการทำงานอีกด้วย

น้ำผึ้งแท้กับโรคอ้วน
โรคอ้วนนั้นเป็นโรคที่มาจากการทานอาหารรสชาติหวานมัน มีแป้งและน้ำตาลสูง รวมไปถึงไขมันและคอเลสเตอรอลที่เข้ามาสะสมในร่างกาย แต่การดื่มน้ำผึ้งกลับดีต่อผู้ป่วยโรคอ้วนเพราะไม่ไปสะสมเป็นไขมันเหมือนน้ำตาลประเภทอื่นๆ มีวิตามินและแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ให้ความหวานสูงสุดเมื่อเทียบกับน้ำตาลอื่นๆในปริมาณเท่ากัน เราจึงสามารถนำน้ำผึ้งมาทำอาหารรับประทานโดยที่อาหารจะมีรสชาติหวานอร่อยได้เท่าๆกับน้ำตาลราคาถูกตามท้องตลาด แต่เรากลับใส่ในปริมาณที่น้อยกว่าจึงดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ดังนั้นการทำอาหารโดยใช้น้ำผึ้งมาทดแทนน้ำตาลจึงช่วยลดพลังงานที่ร่างกายต้องรับเข้าไปอีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/diseases-treated-with-real-honey/

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7