ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - lovethailand.org

หน้า: [1]
1
ประเทศไทย | Thailand / มวยไทย ประเพณีไทย
« เมื่อ: ตุลาคม 20, 2023, 07:58:28 AM »


มวยไทย ประเพณีไทย การไหว้ครูถือเป็นประเพณีสำคัญของมวยไทย และถือเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะฝึกเป็นนักมวยจะต้องมีครูบาอาจารย์ ประการแรกซึ่งเปรียบเสมือนพิธีมอบตัวในลักษณะขออยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์ เพื่อศึกษาวิทยาศาสตร์ในฐานะผู้ว่าง่ายและกล้าหาญเพื่อเตรียมความพร้อมและปรับปรุงตนเองเพื่อก้าวขึ้นเป็นทหารหลวง นักมวยต้องมี ครู. ต้องเคารพและให้เกียรติครู เพราะครูจะรับใครเป็นลูกศิษย์ ในอดีตมันไม่ง่ายเลย ครูสอนมวยฝีมือดีมีไม่มากนัก และในการสอนไม่มีค่าสอนแต่อย่างใด ผู้ประสงค์จะเรียนต้องฝากอัตลักษณ์ไว้กับอาจารย์ รอให้บริการมานานจนความรู้ได้ถูกถ่ายทอดมาอย่างครบถ้วน ด้วยเหตุนี้ครูมวยและลูกศิษย์ในอดีตจึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเหมือนพ่อลูก

การที่ครูจะรับใครมาเป็นลูกศิษย์ได้นั้น สาวกจะต้องให้คำสาบานกับอาจารย์ เช่น อาจารย์กิมเส็ง ทวีสิทธิ์ ให้ลูกศิษย์สาบาน 4 ครั้ง คือ

1) จะบำรุงร่างกายให้สะอาด แข็งแรง และดำรงชีวิตด้วยความซื่อสัตย์และบริสุทธิ์
2) จะไม่รังแกผู้ที่อ่อนแอ ร่วมรักกันและช่วยเหลือกันเมื่อเราทำได้
3) จะกระทำการเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นและรักชาติ
4) จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์สงบ

การไหว้ครูก่อนการแข่งขันมวยไทยจะแตกต่างจากกีฬาอื่นๆ โดยเฉพาะ คิกบ็อกซิ่ง ที่พยายามเลียนแบบมวยไทย จนจะคล้ายกันเกือบทุกอย่าง แต่ข้อแตกต่างคือไม่ใช้ศอกในการต่อย และไม่มีการไหว้ครู ดังนั้น การไหว้ครูจึงถือเป็นจุดเด่น และเอกลักษณ์ที่แท้จริงของกีฬามวยไทย
ยอด เรืองสา ได้กล่าวถึงแนวทางสำหรับผู้ฝึกมวยไว้ในหนังสือตำรามวยไทย สูตรพ่อเสือ นักมวย มีแนวทางดังนี้
 
1) ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
2) มีน้ำใจต่อคนทั่วไป
3) เป็นคนสงบ ไม่อันธพาล
4) ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น
5)ต้องเป็นคนที่มีความพากเพียร ไม่ยอมแพ้กับทุกสิ่ง
6) จงเสียสละเพื่อประชาชน เมื่อประเทศต้องการ
7) ทำให้แก่นแท้ของจิตใจของคุณแข็งแกร่งราวกับเพชร
๘) เป็นผู้เห็นธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา และมีศีลธรรมอยู่ในใจ
9) ต้องตรงต่อเวลา รักชื่อเสียงและค่ายกลุ่มของตน
10) คุณต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
11) ต้องไม่เอาเปรียบฝ่ายตรงข้ามในลักษณะที่ขัดต่อกฎเกณฑ์และศีลธรรม
12) ต้องเคารพกฎหมายของประเทศ

นอกจากนี้ยังมีการคุ้มครองครูซึ่งหมายความว่านักเรียนได้ศึกษาศิลปะมวยไทยอย่างครบถ้วนแล้ว และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้ โดยจะมีพิธีจัดพิธีไหว้ครู

นอกจากการเลี้ยงดูครูและครอบคลุมครูแล้ว ยังมีพิธีไหว้ครูประจำปีอีกด้วย ในศิลปะมวยไทยของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ว่ากันว่า "ไหว้ครู" จัดขึ้นเป็นประจำ หรือเป็นประเพณีนี้ ดูเหมือนว่าในโลกนี้มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ปฏิบัติ ส่วนประเทศอื่นๆ ผมไม่เห็นเลย แม้แต่ประเทศจีนเองก็มีการกล่าวถึงการแสดงความเคารพต่อครูในนวนิยายบางเรื่องด้วย ทำได้เฉพาะในบางสำนักงานเท่านั้น ไม่ได้ทำกันทั้งประเทศเหมือนเมืองไทย ในประเทศไทยเรามีประเพณีการไหว้ครูมาตั้งแต่สมัยโบราณ เราไหว้ครูเพราะเราเคารพครูที่มีความรู้ และการเป็นคนมีศีลธรรม คุณสมบัติของครูทั้งสองจะต้องสอดคล้องกับคุณธรรมของนักเรียน การเรียนการสอนจะเป็นไปอย่างราบรื่น และจากการปฏิญาณตน สิ่งที่ลูกศิษย์พูดต่อหน้าครูในพิธีบวงสรวงครูในครั้งนี้ จะทำให้ลูกศิษย์จดจำอยู่เสมอแม้จะจบการอบรมมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม ฉันยังมีหัวใจระลึกถึงครูด้วยความเคารพและยกย่อง”

การไหว้ครูจึงถือเป็นประเพณีสำคัญของการเป็นนักมวยไทย นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ทุกฝ่าย ลักษณะกิจกรรม เช่น รับสมัครครู ปกครู การบูชาครูประจำปี มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
“รำไหว้ครูมวยไทย” เป็นพิธีกรรมที่บรรพบุรุษไทยแต่โบราณเริ่มนึกถึง และก่อตั้งขึ้นจากความไว้วางใจในสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพเจ้าที่สถิตอยู่ทุกหนทุกแห่งในจักรวาลที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถบันดาลใจให้คนทำความดีประสบความสำเร็จได้ และช่วยปกป้องมนุษย์และสัตว์ทั้งปวงให้รอดพ้นจากอันตรายและได้รับชัยชนะทั้งปวง

สิทธิประโยชน์ที่คุณได้รับจาก “รำไหว้ครูมวยไทย”

การไหว้ครูหมายถึงการแสดงคุณค่าของวัฒนธรรมไทยและประเพณีอันดีงาม ประโยชน์ต่อสุขภาพจิตของนักมวยและผู้ชมมวยมีมากมายดังนี้

1) ปลูกฝังนิสัยการเป็นมวยไทย คือ รักและเคารพครู พ่อแม่ และผู้ที่ให้กำเนิดมวยไทย
2) ปลูกฝังจิตสำนึกถึงคุณค่าของศิลปะมวยไทย เกิดจากความรักและความริษยาที่จะคงอยู่ตลอดไป
3) เป็นกิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณ์ และศิลปวัฒนธรรมของชาติด้วยความสง่างามและศักดิ์ศรี

Ref:
https://www.lovethailand.org/tradition/muay_thai.html
https://www.lovethailand.org/tradition/
https://www.lovethailand.org

2
ท่องเที่ยว เดินทาง | Travel / Muay Thai boxing
« เมื่อ: กันยายน 06, 2023, 06:34:51 AM »


Muay Thai is the most important martial art for self-defense. is of great importance to the Thai people. It is one way to confirm and announce to people around the world that Muay Thai is the cultural heritage of the Thai people that has developed along with the way of life of the Thai people for a long time. and to preserve, spread and disseminate widely both in and Internationally, on May 3, 2011, the Cabinet resolved to designate February 6 of every year as Muay Thai Day, commemorating the birth of King Sanphet VIII (King Buddha Suea) ascending the throne ( February 6, 1702) because His Majesty was extremely talented in Thai boxing. In addition, he also encouraged relevant agencies to join in organizing various activities, including royal celebrations.

Honoring Somdej Phra Sanphet VIII (Somdet Phra Buddha Suea) for promoting the value of Thai boxing. Wai Khru Muay Thai Various celebrations and competitions, honoring and honoring and the promotion of Muay Thai abroad.

Ref:
https://www.lovethailand.org/tradition/muay_thai_boxing.html
https://www.lovethailand.org/tradition/

3


ขนบประเพณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วก็พิธีบูชาตามจารีตของชาวอีสาน เชื่อมทั้งยังกับความเชื่อถือในอำนาจเว้นแต่ธรรมชาติรวมทั้งพุทธทักษิณนิกาย มีอีกทั้งพิธีกรรมอันเป็นขนบประเพณีที่เป็นสิ่งปฏิบัติแล้วก็จารีตที่ตั้งมั่นสืบต่อกันมา

ฮีตสิบสอง มีความหมายว่าจารีต 12 เดือนที่เกี่ยวกับหลักทางพุทธ ความเลื่อมใสและการดำรงชีวิตทางทำการเพาะปลูกซึ่งชาวอีสานตั้งมั่นปฏิบัติกันมาแม้กระนั้นโบราณ มีแนวปฏิบัติแตกต่างกันไปในแต่ละเดือนเพื่อเกิดมงคลสำหรับในการครองชีพ เรียกอย่างพรมแดนว่างานบุญ ชาวอีสานให้ความเอาใจใส่กับขนบธรรมเนียมประเพณีฮีตสิบสองเป็นอันมากแล้วก็ตั้งมั่นปฏิบัติมาอย่างสม่ำเสมอนับเป็นเอกลักษณ์ของชาวอีสานอย่างแท้จริง
คำว่า “ฮีตสิบสอง” มาจากคำว่า “ฮีต” อันหมายถึงจารีต ความประพฤติที่สืบต่อกันมาจนกระทั่งกลายเป็นจารีต “สิบสอง” เป็นประเพณีที่ทำตามเดือนทางจันทรคติทั้งสิบสองเดือน

เดือนอ้าย : บุญเข้าบาป (วัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
งานกุศลเดือนอ้ายหรือเดือนเจียง ภิกษุจะประกอบพิธีเข้าบาปหรือที่เรียกว่า”เข้าปริวาสบาป” เพื่อทำจ่ายความหมองมัวที่ได้ล่วงละเมิดพระระเบียบปฏิบัติเป็น จำเป็นจะต้องบาปสังฆาทิเสส การอยู่กรรมนั้นจะใช้เวลา 6-9 วันในระหว่างนี้เองพลเมืองจะเตรียมอาหาร หวานคาวนำไปมอบให้พระสงฆ์อีกทั้งรุ่งอรุณและเพล เพราะว่าการอยู่กรรมจำเป็นจะต้องอยู่ในบริเวณสงบ ดังเช่น ชายป่าหรือที่ห่างไกลชุมชน(หรืออาจเป็นที่สงบในบริเวณวัดก็ได้) พลเมืองที่นำอาหารไปมอบให้ภิกษุในระหว่างอยู่กรรมนี้แน่ใจว่าจะทำให้ได้บุญกุศลมากมายก่ายกอง

สิ่งที่ทำให้เกิดพิธีบูชา
เพื่อลงทัณฑ์ภิกษุผู้ต้องความผิดพลาดสังฆาทิเสส จึงควรเข้าปริวาสบาป ก็เลยจะพ้นจากความผิดหรือพ้นโทษกลายภิกษุ ผู้มีศีล บริสุทธิ์อยู่ในพุทธต่อไป คำ “เข้าปริวาสธรรม” นี้ภาษาลาวและจากนั้นก็ไทอีสานตัดคำ “ปริวาส” ออกเหลือเป็น “เข้าบาป” ด้วยเหตุนี้บุญเข้าบาปก็คือ “บุญเข้าปริวาสบาป” นั่นเอง

พิธีกรรม ภิกษุผู้จำเป็นต้องความผิดพลาดหมวดสังฆาทิเลสที่จะเข้าอยู่ปริวาสบาป เพื่อชำระล้างความมัวหมองของศีลให้แก่เองจึงควรไปขอปริวาสจากสงฆ์ เมือสงฆ์อนุญาติแล้วจึงมาจัดสถานที่ที่จะเข้าอยู่ปริวาสบาป เมื่อจัดแจงสถานที่เป็นระเบียบแล้ว ภิกษุจำเป็นต้องข้อผิดพลาดสังฆาทิเสสข้อใดข้อหนึ่งจำเป็นจะต้องอยู่ปริวาส (การอยู่พักแรม) แล้วก็จำเป็นต้องประพฤติตัวการกระทำ (การกระทำการจำศีล) ต่างๆดังเช่นว่า เว้นใช้สิทธิบางสิ่งลดฐานะแล้วก็ประจานตนเอง เพื่อเป็นการลงโทษตนเอง โดยจึงควรทำการปฏิบัติให้ครบจำนวนวันที่ปกปิดบาปนั้นๆเพื่อทุเลาตนจากข้อผิดพลาดสังฆาทิเสส แล้วหลังจากนั้นก็ต้องไปพบ “พระจตุรวรรค” (เป็นภิกษุสี่รูปขึ้นไป) เพื่อจะขอ “มานัต” แล้วก็มีภิกษุอีกรูปหนึ่งจะสวดมนตร์ประกาศให้มานัตแล้ว ภิกษุผู้ควรต้องบาปสังฆาทิเสสต้องกระทำตัวมานัตอีก 6 คืน แล้วพระภิกษุผู้บริสุทธิ์ก็เลยจะเรียกเข้าพวกกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ต่อไป

เดือนยี่ บุญคูนลานหรือบุญคูนข้าว (วัฒนธรรมภาคอีสาน)
บุญคูนลานหรือบุญคูนข้าวเป็นพิธีบูชาคบหาสมาคมภายหลังจากเสร็จการเก็บเกี่ยว ประชาชนรู้สึกยินดีที่ได้ผลผลิตเยอะมาก ก็เลยมุ่งหมายทำบุญสุนทานโดยนิมนต์ภิกษุมาสวดมนต์ไหว้พระในลานข้าวและก็ในบางที่จะมีการสู่ขวัญข้าวเพื่อคบหาสมาคมความอุดมสมบูรณ์ กล่าวขอบคุณแม่โพสพและจากนั้นก็ขอประทานโทษที่ได้ดูถูกดูแคลน พื้นพิภพในระหว่างกระบวนการทำทุ่งนา เพื่อความเป็นสิริมงคลและก็เห็นผลผลิตเป็นสองเท่าในปีต่อไป
ต้นเหตุของพิธีกรรม

สิ่งที่ทำให้เกิดพิธีกรรมทำบุญทำทานคูนข้าวหรือบุญคูนลาน เพราะเหตุว่าเมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จจะหาบฟ่อนข้าวมารวมกันเป็น “ลอนข้าว” ไว้ทุ่งนาของตน ถ้าหากลอมข้าวของผู้ใดกันแน่สูงใหญ่ก็แสดงให้ผู้คนที่ผ่านไปมารู้ว่านาทุ่งนั้นเป็นท้องทุ่งดี ผู้เป็นเจ้าของก็ดีหัวใจ หายเหมื่อยล้าอารมณ์เบิกบานอยากได้ทำบุญสุนทานปลูกข้าวน เพื่อดวงดีบุญกุศลส่งให้ในปีต่อไปจะได้ผลผลิตข้าวมากเพิ่มขึ้นอีก เรียกว่า “คูนให้ใหญ่ให้สูงขึ้น” เนื่องจากว่าคำว่า “คูณ” นี้มาจาก “ค้ำคูณ” เป็นอุดหนุนให้ดีขึ้น ช่วยให้รุ่งเรืองขึ้น

พิธีบูชา ผู้ตั้งดวงใจจะทำบุญสุนทานคูนข้าวหรือบุญคูนลาน ต้องจัดสถานที่ทำบุญกุศลที่ “ลานนวดข้าว” ของตนเองโดยนิมนต์ภิกษุมารุ่งเรืองก้าวหน้าพุทธมนต์มีการวางด้าย สายสิญจน์และปักเฉลวรอบกองข้าว เมื่อภิกษุรุ่งโรจน์พุทธมนต์เสร็จรวมทั้งจะมอบของกินเลี้ยงเพลแก่สงฆ์ แล้วต่อจากนั้นนำข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงญาติผู้มาร่วมทำบุญ เมื่อภิกษุฉันเสร็จก็จะประพรมน้ำพุทธมนต์ให้กองข้าว ให้ผู้จัดงานและทุกคนที่มาร่วมทำบุญสุนทาน แล้วต่อจากนั้นท่านก็จะให้พรผู้จัดงานก็จะนำน้ำมนต์ที่เหลือไปประพรมให้แก่วัว ควาย ตลอดจนไร่เพื่อความเป็นศรีมงคล แล้วหลังจากนั้นก็แน่ใจว่าผลของการทำบุญสุนทานจะช่วยอุดหนุนเพิ่มพูนให้ได้ข้าวเยอะขึ้นเรื่อยๆทุกๆปี

เดือนสาม บุญข้าวปิ้ง
บุญข้าวปิ้งเป็นจารีตที่เกิดขึ้นมาจากความสมัครสมานสามัคคีของชุมชนสามัญชนจะนัดหมายกันมาทำบุญสุนทานร่วมกันโดยช่วยเหลือเจือจุนกันปลูกผามหรือปะรำตระเตรียมไว้ในตอนเวลาบ่าย ครั้นเมื่อถึงรุ่งสว่างในวันต่อมาพลเมืองจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันปิ้งข้าว หรือปิ้งข้าวรวมถึงตักบาตรข้าวปิ้งร่วมกัน ต่อมาจะให้มีการแสดงธรรมนิทานชาดกเรื่องนางปุณณลงสีเป็นเสร็จพิธีกรรม

สิ่งที่ทำให้เกิดพิธีบูชา
สาเหตุจากความเชื่อทางพุทธ ด้วยเหตุว่าสมัยพุทธกาล มีนางข้ารับใช้ชื่อปุณณลงสี ได้นำแป้งข้าวปิ้ง(แป้งทำขนมจีน)ไปมอบพระพุทธเจ้า หากแม้จิตใจของนางรู้สึกว่า ของว่างแป้งข้าวปิ้งเป็นของหวานของผู้ต่ำ พระพุทธเจ้าบางครั้งอาจจะไม่ฉัน ซึ่งพระพุทธเจ้าหยั่งรู้จิตใจนาง ก็เลยทรงฉันแป้งข้าวปิ้ง ทำให้นางปลื้มปิติดีอกดีใจ ชาวอีสานก็เลยเอาแบบอย่างรวมทั้งพากันทำแป้งข้าวปิ้งมอบให้พระมาตลอด ทั้งเพราะเหตุว่าในเดือนสามอากาศของภูมิภาคอีสานกำลังอยู่ในฤดูหนาว ในตอนเช้าผู้คนจะใช้ฟืนก่อไฟ ผิงแก้หนาว ประชาชนจะเขี่ยใช้การได้ออกมาไว้ด้านหนึ่งของกองไฟแล้วนำข้าวเหนียวมาปั้นเป็นก้อนกลมโรยเกลือวางลงบนถ่านไฟแดงๆนั้นเรียกว่า ข้าวปิ้ง ซึ่งมีกลิ่นหอม ผิวไหม้เกรียมกรอบน่าลิ้มลองทำให้คิดถึงพระภิกษุ ผู้บวชอยู่วัดต้องการที่จะให้ได้รับประทานบ้าง ก็เลยมีการทำบุญทำกุศลข้าวปิ้งขึ้น ดังมีคำกล่าวว่า “เดือนสามค้อย เจ้าเหนือหัวคอยปั้นข้าวปิ้ง ข้าวปิ้งบ่มีน้ำอ้อย จัวน้อยเช็ดน้ำตา” (พอเพียงถึงสิ้นเดือนสาม ภิกษุก็คอยปั้นข้าวปิ้ง ถ้าหากข้าวปิ้งไม่มีน้ำอ้อยยัดไส้ เณรน้อยเช็ดน้ำตา)

พิธีบูชา พอเพียงถึงวัดนัดทำบุญสุนทานข้าวปิ้งทุกครอบครัวในหมู่บ้านจะเตรียมข้าวปิ้งตั้งแต่ตอนย่ำรุ่งของวันนั้นเพื่อข้าวปิ้งสุกทันใส่บาตรจังหัน ยกเว้นข้าวปิ้งรวมทั้งจะนำ “ข้าวเขียบ” (ข้าวเกรียบ) ตอนที่ยังไม่ปิ้งเพื่อพระเณรปิ้งกินเองและที่ปิ้งไฟจนถึงโป่งพองใส่ถาดไปด้วยพร้อมจัดกับข้าวไปมอบให้พระที่วัด ข้าวปิ้งบางก้อนผู้ที่เป็นเจ้าของได้ยัดไส้ด้วยน้ำอ้อย แล้วทาด้วยไข่ เพื่อเกิดรสหวานหอมเชิญชวนรับประทาน พอเพียงถึงหอแจกหรือศาลาโรงธรรมพระสงฆ์สามเณรทั้งมวลในวัดจะลงศาลาที่ญาติโยมที่มารวมกันอยู่บนศาลาก่อนแล้วประธานในพิธีกรรมเป็นผู้ขอศีล ภิกษุอวยพร ญาติโยมรับศีล แล้วกล่าวคำมอบข้าวปิ้ง และจากนั้นก็จะนำข้าวปิ้งใส่บาตรพระ ซึ่งตั้งเรียงไว้เป็นแถวเท่าจำนวนพระเณร พร้อมกับมอบปิ่นโต สำรับของคาวหวาน เมื่อพระฉันจังหันแสดงธรรมเสร็จและก็อำนวยพร ญาติโยมรับพรเป็นเสร็จพิธีกรรม

เดือนสี่ บุญผะเหวด
“บุญผะเหวด” เป็นสำเนียงชาวอีสานที่มาจากคำว่า “บุญพระเวส”หรือพระเวสสันดร เป็นจารีตตามคติความนับถือของชาวอีสานที่ว่า ถ้าผู้ใดกันแน่ได้ฟังเทศน์เรื่องพระเวสสันดรทั้ง 13 กัณฑ์จบด้านในวันเดียว จะได้เกิดร่วมชาติโลกกับพระศรีอริยเมตไตย บุญผะเหวดนี้จะทำต่อเนื่องกันสามวัน วันแรกเตรียมการสถานที่ ตกแต่งศาลาการเปรียญวันที่สองเป็นวันฉลองพระเวสสันดร

ประชาชนร่วมทั้งยังสงฆ์จากหมู่บ้านใกล้เคียงจะมาร่วมพิธีกรรมมีทั้งการจัดขบวนของทำทานฟังธรรมและก็แห่พระเวส โดยการแห่ผ้าผะเหวด(ผ้าผืนยาวเขียนภาพเล่าพระเวสสันดร) ซึ่งสมมุติเป็นการแห่พระเวสสันดรไปสู่เมือง เมื่อถึงเวลาเย็นจะมีแสดงธรรมเรื่องพระพวงดอกไม้ ส่วนวันที่สามเป็นงานกุศลพิธีกรรม ราษฎรจะร่วมกันตักบาตรข้าวพันก้อน พิธีกรรมจะมีไปจนถึงเย็น พลเมืองจะรุมล้อม รำตั้งขบวนเรียงรายตั้งกัณฑ์มามอบให้ พระจะแสดงธรรมเรื่องพระเวสสันดรชาดกจนกระทั่งจบแล้วก็เทศน์อานิพระอีกกัณฑ์หนึ่ง ก็เลยเสร็จพิธีกรรม

สิ่งที่ทำให้เกิดพิธีกรรม
จากเรื่องในหนังสือมาไลยหมื่นมาไลยแสนกล่าวว่ากาลครั้งหนึ่งพระพวงดอกไม้เถระได้ขึ้นไปไหว้พระธาตุเกษแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รวมทั้งได้พบปะสนทนากับพระศรีอริยเมนไตย ผู้ที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตและพระศรีอริยเมตไตยได้สั่งความมากับพระพวงดอกไม้ว่า

“ถ้ามนุษย์ต้องการจะพบแล้วก็ร่วมเกิดในศาสนาของท่านแล้วจึงควรประพฤติตนดังต่อไปนี้เป็น”
1. ควรจะอย่าฆ่าพ่อตีแม่สมที่พราหมณ์
2. ควรจะอย่ารังแกพระพุทธเจ้า และยุยงให้พระพระสงฆ์บาดหมางกัน
3. ให้ตั้งใจฟังแสดงธรรมเรื่อง พระเวสสันดรให้จบในวันเดียวเพราะ ชาวอีสานต้องการจะได้พบพระศรีอริยเมตไตยและก็เกิดร่วมศาสนาของท่าน ก็เลยมีการทําบุญสุนทานผะเหวด ซึ่งเป็นประจำทุกปี

พิธีบูชา การเตรียมงาน
1. แบ่งหนังสือ นำหนังสือลำผะเหวดหรือลำมหาชาติ (หนังสือเรื่องพระเวสสันดรชาดก) ซึ่งมีจำนวน 13 กัณฑ์ (หรือ 13 ผูกใหญ่) แบ่งเป็นผูกเล็กๆเท่าๆกับจำนวนพระเณรที่จะนิมนต์มาเทศน์ในตอนนั้นๆ
2. การใส่หนังสือ นำหนังสือผูก เล็กที่แบ่งออก จากกัณฑ์ต่างๆ13 กัณฑ์ ไปนิมนต์พระเณรทั้งยังวัดในหมู่บ้านตนเองและจากวัด ในหมู่บ้านอื่นที่อยู่ใกล้เคียงให้มาเทศน์ โดยจะมีใบฎีกาบอกรายละเอียดวันเวลาเทศน์ ตลอดจนบอกเจ้าเชื่อใจ ผู้ที่จะเป็นเจ้าของกัณฑ์นั้นๆไว้ด้วย
3. การจัดแบ่งเจ้าเลื่อมใส เพื่อพระเณรท่านแสดงธรรมจบในแต่ละกัณฑ์ ผู้เป็นเจ้าเลื่อมใสก็จะนำเครื่องต้นเหตุของทำทานไปมอบให้ตามกัณฑ์ที่ตนเองรับผิดชอบ พลเมืองจะแยกกันออกเป็นกรุ๊ปๆเพื่อรับเป็นเจ้าเลื่อมใสกัณฑ์เทศร่วมกัน โดยจำเป็นต้องหาบ้านพัก ข้าวปลาอาหารไว้คอยเลี้ยงต้อนรับญาติโยมที่ติดตามพระเณร จากหมู่บ้านอื่นเพื่อมาแสดงธรรมผะเหวดโอกาสนี้ด้วย
4. การเตรียมสถานที่พัก พวกประชาชนจะพากันชำระล้างบริเวณวัดแล้วช่วยเหลือเจือจุนกัน “ปลูกเขาหินม” หรือ ปะรำไว้บริเวณรอบๆวัด เพื่อใช้เป็นที่จะต้องรับพระเณรรวมทั้งญาติโยมผู้ติดตามพระเณรจากหมู่บ้านอื่น ให้เป็นที่ค้างแรมและก็ที่เลี้ยงข้าวปลาอาหาร
5. การจัดเครื่องคำกริยาบูชาหรือเครื่องครุพัน สำหรับการทำบุญสุนทานผะเหวดนั้นประชากรต้องจัดเตรียม “เครื่องฮ้อยเครื่องพัน” หรือ “เครื่องเซ่นคาถาพัน” มีธูปหนึ่งพันดอก เทียนหนึ่งพันเล่ม ดอกบัวโป้ง (บัวหลวง) ดอกบัวแป้ (บัวผัน) ดอกบัวทอง (บัวสาย) ดอกผักตบ แล้วก็ดอกก้างของ (ดอกปีบ) อย่างละหนึ่งพันดอก เมี่ยง หมากอย่างละหนึ่งพันคำ มวนยาดูดหนึ่งพันมวน ข้าวตอกแตกใส่กระทงหนึ่งพันกระทง ธุขี้ตระหนี่ระดาษ (ธงกระดาษ) หนึ่งพันธง

อ้างอิง
ประเพณีภาคอีสาน ประเทศไทย ประเพณีภาคกลาง ประเพณีภาคใต้ อาหารภาคเหนือ ขนมไทย
https://www.lovethailand.org/travel/th/46-นครราชสีมา/15787-ประเพณีภาคอีสาน-วัฒนธรรมภาคอีสาน-ประเพณีไทยที่สำคัญ.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15731-ทำขนมไทยทำง่าย-ขนมโบราณ-ขนมหวานไทยมีอะไรบ้าง.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15661-อาหารภาคเหนือ-อาหารเหนือ.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

4


องค์ประกอบของว่างถ้วยโบราณ
- น้ำตาลตาลโตนด (ทำเป็น 30-35 ถ้วย)

องค์ประกอบ ตัวแป้ง
- แป้งข้าวจ้าว 80 กรัม
- แป้งสิงคโปร์ หรือ แป้งท้าวยายม่อม 15 กรัม
- น้ำตาลตาลโตนด 120 กรัม
- หางกะทิ 400 ml.
- ใบเตย 4 ใบ

องค์ประกอบ หน้ากะทิ
- หัวกะทิ 400 ml.
- แป้งข้าวจ้าว 30 กรัม
- น้ำตาล 30 กรัม
- เกลือ 4 กรัม

การทำขนมหวานถ้วยโบราณ ของว่างถ้วยน้ำตาลโตนด (ขนมไทยโบราณ ของหวานโบราณ)
1. เตรียมการอ่างผสม ใส่แป้งข้าวจ้าว แป้งมัน น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลตาลโตนด หางกะทิ(ทยอยใส่) รวมทั้งใบเตยลงไป
2. ใช้มือขยำองค์ประกอบให้ถูกกัน เบาๆส่หางกะทิลงไปแล้วนวดให้ของว่างเหมาะสม ขยำองค์ประกอบราว 3-4 นาที
3. นำองค์ประกอบจำนวนมากรองด้วยที่กรองตาถี่หรือผ้าขาวบาง แล้วพักไว้
4. นำถ้วยพลุมาเรียงในซึ้งนึ่ง เพื่อนำไปนึ่งให้ร้อน เพื่อตัวของว่างไม่ติดถ้วย
5. จัดแจงทำหน้ากะทิ เตรียมอ่างผสมใส่แป้งข้าวจ้าว เกลือ น้ำตาล และจากนั้นก็หกัวกะทิลงไป
6. ใช้ตะกร้อมือคนผสมให้ทุกๆอย่างละลายถูกกันดี แล้วพักไว้
7. คนองค์ประกอบให้เหมาะสม แล้วหยอดลงในถ้วยประทัดที่นึ่งไว้จนถึงร้อนเหมาะสม
8. หยอดแป้งลงไปครึ่งถ้วย แล้วก็ใช้ไฟแรงปิดฝานึ่งต่อกระทั่งแป้งสุก (คร่าวๆ 5-8 นาที)
9. เมื่อครบเวลาเปิดฝาปิดหม้อนึ่ง แล้วนำหัวกะทิที่ผสมไว้มาหยอดให้เต็มถ้วย
10. ปิดฝา นึ่งต่อจนกระทั่งหน้ากะทิสุกแล้วก็แตกมัน (ราว 7-8 นาที)
11. นำของว่างถ้วยลงจากเตา แล้วพักให้คลายร้อน พร้อมทาน

อ้างอิง:
https://www.lovethailand.org/travel/th/17-กรุงเทพมหานคร/15789-ขนมถ้วยโบราณ-วิธีทำขนมไทยชาววัง-สูตรขนมโบราณ.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15731-ทำขนมไทยทำง่าย-ขนมโบราณ-ขนมหวานไทยมีอะไรบ้าง.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

5


วัฒนธรรมและก็ขนบประเพณีไทย วัฒนธรรม มาจากภาษาบาลีบวกกับภาษาสันสฤต ซึ่งคำว่า "วฑฺฒน" ในภาษาบาลีเป็นความเจริญ ส่วนคำว่า "ธรฺม" ในภาษาสันสฤตเป็นความดีงาม เพียงพอเอาสองคำมารวมกันก็เลยได้คำว่า "วฑฺฒนธมรม" เป็นคุณสวยคุณงามความดีอันจะมีผลให้เกิดความงอกงามที่เรียบร้อย

วัฒนธรรม ตรงกับภาษาอังกฤษ คำว่า Cultureเป็นลักษณะการดำเนิน ชีวิตที่แสดงออกมาถึง ความเจริญงอกงาม ความมีจรรยาบรรณ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวเป็นอันหนึ่งอันเดียว กันของประชาชนในชาติ เนื่องจากมีการทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ภายในหมู่คณะของตัวเอง และตั้งมั่นปฏิบัติร่วมกัน อย่างมีแนวทาง

วัฒนธรรมไทย เป็นวิถีการดำรงอยู่ของประชากรเยอะแยะในสังคมนั้นๆอย่างมีความเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นก็มีแบบแผน ซึ่งจะยึดหลักความเชื่อ ความคิดเป็นแนวทางในความประพฤติ ความประพฤติ จะมีเอกลักษณ์ เฉพาะของแต่ละชาติที่สร้างขึ้นมาแล้วก็ใช้อยู่ในกรุ๊ปของสังคมนั้นๆมีการสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

ขนบธรรมเนียมประเพณี นั่นก็คือกฎระเบียบในการประกระทำตัวแล้วก็ การวางระวางบุคคลในสังคมดังเช่นมรรยาทในห้องรับประทานอาหาร ขนบประเพณีของ ไทยนั้นให้ความใส่ใจสำหรับการให้ความใส่ใจกับคนแก่ ผู้น้อยควรต้องรู้จักสัมมาคารวะให้ความนับถือคนวัยแก่ ตัวอย่างเช่น นักศึกษาต้องให้ความเคารพอาจารย์

ขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศไทย นั้นเป็นจารีตที่ได้อิทธิพลอย่างมากจากพุทธ แต่อิทธิพลจากศาสนาอื่นได้แก่ พราหมณ์และ การอพยพโยกย้ายของชาวต่างชาติอาทิเช่นคนจีนก็ส่งผลกระทบของขนบประเพณีไทย ขนบประเพณีของไทยนั้นสามารถแบ่งได้สามส่วนใหญ่เป็น ภาษา , ศิลป , และก็ขนบประเพณี

ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติของคนไทย ลายลักษณ์อักษรของภาษาไทยถูกสร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนรามคำแหงในคริสต์ศักราช 1283 อักขระของภาษาไทยได้รับอิทธิพลมาจากภาษาบาลี และสันสกฤตจากสื่อของเขมรโบราณ ช่วงนี้ภาษาไทยมีตัวเขียน สี่สิบสี่ตัว ภาษาไทยมีห้าโทนเป็น : สามัญ , เอก, โท, ตรี, จัตวา ซึ่งแตกต่างจากภาษาอื่นตัวอย่างเช่นภาษาอังกฤษ ได้แก่คำว่า บ่า กับบ้านั้นมีความที่แตกต่าง ภาษาไทยในตอนนี้ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาต่างๆทั่วโลกดังเช่น บาลี, เขมร, มาเล, ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน

วัฒนธรรมจะเป็นสิ่งที่เจาะจง แบบแผน ข้อบัญญัติ ข้อปฏิบัติ ก่อให้เกิดจารีต ความเชื่อใจ ซึ่งจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละสังคม อีกทั้งวัฒนธรรมยังเป็นตัวเจาะจงความประพฤติปฏิบัติของมนุษย์ ในกลุ่มสังคมนั้นและจากนั้นก็ยังสร้างความเรียบร้อย สร้างความพร้อมเพรียงกันให้เกิดขึ้นในสังคมอีกด้วย

ต้นเหตุของวัฒนธรรมไทย
สิ่งแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ เนื่องจากสังคมไทยมีลักษณะทางด้านภูมิศาสตร์เป็นที่ราบลุ่มและสมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยแม่น้ำลำคลอง ชาวไทยได้ใช้น้ำในแม่น้ำ ลำคลอง สำหรับในการทำไร่และก็การอาบ กิน ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อถึงเวลาหน้าน้ำซึ่งก็คือเพ็ญเดือน 11 และจากนั้นก็เพ็ญ เดือน 12 ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาสิ้นเดือนตุลาคมแล้วก็สิ้นเดือนพฤศจิกายน อันเป็นระยะเวลา ที่ น้ำหลั่งไหลมาจากทางภาคเหนือของประเทศ ชาวไทยก็เลยทำกระทงพร้อม ด้วยธูปเทียนไปลอย ในแม่น้ำลำคลอง เพื่อเป็นการขอประทานโทษลาโทษแม่คงคา และก็ขอพรจากแม่คงคา เพราะได้อาศัยน้ำกิน น้ำใช้ ทำให้เกิด "ประเพณีลอยกระทง" นอกเหนือจากนี้ยังมีขนบธรรมเนียมประเพณีอื่นๆอีกในส่วนที่เกี่ยวกับ แม่น้ำลำคลอง เป็นต้นว่า จารีตชิงชัยเรือ
ระบบการกสิกรรมบาป สังคมไทยเป็นสังคมทำการกสิกรรม (agrarian society) กล่าวอีกนัยหนึ่ง ประชากรจำนวนร้อยละ 80 ดำรงชีวิตทำไร่ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า คนประเทศไทยส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตผูกพันกับระบบการกสิกรรมบาป และระบบการกสิกรรมบาปนี้เอง ได้เป็น ที่มาของวัฒนธรรมไทยหลายประการ ได้แก่ จารีตขอฝน จารีตลงแขก และการละเล่น เต้นกำรำเคียว อื่นๆอีกมากมาย

ค่านิยม (Values) กล่าวได้ว่า "ความชื่นชอบ" มีความเชื่อมโยงกับ วัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด และ "ความชื่นชอบ" บางอย่างได้แปลงมาเป็น "แกน" ของวัฒนธรรมไทยกล่าวคือ วิถีชีวิตของคนไทยโดยศูนย์กลางมีเอกลักษณ์ซึ่งแสดงออกถึงความอิสระแล้วก็ความเป็นอิสระ

Ref:
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15781-วัฒนธรรมไทย-และประเพณีไทย.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

6


อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ อาหารเหนือที่คุณห้ามพลาด ของกินของภาคเหนือ มีข้าวเหนียวเป็นของกินหลัก มีน้ำพริกจำพวกต่างๆได้แก่ น้ำพริกชายหนุ่ม น้ำพริกอ่อง มีแกงหลายอย่าง ดังเช่นว่า แกงโฮะ แกงแค นอกเหนือจากนั้นยังมีแหนม ไส้อั่ว แคบหมู และก็ผักต่างๆลักษณะอากาศก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ของกินท้องถิ่นภาคเหนือต่างจากภาคอื่น โน่นเป็น การที่อากาศหนาวเย็นเป็นเหตุผลให้อาหารจำนวนมากมีไขมันมากมาย ได้แก่ น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล ไส้อั่ว เพื่อช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น ทั้งยังการที่อาศัยอยู่ในช่องเขาแล้วก็บนที่สูงอยู่ใกล้กับป่า ก็เลยนิยมนำ

พันธุ์พืชในป่ามาปรุงเป็นของกิน เป็นต้นว่า ผักแค บอน หยวกกล้วย ผักหวาน นำไปสู่ของกินพื้นเมือง ชื่อต่างๆอย่างเช่น แกงแค แกงหยวกกล้วย แกงบอน
ของกินของภาคเหนือ มีข้าวเหนียวเป็นของกินหลัก มีน้ำพริกประเภทต่างๆได้แก่ น้ำพริกชายหนุ่ม น้ำพริกอ่อง มีแกงหลากหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น แกงโฮะ แกงแค นอกเหนือจากนั้นยังมีแหนม ไส้อั่ว แคบหมู แล้วก็ผักต่างๆลักษณะอากาศก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ของกินประจำถิ่นภาคเหนือไม่เหมือนกับภาคอื่น โน่นเป็น การที่อากาศหนาวเย็นเป็นเหตุผลให้อาหารส่วนมากมีไขมันมากมาย ดังเช่นว่า น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล ไส้อั่ว เพื่อช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น ทั้งยังการที่อาศัยอยู่ในซอกเขาแล้วก็บนที่สูงอยู่ใกล้กับป่า ก็เลยนิยมนำ พันธุ์พืชในป่ามาปรุงเป็นของกิน เป็นต้นว่า ผักแค บอน หยวกกล้วย ผักหวาน นำไปสู่ของกินประจำถิ่น ชื่อต่างๆตัวอย่างเช่น แกงแค แกงหยวกกล้วย แกงบอน

ของกินภาคเหนือ มีเยอะแยะ และก็มีชื่อเรียกที่ไม่เหมือนกับทุกภาค พวกเราได้เก็บรวบรวม สูตรของกินเยอะมาก นานาประการรายการอาหาร ไม่ว่าจะเป็น รายการอาหารต้ม รายการอาหารผัด รายการอาหารแกง รายการอาหารทอด รายการอาหารนึ่ง รายการอาหารปิ้งย่าง ทดลองนำไปทำกินมองได้ ของกินเหนือทำเช่นไรให้อร่อย ของกินเหนือ มีเทคนิคเช่นไร

จุดเด่นของของกินเหนือ สำหรับเอกลักษณ์ของของกินเหนือหมายถึงของกินภาคเหนือไม่นิยมใส่น้ำตาล ความหวานของของกินจะได้จากส่วนประกอบที่เอามาทำครัว ไม่ว่าจะเป็น ผัก ปลา ไขมันจะได้จากน้ำมันของสัตว์ ฯลฯ ของกินท้องถิ่นภาคเหนือ มีความพิเศษตรงที่มีการประสมประสานวัฒนธรรมการกินจากหลายกลุ่มคน

ของกินพื้นเมืองภาคเหนือ ภาคเหนือของเมืองไทย ในอดีตกาลเคยเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของอาณาจักรล้านนา เป็นอาณาจักรแห่งหนึ่งที่มีความเจริญ เขตแดนขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศพม่า แล้วก็ ลาว ของกินของชาวล้านนา ก็เลยได้รับวัฒนธรรมมากมายจากชนเผ่าต่างๆมากไม่น้อยเลยทีเดียว

ของกินของภาคเหนือ นั้นจะ รับประทานข้าวเหนียว เป็น ของกินหลัก และก็ ทานคู่กับ น้ำพริก เป็นต้นว่า น้ำพริกชายหนุ่ม น้ำพริกอ่อง รวมทั้ง แกงหลายประเภท ตัวอย่างเช่น แกงโฮะ แกงแค ฯลฯ ด้วยสภาพภูมิอากาศของทางภาคเหนือ มีอากาศเย็น รูปแบบของของกิน ก็เลยมีไม่เหมือนกันจากภาคอื่นๆของไทย ของกินจำนวนมากของคนเหนือ มีไขมันมากมาย ดังเช่นว่า น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล ไส้อั่ว ซึ่งช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น พืชป่า ที่มักเอามาทำอาหารในของกินเหนือ อย่างเช่น ผักแค บอน หยวกกล้วย ผักหวาน ฯลฯ

คนภาคเหนือจะกินข้าวเหนียวเป็นของกินหลัก ของกินไทยภาคเหนือ ภาคเหนือ เป็นดินแดนที่มีความเจริญมาตั้งแต่ครั้งในอดีตกาลเป็นดินแดนที่ประวัติศาสตร์ ศิลป์วัฒนธรรม ขนบประเพณี

ในอดีตกาลรอบๆภาคเหนือของไทยเคยเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนามาก่อน ตอนที่อาณาจักรที่นี้เรืองอำนาจ ได้แผ่กว้างเขตแดนเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังเช่น เมียนมาร์ ลาว แล้วก็มีผู้คนจากดินแดนต่างๆย้ายถิ่นเข้ามาตั้งรกรากในดินแดนที่นี้ ก็เลยได้รับวัฒนธรรมนานาประการจากเชื้อชาติต่างๆเข้ามาในชีวิตประจำวันและของกินด้วยของกินของภาคเหนือ มีข้าวเหนียวเป็นของกินหลัก

มีน้ำพริกประเภทต่างๆยกตัวอย่างเช่น น้ำพริกชายหนุ่ม น้ำพริกอ่องมีแกงหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น แกงโฮะ แกงแค นอกนั้นยังมีแหนม ไส้อั่ว แคบหมู รวมทั้งผักต่างๆสภาพภูมิอากาศก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ของกินพื้นเมืองภาคเหนือต่างจากภาคอื่นๆโน่นเป็น การที่อากาศหนาวเย็นเป็นเหตุผลให้อาหารส่วนมากมีไขมันมากมาย เป็นต้นว่า น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล ไส้อั่ว เพื่อช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น ทั้งการที่อาศัยอยู่ในซอกเขารวมทั้งบนที่สูงอยู่ใกล้กับป่า ก็เลยนิยมนำ พันธุ์ไม้ในป่ามาปรุงเป็นของกิน ดังเช่นว่า ผักแค บอน หยวกกล้วย ผักหวาน นำมาซึ่งของกินประจำถิ่น ชื่อต่างๆได้แก่ แกงแค แกงหยวกกล้วย แกงบอน

ของกินไทยเขตแดนในภาคเหนือ 9 รายการอาหาร ที่มีความเด่นและก็รสอร่อย แม้ว่าจะมิได้มีชื่อเสียงดีของคนต่างประเทศเสมือน ต้มยำกุ้ง หรือแกงมัสมั่น แม้กระนั้นรายการอาหาร "ของกินเหนือ" กลุ่มนี้ก็คุ้มที่จะลิ้มรส โดยผลการสำรวจนี้เป็นของนายออสติน บุช (Austin Bush) ช่างถายภาพและก็นักประพันธ์ ที่ได้ไปสัมผัสความอร่อยของของกินเหนือในประเทศไทยมาแล้ว

1. ข้าวตรอก ข้าวซอกซอยเป็นแกงที่มีลักษณะเหมือนแกงเขียวหวาน เป็นเป็นแกงน้ำกะทิประเภทหนึ่ง แต่ว่ามาในแบบอย่างกวยเตี๋ยว นิยมปรุงด้วยเนื้อวัวหรือเนื้อไก่เป็นวัตถุดิบหลัก เสิร์ฟมากับผักดอง เป็นของกินยอดฮิตของคนภาคเหนือ

2. ขนมจีนนำ้งู เป็นขนมจีนที่รับประทานกับน้ำยาที่เรียกว่า น้ำงู เป็นแกงอย่างหนึ่งของภาคเหนือ มีส่วนประกอบสำคัญๆเป็น กระดูกหมู พริกแกงที่ทำมาจากพริกแห้งตอนเหนือ มะเขือเทศ เลือดหมู ปรุงแบบสไตล์บ้านๆได้กลิ่นอายความเป็นของกินแคว้นแท้ๆตามสูตรเริ่มแรกของป้าบุญศรี คนกรุงจังหวัดลำปาง

3. น้ำพริกชายหนุ่ม รายการอาหารนี้เป็นของกินไทยภาคเหนือที่เรียกว่า น้ำพริก (Dip) ที่ทำมาจากพริก หอมแดง กระเทียม นำทั้งผองปิ้งไฟกระทั่งสุกหอม ก่อนตำเป็นน้ำพริกแคว้น มักรับประทานคู่กับผักต้มและก็ข้าวเหนียวนึ่ง ซึ่งก็นับเป็นอาหารเพื่อคนที่รักสุขภาพอย่างยอดเยี่ยมเลย แต่ว่าถ้าเกิดจะให้อร่อยขึ้นไปอีก จะต้องรับประทานกับข้อไก่ทอด บอกเลยว่าอร่อยเพลิดเพลินไม่สนใจแคลอรีกันอย่างยิ่งจริงๆ

4. ข้าวตรอกหน้า รายการอาหารนี้เป็นรายการอาหารข้าวตรอกประเภทหนึ่ง ที่มีไม่เหมือนกันอาหารซอกซอยทั่วๆไปเป็นข้าวซอกซอยหน้าจะไม่ใช่แกงน้ำกะทิ ไม่มีพริกแกง แม้กระนั้นจะเป็นก๊วยเตี๋ยวน้ำซุปใสๆราดด้วยหมูบดที่นำไปต้มกับถั่วเหลืองหมักรวมทั้งพริกแห้ง (คนภาคเหนือเรียกว่า จิ๊นคั่ว เป็นเนื้อหมูคั่วกับเครื่องแกงและก็ถั่วเน่า)

5. ข้าวแต๋น รายการอาหารนี้รสน่าดึงดูดสุดๆเป็นของกินเล่นรูปร่างกลมๆทำมาจากข้าวเหนียวที่นำไปผสมรวมกับน้ำตาล เกลือ งา และก็น้ำแตงโม แล้วหลังจากนั้นนำไปตากแห้ง แล้วเอามาทอดยากแค้นฟู จบท้ายด้วยการราดน้ำตาลอ้อยบนหน้าของหวาน

6. ข้าวกั๊นจิ๊น รายการอาหารนี้เป็นการนำข้าวสุก เนื้อหมูสับ เลือดหมู โรยน้ำมันกระเทียมเจียว เอามาห่อรวมกันในใบกล้วยแล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปนึ่งกระทั่งสุก ซึ่งชายหนุ่มออสตินก็สารภาพว่า "การนำเลือดมาประกอบอาหารเป็นสิ่งที่แปลกรวมทั้งทำให้มีอาการชาวต่างประเทศรู้สึกเสียขวัญ แม้กระนั้นถ้าหากไม่กล่าวว่ารายการอาหารนี้ใส่เลือดลงไป ก็จะไม่เคยทราบเลย เพราะว่ารสที่ได้ทดลองลองนั้นเผ็ดร้อน หอมกระเทียม รวมทั้งอร่อยมาก"

7. จิ๊นตุ๊บ รายการอาหารนี้ก็คือ เนื้อตี หรือเนื้อวัวตำ ทำมาจากเนื้อวัวหมักกับน้ำปลา เครื่องเทศ รวมทั้งเกลือ แล้วค่อยนำไปปิ้งบนเตาถ่าน ไฟอ่อนๆกระทั่งสุกแล้วก็แห้ง แล้วต่อจากนั้นเอามาตีแรงๆจนได้ยินเสียง ตุ๊บริษัท.ตุ๊บริษัท. เป็นสาเหตุของชื่อ จิ๊นตุ๊บ

8. ลาบหมูคั่ว ในตอนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มีรายการอาหารอร่อยอย่าง ลาบอีสาน ซึ่งใส่สมุนไพรหลายประเภท มีรสเปรี้ยว มีความหอมเด่นจากข้าวคั่ว รายการอาหารลาบอีสานนี้ก็เลยเลื่องลือมากมายสำหรับนักลองคนประเทศอเมริกาในขณะนี้ แต่ว่าเมื่อคุณได้มาทดลองลอง ลาบเมือง หรือรายการอาหารลาบของทางภาคเหนือ จะทราบเลยว่ามันต่างกันอย่างสิ้นเชิง

9. หมูพันปี รายการอาหารนี้เป็นการสะสมเอา เนื้อหมูสามชั้น ผักดอง และก็ใบชาอูหลง วางทับซ้อนๆกัน แล้วก็นึ่งตรงเวลา 4 ชั่วโมง เป็นรายการอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากผู้หลบภัยคนจีน ที่มาอาศัยอยู่รอบๆภาคเหนือของไทย

Ref:
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15661-อาหารภาคเหนือ-อาหารเหนือ.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/
https://www.lovethailand.org



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

7


Thai desserts, ancient desserts, royal desserts, dessert recipes that are hard to find in Thailand (ประเทศไทย). Most of them are made from rice and use other ingredients such as colors, utensils, and natural aromas. As for the rice that is used in Thai desserts, both are used in the form of whole grain rice and rice in flour form. In addition, there are other ingredients such as eggs, sugar, and coconuts that are unique in Thai national culture. Delicacy in the selection of raw materials, meticulous methods of making, delicious, sweet, colorful, attractive appearance. as well as elaborate methods Some of the menus are influenced by northern (อาหารเหนือ), central and southern food. It is also influenced by northern culture (ประเพณีภาคเหนือ) as well.

Thai desserts are involved in the Thai way of life in every festival and occasion. It shows a connection and has been an important part of Thai culture since ancient times. Sweets used in Thai festivals and rituals throughout the year.

In ancient times, Thai people in Thailand (ประเทศไทย)would only make desserts on important occasions. such as a merit-making ceremony, a wedding ceremony, an important festival, or welcoming an important guest Because some desserts require human effort and time to make, most of them are traditions such as wedding desserts, but for weddings, local desserts such as Khanom Krok, Khanom Cup, etc., as for desserts in the palace fence, will look beautiful. Exquisite and exquisite in the arrangement of beautiful dessert shapes.

Traditional Thai desserts There will be flour, sugar, coconut milk only. The dessert that uses eggs as an ingredient, such as Thongyip Thongyod, jackfruit seeds, is Marie Quimar de Pina (Thao Thong Kip Ma), a Portuguese woman. It is the leading recipe from Portugal.

Thai desserts are popular everywhere. Region of Thailand in various ceremonies is an egg snack and it is believed that the names and characteristics of such desserts, such as eating Foi Thong To hope to live together for a long time, have a long life, eat snacks, get a promotion in salary eat dessert Thong Ek would like to be a major, etc.

During the reign of King Rama I, cookbooks were published. Including the textbook of Thai desserts as well Therefore, it can be considered that Thai dessert culture has been recorded in writing for the first time. The first Thai cookbook was Mae Krua Hua Pak. Later, when the trade grew in the market, there were many kinds of snacks for sale. And it is the era where Thai desserts are popular.

Wang’s desserts will use generosity. embellishment in several steps In the past, people used to send female children into the palace. To dedicate themselves to the lords in the palaces in various palaces to practice various crafts such as needlework, flower arrangement, and cooking. few things and each requires finesse Meticulous in every step of making, such as Khanom Khai Khai, Khanom Luk Chup, Khanom Moh Tan, Khanom Bueng, coconut milk agar, custard agar, pandan agar.

Classification of Thai desserts They are divided according to the method of ripening as follows:
Pastry cooked by stirring Most of them use gold pans. Stirring from a clear liquid until the period. Then pour into molds or trays when cool, then cut into pieces, such as tacos, desserts, rhombic desserts, soft stone desserts, and various fruits, including red glutinous rice. Glass Sticky Rice and Kalamae.

Snacks that are cooked by steaming. Use some crates to pour the mixture into a pinwheel cup and steam it. Some are inserted into trays or printed. Some types are wrapped in banana leaves or coconut leaves, such as bouquets, layered desserts, fried rice porridge, young pear, custard, banana desserts, sugar candies, sweets with fillings, candles, desserts with water, flowers, and crackers in Pak Mo.

confectionery cooked by welding It is to put the ingredients into the syrup that is boiling until cooked, such as Thong Yod, Thong Yib, Foi Thong, jackfruit seed, candied banana, sugar cane syrup.

Fry-cooked snacks It is to put the ingredients in a frying pan with hot oil until cooked, such as fried bananas, fried rice, Kanom Kong, Khanom Bat, Khanom Sao, Khanom Nanglet.
Desserts that are cooked by steaming or baking, such as Khanom Mo Khang, Khanom Na Nuan, Khanom Klebe Lamduan, Khanom Thong Muan, Hard pears. In addition, Khanom Krok, Khanom Bueng, Khanom Dok Lam Chiak that are heated on the stove may also be included in this group.

confectionery cooked by boiling This type of dessert uses a pot or pan to boil water. Put the candy in until cooked and scoop up. to be mixed with or sprinkled with coconut, such as Kanom Nut Pab, boiled dessert, sticky dessert, and Rae Rai dessert. Popularly boiled with coconut milk. Or put the flour mixed into a wet snack. and desserts eaten with syrup and coconut milk, such as bananas, orchards, sweet potatoes, sago palms, lod chong, and sarim.

Most Thai desserts are made from rice and will use other ingredients such as colors, utensils, and natural aromas. The rice used in Thai desserts is both in the form of whole grain and rice in the flour form. There are also other ingredients such as coconut, eggs, sugar.

The royal dessert recipes, Thai desserts, and interesting ancient desserts are as follows:
https://www.lovethailand.org/travel/en/1-Chiang-Mai/15731-Easy-to-Make-Thai-Desserts.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15731-ทำขนมไทยทำง่าย-ขนมโบราณ-ขนมหวานไทยมีอะไรบ้าง.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

8


ขนมไทย ขนมโบราณ ขนมชาววัง สูตรขนมที่หาทานได้ยาก ในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่นั้นทำมาจากข้าวและจะใช้ส่วนประกอบอื่นๆ เช่น สี ภาชนะ กลิ่นหอมจากธรรมชาติ ส่วนข้าวที่ใช้ในขนมไทยมีทั้งใช้ในรูปข้าวทั้งเม็ดและข้าวที่อยู่ในรูปแป้ง นอกจากนั้นยังมีวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ไข่ น้ำตาล มะพร้าว ที่มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง โดยบางเมนูก็ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารเหนือ, อาหารภาคกลาง และอาหารภาคใต้

ในสมัยโบราณคนไทยในประเทศไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน แต่เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาสวยงาม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม

ขนมไทยดั้งเดิม นั้นจะมีส่วนผสมคือ แป้ง น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน นั้น มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ท้าวทองกีบม้า) หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็นผู้นำสูตรมาจากโปรตุเกส

ขนมไทย นั้นนิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ ก็คือขนมจากไข่ และเชื่อกันว่าชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ เช่น รับประทานฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน รับประทาน ขนมชั้นก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน รับประทาน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เจริญ รับประทานขนมทองเอก ก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น

ในสมัยรัชกาลที่ 1 มีการพิมพ์ตำราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตำราขนมไทยด้วย จึงนับได้ว่าวัฒนธรรมขนมไทยมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรก ตำราอาหารไทยเล่มแรกคือแม่ครัวหัวป่าก์ โดยต่อมาเมื่อการค้าเจริญขึ้นในตลาดมีขนมนานาชนิดมาขาย และนับว่าเป็นยุคที่ขนมไทยเป็นที่นิยม

ขนมชาววัง นั้นจะใช้ความละเมียดละไม ประดิดประดอยอยู่หลายขั้นตอน คนสมัยก่อนนิยมส่งลูกหลานที่เป็นผู้หญิงเข้าไปในวัง เพื่อถวายตัวรับใช้เจ้านายในวังตามตำหนักต่าง ๆ เพื่อฝึกฝนงานฝีมือด้านต่างๆ เช่น งานเย็บปักถักร้อย จัดดอกไม้ ทำอาหาร หากค้นคว้าตามตำราเก่า ๆ จะพูดถึงขนมในวังแท้ๆ อยู่ไม่กี่อย่าง และแต่ละอย่างต้องใช้ความละเอียดประณีต พิถีพิถันทุกขั้นตอนการทำ ได้แก่ ขนมไข่เหี้ย ขนมลูกชุบ ขนมหม้อตาล ขนมเบื้อง วุ้นกะทิ วุ้นสังขยา วุ้นใบเตย

โดยสูตรขนมชาววัง ขนมไทย ขนมโบราณที่น่าสนใจต่าง ๆ มีดังนี้
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15731-ทำขนมไทยทำง่าย-ขนมโบราณ-ขนมหวานไทยมีอะไรบ้าง.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

9
ท่องเที่ยว เดินทาง | Travel / Northeast of Thailand
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2021, 11:37:13 AM »


Northeast called in Thai “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” The northeastern region is characterized by a split. from the northern and central regions prominently This is because the uplift of the land on the west and south creates a steep edge along the western Petchabun Mountains. The southern part is a steep edge along the San Kamphaeng and Phanom Dong Rak mountain ranges. The central part of this district is characterized by a basin similar to the bottom of a pan called the Korat basin, with the Chi and Mun rivers flowing through.

There are still many open plains, such as Thung Kula Ronghai, Thung Dog Hung, with the Phu Phan Thod mountain range. The long curve tends to the northeast of the region. Beyond the Phu Phan mountain range to the north, there is a low subsidence basin called the Sakon Nakhon Basin, resulting in many areas becoming swamps such as Nong Han Nai in Sakon Nakhon Province, Nong Prajak Nai in Udon Thani Province and Nong Yat Nai in Nakhon Phanom Province. Etc. The plateau area will be elevated in the west and the south. and slope towards southeast into the Mekong River The major rivers that flow through the Northeastern Plateau are the Chi River, the Mun River and its tributaries. which flows from the west into the Mekong River in the east.

Northeastern region covers an area of ​​160,000 square kilometers. It is half the size of Germany. The northeastern region is located on the Korat and Sakon Nakhon Basin. The slope is from the Phetchabun mountain range in the west of the region. down to the Mekong which separates Laos in the north and east of the region and the south is bordered by Cambodia by the Phanom Dong Rak mountain range The Korat basin is located in the lower northeastern region. The main rivers are the Mun River and the Chi River. The northern part of the Korat Basin extends to the Sakon Nakhon Basin and is blocked by the Phu Phan Mountain Range. The Sakon Nakhon Basin has the main rivers, the Loei River and the Songkhram River. The soil in the Northeast is mostly sandy. as well as a large number of salt deposits

The terrain of the northeastern region is flat. some are mountains especially in the central part of the region such as Kalasin Province Khon Kaen Province Chaiyaphum Province Nakhon Phanom Province Nakhon Ratchasima Province and Bueng Kan Province The highest point of the northeastern region is at Phu Luang Peak, 1,835 meters above sea level. Located in Phu Luang Wildlife Sanctuary (Loei Province)


Mountains and rivers in the Northeast
The main tributaries of the Mekong River in Thailand are the Mun River and the Chi River. The Mun River flows from Khao Yai National Park in Nakhon Ratchasima Province. and flows to the east confluence with the Mekong River in Ubon Ratchathani Province Another river is the Chi River, which flows through the central part of the Northeast. before flowing south to converge with the Mun River in Sisaket Province, the Loei River and the Songkhram River. It is also a tributary of the Mekong River. The Loei River flows north through Loei Province. and the Songkhram River flows east through Udon Thani Province. Sakon Nakhon Province Nakhon Phanom Province and Nong Khai Province

The average temperature range in the Northeast is from 30.2 degrees Celsius to 19.6 degrees Celsius, the highest recorded temperature is 43.9 degrees Celsius in Udon Thani Province. The lowest temperature is -1.4 degrees Celsius in Sakon Nakhon Province.



The total population of the Northeastern region in 2010 was approximately 21,305,000 people, 40% of the population was in Nakhon Ratchasima. Ubon Ratchathani Province Udon Thani Province and Khon Kaen Province The province has a municipality with the same name as the province, known as the “Four Big Cities of Isan“. In 2010, the population of the four municipalities was Nakhon Ratchasima Municipality 142,169, Udon Thani Municipality 137,979. , Khon Kaen Municipality 113,828 people, and Ubon Ratchathani Municipality 83,148 people. However, in 2010, only 50% of the population in this region lived in municipalities. Kalasin Province is the province with the largest municipality population. Roi Et province is the least, so some of the population remains in rural areas. but live around the urban center

The main language of this region is Isan, a Lao dialect on the right bank of the Mekong River. There are approximately 15 to 23 million Isan speakers, while there are also Khmer-Thai languages. which is one of the accents of the Khmer language Used a lot in the southeastern area. The central Thai language is commonly used as an official language, especially in large cities. But it is not considered the main language. There is also a Thai accent in Korat. Used to speak in Nakhon Ratchasima and nearby provinces with about 10,000 users.



Northeastern map It is a large plain in the center of Laem Thong. or Indo-Pacific It is between the longitude of 101 degrees and 105 degrees east and latitude 14 degrees and 18 degrees 30 minutes north. There are mountains framed around the area on almost every side. Therefore, the condition is a plateau area separated from the central region and the east with a mountain range and the great forest The Mekong River is blocked in the north and east. and is the border line between Thailand and Laos historically In ancient times, this region used to be the Khmer Empire before it fell to Thailand. So at present there are Khmer people. and tribute mixed with the Thai people in the south of the region The northern and eastern parts There were some Vietnamese people coming into the mix. especially after the Great East Asia War. There have been many Vietnamese immigrants to live in. In addition, there are common nationalities, both genuine Chinese and hybrids, due to the fact that the area is a plateau. The weather is very hot and cold. The ground does not store water, so it is dry. The vast area is forest and grassland. However, in the later period, when there were more irrigation projects, This made this region become the second source of breadbasket after the central region. in geopolitical The northeastern region is in the Kranab region of Laos and Cambodia. Contact with Laos is convenient along the border. because only the Mekong River is blocked and the people are the same tribe as Thailand As for the Khmer Phanom Dong Rak mountain range is completely blocked. Contact was confined to various channels through steep hills. and is always a long line The northeastern region has an area of ​​approximately 155,400 square kilometers. or about a third of the area of ​​Thailand and has a population of about a third of the country’s population.

Ref:
https://www.lovethailand.org/travel/en/
https://www.lovethailand.org/travel/th/
https://www.lovethailand.org/region/en/2-Northeastern.html
https://www.lovethailand.org/region/th/2-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.html
https://www.lovethailand.org



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

10
ท่องเที่ยว เดินทาง | Travel / ประเทศไทย lovethailand.org
« เมื่อ: มิถุนายน 06, 2021, 02:50:03 AM »


ประเทศไทย นั้นมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรไทย ซึ่งตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเดิมว่าสยาม มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ขอโลก มีเนื้อที่ประมาณ 513,120 ตารางกิโลเมตร โดยมีประชากรมาเป็นอันดับที่ 20 ของโลก โดยมีอาณาเขตที่ติดต่อกับประเทศพม่าทางทิศเหนือและตะวันตก ประเทศลาวทางทิศเหนือ และภาคตะวันออก ประเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันออก และประเทศมาเลเซียทางทิศใต้

ประเทศไทยนั้นมีทั้งหมด 77 จังหวัด ตั้งอยู่กลางคาบสมุทรอินโดจีนในเอชียตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่บนคาบสมุทรมลายูด้วย ประเทศไทยนั้นมีลักษณะภูมิประเทศที่หลายหลาย ภาคเหนือ จะเป็นพื้นที่ที่สลับซับซ้อนมากที่สุด และเป็นจุดสูงสุดในประเทศไทย คือ ดอยอินทนนท์ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ของที่ราบสูงโคราช สภาพดินจะแห้งแล้งไม่ค่อยเอื้อต่อการเพาะปลูก ภาคกลางจะเป็นที่ราบลุ่มถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือได้ว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเกิดจากแม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน ส่วนภาคกลางจะเป็นภาคที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวที่สำคัญ ภาคใต้จะเป็นส่วนหนึ่งของคาบสมุทรมลายู

ประเทศไทยนั้นถือได้ว่ามีความหลากหลายทางด้านชีวภาพของพืช และสัตว์อยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามากกว่า 50 แห่ง เขตห้ามล่าสัตว์อีก 56 แห่ง การลักลอบฆ่าสัตว์ส่งผลให้หลายพื้นที่สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ โดยภูมิอากาศของประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นแบบภูมิอากาศร้อนชื้น หรือทุ่งสะวันนา ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปน โดยส่วนสุด และตวันออกจะมีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน

ประเทศไทยนั้นถือเป็นผู้ผลิต และส่งออกยางพารารายใหญ่ที่สุดของโลก และข้าวยังเป็นพืชที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยแบ่งเป็นไทยกลางร้อยละ 30 อีสาน หรือลาวร้อยละ 22 ล้านนา ร้อยละ 9 และใต้ร้อยละ 7 มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่รัฐบาลรับรอง 62 กลุ่ม วัฒนธรรมในประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอินเดีย, จีน, ขอม และศาสนาพุทธ และศาสนาฮินดู

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน พื้นที่โดยส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ราบสูง จะมีภูเขาอยู่ทั่วไป เป็นแหล่งเกษตรกรรมผลิตข้าวหอมมะลิส่งขายไปทั่วโลก โดยแม่น้ำสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ แม่น้ำโขง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคที่มีประชากรมากคิดเป็นร้อยละ 33.33 ของประเทศไทย หรือประมาณ 21.59 ล้านคน จากผลสำรวจประเทศเมื่อปี 2559

ภาคตะวันเออกเฉียงเหนือ ประกอบไปด้วย 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครพนม จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดเลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ซึ่งมีอาณาเขตทิศเหนือ และทิศตะวันออก ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งทิศใต้จะติดกับประเทศกัมพูชา และภาคตะวันออก ทิศตะวันตกจะติดกับภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยรวมจะมีพื้นที่ประมาณ 105 ล้านไร่ ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นที่ราบสูง ทำให้มีความลาดเอียงไปทางทิศตะวันออก ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกระทะ โดยภาคอีสานจะแบ่งได้ 2 เขตใหญ่ ได้แก่ แอ่งที่ราบโคราช และแอ่งสกลนคร

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีมากมาย เช่น แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ, วัฒนธรรม, ประเพณี, โบราณคดี ฯลฯ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญเช่น อุทยานแห่งชาติภูกระดึง, อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย, อุทยานแห่งชาติภูเรือ, สวนหินผางาม, อุทยานภูเก้า-ภูพานคำ, ทิวทัศน์ลำน้ำโขง, เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว, ภูฝอยลม ฯลฯ เป็นต้น

ด้านการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีนักท่องเที่ยวประมาณ 3 ล้านคนต่อปี มีรายได้ปีละ 6 พันล้านบาท มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้ม เช่น ทรัพยากรป่าไม้ มีพื้นที่ทั้งหมด 21 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ป่า 4 ล้านไร่ นอกจากนี้อุตสาหกรรมแร่ ยังสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมาก เช่น แร่แบไรต์, แร่โปรแตส, แร่หินปู และแร่ตะกั่ว เป็นต้น

เส้นทางคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน มีทั้งการคมนาคมทางอากาศ, การคมนาคมทางรถไฟ, การคมนาคมทางบก โดยเชื่อมโยงกับภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิบินข้ามไปได้หลายจังหวัด

Ref:
https://www.lovethailand.org
https://www.lovethailand.org/travel/th/
https://www.lovethailand.org/region/th/2-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

11


ประเทศไทย นั้นมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรไทย ซึ่งตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเดิมว่าสยาม มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ขอโลก มีเนื้อที่ประมาณ 513,120 ตารางกิโลเมตร โดยมีประชากรมาเป็นอันดับที่ 20 ของโลก โดยมีอาณาเขตที่ติดต่อกับประเทศพม่าทางทิศเหนือและตะวันตก ประเทศลาวทางทิศเหนือ และภาคตะวันออก ประเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันออก และประเทศมาเลเซียทางทิศใต้

ประเทศไทยนั้นมีทั้งหมด 77 จังหวัด ตั้งอยู่กลางคาบสมุทรอินโดจีนในเอชียตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่บนคาบสมุทรมลายูด้วย ประเทศไทยนั้นมีลักษณะภูมิประเทศที่หลายหลาย ภาคเหนือ จะเป็นพื้นที่ที่สลับซับซ้อนมากที่สุด และเป็นจุดสูงสุดในประเทศไทย คือ ดอยอินทนนท์ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ของที่ราบสูงโคราช สภาพดินจะแห้งแล้งไม่ค่อยเอื้อต่อการเพาะปลูก ภาคกลางจะเป็นที่ราบลุ่มถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือได้ว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเกิดจากแม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน ส่วนภาคกลางจะเป็นภาคที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวที่สำคัญ ภาคใต้จะเป็นส่วนหนึ่งของคาบสมุทรมลายู

ประเทศไทยนั้นถือได้ว่ามีความหลากหลายทางด้านชีวภาพของพืช และสัตว์อยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามากกว่า 50 แห่ง เขตห้ามล่าสัตว์อีก 56 แห่ง การลักลอบฆ่าสัตว์ส่งผลให้หลายพื้นที่สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ โดยภูมิอากาศของประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นแบบภูมิอากาศร้อนชื้น หรือทุ่งสะวันนา ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปน โดยส่วนสุด และตวันออกจะมีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน

ประเทศไทยนั้นถือเป็นผู้ผลิต และส่งออกยางพารารายใหญ่ที่สุดของโลก และข้าวยังเป็นพืชที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยแบ่งเป็นไทยกลางร้อยละ 30 อีสาน หรือลาวร้อยละ 22 ล้านนา ร้อยละ 9 และใต้ร้อยละ 7 มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่รัฐบาลรับรอง 62 กลุ่ม วัฒนธรรมในประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอินเดีย, จีน, ขอม และศาสนาพุทธ และศาสนาฮินดู

https://www.lovethailand.org



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

12


บ่อน้ำเดือด (บลูลากูนเมืองไทย) ตั้งอยู่ในบริเวณวัดบ่อน้ำเดือด ตำบลน้ำสุด อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มีลักษณะเป็นบ่อน้ำขนาดเล็ก สีฟ้าใสจนมองเห็นผืนทรายสีขาวที่อยู่เบื้องล่าง  บริเวณพื้นที่ของบ่อมีต้นไม้น้อยใหญ่ร่มรื่น  โดยมีการปรับภูมิทัศน์จัดทำสะพานข้ามบ่อน้ำและรั้วกั้นรอบบ่อสามารถเดินชมทัศนียภาพโดยรอบได้อย่างสวยงาม

บลูลากูนเมืองไทย ที่ว่านี้ มีชื่อเรียกว่า บ่อน้ำเดือด ตั้งอยู่ในบริเวณวัดบ่อน้ำเดือด ตำบลน้ำสุด อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มีลักษณะเป็นบ่อน้ำสีฟ้าใส ขอบบ่อกว้างพอสมควร การเกิดบ่อน้ำเดือดนี้มาจากบริเวณดังกล่าวมีตาน้ำอยู่ด้านล่าง ซึ่งเมื่อผุดขึ้นมาจากใต้ดินผ่านชั้นหินต่าง ๆ ผสมผสานกับแร่ธาตุหลายอย่าง จึงทำให้น้ำใส และมีสีฟ้าสวยงาม โดยขณะนี้รอบ ๆ บ่อมีต้นไม้น้อยใหญ่ร่มรื่น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำสุดกำลังดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เหมาะสมต่อการท่องเที่ยว

ไม่ต้องไปไกลถึงไอซ์แลนด์ก็ไปเที่ยวบลูลากูนได้ เพียงมาที่บ่อน้ำเดือดในจังหวัดลพบุรี บ่อน้ำเดือดคือบ่อน้ำที่มีน้ำสีฟ้าใสตัดกับสีเขียวชอุ่มของพรรณไม้รายรอบ ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน นักท่องเที่ยวบางคนจึงขนานนามที่นี่ว่าเป็นบลูลากูนเมืองไทย

ส่วนคนท้องถิ่นจะเรียกที่นี่ว่าบ่อน้ำเดือด เนื่องจากลักษณะเฉพาะตัวของบ่อน้ำที่เกิดจากตาน้ำมีน้ำผุดขึ้นมาผ่านชั้นหินต่างๆ ที่มีแร่ธาตุผสมอยู่ ทำให้น้ำมีสีฟ้าใสและมีฟองผุดขึ้นมาเหมือนน้ำเดือด

บรรยากาศโดยรอบรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ความเขียวขจีของต้นไม้ตัดกับสีของพื้นน้ำ เป็นภาพบรรยากาศสุดอันซีนที่หาชมได้ยากในประเทศไทยซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมาทำให้ทราบว่าบ่อน้ำแห่งนี้เป็นจุดที่เป็นตานั้น มีน้ำผุดขึ้นมาจากพื้นดินจนท่วมขังเป็นบ่อน้ำตลอดทั้งปี

หลังจากที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำสุดได้ทำการปรับภูมิทัศน์แล้ว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินชมบ่อน้ำและธรรมชาติโดยรอบได้อย่างเพลิดเพลิน แต่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำเนื่องจากอาจส่งกระทบทางลบต่อธรรมชาติ นอกจากนั้น บางส่วนของบ่อน้ำมีความลึกทำให้อาจเกิดอันตรายได้ถ้าลงเล่น

ไม่ต้องไปไกลถึงไอซ์แลนด์ก็ไปเที่ยวบลูลากูนได้ เพียงมาที่บ่อน้ำเดือดในจังหวัดลพบุรี บ่อน้ำเดือดคือบ่อน้ำที่มีน้ำสีฟ้าใสตัดกับสีเขียวชอุ่มของพรรณไม้รายรอบ ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน นักท่องเที่ยวบางคนจึงขนานนามที่นี่ว่าเป็นบลูลากูนเมืองไทย

ส่วนคนท้องถิ่นจะเรียกที่นี่ว่าบ่อน้ำเดือด เนื่องจากลักษณะเฉพาะตัวของบ่อน้ำที่เกิดจากตาน้ำมีน้ำผุดขึ้นมาผ่านชั้นหินต่างๆ ที่มีแร่ธาตุผสมอยู่ ทำให้น้ำมีสีฟ้าใสและมีฟองผุดขึ้นมาเหมือนน้ำเดือด

หลังจากที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำสุดได้ทำการปรับภูมิทัศน์แล้ว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินชมบ่อน้ำและธรรมชาติโดยรอบได้อย่างเพลิดเพลิน แต่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำเนื่องจากอาจส่งกระทบทางลบต่อธรรมชาติ นอกจากนั้น บางส่วนของบ่อน้ำมีความลึกทำให้อาจเกิดอันตรายได้ถ้าลงเล่น

การเดินทาง จากตัวเมืองลพบุรี ให้ใช้เส้นทางทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3017 มุ่งหน้าไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขับไปเรื่อย ๆ จนถึงสี่แยกตำบลวังม่วง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2089 ขับไปประมาณ 6.8 กิโลเมตร จะเจอสี่แยกเล็ก ๆ มีป้ายเขียนว่าสวนปฏิบัติธรรมไร่อุดมลาภอ ยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาตรงไปอีกราว ๆ 5 กิโลเมตร จะมีป้ายอยู่ทางซ้ายมือ เขียนว่า วัดบ่อน้ำเดือด เลี้ยวไปตามป้าย ขับไปอีกประมาณ 650 เมตร เจอแยกเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 1.7 กิโลเมตร จะเห็นรั้วกั้นบ่อสีฟ้าอยู่ทางซ้ายมือ

ที่มา: https://www.lovethailand.org/travel/th/20-ลพบุรี/15609-บ่อน้ำเดือด-(บลูลากูนเมืองไทย).html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

13


ที่เที่ยวกรุงเทพสุดฮิต ไม่ไปคือพลาด กรุงเทพฯ เมืองที่ไม่เคยหลับไหล เมืองหลวงของประเทศไทยที่มีสีสันการดึงดูดใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่แอบซ่อนมากมายที่เชื่อว่าเป็นที่เที่ยวใกล้ตัวที่หลายคนอาจยังไม่เคยไปด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ, วัดวาอารามที่สวยงาม, พระราชวัง, เที่ยวเชิงวิถีชีวิตชุมชน, ช้อปปิ้ง อาหารการกินที่ขึ้นชื่อต่าง ๆ ของประเทศไทย และอื่น ๆ อีกมากมาย

กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงที่มีประชากรมาที่สุดของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2558 ได้รับการจัดอันดับสุดยอดเมืองจุดหมายปลายทาง จากบริษัทวิจัย Euromonitor International ของอังกฤษว่ากรุงเทพเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับสองรองจากฮ่องกงโดยมีนักท่องเที่ยวประมาณ 18.7 ล้านคน และล่าสุดในปี 2559 ได้รับการยกย่องว่ามีอาหารประเภท Streed Food ดีที่สุดในโลก

กรุงเทพ สวรรค์ของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ดีตลอดทั้งปีจนหลายประเทศอิจฉา, งบประมาณที่ใช้ในการท่องเที่ยวที่แสนจะถูก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ, อาหารที่แทบจะหากินได้ทุกประเทศตามไลฟสไตล์ของคุณรวมถึงผลไม้ตามฤดูกาลที่อุดมสมบูรณ์, ทะเล และชายหาดที่สวยงาม เป็นที่ชื่นชอบมาก ๆ สำหรับชาวต่างชาติ, เทศกาลต่าง ๆ และความเป็นมิตรต่าง ๆ ของคนไทย รวมถึงความสะดวกสบายในการเดินทาง และการหาที่พัก หากคุณได้รู้จะเริ่มต้นตรงไหน เราจัดไฮไลท์ที่ห้ามพลาดในกรุงเทพมาบอกกัน

ที่เที่ยวกรุงเทพสุดฮิต ไม่ไปคือพลาด รายละเอียดเพิ่มเติม:
https://www.lovethailand.org/travel/th/17-กรุงเทพมหานคร/15662-ที่เที่ยวกรุงเทพสุดฮิต.html
https://www.lovethailand.org/travel/en/17-Bangkok/15662-Attraction-Bangkok.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

14


รวมสถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ เที่ยวได้ไม่เบื่อ หากเรามองหาที่เที่ยวที่อากาศเย็นสบาย สถานที่สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนาที่วิจิตรงดงาม ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือที่เป็นเอกลักษณ์ รวมกับอาหารเหนือแบบดั้งเดิม ก็คงจะนึกนึงภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็น ทริปเชียงใหม่ หรือทริปแม่ฮ่องสอน ล้วนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น

ภาคเหนือ เป็นดินแดนที่มีประเพณีที่ดีงาม มีพิธีกรรม ความเชื่อ ภาษา การแต่งกาย ที่น่าค้นหา เนื่องจากภาคเหนือเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม จึงนับเป็นดินแดนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นดินแดนของกลุ่มวัฒนธรรมล้านนา มีการกระจายตัว และแบ่งเป็นกลุ่ม ใช้ชีวิต และมีขนบธรรมเนียมที่เก่าแก่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงยังมีการสืบทอดประเพณีทางศาสนากันมาแต่โบราณ

ภาคเหนือ นั้นพื้นที่โดยรอบจะเป็นภูเขาสูงสลับกัน ทำให้ฤดูหนาวมีอากาศที่หนาวจัด และในฤดูร้อนมีอุณหภูมิค่อนข้าสูง เพราะไกลจากทะเล วัฒนธรรมในท้องถิ่นของภาคเหนือนั้นแบ่งออกได้ดังนี้ วัฒนธรรมทางภาษาถิ่น, วัฒนธรรมการแต่งกาย, วัฒนธรรมการกิน, วัฒนธรรมที่เกี่ยวกับศาสนา-ความเชื่อ และประเพณีของภาคเหนือ

ที่เที่ยวภาคเหนือ มีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ, วัดวาอาราม, โครงการในพระราชดำริ หรือโครงการหลวง, การเที่ยวแบบวิถีชีวิต, การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และธรรมชาติสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็น เที่ยวดอย, เที่ยวภูเขา, เขื่อน, อุทยานแห่งชาติ, น้ำตก รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือจะไปช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินก็มีให้เลือกเที่ยวได้ตามสไตล์ของคุณ

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15661-อาหารภาคเหนือ-อาหารเหนือ.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15660-ประเพณีภาคเหนือ-และวัฒนธรรมภาคเหนือ.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15657-รวมสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่-ทริปเชียงใหม่-ยอดนิยม.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

15


รวมสถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ เที่ยวได้ไม่เบื่อ หากเรามองหาที่เที่ยวที่อากาศเย็นสบาย สถานที่สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนาที่วิจิตรงดงาม ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือที่เป็นเอกลักษณ์ รวมกับอาหารเหนือแบบดั้งเดิม ก็คงจะนึกนึงภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็น ทริปเชียงใหม่ หรือทริปแม่ฮ่องสอน ล้วนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น

ภาคเหนือ เป็นดินแดนที่มีประเพณีที่ดีงาม มีพิธีกรรม ความเชื่อ ภาษา การแต่งกาย ที่น่าค้นหา เนื่องจากภาคเหนือเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม จึงนับเป็นดินแดนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นดินแดนของกลุ่มวัฒนธรรมล้านนา มีการกระจายตัว และแบ่งเป็นกลุ่ม ใช้ชีวิต และมีขนบธรรมเนียมที่เก่าแก่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงยังมีการสืบทอดประเพณีทางศาสนากันมาแต่โบราณ

ภาคเหนือ นั้นพื้นที่โดยรอบจะเป็นภูเขาสูงสลับกัน ทำให้ฤดูหนาวมีอากาศที่หนาวจัด และในฤดูร้อนมีอุณหภูมิค่อนข้าสูง เพราะไกลจากทะเล วัฒนธรรมในท้องถิ่นของภาคเหนือนั้นแบ่งออกได้ดังนี้ วัฒนธรรมทางภาษาถิ่น, วัฒนธรรมการแต่งกาย, วัฒนธรรมการกิน, วัฒนธรรมที่เกี่ยวกับศาสนา-ความเชื่อ และประเพณีของภาคเหนือ

ที่เที่ยวภาคเหนือ มีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ, วัดวาอาราม, โครงการในพระราชดำริ หรือโครงการหลวง, การเที่ยวแบบวิถีชีวิต, การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และธรรมชาติสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็น เที่ยวดอย, เที่ยวภูเขา, เขื่อน, อุทยานแห่งชาติ, น้ำตก รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือจะไปช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินก็มีให้เลือกเที่ยวได้ตามสไตล์ของคุณ

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15661-อาหารภาคเหนือ-อาหารเหนือ.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15660-ประเพณีภาคเหนือ-และวัฒนธรรมภาคเหนือ.html
https://www.lovethailand.org/travel/th/1-เชียงใหม่/15657-รวมสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่-ทริปเชียงใหม่-ยอดนิยม.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

16


รวมสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ สินค้าพี้นเมือง และอาหารท้องถิ่น

จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง รวมถึงมีตลาดเก่าแก่ ตลาดโบราณ และตลาดยุคใหม่ เช่น ตลาดสามชุกร้อยปี, ตลาดเก้าห้อง 100 ปี และตลาดบางลี่ เป็นต้น

จังหวัดสุพรรณบุรี อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ไปเช้าเย็นกลับได้สบาย ร่วมสัมผัสวิถีชิวิตของชาวสุพรรณบุรี เช่น หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย วิถีชีวิตของคนในชนบท ที่กำลังจะเลือนหายไป เรียนรู้วิถีชีวิตชาวนา

จังหวัดสุพรรณบุรี ยังเป็นดินแดนแห่งขุนเขา เช่น อุทยาแห่งชาติพุเตย เป็นป่าผืนสุดท้ายของป่าห้วยขาแข้ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีความเงียบสงบ ความงดงามของป่า น้ำตก และหมอกยามเช้า นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชากกระเหรี่ยงอีกด้วย

จังหวัดสุพรรณบุรี ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ซ่อนอยู่มากมาย เช่น กิจกรรมต่าง ๆ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวเชิงพจญภัย สวนสัตว์ และแหล่งอนุรักษ์ปลาน้ำจืด วัดวาอาราม ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม

จังหวัดสุพรรณบุรี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้พักผ่อน ศึกษา และค้นคว้า ทั้งประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และเรื่องราวที่น่าสนใจในอดีต จึงนับเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว

สนใจศึกษาคู่มือการท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรีเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.lovethailand.org/travel/th/35-สุพรรณบุรี.html
https://www.lovethailand.org/travel/en/35-Suphan-Buri.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

17


รวมสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง จังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีหลายชื่อเรียก เช่น เขลางค์นคร, เวียงละกอน, นครลำปาง ฯลฯ เป็นที่รู้จักดี เรื่องเอกลัษณ์ ในชื่อหนึ่งว่า “เมืองรถม้า”

จังหวัดลำปาง มีศลิปสถานปัตยกรรม และวัฒนธรรม ซึ่งแบ่งตามยุคดังนี้ 1. ยุคก่อนล้านนา 2. ยุคล้านนา 3. ยุคฟื้นม่าน 4. ยุคอิทธิพลของสยาม และตะวันตก 5. ยุคประชาธิปไตย

จังหวัดลำปาง หรือ เขลางค์นคร เมืองลำปาง เป็นเมืองสโลวไลฟ์ เหมาะกับการมาปลดปล่อยชีวิตให้เดินอย่างช้า ๆ ชมเมืองที่มีศิลปะเก่าแก่งดงาม และกลิ่นไอแห่งความเป็นล้านนาไทย และยังมีสถานที่ทางธรรมชาติที่งดงามแปลกตา

จังหวัดลำปาง เดิมชื่อ เขลางค์นคร เป็นอีกจังหวัดในภาคเหนือที่มีอารยธรรมล้านนาไทยที่น่าสนใจ ทั้งขนบธรรมเนียม ประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ วัดวาอาราม และสถาปัตยกรรมของท้องถิ่น วิถีชีวิต และอาหารที่แสนอร่อย ด้วยเหตุนี้ทำให้จังหวัดลำปางกลายเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในแบบฉบับของตัวเอง

จังหวัดลำปาง ยังมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีเสนห์ และธรรมชาติยังคงความงดงาม สมบูรณ์ บรรยากาศที่ดี อากาศเย็นสบาย จนหลายคนพูดติดปากว่า “ลำปางหนาวมาก” ทำให้จังหวัดลำปางเป็นจังหวัดที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว และนักเดินทาง นับเป็นการสัมผัสเสน่ห์เมืองรอง ที่ไม่เป็นที่สองรองใคร

สนใจศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดลำปางเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.lovethailand.org/travel/th/3-ลำปาง.html
https://www.lovethailand.org/travel/en/3-Lampang.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

18


รวมสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนสุดของประเทศไทย แยกออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคาย

จังหวัดบึงกาฬ สถานที่่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย อาทิ เช่น เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว, น้ำตกเจ็ดสี, น้ำตกตาดกินรี, น้ำตกตาดวิมานทิตย์, บึงโขงหลง และภูทอก เป็นต้น

จังหวัดบึงกาฬ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดี แหล่งท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรมประเพณี และกิจกรรมต่าง ๆ ประเพณี และวัฒนธรรมของจังหวัดบึงกาฬ ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนาน เทศกาลต่าง ๆ ของจังหวัดบึงกาฬ เช่น เทศกาลสงกานต์, เทศกาลบุญบั้งไฟ และประเพณีแข่งขันเรือยาว เป็นต้น

จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจยังไม่นึกถึง แต่จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ Unseen ขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ และยังมีสถานที่สวยแปลกเกิดขึ้นอีกหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีความสวยงามแปลกตา คุ้มค่าแก่การเดินทางมาจังหวัดบึงกาฬ

จังหวัดบึงกาฬ เต็มไปด้วยเสนห์ที่น่าหลงไหล จึงไม่น่าแปลกใจที่จังหวัดบึงกาฬ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว นอกจากนี้จังหวัดบึงกาฬยังมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง และแขวงบริคำไชย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้จังหวัดบึงกาฬได้รับวัฒนธรรมแบบผสมผสานจากประเทศลาวอีกด้วย

จังหวัดบึงกาฬ นับเป็นจังหวัดน้องใหม่ล่าสุดของประเทศไทย มีอากาศดีเย็นสบาย โอบล้อมไปด้วยภูเขา และธรรมชาติ อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดบึงกาฬ จะมีเอกลักษณ์ และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทั้งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม

สนใจศึกษาคู่มือท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.lovethailand.org/travel/th/77-บึงกาฬ.html
https://www.lovethailand.org/travel/en/77-Bueng-Kan.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

19


รวมสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ภาคกลาง อยู่ห่างจากรุงเทพมหานครประมาณ 76 กิโลเมตร เป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศไทย เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เมืองกรุงเก่า” คำขวัญประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือ “ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา เลอคุณค่ามรดกโลก”

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และประเพณี เช่น งานแสดงศิลปหัตถกรรมศูนย์ศิลปาชีพบางไทร, งานประเพณีสงกรานต์, งานประเพณีแข่งขันเรือยาว, งานลอยกระทง เป็นต้น

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาส่วนใหญ่เป็นโบราณสถาน ได้แก่ พระราชวัง, วัดวาอาราม และเมืองโบราณมากมาย ซึ่งนับเป็นสถานที่เก่าแก่ของประเทศไทย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรม มีหลักฐานของการเป็นเมืองลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 16 – 18 มีร่องรอยของที่ตั้งเมืองโบราณสถาน และโบราณวัตถุ จำนวนมาก พระราชวังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี 3 แห่ง คือ พระราชวังหลวง, วังจันทรเกษม (วังหน้า) และวังหลัง

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีแม่น้ำไหลผ่าน 3 สายหลัก คือ 1. แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลผ่านทางด้านทิศตะวันตก และทิศใต้ 2. แม่น้ำป่าสัก ไหลผ่านทางทิศตะวันออก 3. แม่น้ำลพบุรี ไหลผ่านทางทิศเหนือ แม่น้ำสามสายนี้ไหลมารวมกันจนโอบล้อมพื้นที่ของตัวเมือง พระนครศรีอยุธยา จนมีลักษณะเป็นเกาะ จึงทำให้เห็นบ้านเรือนเรียงรายตามสองฝั่งแม่น้ำ สะท้อน และแสดงถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัย และผูกพันกับสายน้ำมาเป็นเวลายาวนาน

ศึกษารายละเอียดคู่มือท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.lovethailand.org/travel/th/16-พระนครศรีอยุธยา.html
https://www.lovethailand.org/travel/en/16-Phranakhon-Si-Ayutthaya.html



ประเพณีภาคเหนือ และวัฒนธรรมภาคเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร



ประเพณีภาคกลาง วัฒนธรรมภาคกลาง ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคอีสาน วัฒนธรรมภาคอีสาน ประเพณีไทยที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวนครราชสีมา ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี



ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ และประเพณีไทย สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก, ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

หน้า: [1]