เมื่อไม่นานมานี้ เมืองหนิงป่อ ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลในมณฑลเจ้อเจียงของจีน ได้ประกาศมาตรการใหม่ขนานใหญ่ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระชับความร่วมมือกับกลุ่มประเทศในยุโรปตอนกลางและยุโรปตะวันออก (CEE)

          นโยบายใหม่นี้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อปรับโฉมเมืองหนิงป่อให้กลายเป็นแหล่งการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศที่น่าดึงดูดใจที่สุดสำหรับกลุ่ม CEE โดยจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการยื่นคำขอ การสนับสนุนด้านการลงทุนและการระดมทุน ตลอดจนสิ่งจูงใจในโครงการท่องเที่ยว และโครงการส่งเสริมวัฒนธรรม อีกทั้งยังมีแผนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนอกภาครัฐด้วยเช่นกัน

          ภายใต้มาตรการใหม่ๆเหล่านี้ รัฐบาลเมืองหนิงป่อเตรียมจัดตั้งกองทุนพิเศษ เพื่อที่จะดูแลให้การจัดการและการดำเนินงาน China-CEEC Investment and Trade Expo เป็นไปอย่างราบรื่นในทุกๆปี โดยองค์กรและเหล่าผู้จัดแสดงสินค้าทั้งในจีนและกลุ่มประเทศ CEE ที่จะเข้าร่วมงาน Expo นี้จะได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านการเช่าบูธ โลจิสติกส์ การแปลภาษา การต้อนรับ รวมถึงการเจรจาทางธุรกิจ

          บรรดาหน่วยงานภาครัฐ สมาคมการค้า และองค์กรจากกลุ่มประเทศ CEE ซึ่งเตรียมเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้านี้ในเมืองหนิงป่อ จะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายที่เอื้ออำนวยเช่นนี้

          นอกจากนี้ รัฐบาลเมืองหนิงป่อยังเตรียมอำนวยความสะดวกในเรื่องการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนกับกลุ่มประเทศ CEE โดยสินค้าที่นำเข้าจากประเทศ CEE จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้ารับการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์แบบ H986 ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามและควบคุมได้ง่ายยิ่งขึ้น ขณะที่สินค้าล็อตใหญ่จากประเทศเหล่านี้สามารถสำแดงต่อศุลกากรล่วงหน้าได้ อีกทั้งยังสามารถเดินเรื่องตามขั้นตอนศุลกากรได้เมื่อมีการส่งสินค้าเข้ามาในประเทศ

          มาตรการเหล่านี้จะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และร่นระยะเวลาการขนส่ง ซึ่งคาดว่า จะเป็นแรงกระตุ้นเพื่อฟื้นฟูการค้าระหว่างจีนและกลุ่มประเทศ CEE

          เพื่อเป็นการส่งเสริมการส่งออกจากจีนไปยังกลุ่มประเทศCEE รัฐบาลเมืองหนิงป่อยังมีแผนจัดสรรเงินทุนในแต่ละปี เพื่อกระตุ้นการลงทุนขององค์กรต่างๆของจีนในกลุ่ม CEE โดยองค์กรสัญชาติจีนที่สามารถคว้าสัญญาโครงการต่างๆในประเทศกลุ่ม CEE และมีแผนตั้งฐานการตลาดและศูนย์สำรวจทรัพยากร หรืออยู่ระหว่างระยะก่อสร้างและการดำเนินงานนั้น จะได้รับสิทธิในการขอรับเงินอุดหนุนล่วงหน้าในทุกๆปี

          มาตรการใหม่เหล่านี้ถือเป็นนโยบายที่ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศ CEE ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในเมืองหนิงป่อ มาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย การสนับสนุนในด้านการเช่าโรงงาน การซื้อที่ดิน และค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค นอกจากนี้รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ระบบการบริหารเงินตราต่างประเทศและขั้นตอนอนุมัติโครงการลงทุนจากประเทศ CEE มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

          ในด้านการท่องเที่ยวนั้น บริษัทนำเที่ยวในเมืองหนิงป่อจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเมื่อมีการเปิดตัวแพคเกจทัวร์ไปยังกลุ่มประเทศ CEE ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้เติบโตขึ้น โดยสำนักงานการท่องเที่ยวเมืองหนิงป่อเตรียมแผนที่จะเสนอให้บริษัทนำเที่ยวในพื้นที่เสนอแพคเกจทัวร์ไปยังกลุ่มประเทศ CEE โดยให้ส่วนลดพิเศษแก่ประชาชนในพื้นที่ช่วงเดือนมิถุนายน

          มาตรการใหม่เหล่านี้ถูกนำมาใช้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างเมืองหนิงป่อและกลุ่มประเทศ CEE ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ ความร่วมมือด้านการศึกษาก็จะได้รับการส่งเสริมด้วยเช่นกัน โดยเมืองหนิงป่อจะมอบทุนการศึกษาพิเศษให้แก่นักเรียนนักศึกษาในกลุ่มประเทศ CEE เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการศึกษาในระดับทวิภาคี นอกจากนี้ เมืองหนิงป่อจะออกนโยบายที่กำหนดขึ้นมาพิเศษเพื่อสนับสนุนมหาวิทยาลัยในเมืองจ้างอาจารย์จากประเทศเหล่านี้ และส่งเสริมความร่วมมือในด้านการจัดตั้งและบริหารโรงเรียนร่วมกันระหว่างจีนและกลุ่มประเทศ CEEC

          รัฐบาลเมืองหนิงป่อจะร่วมมือกับประชาคมต่างแดน องค์กรของนักศึกษาในต่างประเทศ และบริษัทจัดหางานต่างแดนในกลุ่มประเทศ CEE เพื่อจัดทำแพลตฟอรืมแลกเปลี่ยนบุคลากรที่มีความสามารถจากทั้งจีนและกลุ่มประเทศ CEE ในโครงการที่สำคัญๆของกลุ่มประเทศ CEE ในด้านแพทย์แผนจีน การสอนภาษาจีน การค้า สถาปัตยกรรม และวิชาผสมโลหะที่เกี่ยวกับไฟฟ้า

          นอกจากนี้ จะมีการประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรสื่อของ 2 ฝ่าย ปัจจุบันรัฐบาลเมืองหนิงป่อได้จัดส่งผู้สื่อข่าวไปยังกลุ่มประเทศ CEE เพื่อรายงานข่าว และสร้างกลไกแลกเปลี่ยนข่าวและข้อมูลเป็นประจำ เพื่อให้ความสัมพันธ์จีน-CEEC รุดหน้า และเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองฝ่ายให้เหนียวแน่นขึ้นกว่าเดิม

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
          http://www.cceecexpo.org/site_en/index.html
          http://english.ningbo.gov.cn/

          แหล่งข่าว: Ningbo Municipal Bureau of News

          AsiaNet 60520

          CIMA ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOA) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และ Finn College of Business & Tourism เพื่อนำเสนอ CIMA Qualification ในประเทศไทย

          นับจากนี้ไป นิสิตคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาการบัญชีของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จะสามารถสำเร็จหลักสูตรคุณสมบัติมืออาชีพในสาขาบัญชีบริหารได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น เส้นทางลัดสู่ความสำเร็จนี้นำเสนอภายใต้บันทึกข้อตกลง (MOA) ที่ลงนามร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยทั้งสองและ Chartered Institute of Management Accountants (CIMA) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558

          ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว นักศึกษาของทั้งสองมหาวิทยาลัยจะเข้าร่วมสอบของ CIMA ในช่วงปีการศึกษาสุดท้าย หากสอบผ่าน นักศึกษาจะสำเร็จการศึกษาโดยได้รับประกาศนียบัตรรับรอง 2 ฉบับ ได้แก่ ปริญญาตรีสาขาการบัญชีจากมหาวิทยาลัย และประกาศนียบตรด้านการบัญชีเพื่อการบริหาร (Diploma in Management Accounting) หรือ ประกาศนียบัตรด้านการบัญชีเพื่อการบริหารขั้นสูง Advanced Diploma in Management Accounting) ซึ่งได้รับการยอมรับจากเหล่านายจ้างทั่วโลก หลังจากนั้น นักศึกษายังสามารถมีคุณสมบัติ CIMA อย่างครบถ้วนภายหลังสำเร็จการศึกษา โดยสามารถศึกษานอกเวลาได้หากนักศึกษาตัดสินใจเข้าสู่ตลาดแรงงานภายหลังสำเร็จการศึกษา

          เมื่อได้รับประกาศนียบัตร CIMA และมีประสบการณ์การทำงานครบ 3 ปี นักศึกษาจะได้เป็นสมาชิกของ CIMA และ Chartered Global Management Accountants (CGMA) ซึ่งเป็นตำแหน่งรับรองมืออาชีพระดับโลกที่ CIMA และ สมาคมนักบัญชีสาธารณะของสหรัฐ (American Institute of Certified Public Accountants: AICPA) ให้การรับรอง

          นักศึกษาในประเทศไทยที่ต้องการประกาศนียบัตร CIMA สามารถเข้าร่วมศึกษาได้ที่ Finn College of Business & Tourism วิทยาลัยแห่งนี้เป็นผู้ให้บริการติวสอบและสอนสดแห่งแรกของ CIMA ในประเทศไทยภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือที่ได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2558 โดย Finn College จะเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาเพื่อเข้าร่วมสอบของ CIMA

          ภายใต้หลักสูตรปี 2558 การสอบ CIMA ทั้งหมดจะทำผ่านทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้นักศึกษาเข้าสอบได้เมื่อมีความพร้อม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cimaglobal.com

          หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:

          Chartered Institute of Management Accountants (CIMA) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2462 เป็นองค์กรระดับโลกและสมาคมมืออาชีพด้านบัญชีเพื่อการบริหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีสมาชิกและนักศึกษากว่า 227,000 ราย ที่ดำเนินงานใน 179 ประเทศ และทำงานในส่วนที่สำคัญของภาคธุรกิจ กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CIMA ที่ www.cimaglobal.com